สำหรับใครหลายคนที่เคยเล่นเกม Final Fantasy 7: Remake แบบเป็นสายเสพเนื้อเรื่อง ก็น่าจะรู้กันว่าเกมภาคนี้แอบมีส่วนที่ 'พล็อตโฮล' โดยเฉพาะการที่ตัวละครสาว Aerith เพิ่งได้เจอกับ Cloud ครั้งแรก แต่ก็เรียกเขาไปทันทีเลยว่า 'ทหารรับจ้าง' ซึ่งถึงแม้ Aerith จะบอกว่าเดาจากดาบ Buster Sword ของ Cloud แต่มันก็ดูไม่น่าใช่จากการเดาอยู่ดี หรือในตอน Chapter 12 ที่ Tifa จะขอให้ Aerith ไปช่วย Marlene แต่ Aerith ก็ดันรู้ก่อน Tifa จะอธิบายจบล่าสุดนี้ทางสื่อ IGN ได้รายงานว่่า Square Enix ฝั่งญี่ปุ่น JP ออกมาเผยบน Twitter แล้วว่าที่ Aerith เป็นแบบนี้ก็เพราะ 'เธอนั้นมีความทรงจำจากอนาคต' โดยสรุปได้ดังนี้Aerith เธอนั้นมีความทรงจำจากอนาคต เพราะเธอได้ความทรงจำนี้จาก "ตัวตนในอนาคตที่อยู่อีกมิติหนึ่ง"แต่ Aerith นั้นก็มีความทรงจำแบบคลุมเครือ และเรียก Cloud ไปแบบนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์เหมือนเรียกไปตามใต้จิตสำนึก โดยที่ Aerith เป็นแบบนี้ก็เพราะฝีมือ The Whispers ผู้ที่คอยทำให้เรื่องราวต่างๆ ในเกม Final Fantasy 7 ไม่เปลี่ยนแปลงจากชะตากรรมThe Whispers ได้ใช้วิธีดูดเอาความทรงจำจากอนาคตของ Aerith ไปทีละน้อยในทุกครั้งที่สัมผัสเธอ เพื่อให้ Aerith จะไม่เอาความทรงจำนี้มาเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ตามชะตากรรมนั่นเองทั้งหมดนี้ จึงเป็นส่วนที่บ่งบอกว่า 2 เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่พล็อตโฮลนะ!!! เกม Final Fantasy 7: Remake กำลังจะมีภาคต่อในชื่อ Final Fantasy 7: Rebirth วางขายในช่วงต้นปี 2024 บน PS5 ใครสนใจก็รอเล่นกันได้เลย                                                                                                                        เครดิต : ign..............................พบเกม PC ลดราคาแรงตลอดปีที่ร้าน 2gameซื้อผ่านลิงก์ https://2game.com?ref=gamefeverth และใส่รหัสคูปอง Gamefever เพื่อรับส่วนลดเพิ่ม!

Final Fantasy VII: Ever Crisis เกม Final Fantasy ภาค 7 ฉบับทำมาเพื่อลงมือถือ และเป็นแนวเล่นคนเดียวให้เสพเนื้อเรื่อง โดยเกมยังมีเอกลักษณ์ตรงช่วงผจญภัยจะเป็นภาพกราฟิกสไตล์ Final Fantasy VII เวอร์ชั่นต้นตำรับ แต่ช่วงสู้ผลัดกันโจมตีจะเป็นสไตล์ Final Fantasy VII เวอร์ชั่น Remake แล้วก็ยังมีให้เล่นทั้งเนื้อเรื่องหลักกับ Crisis Core ซึ่งล่าสุดนี้ทางค่าย Square Enix ก็ปล่อยคลิปโชว์ช่วงผจญภัย และระบบต่อสู้แล้ว!!! แต่เกมนี้จะไม่ได้เปิดให้ลองเล่น Beta ตอนช่วงท้ายปี 2022 อีกแล้ว เพราะทางผู้สร้างขอเลื่อนไปเปิดตอนซัมเมอร์ 2023 แทน ใครสนใจก็รอเล่นได้เลยบน iOS และ Androidเครดิต : gematsu

เป็นอีกหนึ่งเกมที่ช่วงนี้ลือกันว่าจะวางขายวันไหน เนื่องจากผู้สร้างก็บอกแล้วว่าเกมพัฒนาใกล้เสร็จแล้ว และจะวางขายช่วงฤดูร้อนปี 2023 แล้วล่าสุดนี้ทางสื่อ Gamingbolt ก็ได้รายงานข่าวลือว่าเกม Final Fantasy 16 จะวางขายในวันที่ 22 มิถุนายน 2023 และจะแจ้งเป็นทางการว่าขายวันไหนในวันที่ 9 ธันวาคม 2022 หรือก็คือภายในงาน The Game Awards!!! โดยข่าวลือนี้เริ่มต้นมาจากนักปล่อยข่าวลือในชื่อ The Snitcher ที่อยู่ดีๆ ก็ทวีตบน Twitter เป็นกลอนบอกใบ้อะไรบางอย่าง ก่อนที่ทางสื่อ Insider Gamer จะไปแกะออกมาได้ว่านั่นคือการบอกใบ้เกี่ยวกับเกม Final Fantasy 16 ว่าจะวางขายในวันที่ 22 มิถุนายน 2023 แล้วมันก็ตรงกับที่ทางผู้สร้างแจ้งว่าจะวางขายช่วงฤดูร้อนปี 2023 แต่ทางผู้สร้างก็น่าจะมาแจ้งว่าขายวันไหนจริงๆ ภายในงาน The Game Awards วันที่ 9 ธันวาคม 2022 เนื่องจากในงานจะมีคุณ Naoki Yoshida ที่เป็นโปรดิวเซอร์เกมนี้ไปร่วมด้วย และมันก็เป็นเวลาอันสมควรแล้วถ้าจะวางขายเกมในปี 2023 ส่งผลให้ต้องติดตามรอดูกันในงาน The Game Awards พร้อมเกม Final Fantasy 16 จะวางขายเฉพาะบน PS5 ก่อนเป็นเวลาอย่างต่ำ 6 เดือน แต่เกมภาคนี้จะมี Demo เปิดให้เล่นก่อนวางขายด้วย                                                                                เครดิต : gamingbolt

Square Enix ได้ประกาศว่าตัวเกม Final Fantasy 6 Pixel Remaster จะลงให้กับเครื่อง PC, iOS และ Android อย่างเป็นทางการแล้ว โดยตัวเกมจะเปิดให้เล่นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2022 (ในโซนอเมริกาเหนือ)โดยการ Remaster ในครั้งนี้ ตัวเกมจะได้รับการอัปเกรดคุณภาพกราฟิกแบบ 2 มิติให้ดียิ่งขึ้นกว่าภาคต้นฉบับ ปรับปรุงระบบการเล่นให้ดียิ่งขึ้น ทำให้ UI ของตัวเกมทันสมัยขึ้น มีตัวเลือก Auto-Battle มาให้สำหรับผู้เล่น นอกจากนี้ยังจะมีการเรียบเรียงเพลงประกอบใหม่ โดย Nobuo Uematsu ที่เป็นนักแต่งเพลงตั้งแต่ภาคดั้งเดิมอีกด้วยสำหรับคนที่สั่งซื้อล่วงหน้า จะได้รับส่วนลดถึง 20% แถมยังได้รับของรางวัลพิเศษอย่างวอลเปเปอร์กับ 5 เพลงประกอบสุดพิเศษอีกด้วย แน่นอนว่าเพลงทั้ง 5 เพลงนี้ก็ได้รับการเรียบเรียงใหม่โดยยังเคารพต้นฉบับเหมือนเดิมและถึงแม้ว่าตัวเกมจะลงให้กับแค่ PC และโทรศัพท์มือถือ แต่ทาง Square Enix ยังได้กล่าวเอาไว้ว่า หากมีผู้เล่นจำนวนมากพอ ต้องการให้เรานำตัวเกมไปลงบนแพลตฟอร์มอื่น พวกเราก็จะพิจารณาในการขยับขยายในภายหลังเพราะฉะนั้นคนที่อยากจะลองสัมผัสตัวเกม Final Fantasy 6 Pixel Remaster บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ก็ยังคงไม่หมดหวังไปเสียทีดีนะครับ อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าตัวเกมภาคนี้จะทยอยลงให้กับเครื่อง Switch ภายในปีนี้อีกด้วยแหล่งข้อมูล: gamingbolt

ภายในงาน The Game Awards 2021 ที่ผ่านมา แฟนๆ ที่เฝ้ารอจะได้เล่นเกม Final Fantasy VII Remak Intergrade บน PC ต่างได้รับข่าวดีเมื่อผู้พัฒนา Square Enix ทำการยืนยันวันวางจำหน่ายของเกมภายในงานผ่านตัวอย่างใหม่ โดยผู้เล่นชาว PC จะสามารถพบกับเกมได้ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้!ล่าสุด ทางผู้พัฒนายังได้ทำการเปิดเผยความต้องการ PC สำหรับใช้เล่นเกมออกมาทาง Twitter ของค่ายด้วย ซึ่งแม้จะดูไม่หนักหนาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าความต้องการที่ค่ายเปิดเผยมานี้ตั้งเป้า Performance ไว้ที่เท่าไหร่ (ความต้องการขั้นต่ำอาจจะเล่นเกมได้ที่ 30FPS เท่านั้นก็เป็นได้) สำหรับเกมเวอร์ชั่น PC นี้จะสนับสนุนกราฟิคระดับ 4K, HDR, RTX รวมไปถึงสนับสนุนการเล่นด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดตามมาตรฐานของเกมเวอร์ชั่น PC ทั่วไป แต่จุดน่าสนใจคือการที่ผู้พัฒนาบอกว่า 'คอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูงที่สุดจะสามารถสัมผัสเกมที่ระดับ 120 FPS ได้เลย' ซึ่งดูจะบ่งบอกว่าเกมจะล๊อค FPS สูงสุดไว้ที่ 120 FPS เท่านั้นทั้งนี้ ผู้เล่นหลายคนอาจจะรู้สึกว่าดีใจได้ไม่เต็มอก เมื่อผู้พัฒนา Square Enix เปิดเผยด้วยว่าเกม Final Fantasy VII Intergrade จะวางจำหน่ายบน PC ในราคา $70 (หรือเท่ากับเกม PS5 บ้านเรา แผ่นละ 2,000+) ซึ่งถือเป็นเกม AAA เกมแรกที่ตั้งราคานี้บน PC ในขณะที่แม้แต่เกม PS5/Xbox Series X/S อื่นๆ ยังต้องลดราคาลงมาเหลือ $60 (ราว 1,800 บาท) โดย Square Enix ยังประกาศด้วยว่าเกมผจญภัยโลกเปิด Forsaken ของพวกเขา ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในปีหน้า ก็จะวางจำหน่ายในราคาเท่ากันด้วยแน่นอนว่าการซื้อเกมในราคาระดับเกิน 2,000 บาทต่อเกมไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านๆ มาเกมที่มีราคาระดับนี้มักจะมาพร้อมกับ DLC หรือเป็นชุดพิเศษ Collector's Edition อะไรซักอย่าง ในขณะที่ FF7R: Intergrade จะวางจำหน่ายเกมชุดปกติในราคาเท่ากัน แถมเป็นเกมที่วางจำหน่ายไปแล้วพักใหญ่ในคอนโซลอื่นๆ ด้วย คงต้องรอดูต่อไปว่าผู้พัฒนาเกมค่ายอื่นๆ จะฉวยโอกาสเอาอย่างบ้างไหม และจะส่งผลกระทบต่อผู้เล่นอย่างเราๆ มากน้อยแค่ไหนในอนาคตแหล่งข่าว: PCGamer

หลังจากที่เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้ากันไปเมื่อเร็วๆ นี้กับเกม Battle Royale น้องใหม่อย่าง Final Fantasy VII: The First Soldier ล่าสุดเกมได้เปิดให้ผู้เล่นเข้าไปดาวน์โหลดล่วงหน้าได้แล้ว ก่อนที่จะเปิดเซิฟเวอร์ให้เล่นพร้อมกันในวันที่ 17 พฤษจิกายนนี้ (วันพรุ่งนี้แล้ว!)สำหรับขนาดไฟล์เกมบนเครื่อง iOS จะอยู่ที่ 2.43GB ซึ่งรวมถึงแพทช์อัปเดตขนาดราวๆ เกือบ 800MB ที่ต้องเข้าไปโหลดในเกมอีกทีแล้วด้วย โดยเชื่อว่าขนาดไฟล์บน Android ก็คงไม่ต่างจากนี้เท่าไหร่นักเกม Final Fantasy VII: The First Soldier เป็นเกมแนว Battle Royale ที่ตั้งอยู่ก่อนเหตุการณ์ของเกม Final Fantasy VII ภาคหลัก ซึ่งจะให้ผู้เล่นจะต้องรับบทเป็นทหารหัวกะทิของบริษัท SHINRA ที่จะต้องต่อสู้กันเพื่อให้ได้รับเลือกเข้าสู่หน่วยรบพิเศษ SOLDIER ที่กำลังจะถูกตั้งขึ้นใหม่เป็นรุ่นแรก (เป็นหน่วยทหารที่ตัวเอก Cloud และ Sephiroth สังกัดอยู่นั่นเอง) โดยนอกจากอาวุธทั่วๆ ไปอย่างปืน ระเบิด หรือยานพาหนะชนิดต่างๆ ผู้เล่นจะสามารถใช้อาวุธและเวทมนต์ของจักรวาล Final Fantasy ในการต่อสู้ และยังสามารถต่อสู้กับเหล่ามอนส์เตอร์ที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากซีรีส์เพื่อเก็บเลเวลได้อีกด้วย<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/FA8iaJDVrWc' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>

อย่างที่ผู้เล่นเกม Final Fantasy XIV ทุกคนน่าจะเข้าใจดี ปัญหาใหญ่ๆ ที่ผู้เล่นทุกคนต้องเจอในเกมคือเรื่องช่องเก็บของอันจำกัด โดยเฉพาะสำหรับกล่อง Armoury Chest หรือกล่องใส่ของสวมใส่ในเกม ซึ่งมักมีช่องไม่เพียงพอรองรับไอเทมมากมายที่ผู้เล่นได้รับจากเควสและดันเจี้ยนต่างๆ โดยในการไลฟ์ Live Letter ครั้งล่าสุด ทางผู้พัฒนาได้ยอมรับว่าพวกเขารับทราบถึงปัญหานี้ดี และกำลังเตรียมจะออกมาตรการบางอย่างมาเพื่อบรรเทาปัญหาในการอัปเดต 6.1 หลังจากที่ส่วนเสริม Endwalker วางจำหน่ายทั้งนี้ กล่อง Armoury Chest ของผู้เล่นทุกคนจะได้รับการขยายโดยอัตโนมัติแบบอ้อมๆ จากการที่เกมจะนำไอเทมชนิดเข็มขัดทั้งหมดออกไป ทำให้ช่อง Armoury Chest ส่วนของเข็มขัดสามารถเกลี่ยออกไปยังไอเทมประเภทอื่นๆ ได้ แต่ก็ไม่น่าจะเพียงพอสำหรับความต้องการของผู้เล่นอยู่ดี โดยเฉพาะคนที่ชอบแต่งตัวเยอะๆ ซึ่งทางผู้พัฒนารับปากว่าจะมีการเพิ่มช่องเก็บ Glamour Plate หรือชุดคอสตูมเพิ่มขึ้นพร้อมกับช่องเก็บของด้วยสำหรับรายการ Live Letter ครั้งล่าสุดของผู้พัฒนา Square Enix ได้ทำการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสายอาชีพคราฟติ้งทั้งหลาย รวมไปถึงแนะนำโหมด PvP ใหม่ด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็มีข่าวร้ายอย่างการเลื่อนวางจำหน่ายของส่วนเสริม Endwalker ออกไปด้วยเช่นกันส่วนเสริม Endwalker ของเกม Final Fantasy XIV จะวางจำหน่ายในวันที่ 7 ธันวาคมนี้Credit: PCGamesN

หนึ่งในเทรนด์สนุกๆ ที่มักเห็นในวงการเกมในช่วงไม่นานมานี้คือการดัดแปลงสิ่งของแปลกๆ มาเพื่อใช้แทนจอยควบคุมเกม ไม่ว่าจะเป็นการดัดแปลงง่ายๆ อย่างการใช้จอยเกมเต้นเล่น Dark Souls ไปจนถึงรูปแบบพิศดารๆ อย่างการใช้ผลไม้ก็ยังมี โดยการดัดแปลงจอยล่าสุดที่เราอยากจะเสนอวันนี้ แม้จะไม่ได้พิศดารอะไรขนาดนั้น แต่ก็เท่ไม่หยอก นั่นคือการใช้จอยปืนของเครื่อง PlayStation 2 ในการเล่นเกม Final Fantasy XIV อาชีพ Machinist นั่นเอง!Devlog #1 for the #FFXIV x FFX2 GUN controller time! I had to design and implement a layout to turn the Tiny Bee into a controller for the MCH. You can literally blast away enemies with this final fantasy gun!More info on Monday but we can do a small thread today: ? pic.twitter.com/Im5d8fAkri— Super Louis 64 (@SuperLouis_64) November 10, 2021 สำหรับการดัดแปลงจอยนี้ทำได้ยูทูปเบอร์นามว่า Super Louis 64 ผู้ซึ่งใช้จอยปืน PlayStation 2 ที่ออกแบบมาเหมือนปืนคู่ Tiny Bee ของ Yuna จากเกม Final Fantasy X-2 มาดัดแปลงให้สามารถเล่นเกม Final Fantasy XIV ได้ โดยเขาได้ทำการเผยคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงให้เห็นการควบคุมเบื้องต้นเหล่านี้ด้วยFirst off the this FF controller is rad as hell. Thanks to @icequeenog for being able to find one!2nd it's going to be hard to even showcase this properly so my main goal for Monday is to find the best setup for displaying gameplay with the guns pic.twitter.com/1ZcdGzsI55— Super Louis 64 (@SuperLouis_64) November 10, 2021 คุณ Super Louis 64 เล่าว่าเขาต้องเขียนโปรแกรมที่ใช้ควบคุมจอยปืนใหม่ทั้งหมด โดยเขาตั้งปุ่ม L2, R2 ของไว้ที่ไกปืน ซึ่งสามารถใช้ควบคู่กับปุ่มทิศทางบนจอยปืนเพื่อกดสกิลในเกมได้ และในจังหวะกดสกิลอย่างรวดเร็วก็สามารถลั่นไกแบบรัวๆ ราวกับเราเป็นคนยิงปืนซะเองได้เลย เรียกว่าได้อารมณ์ของการเป็นอาชีพ Machinist (ที่ใช้ปืนเช่นเดียวกัน) อย่างแท้จริงหากคุณสนใจอยากจะเห็นการทำงานของจอยปืนนี้อย่างละเอียดมากขึ้น คุณ Super Louis 64 เผยว่าเขาจะทำการอัปวิดีโอที่อธิบายการทำงานทั้งหมดอย่างละเอียดในช่องยูทูปของเขา เข้าไปติดตามกันได้จ้า!Credit: PCGamesN

อีกไม่กี่วันอีกหนึ่งอีเวนท์ที่ใครหลายๆ คนตั้งหน้าตั้งตารอคอยอย่าง Tokyo Game Show ก็จะมาถึง และแน่นอนว่าบรรดาผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ ก็ได้เริ่มออกมายืนยันข่าวสาร รวมถึงกระจายอัปเดตต่างๆ เกี่ยวกับเกมของพวกเขากันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็จะขาด Square Enix ไปไม่ได้เลย โดยสองเกมใหญ่ที่สุดที่ได้รับการยืนยันว่าจะได้เห็นในงาน TGS 2021 นี้เลยก็คือ Forspoken ที่จะมาในวันที่ 1 ตุลาคมและ Stranger of Paradise Final Fantasy Origin ที่จะมาในวันที่ 2 ตุลาคม โดยทั้งสองเกมนั้น จะทำการลงให้ PS5 โดยเฉพาะ! นอกจากนั้นในวันที่ 3 ตุลาคม เราก็จะมีโอกาสได้เห็นเกมที่เพิ่งจะเปิดตัวใหม่อย่าง เกมที่ลงให้เครื่อง Switch โดยเพาะอย่าง Chocobo GP และ เกมที่นำโดย Yoko Taro อย่าง Voice of Cards: The Isle Dragon Roars อีกด้วยแน่นอนว่านอกจากเกมที่ได้รับการยืนยันแล้ว เราก็อาจมีโอกาสจะได้เห็น Marvel's Guardians of the Galaxy เพิ่มเติมในวันที่ 2 ตุลาคม และได้เห็นเกม Fantasy 7: The First Soldier ในวันที่ 3 ตุลาคมเพิ่มเติมอีกด้วย ในขณะที่ Final Fantasy 16 และ Triangle Strategy นั้นไม่ได้ถูกกล่าวถึงเลยแม้แต่นิดเดียวอย่างไรก็ดีอีกไม่กี่วันงาน TGS 2021 ก็จะมาถึงแล้ว ทางเราก็ได้แต่มานั่งเกาะจอรอลุ้น หรือสุ่มเดากันต่อไปนะคะ ว่าภายในงานจะมีโอกาสได้เห็นเกมอะไรจากค่ายเกมไหนกันบ้างนะCredit: GamingBolt

การหาทางเล่นเกมด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่ Mouse Keyboard หรือ Controller ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรสำหรับ Youtuber หรือ Streamer โดยสำหรับวันนี้มาในเกม Final Fantasy XIV เมื่อผู้เล่นคนหนึ่งได้เล่นคลาส Dancer ภายในเกมต่อสู้กับบอส ด้วยการใช้กล้องต่อ Motion Capture และเต้นในโลกความจริงๆ เพื่อให้ตัวละครในเกมออกสกิล!Microsoft Kinect camera คือกล้องที่ผู้เล่นดังกล่าวเอามาใช้เชื่อมต่อกับเครื่อง PC และเนื่องจาก Dancer เป็นคลาสกลุ่มทำดาเมจ DPS จึงขึ้นอยู่กับ จำนวนครั้งที่เต้นได้ในหนึ่งวินาทีแทน นั้นจึงหมายความว่าการเอาชนะบอสแต่ละตัวได้ เขาต้องเต้นต่อเนื่องหลายนาที แม้จะดูน่าสนุก แต่ก็คงเหนื่อยมากๆ ด้วยในเวลาเดียวกันถ้าหากใครสนใจก็สามารถทำตามคุณ SuperLouis64 ได้ เขามีอธิบายวิธีการเชื่อมต่อไว้ให้แล้วในวิดีโอ ซึ่งต้องบอกเลยว่า แม้จะตั้งค่าเป็นท่าง่ายๆ แต่ก็เรียกเหงื่อได้ดีเลยทีเดียว ลองคิดภาพดูว่าจะดีขนาดไหนหากเราสามารถสู้กับบอสไป ออกกำลังกายไปพร้อมกันได้! แต่ติดปัญหานิดหน่อยตรงที่ว่าหากจะเดินหลบท่าโจมตี ก็ยังต้องจับ Mouse Keyboard อยู่นะ!<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/sGJAMk7_8Y8' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : Kotaku

ถ้าพูดถึงเกมแนว MMORPG ที่ดีที่สุดล่ะก็ ผมคิดว่าสิ่งแรกที่เพื่อนๆ นึกถึงน่าจะเป็น Final Fantasy 14 แน่นอน ตัวเกม Final Fantasy 14 นั้นได้ปล่อยส่วนเสริมของเกมที่เพิ่มความสนุกไว้แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่เพิ่มเข้ามาคร่าวๆ จะมีเป็นเนื้อเรื่องกับเกมเพลย์ใหม่ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าในส่วนเสริม Endwalker ที่กำลังจะมานี้จะเป็นส่วนเสริมที่ใหญ่ที่สุด โดยทาง Square Enix ก็ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ให้พวกเราได้เห็นรายละเอียดต่างๆ ที่กำลังจะมาในส่วนเสริมนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น สามารถรับชมได้ด้านล่างนี้เลยครับในตัวอย่างมีความยาวอยู่ที่ 18 นาทีโดยในนั้นได้เผยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของแต่ละอาชีพโดยรวมจะมี White Mage, Black Mage, Dragoon, Paladin, Bard, Dancer, Machinist, Reaper ซึ่งเป็นอาชีพใหม่และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่ถูกเปลี่ยนมากที่สุดก็คงเป็นอาชีพ Summoner นี่แหละ ตอนนี้อาชีพ Summoner ถูกปรับให้เกี่ยวข้องกับการอัญเชิญ Primals มากขึ้นซึ่งน่าจะถูกใจผู้เล่นหลายคนเลยแหละ ส่วนเสริม Endwalker ของ Final Fantasy 14 จะวางขายในวันที่ 23 พฤศจิกายน โดยจะวางขายให้กับเครื่อง PS5, PS4 และ PC เพื่อนๆ ที่อยากได้ตัวอย่างนี้ล่ะก็อย่าลืมเก็บเงินซื้อกันนะครับCredit : GamingBolt

เพื่อนๆ ยังจำงาน E3 กันได้ไหมครับ ย้อนกลับไปช่วงนั้นทาง Square Enix ได้ประกาศรีมาสเตอร์เกม Final Fantasy ภาคเก่าๆ รวม 6 ภาค โดยใช้ชื่อว่า Final Fantasy Pixel Remaster ถึงในตอนนั้นจะไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก แต่หลังเริ่มวางขายภาค Remaster นี้ไปได้ 3 ภาคผลตอบรับก็เริ่มดีขึ้นเรี่อยๆ จนตอนนี้ก็วางขายภาคที่ 4 แล้วFinal Fantasy 4 Pixel Remaster เริ่มวางขายแล้วบนเครื่อง PC, iOS และ Android เกมนี้มีถูกอัปเดตให้ดูดีขึ้น ปรับเสียง Soundtrack ใหม่ ปรับ UI ให้ดูทันสมัยขึ้น ​​เพิ่มระบบการต่อสู้อัตโนมัติ และปรับอื่น ๆ อีกมากมาย ตัวเกมมีราคาอยู่ที่ $17.99 (ประมาณ 600 บาท) แต่ในตอนนี้สามารถรับส่วนลด 20% ได้จนถึงวันที่ 23 กันยายน เพื่อนๆ สามารถรับชมตัวอย่างเปิดตัวได้ด้านล่างนี้เลยครับ<iframe width='720' height='405' src='https://www.youtube.com/embed/WKfapivkH8A' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>ถึงจะวางขายภาค 4 แล้วแต่ตอนนี้ยังไม่มีข่าววันวางขายภาค 5 กับภาค 6 ออกมา แต่เมื่อ 2 - 3 เดือนที่แล้วทาง Square Enix ได้กล่าวไว้ว่า Final Fantasy Pixel Remaster ยังสามารถวางขายให้กับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อีกด้วย Credit : GamingBolt

เรื่องราวของการนำสิ่งของต่างๆ มาเล่นแทนคอนโทรลเลอร์หรืออุปกรณ์เล่นเกมนั้นมีมานานแล้ว แต่ในครั้งนี้ไม่ใช่การนำผลไม้หรือเครื่องดนตรีมาใช้แต่เป็นเครื่องดูเอลจาก Yu-Gi-Oh! ไอเดียนี้มาจากการที่ Super Louis 64 สตรีมเมอร์ของ Twitch ได้ออกแบบจานดูเอลดิสก์ให้ใช้งานบน Final Fantasy XIV ได้โดยที่ไม่ม็อดเกม FFXIV แต่เป็นการดัดแปลงให้ดูเอลดิสก์สามารถใช้งานได้ด้วยตัวเองในแต่ละช่องใส่การ์ดของดูเอลดิสก์จะตอบสนองต่อคนในปาร์ตี้ การจั่วการ์ดและใช้มันกับคนในทีมจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก จากข้อความบน Twitter ของ Super Louis 64 ได้กล่าวว่าสิ่งที่ยากที่สุุดในการออกแบบวิธีเล่นนี้ก็คือการที่เขาไม่ได้เข้าไปเปลี่ยนไฟล์หรือข้อมูลภายในเกม แต่เลือกที่จะใช้การ์ดยูกิที่ทาสีเคลือบสื่อกระแสไฟฟ้าแทน ฉะนั้นทั้งเครื่องดิสก์และการ์ดรวมไปถึงวงจรด้านใต้ช่องใส่การ์ดจึงเป็นของที่ถูกเคลือบเอาไว้ทำให้สามารถนำมาใช้เล่นได้จริง“ผมตรวจให้แน่ใจแล้วว่าการ์ดที่จะเอามาใช้จะเป็นการ์ดที่ไม่ได้มีราคาสูงอะไรมากมายก่อนที่จะเคลือบพวกมัน” เขากล่าวจากการทำโปรเจกต์นี้ให้ออกมาสมบูรณ์แบบเขาจะต้องใช้เวลาไปหลายสัปดาห์ แต่ผลลัพธุ์ที่ออกมาก็คุ้มค่าความเหนื่อยที่ผ่านมาSuper Louis 64 ได้ซื้อดูเอลดิสก์มาพร้อมกับประกอบเข้ากับวงจรส่วนเสริมที่จะทำให้มันทำงานได้ตามที่ต้องการ โดยเสียรวมๆ เป็นเงิน 1000 บาท และตอนนี้เขาก็กำลังทำ Walkthrough เพื่ออธิบายการทำงานของดูเอลดิสก์ตัวนี้ใน Twitch เขาได้ทำการเล่นเกมด้วยเจ้าเครื่องดูเอลดิสก์นี้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ในช่วงแรกจะเป็นการลุยดันเจี้ยนไปพร้อมกับ CPU แต่ในช่วงหลังเขาก็ลุยดันเจี้ยนไปพร้อมกับผู้เล่นที่ไม่รู้ว่าเขากำลังใช้ดูเอลดิสก์อยู่ หลังจากนั้นเขาก็พิมพ์ใน Twitter ว่าเครื่องดูเอลดิสก์นั้นสามารถนำไปใช้เล่นได้จริง“ปัญหาเดียวที่ผมมีในตอนนี้คือการที่ผมใส่เจ้าดูเอลดิสก์ไม่ได้” Super Louis 64 กล่าวในตอนสตรีม โดยให้เหตุผลว่าแขนของเขาใหญ่เกินกว่าที่จะใส่มันได้ “ถ้าใส่ไปเล่นไปมันก็คงเท่ไม่เบา” เขากล่าวหากใครสนใจการดูเอลใน Final Fanyasy XIV ก็สามารถรับชมได้ที่ TwitchCredit: Kotaku

Final Fantasy 16 เรียกได้ว่าเป็นเกมที่แฟนๆ ทั้วโลกกำลังตั้งตารออยู่มากที่สุดเกมหนึ่งในช่วงนี้ แต่ด้วยความที่ว่าทาง Square Enix เลือกที่จะปิดข่าวเกี่ยวกับเกมนี้ไว้จนกว่าจะใกล้วางขาย ก็ทำให้เราไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับซีรี่ส์ Final Fantasy ภาคใหม่นี้มากนัก แต่เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวออกเล็กน้อย เพื่อนๆ สามารถอ่านได้ด้านล่างเลยครับในการสัมภาษณ์ล่าสุด โปรดิวเซอร์ Naoki Yoshida ได้เผยว่าการอัดเสียงพากย์ภาษาอังกฤษสำหรับเกมนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว Yoshida ยังบอกอีกว่าสำหรับ Final Fantasy 16 นั้น Square Enix ได้ให้ความสำคัญกับการอัดเสียงและการแสดงภาษาอังกฤษแบบบริติซเป็นหลัก แทนที่จะเป็นภาษาญี่ปุ่น นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเกมแรกจึงมีความก้าวหน้ามากที่สุด แต่สายภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้ต้องกังวลนะ เพราะ Yoshida ยังบอกเสริมไว้อีกว่ากำลังจะเริ่มอัดเสียงพากย์ภาษาญี่ปุ่นในไม่ช้า“เราให้ความสำคัญกับการอัดเสียงพากย์ภาษาอังกฤษเป็นหลัก และอัดเสียงเป็นภาษาอังกฤษแบบบริติซ เราใช้การจับภาพใบหน้าด้วยเพื่อให้ในภายหลัง เราจะไม่ต้องปรับใบหน้าแต่ละหน้าระหว่างการทำฉากคัตซีน และเรายังใช้การจับภาพแบบ Motion Capture ด้วย เพราะฉะนั้นนักแสดงที่จับภาพเคลื่อนไหวก็ทำหน้าที่พากย์เสียงไปด้วยเลย เราไม่ได้ทำกับฉากคัตซีนทุกฉากนะ แต่อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นสาเหตุที่การพากย์ภาษาอังกฤษมีความก้าวหน้ามากที่สุด ส่วนการพากย์เสียงภาษาญี่ปุ่นจะเริ่มในเร็วๆ นี้”ถึงจะยังไม่ได้เปิดตัว แต่เราก็รู้ว่า Final Fantasy 16 กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับ PS5 และเมื่อเร็ว ๆ นี้ Yoshida ได้บอกไว้ว่าเกมนี้ไม่น่าจะเปิดตัวที่งาน Tokyo Game Show เพราะงั้นเลยคาดหวังได้ว่าจะมีการเปิดตัว Final Fantasy 16 ที่งานอื่นๆ ในอนาคต Credit : GamingBolt

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีการประกาศเกี่ยวกับ Cookbook หรือตำราอาหารของ Tomb Raider ภายในงานช่วงเดือนมีนาคมของทาง Square Enix ที่ทำให้เราพอจะรู้ได้ว่าเมนูอาหารของ Lara Croft ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูสำหรับรองท้องเสียมากกว่า ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเธอจึงมักจะเดินทางไปอย่างยากลำบากอยู่เสมอ  อย่างไรก็ดีตำราอาหารของ Final Fantasy 14 ที่เราได้ค้นพบเมื่อวานนี้นั้น เต็มไปด้วยเมนูอาหารสุดหรูหรา ชวนท้องร้องกว่า 70 เมนู! ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมของ Eorzea จากโพสต์ Twitter ของผู้ใช้ชื่อว่า Wario64 ที่ได้ทำการขุดค้นฐานข้อมูลของ Amazon และพบเข้ากับตำราอาหารของเกม ซึ่งพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าแล้วในราคา $35 หรือประมาณ 1,142.40 บาท เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งน่าสะสมสำหรับแฟนๆ เกม Final Fantasy 14 เลยทีเดียว โดยในเว็บไซต์ก็ได้มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับตัวตำราอาหารนี้ว่า“เป็นการท่องไปในโลกแห่งการปรุงอาหารอันอุดมสมบูรณ์ของ Final Fantasy 14 ที่จะนำเสนอเมนูยอดนิยม วัตถุดิบ กลวิธีในการปรุง ไปจนถึงเคล็บลับความอร่อยจากทั่วทั้ง Hydaelyn และ Norvrandt ทั้งการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดใสด้วย Farmer’s Breakfast อาหารแสนเรียบง่ายยอดนิยม การได้ลิ้มรสขนมปังของอัศวินแห่ง Coerthas หรือการดำดิ่งลงสู่รสชาติอันนุ่มลึกจาก Rolanberry Cheesecake ของ La Noscea เป็นต้น”โดยจากภาพที่ Wario64 อัปโหลดเอาไว้ ตำรับอาหารของ Final Fantasy 14 เล่มนี้ก็จะวางจำหน่ายในวันที่ 9 พฤศจิกายน ซึ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับยอดผู้เล่นที่พุ่งสูงมากขึ้นในขณะนี้ ก็มีความเป็นไปได้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาสมที่สุดแล้วก็ได้ ที่ตำราอาหารเล่มนี้จะถูกปล่อยออกมาCredit: GameInFormer

จาก 1 ในเกมที่ล้มเหลวที่สุด สู่ 1 ในเกม MMORPG ที่ดังมากที่สุดในโลก ผมคิดว่าเพื่อนๆ ต้องรู้จักเกม Final Fantasy 14 กันบ้างแหละ สำหรับคนที่ไม่รู้จัก เกมนี้นะครับ เกมนี้จะให้ผู้เล่นได้เลือกอาชีพต่างๆ ที่เราต้องการจะเล่น แล้วออกผจญภัยใน Eorzea เกมนี้ก็มีการวางขายส่วนเสริมของเกมเพิ่มยกตัวอย่างเช่น Shadowbringers และล่าสุดที่เปิดให้พรีออเดอร์คือ Endwalker ซึ่งเตรียมวางขายในปลายปีนี้ตามที่ผู้ใช้ Reddit ได้บอกไว้คือ Final Fantasy 14 ขายดีจนหมดสต็อกหน้าร้าน Square Enix Store ไปแล้วทำให้เราคาดการณ์ได้ว่าทาง Square Enix ไม่ได้สร้างรหัสไว้ล่วงหน้าหรือไม่ก็สร้างล่วงหน้าไว้แล้วแต่เกมขายดีมากเกินไปจนรหัสหมดไม่ก็ความจุเซิร์ฟเวอร์ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้เล่นครับ แต่ก็มีข่าวมาว่า Square Enix วางแผนว่าจะลงทุนขยายความจุเซิร์ฟเวอร์ในเวอร์ชัน 6.0 นะเมื่อ 2 - 3 เดือนที่ผ่านมามีผู้เล่นลงทะเบียน Final Fantasy 14 ไว้ถึง 22 ล้านคน แต่การมาของส่วนเสริม Endwalker ก็ทำให้มีแนวโน้มว่ายอดผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะส่วนเสริม Endwalker มียอดพรีออเดอร์เยอะกว่าตอน Shadowbringers เป็นอย่างมาก สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจจะซื้อผมจะบอกสเปคคอมขั้นต่ำไว้ด้านล่างนี้นะครับสเปคขั้นต่ำสำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการจะเล่น Final Fantasy 14: Endwalker นะครับคือ Intel Core-i5 2.4GHz หรือสูงกว่านี้ RAM 4 GB ขึ้นไป และ Geforce GTX 750 หรือ Radeon R7 260X ครับสเปคประมาณนี้จะให้ความละเอียดอยู่ที่ 1280x720 ส่วนสเปคที่แนะนำคือ Intel Core-i7 3 GHz หรือสูงกว่า RAM 8 GB ขึ้นไป กับ GeForce GTX 970 หรือ Radeon RX 480 ครับด้วยสเปคประมาณนี้จะได้ความละเอียดอยู่ที่ 1920x1080 ครับสำหรับเพื่อนๆ ที่สนใจส่วนเสริม Endwalker นะครับ สามารถพรีออเดอร์ได้ผ่านลิงก์นี้เลย ซึ่งจะวางขายในวันที่ 23 พฤศจิกายนให้กับเครื่อง PS4, PS5 กับ PC ครับCredit : GamingBolt 

หลังเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอัปเดตเกี่ยวกับ Final Fantasy 16 ออกมามากนัก แต่เหล่าแฟนๆ ก็ได้แต่ตั้งตารอข่าวอัปเดตของเกมนี้กันมาตลอด เพราะ Naoki Yoshida โปรดิวเซอร์ของ Final Fantasy 14 ได้กล่าวไว้เมื่อปลายปีที่แล้วว่า Square Enix มีแผนที่จะเปิดตัวเกมหลายเกมในปี 2021 แค่นี้ก็ทำให้แฟนๆ พร้อมที่จะรอฟังข่าวดีกันแล้ว แต่งาน E3 กับ State of Play ผ่านไปแล้ว ก็ยังไม่มีข่าวอะไรเกี่ยวกับ Final Fantasy 16 ออกมาเลย ทำให้แฟนๆ คาดการณ์ไปว่าจะมีการพูดถึงเกมนี้ในงาน TGS (Tokyo Game Show) แต่แฟนๆ ก็ต้องผิดหวังกันไปอีกเพราะล่าสุด Naoki Yoshida ได้ประกาศไว้ในไลฟ์สตรีม Final Fantasy 14 ว่า Final Fantasy 16 อาจไม่มีการนำขึ้นมาโชว์ที่งาน Tokyo Game Show ซึ่งมีกำหนดไลฟ์สตรีมในช่วงปลายเดือนกันยายนYoshida ก็ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้การพัฒนาเกมยังราบรื่นดี การทำงานในส่วนต่างๆ ก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว การอัดเสียงภาษาอังกฤษก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว จากนั้น Yoshida ก็บอกอีกว่า ที่ตอนนี้ยังไม่เอาขึ้นโชว์เพราะต้องการที่จะให้ตัวเกมเสร็จจนพร้อมวางขายก่อนประกาศขึ้นโชว์เพื่อให้แฟนๆ สามารถซื้อได้ในทันทีYoshida ยังบอกอีกว่า เขาไม่ต้องการที่จะให้แฟนๆ รอนาน เพื่ออัปเดตข้อมูลเพียงเล็กน้อย เขาต้องการให้แฟนๆ ได้รู้ข่าวสารรวดเดียวจนพร้อมซื้อเกมในทันที ถึงจะยังไม่รู้วันวางขายที่แน่นอน แต่ที่แน่นอนคือ Final Fantasy 16 จะวางขายให้เล่นใน PS5 FINAL FANTASY 16 UPDATES FROM YOSHI-P-Voice recording for the ENGLISH version is almost complete-All scenarios set in stone-Development going well, but they might not be able to show it at TGS-He wants to show it at utmost quality so people can watch and think "INSTANT BUY!" pic.twitter.com/YrL5ktKeDp— ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) July 10, 2021 Credit : GamingBolt

ผมว่าเพื่อนๆ หลายคนคงรู้จัก Final Fantasy 14 กันเป็นอย่างดี Final Fantasy 14 เป็นเกมแนว MMORPG ที่โด่งดังมากเกมนึง โดยจะให้ผู้เล่นได้เลือกอาชีพต่างๆ แล้วผจญภัยในโลก Eorzea ตัวเกมก็มีส่วนเสริมออกมาอย่าง Shadowbringers ให้แฟนๆ ได้สนุกสนานกับอาชีพใหม่ๆ ตอนนี้ก็มีส่วนเสริมออกมาเช่นกันคือ Endwalker ซึ่งดูเหมือนว่าจะใหญ่และดีกว่าส่วนเสริมตัวก่อนๆ ซะอีก ซึ่งก็คงทำให้แฟนๆ ต้องตื่นเต้นกันใหญ่เลยแหละ อิงจากไลฟ์สตรีมล่าสุดของ Naoki Yoshida ผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เกม Final Fantasy 14 ได้ออกมาเปิดเผยว่า ยอดพรีออเดอร์ของ Endwalker มากกว่าของ Shadowbringers ที่ออกมาในปี 2019 ถึง 160 - 180% เลยทีเดียว แล้ว Yoshida ยังกล่าวอีกว่าจำนวนผู้ Final Fantasy 14 ในตอนนี้มากซะจนทาง Square Enix วางแผนที่จะลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในการขยายและปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์ของเกม ซึ่งคาดว่าจะมาในเวอร์ชั่น 6.0 ที่จะออกในสิ้นปีนี้พอรวมข่าวนี้กับข่าวลือที่ว่า Square Enix มีเนื้อหาที่จะอัปเดตเข้ามาเรี่อยๆ อีกเป็นระยะเวลา 5 ปี รวมถึงการพิจารณาว่าจะมีการอัปเดตเอนจิ้นกราฟิกของเกม ก็คงทำให้แฟนๆ วางใจได้ว่าจะได้เล่นเกมนี้ไปอีกนานหากเพื่อนๆ ไม่เคยเล่น Final Fantasy 14 ล่ะก็ต้องไปลองเล่นแล้วล่ะ ส่วนตัวผมคิดว่ามันเป็นเกม MMORPG ที่ดีเกมนึงเลยแหละ เพื่อนๆ สามารถเล่น Final Fantasy 14 ได้บน PS4, PS5 และ PC ส่วนตัวส่วนเสริม Endwalker ถ้าแฟนๆ ไม่พรีออเดอร์ก็รอเปิดให้ได้ซื้อกันในวันที่ 23 พฤศจิกายนนี้เลยCredit : GamingBolt

จนถึงตอนนี้ก็เป็นที่รู้โดยกันไปแล้วว่า Final Fantasy 7 Remake ไม่ได้ถูกสร้างออกมาอย่างที่แฟนๆ เกมคิดเอาไว้ ในขณะที่ตัวเกมได้สร้างการเปิดตัวเมือง Midgar ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ตามต้นฉบับสุดคลาสสิกจากปี 1997 แต่มันก็เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่ดำเนินไปในทิศทางซึ่งต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ทำให้ใครหลายคนมุ่งความสนใจไปยัง Part 2 ของภาค Remake นี้ รวมไปถึงแนวทางต่อไปของมันในอนาคตหลังจากการหาข้อมูลเพิ่มเติมคร่าวๆ แล้ว ก็ทำให้เราพอจะบอกได้ว่าเนื้อหาหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไรหลังการเปิดตัว รวมถึง DLC Episode INTERmission ที่จะมี Yuffie ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกเล่นได้ใน Final Fantasy 7 ภาคดั้งเดิม แต่ทำไมต้องเป็นเธอ แทนที่จะเป็นแวมไพร์อย่าง Vincent กันล่ะ?ซึ่งจากการพูดคุยระหว่าง TheGamer กับผู้กำกับร่วมอย่าง Motomu Toriyama เขาก็ได้กล่าวถึงบทบาทของ Yuffie ใน DLC ว่า เราจะสามารถเล่าและเปิดโอกาสให้แฟนเกม ได้เรียนรู้เรื่องราวเบื้องลึกของตัวละครนี้ได้มากขึ้น ได้รู้จักกับตัวละครใหม่ๆ มากขึ้น จากบทบาทก่อนหน้านี้ของเธอ ที่เป็นเพียงตัวเสริมที่ผู้เล่นจะสามารถเลือกได้เท่านั้น และเหตุผลที่เขาเลือกเธอแทนที่จะเป็น Vincent ทาง Toriyama ก็ให้คำตอบง่ายๆ ว่า บทของพ่อแวมไพร์คนนี้อยู่ในส่วนของ Midgar แล้ว เป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้จักรวาลของภาค Remake จะแตกต่างออกไปจากเดิม แต่บางส่วนพวกเขาก็ยังอยากที่จะอนุรักษ์บางส่วนของภาคคลาสสิกเอาไว้“เราไม่ได้รับประกันว่า Yuffie ตัวเอกใน DLC Episode INTERmission นี้จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมตัวเอกในตัวเกมหลัก แต่เพราะแบบนั้นก็ทำให้เธอซึ่งเป็นนักล่า Materia เป็นตัวละครที่ทำให้เรามีอิสระมากขึ้นในการขยายเรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังของเธอออกไปอีก เมื่อเทียบกับ Vincent ที่หลับใหลอยู่ในโลงศพที่คฤหาสน์ Shinra และไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ ซึ่งในการเดินทางภายใน DLC นี้เราก็จะได้ทำความรู้จักกับ Yuffie มากขึ้น และก็จะเชื่อมโยงไปสู่เรื่องราวของเธอต่อไป”Final Fantasy 7 Remake Intergrade และ Episode INTERmission พร้อมให้เล่นแล้วบน PlayStation 5 และ Final Fantasy Remake พร้อมให้เล่นบน PlayStation 4 แล้วเช่นกันCredit: GamingBolt

Asmongold สตรีมเมอร์เกมสาย MMORPG ชื่อดังของโลก ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มเล่น Final Fantasy 14 เป็นครั้งแรก ซึ่งเพียงแค่แฟนๆ ของเราทราบว่า Asmongold กำลังเล่น FF14 อยู่ ก็ส่งผลให้คนที่อยากพบกับสตรีมเมอร์ชื่อดังไปรวมตัวกันที่เมือง Limsa Lominsa ซึ่งเป็นเขตเริ่มต้นของบางอาชีพในเกม เพื่อรอต้อนรับเขา โดยเมื่อได้พบกับสตรีมเมอร์ที่ตัวเองรักเหล่าผู้เล่นก็ทำการกดสกิลต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความยินดีกันการเริ่มเล่น Final Fantasy 14 ของ Asmongold ยังส่งผลให้ยอดผู้เล่นเกมบน Steam พุงขึ้นไปสูงถึง 47,542 พร้อมกัน ทำลายสถิติเก่า 41,200 คน ช่วง Shadowbringer มาใหม่ๆ ในปี 2019 ซึ่งนับเป็นเรื่องดีสำหรับแฟนๆ ที่จะอาจจะได้เพื่อนใหม่จากการตามมาเล่นกับสตรีมเมอร์ชื่อดังด้วย สำหรับแฟนๆ ของคุณ Asmongold สามารถดูสตรีมไฮไลท์ของเขาได้ทั้งผ่าน Twitch และ Youtube วันนี้ สำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะเริ่มเล่น Final Fantasy 14 ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรจะซื้อเกมเลยดีหรือไม่ ก็สามารถเข้าไปทดลองเล่นก่อนได้ โดยเวอร์ชันทดลงจะเปิดให้เล่นจนถึงเลเวล 60 ในทุกสายอาชีพ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เข้าใจเกมได้มากพอสมควรครับCredit : PCGamer

จากข่าวเมื่อวานที่ทาง Square Enix ได้ยืนยันวันวางจำหน่าย Final Fantasy Pixel Remaster ผ่านวิดีโอ แต่ภายหลังก็ลบออกไปนั้น วันนี้ก็มีประกาศใหม่ออกมาแล้วว่าตัวเกมจะวางขายวันไหน พร้อมกับบอกด้วยว่าจะเริ่มวางขายภาค 1 ถึง 3 ให้กับ PC, Android กับ iOS ก่อนส่วนภาค 4 ถึง 6 จะตามมาในภายหลัง แต่ก็ยังไม่มีประกาศว่าจะขายให้กับเครื่องคอนโซลแต่อย่างใดFinal Fantasy ภาค 1 ถึง 3 จะขายในราคา $11.99 ต่อภาค (ประมาณ 380 บาท) ตอนนี้สามารถสั่งพรีออเดอร์ได้โดยจะลดราคา 20% เหลือ $9.59 ต่อภาค (ประมาณ 300 บาท) นอกจากนี้ยังมีเป็นรวมภาคด้วย โดยจะรวมภาค 1 จนถึง 6 โดยจะมีราคา $74.82 (ประมาณ 2400 บาท) สำหรับคนที่พรีออเดอร์จะได้รับเพลงประกอบและวอลเปเปอร์ฟรีของแต่ละภาคด้วยการรีมาสเตอร์ครั้งนี้จะเปลี่ยนกราฟิกกับเพลงประกอบแทบทั้งหมด รวมถึงตัวละครด้วยโดยเรื่องของตัวละครจะถูกรีมาสเตอร์โดยคุณ Kazuko Shibuya ส่วนเพลงประกอบก็ได้รับการรีมาสเตอร์โดยนักแต่งเพลง Nobuo Uematsu โดยทั้งคู่ทำงานในแฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ Final Fantasy ภาคแรก Credit : GamingBolt

หลังเปิดตัวไปในงาน E3 2021 ด้วยข้อมูลอันน้อยนิด โดยบอกแค่ว่าตัวเกมจะเล่นในไหนได้บ้าง จนตอนนี้มีข่าวออกมาเพิ่มเติมแล้ว โดยทาง Square Enix ได้ยืนยันเรียบร้อยแล้วว่าตัวเกมจะเริ่มวางขายในเดือนหน้านี้ ถึงแม้ว่าตัววิดีโอนี้ถูกลบออกไปแล้วแต่ก็ยังดีที่มีมือดีอัดเอาไว้ สามารถดูได้ด้านล่างนี้  ในวิดีโอดังกล่าวได้เปิดเผยวันที่จะวางขายบน iOS, Android และ PC ไว้ซึ่งในวิดีโอยังมีผู้สร้างซีรีส์ Hironobu Sakaguchi นักแต่งเพลง Nobuo Uematsu และโปรดิวเซอร์ Yoshinori Kitase มาพูดคุยกันในวิดีโอนี้ด้วย ทั้งสามคนพูดถึงการพัฒนาของเกมแต่ละภาคพร้อมยืนยันว่าตัวละครพิกเซลอาร์ตได้รับการรีมาสเตอร์หมดแล้ว โดยคนที่ทำการรีมาสเตอร์พวกนี้คือ Kazuko Shibuya โดยเขาทำงานในแฟรนไชส์นี้มาตั้งแต่ Final Fantasy ภาคแรกFinal Fantasy Pixel Remaster จะรวมตัวเกมตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาค 6 ไว้ด้วยกันโดยเราสามารถซื้อแต่ละภาคแยกกันได้ แต่ก็มีแบบรวมภาคให้ซื้อเช่นกัน Credit : GamingBolt

Final Fantasy XIV จากเกมที่เคยทำให้ผู้เล่นผิดหวัง กลับกลายเป็น 1 ในเกม MMORPG ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก ในตอนนี้สังคมเกมก็คึกคักขึ้นมามากหลังเกมลงเครื่อง PS5 นอกจากนี้ล่าสุดยังจับมือกับ Twitch เพื่อแจกของในเกมอีกด้วย โดยเริ่มแจกตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม ไอเทมที่แจกจะมีเป็นพรุ Heavenscracker ให้ผู้เล่นได้เอาไปจุดเล่นกันได้ และจะมีสัตว์ขี่สุด Exclusive อย่าง Fat Black Chocobo อีกด้วย วิธีการได้รับก็ง่ายๆ เพียงแค่ทำการกดติดตามให้กับสตรีมเมอร์ที่ทำการไลฟ์สตรีมอยู่ใน Eorzeaสำหรับคนที่กดติดตามช่องของสตรีมเมอร์จะได้รับ Deluxe Heavenscracker เป็นจำนวน 100 ชิ้นให้ไปใช้เล่นอีกด้วย สามารถดูรายชื่อสตรีมเมอร์ที่เข้าร่วมได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ https://na.finalfantasyxiv.com/lodestone/topics/detail/7ba82d0fbd072e2aacca091a0b73bb377a7fb821Credit : https://www.gameinformer.com/2021/06/24/final-fantasy-xiv-online-and-twitch-team-up-for-free-rewards-including-the-fat-black

Square Enix เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Endwalker ซึ่งเป็น Expansion ต่อไปของ Final Fantasy 14 จะเป็นบทสรุปของเรื่องราวเทพ Hydaelyn กับ Zodiark ที่มีบทบาทสำคัญมาตลอดตั้งแต่ A Realm is Reborn โดยเรื่องราวจะจบลงยังไง คงต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลย  ในส่วนของความยาวเนื้อเรื่องใน Expansion ใหม่นี้ จะยาวกว่า Shadowbringer ประมาณ 30% ด้วยNaoki Yoshida หัวหน้าทีมพัฒนาได้ให้สัมภาษณ์ว่า 'มีหลายครั้งเหมือนกันที่ผมคิดว่า เนื้อเรื่องมันยาวมากเกินไปรึเปล่า เคยมีความคิดจะตัดเนื้อเรื่องบางส่วนออกเหมือนกัน แต่มันทำให้ต้องทำเงินมากขึ้นกว่าเดิมเสียอย่างนั้น สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร' แต่ส่วนของ Dungeon ไม่ได้มีการลดจำนวนลง เพื่อลดปริมาณงานที่ทีมพัฒนาต้องทำ ดังนั้นขอให้แฟนๆ หายห่วงได้สุดท้ายคุณ Yoshida ยังยืนยันอีกครั้งว่าทีมพัฒนาใส่ใจในเนื้อเรื่องของ Expansion นี้มากจริงๆ มีฉากสำคัญที่เชื่อว่าจะต้องถูกใจเหล่าแฟน รวมถึงสร้างอารมณ์ร่วมด้วยในส่วนเสริมใหม่นี้ และแน่นอนว่าเกมเพลย์ใหม่ๆ ระบบใหม่ๆ ก็ถูกใส่เข้ามาด้วยในส่วนเสริมนี้ หวังว่าเหล่าผู้เล่นจะได้สนุกไปกับมันช่วงปลายปีนี้<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/zTTtd6bnhFs' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-endwalker-has-more-story-and-cutscenes-than-shadowbringers

ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทาง Sqaure Enix กำลังซุ่มทำเกม Final Fantasy ภาคใหม่ที่จะลง Exclusive เฉพาะเครื่อง PS5 อยู่ ซึ่งถึงแม้ตัวเกมจะไม่ได้เป็นเกมใหญ่ขนาด AAA แต่ทุนในการพัฒนาก็จัดอยู่ในเกรดเดียวกันกับเกม NieR: Automata เลยทีเดียวและล่าสุดมีข่าวลืออกมาจากคุณ Imran Khan นักข่าวของเว็บไซต์ Fanbyte ว่าเกมภาคนี้จะใช้ชื่อว่า Final Fantasy Origin รวมถึงทีมที่เข้ามาพัฒนาก็คือ Team Ninja ผู้พัฒนาเจ้าของผลงานเกม Dead or Alive หรือตัวทีมนี้เองก็เคยสร้างเกมอย่าง DISSIDIA FINAL FANTASY ให้กับ Square Enix มาก่อนด้วย รวมถึงนักพัฒนาที่อยู่ในสตูดิโอนี้ก็มีมากกว่า 200 คนเลยทีเดียวและทางคุณ Khan เองยังกล่าวต่อว่าตัวเกมนี้จะมี Demo ปล่อยออกมาในช่วงซัมเมอร์ (มิถุนายน - กันยายน) เพื่อเก็บ Feedback ต่างๆ จากเหล่าผู้เล่นด้วย รวมถึงตัวเกมจะถูกเปิดตัวภายในงาน E3 2021 ที่จะถึงนี้ ส่วนต่อมาทางคุณ Khan เองยังบอกว่าตัวเกมนี้จะมีกลิ่นอายของเกมแนว Souls และ Nioh พอสมควร แต่ตัวเกมจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า<blockquote class='twitter-tweet'><p lang='en' dir='ltr'>except something easier to get into than Nioh, but that&#39;s the comparison point I keep hearing</p>&mdash; Imran Khan (@imranzomg) <a href='https://twitter.com/imranzomg/status/1396855716770680832?ref_src=twsrc%5Etfw'>May 24, 2021</a></blockquote> <script async src='https://platform.twitter.com/widgets.js' charset='utf-8'></script>แต่สุดท้ายแล้วนี่ก็ยังเป็นข่าวลือ โปรดทุกท่านใช้วิจารณญานในการรับข้อมูลด้วยครับCredit - Gamingbolt

Souls Hunt จอมปล่อยข่าวลือที่มีความถูกต้องในอดีต ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับวิดีโอใหม่ ยืนยันว่า มี Final Fantasy อีกหนึ่งภาคที่จะลงให้กับ PS5 เท่านั้นกำลังถูกพัฒนาอยู่โดย Team Ninja โดยได้แรงบันดาลใจมาจากซีรีส์ Souls ของ FromSoftwareSouls Hunt เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าภาคนี้จะถูกเปิดตัวในงาน E3 2021 ที่กำลังมาถึง และจะปล่อย Demo ออกมาให้เล่นในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ (กรกฎาคม - กันยายน) เพื่อข้อความเห็นจากผู้เล่น ซึ่ง Team Ninja เคยมีประสบการณ์ทำเกมสไตล์ Souls อย่าง Nioh มาก่อนแล้วจึงมีความเป็นไปได้ที่ข่าวนี้จะเป็นความจริงอย่างไรก็ตาม Final Fantasy ที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก Dark Souls ถือว่าเป็นอะไรที่ดูแปลก แต่ก็น่าสนใจในเวลาเดียวกัน Souls Hunt ยังเชื่ออีกด้วยว่าเกมนี้จะ Exclusive บน PS5 ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ก่อนจะลงให้กับเครื่องอื่นๆ ด้วย ข่าวนี้จะเป็นความจริงหรือไม่ E3 2021 ได้รู้พร้อมกัน<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/SuiiAXpgmeg' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://wccftech.com/ps5-exclusive-final-fantasy-team-ninja/

ถือเป็นข่าวน่าเศร้าสำหรับวงการนักวาดการ์ตูนของญี่ปุ่นเมื่อ Kentaro Miura ผู้ให้กำเนิดซีรีส์ Berserk ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 54 ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับเขา เหล่าผู้เล่นในเกม Final Fantasy XIV จึงได้มีการยืนร่วมไว้อาลัยที่เมื่อ Ul Dah ภายในเกมผลงาน Berserk ของคุณ Kentaro Miura เรียกได้ว่ากลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้พัฒนาเกมอยู่ไม่มากก็น้อย เหล่าผู้เล่นที่รวมไว้อาลัยหลายคนจึงเลือกที่จะไปยืนด้วยคลาส Dark Knight ซึ่งใช้อาวุธเป็นดาบใหญ่เช่นเดียวกับตัวเอกของเรื่อง Berserk  'อาจารย์ Kentaro Miura ถือได้ว่าเป็นนักวาด และนักเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยม ผลงานของเขาได้เป็นแรงบันดาลใจให้กับเรามากจริงๆ การสูญเสียเขาไปจึงถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าอย่างถึงที่สุด' บริษัท Dark Horse Comics ออกความเห็น <iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/ZzbSNEn38eY' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://www.gameinformer.com/gamer-culture/2021/05/20/final-fantasy-xiv-community-pays-respects-to-berserk-creator-kentaro-miura

เรียกได้ว่าทำสินค้าออกมาขายอย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับ Final Fantasy 14 ที่เมื่อวานเพิ่งจะเปิดตัวกีตาร์สีดำสุดเท่ไป มาวันนี้ก็มีการประกาศเปิดตัวนาฬิกาข้อมือกับ Citizen อีก 2 รุ่นในสีขาว และดำในราคา $349.99 และ $399.99 ตามลำดับ โดยเปิดให้ Pre-Order แล้ววันนี้ที่รุ่นสีข่าวมีราคาถูกกว่าคาดว่าน่าจะเป็นเพราะมีสายเป็นแบบหนังในขณะที่สีดำเป็นแบบโลหะ สำหรับโลโก้ของเกมจะไม่ได้เด่นอยู่บนหน้าปัดของนาฬิกา แต่อยู่บริเวณด้านหลังแทน ทั้งสองรุ่นมีการใส่ Eco-Drive ให้สามารถชาติพลังงานจากแสงได้ด้วย หมดกังวลเรื่องความยุ่งยากไปได้เลยSquare Enix มีแผนจะส่งสินค้าในช่วงปลายปี 2021 นี้ ดังนั้นสินค้าน่าจะมาถึงเพื่อนๆ ที่ Pre-Order ในช่วงต้นปีหน้า สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ผ่านลิงก์ข้างล่างCredit : https://www.siliconera.com/ffxiv-citizen-watches-cost-350-400/

Final Fantasy 14 ถือเป็นไม่กี่เกม MMORPG ที่มีเพลงประกอบที่ไพเราะ โดยสำหรับคนที่ชอบฟังดนตรีจากเกมแล้ว พลาดไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะต้องรองฟังดูสักครั้งโดยเฉพาะเพลงจากภาค 14 และสำหรับนักดนตรีโดยเฉพาะมือกีตาร์ ก็พลาดไม่ได้เช่นกันสำหรับกีตาร์ไฟฟ้าสีดำสุดเท่ Official จาก Square EnixFender และ Square Enix จับมือกันผลิตกีตาร์ไฟฟ้า Limited Edition ทีมมาในธีม Final Fantasy 14 ด้วยลวดลาย กับสัญลักษณ์ประจำภาค ทำให้กีตาร์ตัวนี้สวยงามมาก เปิดให้ Pre-Order ผ่านหน้าร้าน Stratocaster ช่วงปลายปีนี้ และส่งออกในช่วงต้นปี 2022สำหรับภายในเกม Final Fantasy 14 เอง ก็มีการเพิ่มกีตาร์ไฟฟ้าตัวนี้เข้าไปด้วยเช่นกัน โดยมาพร้อมกับโทนเสียง 5 แบบ โดยจะมีของตกแต่งบ้านเป็นกีตาร์พร้อมที่ตั้งโชว์ สำหรับคนที่อยากเอาไปใช้ตกแต่งบ้านของตัวเองด้วยเช่นกันCredit : https://www.polygon.com/22440449/final-fantasy-14-fender-guitar-stratocaster-release-date

ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดตัวคลาสใหม่ใน Trailer ตัวเต็มแล้วในไลฟ์สตรีมวันเสาร์ที่ผ่านมา สำหรับ Final Fantasy 14: Endwalker โดยคลาสใหม่ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาคือ Reaper คลาส DPS ระยะประชิดที่ใช้อาวุธเป็นเขียวขนาดใหญ่ และสามารถเรียกวิญญาณออกมาช่วยโจมตี หรือร่วมร่างกันเพื่อโจมตีอย่างรุนแรงได้<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/zTTtd6bnhFs' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>สำหรับผู้ที่สนใจใน Collector’ s Edition สำหรับส่วนเสริมใหญ่นี้ภายในกล่องจะได้โมเดลตัวละครหลักคลาส Paladin แถมมาด้วยพร้อมกับชุดรูปภาพบรรยายถึงการเดินทางของ Final Fantasy 14 พร้อมกับตุ๊กตาสุดน่ารัก และกรอบรูปตั้งโต๊ะที่สามารถเปลี่ยนรูปภาพทั้งหมดที่แถมมาใส่เข้าไปได้ ให้แฟนๆ สามารถเอาไปตั้งโชว์สวยๆ ได้ตามที่ต้องการสำหรับแพตช์ 5.5 จะถูกอัปเดตเข้ามาในวันที่ 25 พฤษภาคม 2021 นี้ พร้อมกับตัวเกมเวอร์ชัน PS5 ฉบับสมบูรณ์ที่แก้ไขบัคในช่วง Beta แล้ว Square Enix ได้ประกาศว่าภายในช่วง 6 เดือนก่อนจะถึงวันปล่อยแพตช์ Endwalker จะมีการเพิ่มอาวุธเรืองแสงของ Raid ระดับ Extreme ต่างๆ เข้ามาให้ เพื่อให้ผู้เล่นได้มีอะไรทำในช่วงรอแพตช์ 6.0 ของเกมครับCredit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-endwalker-releases-on-november-23rd-collectors-edition-revealed

อีกเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น กับการกลับไปรับบทเป็น Yuffie ใน Final Fantasy VII Remake Intergrade ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่าตัว DLC : Intermission นี้จะเป็นเกมแยกที่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแยกกันบนเครื่อง PS5 ไม่ว่าผู้เล่นจะซื้อในแบบแผน หรือ Digital ก็ตามในส่วนของ DLC : Intermission นี้เราจะได้รับบทเป็น Yuffie Kisaragi สำรวจ Midgar ในช่วงเวลาเดียวกันกับเนื้อเรื่องในเกมหลัก โดยส่วนเสริมนี้ได้เพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามาอีก 2 Chapter สำหรับเจ้าของเกมบนเครื่อง PS4 จะสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชัน Intergrade ได้ฟรี แต่ตัว DLC : Intermission จะเล่นได้บนเครื่อง PS5 เท่านั้นครับส่วนสำหรับคนที่ซื้อแผ่น  Final Fantasy VII Remake Intergrade มา ภายในกล่องจะมี Code ของ DLC : Intermission แยกมาให้ด้วย สามารถเติม Code ดังกล่าวแล้วกด Download ส่วนเสริมได้เลยCredit : https://www.gameinformer.com/2021/05/12/final-fantasy-vii-remake-intergrade-yuffie-dlc-needs-to-be-downloaded-separately

ตามภาคหลักไปสำหรับ Final Fantasy 7 Remake Intergrade ที่ล่าสุดมีการประกาศออกมาว่าจะ Exclusive บน PS5 เป็นเวลา 6 เดือน โดยที่ยังไม่รู้ว่าหลังจากหมดช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว เกมจะลงให้กับ PS4. Xbox หรือ PC ด้วยหรือไม่แม้จะผ่านมามากกว่า 1 ปี แล้ว แต่ Final Fantasy 7 Remake ก็ยังไม่ได้ลงให้กับ PC แต่ไปลงให้กับ PS5 แทน ซึ่งคิดว่า Intergrade น่าจะเป็นแบบเดียวกันแต่เป็นลงให้ PS4 แทน แม้ว่าจะยังไม่มีประกาศจากผู้พัฒนา แต่ก็หวังว่าเราจะมีโอกาสได้เล่นเกมนี้บน PC เช่นกัน<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/YsXnDKAv_h8' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-will-be-exclusive-to-ps5-for-at-least-6-months

ประธาน Square Enix คุณ Yosuke Matsuda ถูกถามในการสัมภาษณ์กับ VGC ว่า 'เกมอะไรของบริษัทที่เขาคาดหวังมากที่สุดในปี 2021' แม้ว่าทานประธานไม่ได้เอ่ยชื่อของเกมออกมาตรงๆ แต่เขากลับบอกว่าให้รอดูประกาศเกมที่จะมาหลังจากนี้ในช่วงปลายปีภายในงาน E3'Outrider วางจำหน่ายในวันที่ 1 เมษา, NieR Replicant ก็จะวางจำหน่ายในเดือนเดียวกัน ส่วน Final Fantasy VII Remake Intergrade จะขายเดือน มิถุนายน บริษัทจะประกาศแผนช่วงครึ่งปีหลังเร็วๆ นี้ เรามีแผนจะประกาศบางอย่างในงาน E3 ด้วย'ถ้าพูดถึงผลงานที่กำลังถูกจับตามองอยู่ของ Square Enix คิดว่าคงไม่พ้น Final Fantasy 16 ที่ติดอันดับในนิตยสาร Famitsu มาหลายอาทิตย์แล้ว ไม่แน่ว่าในงาน E3 เราอาจได้เห็นวันวางจำหน่ายของเกมภาคใหม่นี้เป็นครั้งแรกรึเปล่า คงมีแต่คนในบริษัทที่รู้ตอนนี้ครับCredit: https://www.videogameschronicle.com/news/square-enix-joins-the-growing-digital-e3-2021-roster/

ถือเป็นข่าวดีสำหรับแฟนๆ Final Fantasy 14 ที่จะได้สัมผัสตัวเกมบนเครื่อง PS5 เป็นครั้งแรกในวันที่ 13 เมษายน 2021 นี้ แต่ในวันดังกล่าวนอกจากการเปิดรอบ Open Beta บนเครื่องเจนใหม่แล้ว ยังมีปล่อยอัปเดต 5.5 แพตช์ Death Unto Dawn เพื่อปูทางเข้าสู่ Expansion ใหม่ Endwalker ที่จะมาช่วงปลายปีนี้ด้วยครับจาก Trailer ของแพตช์ดังกล่าว อัปเดต 5.5 ถือได้ว่าเป็นแพตช์ใหญ่มากตัวหนึ่งเลย นอกจากเนื้องเรื่องทางฝั่ง Main Quest แล้วทางฝั่ง Side Quest เองก็มีการเพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามามากมายด้วยเช่นกัน อย่างแรกคือ ดันเจี้ยน NieR ลำดับที่ 3 ซึ่งน่าจะเป็นด่านสุดท่ายของ Alliance Raid เลเวล 80 ต่อมา Diamond Weapon จาก FF7 ที่น่าจะเป็นบอสอาวุธอัญมณีตัวสุดท้าย ช่วง 42 วินาที ได้เห็น Scorpion Sentinel จากภาคเดียวกันด้วย ต้องรอดูว่าจะมีบทบาทยังไง<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/VG9VC5B_wRw' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากดูเกมเพลย์บนเครื่อง PS5 ใน Letter from the Producer LIVE Part LXIII คุณ Yoshida ได้มีการโชว์เกมเพลย์บนเครื่องเจนใหม่ให้เราได้รับชมกันด้วย โดยต้องบอกเลยว่าความคมชัดระดับ 4K ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ รายละเอียดของตัวละคร ฉาก น้ำ และอื่นๆ ถือว่าสวยงามเป็นอย่างมาก ในเรื่องของกราฟฺ์กคิดว่าเทียบเท่ากับ Max Setting ของ PC ตอนนี้ครับ<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/4wt4ZoN8YN4?start=4740' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit: https://www.pcgamer.com/final-fantasy-14-update-55-trailer-shows-off-spectacular-raid-and-boss-footage/

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วสำหรับเหล่านักรบแห่งแสงบนเครื่องคอนโซล ที่จะได้สัมผัสประสบการณ์ผจญภัยแบบ 4K บน PS5 โดยแน่นอนว่าเวอร์ชันนี้จะรองรับ Haptic Feedback , 3D audio และการโหลดฉากที่เร็วมากๆ จากผลของ SSD ด้วยครับสำหรับเจ้าของเกมบนเครื่อง PS4 เมื่อถึงวันที่ 13 เมษายน 2021 แล้ว สามารถเข้าไปยัง PS Store เสิร์ชหา 'Final Fantasy XIV PS5 Upgrade Edition (Beta Version)' และโหลดมาเล่นได้เลย ส่วนสำหรับผู้เล่นใหม่ที่จะเริ่มเดินทางไปพร้อมๆ กับเวอร์ชันนี้ ให้หา “Final Fantasy 14 Free Trial” แทนครับก่อนหน้านี้ Square Enix ได้ประกาศเปิดตัว Expansion ใหม่ในชื่อ Endwalker ที่จะขายปลายปีนี้ออกมา ดังนั้นสำหรับคนเล่นใหม่การเริ่มเล่นตอนนี้ คิดว่าคงสามารถไร้ตามคอนเทนต์ทั้งหมดที่มีให้ทำ เพื่อเตรียมตัวเข้า Expansion ใหม่ได้ทันอยู่ครับCredit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-ps5-open-beta-starts-april-13th

ย้อนกลับไปในปี 2015 บริษัท Square Enix ประกาศจำมือกับ Nexon เตรียมนำเกม MMORPG ฉบับปี 2002 ของพวกเขา Final Fantasy 11 มาลงให้กับมือถือ และมีกำหนดจะเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการในปี 2016 ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าในปี 2016 ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และล่าสุดก็มีรายงานว่าทีมพัฒนาโปรเจกต์ดังกล่าว ถูกย้ายไปรับผิดชอบโปรเจกต์อื่นแล้ว!ในปี 2018 เว็บไซต์ของ Nexon ได้มีเคยมีการโพสต์ Footage บางส่วนภายในเกมให้ดู (ซึ่งต่อมาถูกเอาออกไป) ซึ่งในตอนนั้นได้ให้ความหวังกับผู้เล่นไว้พอสมควร แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าโปรเจกต์นี้ถูกยกเลิกพัฒนาอย่างเป็นทางการแล้วภาพบางส่วนที่มีคนแคปไว้ : https://www.resetera.com/threads/final-fantasy-xi-mobile-screenshots.42241/ความเป็นไปได้มีอยู่หลายอย่าง แต่เชื่อว่าอาจเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวเกม Final Fantasy บนมือถือ 2 ภาคใหม่อย่าง Ever Crisis และ The First Soldier ซึ่งอาจจะขาดทีมพัฒนาอยู่ในตอนนี้ เลยต้องโยกคนบางส่วนไปช่วยทางนั้น แต่ทั้งหมดนี้เป็นการคาดเดาของผมเท่านั้นความเป็นจริงเป็นอย่างไรไม่สำคัญ ประเด็นอยู่ที่โปรเจกต์ FF11 บนมือถือถูกยกเลิกไปแล้วครับCredit: https://www.ign.com/articles/final-fantasy-11-mobile-reboot-cancelled-6-years-after-announcement

นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับแฟนๆ Final Fantasy 7 Remake ที่ Sqaure Enix ได้มีการเอาตัวเกมไปลงให้กับเครื่อง PS5 และเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมใหม่ของ Yuffie เข้ามา การพอร์ตเกมไปลงให้กับเครื่องรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพมากกว่าย่อมหมายถึง ภาพที่สวย และ FPS ที่ลื่นขึ้นครับSquare Enix ได้ปล่อยวิดีโอตัวใหม่เปรียบเทียบกราฟิก และเกมเพลย์ให้เราได้ชมกันวันนี้ ซึ่งจุดแรกเลยที่สามารถสังเกตได้คือความละเอียดของ Texture ที่มากขึ้น ต่อมาคือ FPS ที่เป็นแบบ 60+ ทำให้จังหวะการเคลื่อนไหวดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก ต่อมาคือระบบแสงที่มีความสมจริงขึ้น สุดท้ายคือเรื่องของความละเอียดที่เป็นแบบ 4KFinal Fantasy 7 Remake Intergrade จะวางขายในวันที่ 10 มิถุนายน 2021 บน PS5 เท่านั้นในราคา $70 สำหรับคนที่มีเกมเวอร์ชั่น PS4 อยู่แล้ว สามารถอัพเกรดได้ฟรีในวันเดียวกันครับ<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/YVyic4U88TA' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit:  https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-extended-ps5-features-trailer-shows-more-technical-improvements

สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังกระหายข้อมูลเกี่ยวกับ DLC ตัวใหม่ของ Final Fantasy 7 Remake Intergrade วันนี้ผมมีข้อมูลน่าสนใจมาฝากครับ อย่างแรกคือ DLC นี้จะมาพร้อมกับมนต์อสูรและ Materia ใหม่ แต่จุดที่น่าเสียดายคือเราจะควบคุมได้แค่ Yuffie เท่านั้น!แต่ไม่ต้องเสียใจไปเพราะในการต่อสู้ผู้เล่นสามารถกด L2 เพื่อใช้ท่าโจมตีประสานกับ Sonon ได้เหมือนที่เราให้ในตัวอย่าง จากบทสัมภาษณ์กับ Tetsuya Nomura โดย Famitsu ทาง Square Enix ไม่มีแผนจะปล่อย DLC ตัวไหนออกมาเพิ่มเติมแล้วหลังจากนี้ เนื่องจากต้องการโฟกัสไปที่ Part 2 ของเกม แต่หลังจาก Part 2 วางขายแล้ว อาจจะมี DLC ตัวอื่นตามมาTetsuya Nomura ยังยืนยันด้วยอีกว่าในปีหลังจากนี้ และปีต่อๆ ไป จะมีการประกาศเปิดตัว Final Fantasy ภาคใหม่เรื่อยๆ ดังนั้นขอให้ทุกคนเข้าใจว่า Final Fantasy 7 Remake เป็นแค่จุดเริ่มต้นของตำนานบทใหม่เท่านั้นNew interview with Tetsuya Nomura- Episode Yuffie has new summons and Materia- Only Yuffie is playable- You can fight together with Sonon during combat (pressing L2) as seen in the trailer- No further DLC planned; focus in part 2 for nowhttps://t.co/IUz4w7ydKb pic.twitter.com/MHzy0UjYCX— Nibel (@Nibellion) March 17, 2021Credit:   https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-yuffie-episode-features-new-summons-materia

ย้อนกลับไปในเดือน กันยายน 2020 แฟน Final Fantasy ต่างดีใจกับการเปิดตัวภาค 16 ที่มีการเขียนข้อความว่า "Also Come To PC" หรือ "เกมนี้จะลงให้กับ PC ด้วย" แต่ต่อมาไม่นาน Square Enix ได้ออกมาปฏิเสธว่าใน ข้อความในวิดีโอเปิดตัวเป็นเรื่องเข้าใจผิด เกมนี้จะลงให้กับ PS5 เท่านั้น แต่จากวิดีโอโฆษณาตัวใหม่ของ PlayStation ประเทศบราซิล ดูเหมือนชาว PC ยังไม่สิ้นความหวังครับ ในวิดีโอโฆษณาดังกล่าว Final Fantasy 16 เป็นเกมเดียวที่เขียนในประโยคอธิบายข้างล่างว่า "จะลงให้กับ PC หลังจาก Exclusive บน PS5 เป็นระยะเวลาหนึ่ง" เชื่อว่าถ้ามีประกาศออกมาผ่าน Official เลยแบบนี้ ตัวเกมน่าจะลงให้กับ PC จริงๆ เพียงแต่เมื่อไหร่เท่านั้นในเมื่อวันวางจำหน่ายเกมบนเครื่อง PS5 ยังไม่ถูกประกาศออกมาเล่นในตอนนี้ ส่วนเรื่องว่าจะ Exclusive นานขนาดไหน? คิดว่าคงไม่พ้น 1 ปีเป็นอย่างน้อย แบบตอน Final Fantasy 7 Remake ครับ ซึ่งหมายความว่าน่าต้องปี 2023 เป็นอย่างน้อยเลย กว่าเราจะได้เล่น Final Fantasy ภาคใหม่นี้กันบนเครื่อง PC Credit: https://www.vg247.com/2021/03/10/final-fantasy-16-pc-ps5-launch/

ยังคงโหนกระแสอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับการกลับมาของ Final Fantasy 7 Remake บนเครื่อง PS5 ที่มีการเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมในส่วนของ Yuffie เข้ามาด้วย เชื่อว่าตั้งแต่มีการเปิดตัวน่าจะมีหลายคนสงสัยว่า "แล้วส่วนเสริมใหม่นี้จะมีความยาว หรือใช้เวลาเล่นขนาดไหน?" วันนี้ รายงานใหม่ได้เผยว่าเนื้อเรื่องส่วนเสริมจะมีความยาว 2 บทครับ น่าเสียดายที่ไม่มีการเปิดเผยว่า 2 บทดังกล่าว จำเป็นต้องใช้เวลาเล่นทั้งหมดกี่ชั่วโมง แต่เราได้ทราบแทนว่า Yuffie จะเป็นตัวละครที่สามารถต่อสู้ได้ทั้งแบบประชิด ระยะกลาง และไกล ด้วยชูริเคนยักษ์ของเธอ กับคาถานินจาของเธอ นอกจากนี้ Yuffie ยังมีความสามารถในการเคลื่อนที่นอกการต่อสู้ที่มากกว่าตัวละครในเกมหลักเช่นการ ปีนกำแพง หรือขว้างชูริเคนเพื่อสับสวิตซ์ Final Fantasy 7 Remake Intergrade จะลงให้กับ PS5 เท่านั้น โดยจะมาในช่วงกลางปีนี้ Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-episode-yuffie-will-consist-of-two-chapters

กลางปีนี้เหล่าเกมเมอร์จะได้กลับไปเล่น Final Fantasy 7 Remake กันอีกครั้ง พร้อมกับสนุกไปกับส่วนเสริม Intergrade ที่เพิ่มเนื้อเรื่องของ Yuffie เข้ามา โดยเวอร์ชันนี้จะลงให้กับเครื่อง PS5 เท่านั้น ซึ่งมาพร้อมกับการอัพเกรดภาพ / กราฟิก ให้มีความสวยงามมากขึ้น โดยในวันนี้ทาง Square Enix ได้มีการปล่อยภาพชุดใหม่ ที่โชว์ให้เห็นความสวยงามของกราฟิก ซึ่งเอาจริงๆ ตัวเกม Original ก็เรียกได้ว่ามีภาพที่สวยมากๆ แล้ว แต่ในเวอร์ชันนี้คือเรียกได้ว่ามีความสวยงามของแสง, เงา และรายละเอียดของฉากที่สวยยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูรูปชุดดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ Final Fantasy 7 Remake Intergrade จะวางขายในวันที่ 10 มิถุนายน 2021 นี้บนเครื่อง PS5 เท่านั้น Credit : https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-intergrade-gets-new-screenshots-including-yuffie-episode

เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปในงาน State of Play วันศุกร์ที่ผ่านมากับ Final Fantasy VII Ever Crisis ที่จะผนวกเรื่องราวทั้งหมดของภาค VII ไว้ และจะลงให้กับมือถือโดยเฉพาะ แถมยังทำเกมเพลย์ออกมาได้น่าสนใจมากๆ อีกด้วย ซึ่งในส่วนของวิธีเล่าเรื่องเอง ก็จะมีองค์ประกอบใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน Facebook ของ Sqaure Enix ได้มีการโพสต์ข้อความใหม่พร้อมกับรูปภาพว่า "Final Fantasy VII Ever Crisis จะมีองค์ประกอบของเนื้อเรื่องที่เขียนใหม่โดยทีม Final Fantasy VI Remake Story โดยคุณ Kazushige Nojima ก็มีส่วนร่วมในงานภาคนี้ด้วย จากวิดีโอที่เคยถูกปล่อยออกมา ดูเหมือนจะมีการเพิ่มมุมมองที่แตกต่างจากเกมต้นฉบับเข้าไปในหลายๆ ช่วงของเนื้อเรื่อง เพื่อให้สามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้ดียิ่งขึ้น หนึ่งในฉากที่ทำออกมาได้น่าสนใจมากคือมุมมของข้ามไหล่ของ Zack ในฉากที่เขากำลังอยู่บนรถไฟ ฉากต่อสู้ที่จะเปลี่ยนมาใช้มุมมองสามมิติจากข้างหลังที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจของตัวเกมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่มีการโชว์เกมเพลย์ของตัวละครหลักอื่นๆ อย่าง Zack หรือ Vincent ด้วยในวิดีโอตัวอย่างแรก แต่คิดว่าท่างฝังของอีกสองตัวเอกก็คงน่าสนใจไม่แพ้กันครับ Credit: https://www.facebook.com/SquareEnix/posts/10159222397379461

เดือน กุมภาพันธ์ ได้จบลงแล้ว และมันหมายความว่าสมาชิก PS Plus จะสามารถรับเกมฟรีมาเล่นกันได้อีกครั้ง ซึ่งสำหรับรายชื่อเกมฟรีเดือนนี้ เชื่อว่าถูกใจคนที่ชอบเล่นเกม RPG อย่างแน่นอน เพราะเป็น Final Fantasy 7 Remake, Maquette, Remnant from the Ashes, Farpoint VR ที่เปิดให้รับได้ฟรีในเดือนนี้ครับ ถือได้ว่าเป็นข่าวดีมากเลยจริงๆ เนื่องจากเรากำลังจะได้เล่นส่วนเสริมตัวใหม่ของ Final Fantasy 7 Remake ที่เป็นเรื่องราวของ Yuffie ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวออกมาก่อนหน้านี้ มันจึงเป็นการดีสำหรับคนที่ยังไม่ได้เล่นภาคนี้ ที่จะได้เข้าไปสัมผัสก่อน เพื่อรอเล่นการมาของส่วนเสริมใหม่ครับ สำหรับเกมอื่นๆ เองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะ Remnant from the Ashes ที่เรียกได้ว่าเป็นเกมอีกหนึ่งเกม Action เหมาะสำหรับคนที่ชอบสู้กับปีศาจด้วยอาวุธปืน ส่วน Maquette เป็นเกมแนวแก้ Puzzle ที่โยนเราลงไปในโลกที่ทุกอย่างดูเล็กไปหมด Coming to PS Plus in March - Final Fantasy VII Remake - Maquette - Remnant from the Ashes - Farpoint VR via https://t.co/lR29C9MRim pic.twitter.com/LEb3aHcyXI — Nibel (@Nibellion) February 26, 2021 Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-7-remake-maquette-free-with-playstation-plus-in-march

หลังจากประกาศเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกก็ได้รู้ถึงการมีอยู่ของเกม Final Fantasy 16 และภาคนี้จะใช้ระบบต่อสู้แบบ Action จัดเต็มเช่นเดียวกับ Final Fantasy 7 Remake ที่วางจำหน่ายเมื่อช่วงต้นปี 2020 ซึ่งสำหรับใครที่ไม่ถนัดเกมเพลย์แบบนี้ ผู้พัฒนาเขาก็มีการใส่ระบบที่จะช่วยให้ต่อสู้ได้ง่ายขึ้นเข้ามาด้วยครับ! โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Naoki Yoshida ได้ยืนยันผ่าน Broadcast ว่า Final Fantasy 16 จะใช้ระบบต่อสู้แบบ Action จัดเต็ม ซึ่งตอนนี้ทางทีมพัฒนากำลังพัฒนาระบบที่จะช่วยให้คนที่เล่นเกมแนวนี้ไม่เก่งสามารถสนุกไปกับ ตัวเกมภาคใหม่นี้ได้ด้วยเช่นกันอยู่ ยังไม่มีการเปิดเผยว่าระบบดังกล่าวทำงานยังไง แต่อะไรแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วใน Final Fantasy 7 Remake ที่มีระบบซึ่งตัวละครของเราจะออกท่าโจมตีเอง และสิ่งที่ผู้เล่นต้องทำก็คือการดูเกจ ATB ของตัวเอง หรือหาจังหวะร่ายเวทมนตร์ ไม่ก็โยนไอเทมเท่านั้น โดยคิดว่าในภาคใหม่นี้เองก็น่าจะเป็นระบบที่คล้ายๆๆ กันครับ Yoshida briefly discussed FF16 on a radio broadcast he was invited to primarily to discuss FF14. He said that FF16 is "action-oriented" and that theyre putting effort into supporting players who are less-skilled at action games -- also that theyre working hard on the story. https://t.co/G3C2jmm3Rr — active time boop (@TonyGarsow) February 22, 2021 Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-16-is-action...

Final Fantasy XIV อย่างไม่ต้องสงสัยเป็นเกมหนึ่งในเกม MMORPG ที่ยอดเยี่ยมของโลกอยู่ในตอนนี้ ซึ่งนับเป็นข่าวที่ก่อนหน้านี้โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Naoki Yoshida ได้ประกาศว่าเกมนี้จะไปลงให้กับ PS5 ด้วย และสำหรับคนที่สงสัยว่าเกมนี้จะมีอัปเดตคอนเทนต์ไปอีกนานขนาดไหน ก็คงต้องบอกว่าไม่ใช่เร็วๆ นี้อย่างแน่นอนครับ จากบทสัมภาษณ์ของ The Washington Post คุณ Yoshida ได้กล่าวว่า "Final Fantasy XIV มีการเติบโตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดมียอดผู้เล่นมากกว่า 30 ล้านไปแล้ว Sqaure Enix จึงวางแผนที่จะสนับสนุนเกมนี้ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี และอาจจะนานกว่านั้นหากยังมีฐานผู้เล่นในเกมมากพออยู่" สำหรับคำถามว่าตัวเกมจะไปลงให้กับเครื่องเล่นเกมอื่นๆ อย่าง Xbox หลังจากนี้ด้วยหรือไม่ คุณ Yoshida ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ แต่เนื่องจากทีมพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตคอนเทนต์ที่สดใหม่ให้กับผู้เล่นเสมอ จึงทำให้เหลือเวลาน้อยมากสำหรับการพอร์ตเกมไปลงเครื่องอื่น ดังนั้นคิดว่าเราคงยังไม่ได้เห็นเกมนี้บนเครื่อง Xbox เร็วๆ นี้ Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-has-plans-for-at-least-5-more-years-of-content-but-might-not-come-to-xbox-anytime-soon?fbclid=IwAR0C_XcDWKnGOgMhQsEbiaoBT2E28WtaW2Pb9bKJOtrW0UEw6M_8TSwfj94

Final Fantasy XIV อย่างไม่ต้องสงสัยเป็นเกมหนึ่งในเกม MMORPG ที่ยอดเยี่ยมของโลกอยู่ในตอนนี้ ซึ่งนับเป็นข่าวที่ก่อนหน้านี้โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Naoki Yoshida ได้ประกาศว่าเกมนี้จะไปลงให้กับ PS5 ด้วย และสำหรับคนที่สงสัยว่าเกมนี้จะมีอัปเดตคอนเทนต์ไปอีกนานขนาดไหน ก็คงต้องบอกว่าไม่ใช่เร็วๆ นี้อย่างแน่นอนครับ จากบทสัมภาษณ์ของ The Washington Post คุณ Yoshida ได้กล่าวว่า "Final Fantasy XIV มีการเติบโตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดมียอดผู้เล่นมากกว่า 30 ล้านไปแล้ว Sqaure Enix จึงวางแผนที่จะสนับสนุนเกมนี้ไปอีกอย่างน้อย 5 ปี และอาจจะนานกว่านั้นหากยังมีฐานผู้เล่นในเกมมากพออยู่" สำหรับคำถามว่าตัวเกมจะไปลงให้กับเครื่องเล่นเกมอื่นๆ อย่าง Xbox หลังจากนี้ด้วยหรือไม่ คุณ Yoshida ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ แต่เนื่องจากทีมพัฒนาจำเป็นต้องอัปเดตคอนเทนต์ที่สดใหม่ให้กับผู้เล่นเสมอ จึงทำให้เหลือเวลาน้อยมากสำหรับการพอร์ตเกมไปลงเครื่องอื่น ดังนั้นคิดว่าเราคงยังไม่ได้เห็นเกมนี้บนเครื่อง Xbox เร็วๆ นี้ Credit: https://gamingbolt.com/final-fantasy-14-has-plans-for-at-least-5-more-years-of-content-but-might-not-come-to-xbox-anytime-soon?fbclid=IwAR0C_XcDWKnGOgMhQsEbiaoBT2E28WtaW2Pb9bKJOtrW0UEw6M_8TSwfj94

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมต่อสู้ชั้นนำอย่าง Tekken 7 ได้เพิ่มตัวละครนักสู้รับเชิญแปลกๆ เข้าไปในเกมมากมาย ตั้งแต่วายร้ายจอมหวดจากซีรี่ส์ The Walking Dead อย่าง Negan ไปจนถึงองค์ชายบอยแบนด์ Noctis จากเกม Final Fantasy XV โดยล่าสุด ด้วยอานิสงส์จากนักม๊อดที่ใช้ชื่อว่า Wolfe ดูเหมือนว่าเกมจะได้รับเชิญตัวละครจากซีรี่ส์ Final Fantasy เข้าสู่สังเวียนราชากำปั้นเหล็กอีกคนหนึ่งแล้ว นั่นก็คือนางเอกสาวชวัญใจมหาชนจาก Final Fantasy VII คุณ Tifa Lockhart นั่นเอง! สำหรับม๊อด Tifa Lockhart นี้จะเป็นการนำสกินของ Tifa มาสวมทับลงไปบนตัวละคร Josie ที่มีอยู่ในเกมอยู่แล้ว โดยนอกจากจะมาพร้อมกับชุดต่างๆ ให้เลือกถึง 5 แบบดังที่เห็นได้ในคลิปด้านบน ยังมีเสียงพากย์ตัวละครที่ดึงมาจากเกม Final Fantasy VII Remake แถมเขายังทำม๊อดแยกเป็นด่านต่อสู้ในเมือง Midgar ที่มีเตาปฏิกรณ์ Mako ในฉากหลังให้โหลดมาใช้คู่กันอีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Wolfe เปิดเผยว่าเขาใช้เวลาในการพัฒนาม๊อดตัวนี้ถึง 500 ชั่วโมงตลอดสองเดือนที่ผ่านมา และยอมรับว่าม๊อดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี 100% เพราะเขายังอยากเพิ่มเสียงพากย์และเพิ่มชุดให้กับตัวละครอีกอย่างน้อย 1 ชุด (ชุดกี่เพ้าเขย่าใจต้องมาแล้ว) แถมยังต้องแก้บั๊คเล็กน้อยอีกประมาณหนึ่ง แต่สำหรับชาว Tekken 7 ที่อยากได้น้อง Tifa มาร่วมสังเวียนก่อน สามารถหาโหลดม๊อดดังกล่าวได้จากลิงค์นี้ (โหลดม๊อดด่าน Midgar จากลิงค์นี้) Credit: Kotaku

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมต่อสู้ชั้นนำอย่าง Tekken 7 ได้เพิ่มตัวละครนักสู้รับเชิญแปลกๆ เข้าไปในเกมมากมาย ตั้งแต่วายร้ายจอมหวดจากซีรี่ส์ The Walking Dead อย่าง Negan ไปจนถึงองค์ชายบอยแบนด์ Noctis จากเกม Final Fantasy XV โดยล่าสุด ด้วยอานิสงส์จากนักม๊อดที่ใช้ชื่อว่า Wolfe ดูเหมือนว่าเกมจะได้รับเชิญตัวละครจากซีรี่ส์ Final Fantasy เข้าสู่สังเวียนราชากำปั้นเหล็กอีกคนหนึ่งแล้ว นั่นก็คือนางเอกสาวชวัญใจมหาชนจาก Final Fantasy VII คุณ Tifa Lockhart นั่นเอง! สำหรับม๊อด Tifa Lockhart นี้จะเป็นการนำสกินของ Tifa มาสวมทับลงไปบนตัวละคร Josie ที่มีอยู่ในเกมอยู่แล้ว โดยนอกจากจะมาพร้อมกับชุดต่างๆ ให้เลือกถึง 5 แบบดังที่เห็นได้ในคลิปด้านบน ยังมีเสียงพากย์ตัวละครที่ดึงมาจากเกม Final Fantasy VII Remake แถมเขายังทำม๊อดแยกเป็นด่านต่อสู้ในเมือง Midgar ที่มีเตาปฏิกรณ์ Mako ในฉากหลังให้โหลดมาใช้คู่กันอีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Wolfe เปิดเผยว่าเขาใช้เวลาในการพัฒนาม๊อดตัวนี้ถึง 500 ชั่วโมงตลอดสองเดือนที่ผ่านมา และยอมรับว่าม๊อดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี 100% เพราะเขายังอยากเพิ่มเสียงพากย์และเพิ่มชุดให้กับตัวละครอีกอย่างน้อย 1 ชุด (ชุดกี่เพ้าเขย่าใจต้องมาแล้ว) แถมยังต้องแก้บั๊คเล็กน้อยอีกประมาณหนึ่ง แต่สำหรับชาว Tekken 7 ที่อยากได้น้อง Tifa มาร่วมสังเวียนก่อน สามารถหาโหลดม๊อดดังกล่าวได้จากลิงค์นี้ (โหลดม๊อดด่าน Midgar จากลิงค์นี้) Credit: Kotaku

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy VII Remake นั้น สิ่งที่หลายคนน่าจะสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาคต่อหรือ Part 2 ของเกมที่มีข่าวแว่วๆ ว่าอาจจะได้เปิดตัวให้เห็นกันเร็วๆ นี้ แต่จากข่าวลือล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนา Square Enix จะยังไม่วางมือจากเกมภาคแรกซะทีเดียว และอาจจะมีการเพิ่มส่วนเสริมเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปในเกมสำหรับเวอร์ชั่น PS5 และ PC ด้วย! สำหรับข่าวชือดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera ที่ใช้ชื่อว่า Navtra โดยเขากล่าวว่าเกม FF7R เวอร์ชั่น PC และ PS5 จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การพอร์ตเกมและเพิ่มความคมชัดแต่เพียงอย่างเดียว แต่เกมจะมีเนื้อเรื่องเสริมมามากกว่าที่เห็นในเวอร์ชั่น PS4 อีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Navtra ก็ยอมรับว่าข้อมูลที่เขาได้ทราบมาอาจจะเป็นข้อมูลเก่าไปแล้ว เพราะเดิมเกมเวอร์ชั่น PC/PS5 (ยังไม่มีข่าวเวอร์ชั่น Xbox) เคยมีกำหนดเปิดตัวในงาน Future of Gaming ของ Sony เมื่อช่วงกลางปี 2020 ที่ผ่านมาพร้อมกับเกม Project Athia และ Final Fantasy XVI แต่แผนการดังกล่าวกลับถูกยกเลิกไป และแม้ว่าเกมทั้งสองจะได้รับการเปิดตัวไปในงานอื่นๆ ในภายหลัง แต่ FF7R เวอร์ชั่นปรับปรุงนี้กลับเงียบหายไปเฉยๆ เขาจึงยังไม่รู้ว่าข้อมูลที่เขาได้รับมาจะยังถูกต้องแค่ไหน แต่เขาก็เชื่อว่าเวอร์ชั่นปรับปรุงที่ว่านี้ยังไม่ได้ถูกยกเลิกไปอย่างแน่นอน ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือเกม FF7R จะหมดสัญญา Exclusive กับ Sony ในเดือนเมษายน 2021 นี้ เป็นไปได้ว่า Square Enix อาจจะรอให้สัญญาดังกล่าวหมดไปซะก่อนจึงจะประกาศเกมเวอร์ชั่นปรับปรุงนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า! Credit: GamingBolt

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเกม Final Fantasy VII Remake นั้น สิ่งที่หลายคนน่าจะสนใจมากที่สุดคงหนีไม่พ้นภาคต่อหรือ Part 2 ของเกมที่มีข่าวแว่วๆ ว่าอาจจะได้เปิดตัวให้เห็นกันเร็วๆ นี้ แต่จากข่าวลือล่าสุด ดูเหมือนว่าผู้พัฒนา Square Enix จะยังไม่วางมือจากเกมภาคแรกซะทีเดียว และอาจจะมีการเพิ่มส่วนเสริมเนื้อเรื่องใหม่เข้าไปในเกมสำหรับเวอร์ชั่น PS5 และ PC ด้วย! สำหรับข่าวชือดังกล่าวได้ถูกเปิดเผยโดยผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera ที่ใช้ชื่อว่า Navtra โดยเขากล่าวว่าเกม FF7R เวอร์ชั่น PC และ PS5 จะไม่ได้เป็นเพียงแค่การพอร์ตเกมและเพิ่มความคมชัดแต่เพียงอย่างเดียว แต่เกมจะมีเนื้อเรื่องเสริมมามากกว่าที่เห็นในเวอร์ชั่น PS4 อีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Navtra ก็ยอมรับว่าข้อมูลที่เขาได้ทราบมาอาจจะเป็นข้อมูลเก่าไปแล้ว เพราะเดิมเกมเวอร์ชั่น PC/PS5 (ยังไม่มีข่าวเวอร์ชั่น Xbox) เคยมีกำหนดเปิดตัวในงาน Future of Gaming ของ Sony เมื่อช่วงกลางปี 2020 ที่ผ่านมาพร้อมกับเกม Project Athia และ Final Fantasy XVI แต่แผนการดังกล่าวกลับถูกยกเลิกไป และแม้ว่าเกมทั้งสองจะได้รับการเปิดตัวไปในงานอื่นๆ ในภายหลัง แต่ FF7R เวอร์ชั่นปรับปรุงนี้กลับเงียบหายไปเฉยๆ เขาจึงยังไม่รู้ว่าข้อมูลที่เขาได้รับมาจะยังถูกต้องแค่ไหน แต่เขาก็เชื่อว่าเวอร์ชั่นปรับปรุงที่ว่านี้ยังไม่ได้ถูกยกเลิกไปอย่างแน่นอน ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือเกม FF7R จะหมดสัญญา Exclusive กับ Sony ในเดือนเมษายน 2021 นี้ เป็นไปได้ว่า Square Enix อาจจะรอให้สัญญาดังกล่าวหมดไปซะก่อนจึงจะประกาศเกมเวอร์ชั่นปรับปรุงนี้ คงต้องรอดูกันต่อไปจ้า! Credit: GamingBolt

หากนึกย้อนกลับไปช่วงต้นๆ เดือนมกราคมที่ผ่านมา Square Enix ได้สร้างกระแสเล็กๆ ในวงการเกมด้วยการจดสิทธิบัตรใหม่หลายฉบับในญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย "Ever Crisis" และ "The First Soldier" ที่ดูจะบ่งชี้ถึง "อะไรซักอย่าง" เกี่ยวกับเกม Final Fantasy 7 โดยสิทธิบัตรดังกล่าวยังได้ถูกนำไปจดทะเบียนในแคนาดา, ยุโรป, และออสเตรเลียด้วยในเวลาไล่เลี่ยกัน ล่าสุด สิทธิบัตรดังกล่าวได้ถูกจดทะเบียนในสหรัฐอเมรีกาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยระบุชัดเจนว่าเป็นสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับสินค้าประเภท "เกม" อีกด้วย ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดจากทาง Square Enix ว่าสิทธิบัตรดังกล่าวจะเกี่ยวกับอะไรกันแน่ แต่สื่อมวลชนหลายสำนักก็ได้คาดเดากันไปว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับ Final Fantasy 7 อย่างแน่นอน ทั้งจากคำว่า "Crisis" ที่มักถูกใช้ตั้งชื่อเกมในจักรวาลของ FF7 มาแล้วมากกว่าหนึ่งเกม เช่นเกม Crisis Core บนเครื่อง PSP และเกม Before Crisis: Final Fantasy VII ที่วางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มมือถือในญี่ปุ่น และติดตามตัวละครจากกลุ่ม Turks อย่าง Tseng, Reno, และ Rude อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ชื่อสิทธิบัตร "The First Soldier" ทำให้เชื่อได้ว่าตัวละคร Sephiroth อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องบางอย่างด้วย ในฐานะ "ทหาร SOLDIER คนแรก" ของบริษัทชินระตามเนื้อเรื่องของเกมนั่นเอง สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างเกม Final Fantasy 7 Remake จะหมดช่วงเวลา Exclusive สำหรับแพลตฟอร์ม PlayStation ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ ถ้าจะมีการเปิดตัวหรือประกาศอะไรก็เดาได้ว่าอาจจะเกิดขึ้นในช่วงเดียวกัน รอดูกันได้เลย! Credit: Siliconera

เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่ทาง Square Enix ได้ทำการเปิดตัว Expansion ใหม่ของเกม Final Fantasy XIV EndWalker แล้วในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยจุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ ตัวเกมจะมีการปล่อยเวอร์ชัน PS5 ออกมาให้ทดลองเล่นช่วงต้นเดือนเมษายน 2021 นี้ด้วย โดยคิดว่ากราฟิกของเกมจะต้องสวยงามขึ้นไปอีกระดับอย่างแน่นอน ทางฝั่ง PC เองก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะจะมีการอัปเดตแพตช์ตามหลังมาให้ด้วยอย่างแน่นอน โปรดิวเซอร์ของเกม Naoki Yoshida ได้ให้สัมภาษณ์กับ Game Watch ว่า "ผมอยากจะอัปเดต Graphics Engine สักวันหลังจากนี้ แต่เนื่องจากจำเป็นต้องมีการอัปเดตคอนเทนต์ให้กับผู้เล่นเกม เรื่องนี้จึงยังไม่ใช่สิ่งที่พวกเราให้ความสำคัญ" ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ประกาศว่า เวอร์ชัน PS5 ที่มาเดือน เมษา จะเป็นแค่ตัว Beta โดยคิดว่าน่าจะเป็นการลองเอามาให้ผู้เล่นได้ลองเล่นกันไปก่อนครับ Final Fantasy XIV เป็นเกม Cross-Gen ตั้งแต่ยุคของ PS3 ส่วนหนึ่งที่การอัปเดตกราฟิกไม่สามารถทำได้ง่ายๆ คิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะโค้ดของตัวเกมที่มีอายุมากแล้ว การอัปเดตกราฟิกของเกมจึงไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในตอนนี้ และจำเป็นต้องใช้เวลา ก็ทำให้พอเข้าใจได้ว่าทำไมถึงไม่สามารถอัปเดตแบบทันทีได้ครับ Credit: GamingBolt

Square Enix มีแผนจะที่จัด Final Fantasy 7 Remake Orchestra World Tour ในประเทศญี่ปุ่นวันเสาร์นี้ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณ Motomu Toriyama ที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมพัฒนาได้ออกมาบอกว่า "ภายในคอนเสิร์ตจะมีช่วงของการประกาศเปิดตัวด้วย โดยจะมีการเปิดตัวบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ Final Fantasy 7 Remake" ในจุดนี้มีความเป็นไปได้ 3 อย่างด้วยกัน เรื่องแรกคือการประกาศว่าตัวเกมจะไปลงให้กับ PS5 และ PC ด้วย (คิดว่ายังไงก็น่าจะมาแน่ๆ ) ส่วนสองคือการประกาศเปิดตัวโปรเจกต์ Ever Crisis และ The First Soldier ที่เพิ่งจดสิทธิบัตรไปก่อนหน้านี้ สุดท้ายคือความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัว Final Fantasy 7 Remake Part 2 ด้วยเช่นกัน ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า แต่ก็คงต้องรอดูกันต่อไป Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น FF7R Co-Director Toriyamas message about the upcoming FF7R Orchestra Concert is VERY interesting. He mentions there will be a special small section of the concert where he will talk about some info about FF7R revealed only during the concert ? Heres the subs for the video! pic.twitter.com/YAZJAUufrK — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) February 8, 2021 Credit: GamingBolt

เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ในปี 2020 มีงานอีเวนต์เกี่ยวกับเกมมากมายต้องถูกยกเลิกไปทั้งที่ยังไม่ได้จัด เนื่องจากปัญหา COVID-19 หนึ่งในนั้นคือ E3 หนึ่งในงานอีเวนต์เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่ในปี 2021 ดูเหมือนเราจะได้กลับมารับชมงานอีเวนต์นี้อีกครั้งในรูปแบบ Digital แทนครับ จากรายงานของ VGC ดูเหมือน ESA ได้ตัดสินใจที่จะจัดอีเวนต์ E3 ของพวกเขาแบบออนไลน์แทนในปีนี้ โดยได้มีการเริ่มส่งจดหมายเชิญ ไปให้กับเหล่าผู้พัฒนาจากที่ต่างๆ ทั่วโลกแล้ว น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลเปิดเผยวันที่งานจะถูกจัดออกมาด้วย แต่ถ้าหากเป็นไปตามทุกๆ ปีที่ผ่านมา คิดว่าช่วงกลางปีนี้น่าจะได้รับชมพร้อมกันอย่างแน่นอนครับ ย้อนกลับไปหลายปีก่อนหน้านี้ The Elder Scrolls 6 ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 ดังนั้นการกลับมาของงานในปีนี้ก็อาจนำข้อมูลของตัวเกมกลับมาบอกเราเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี Babylons Fall, Elden Ring, Final Fantasy 16, Battlefield 6, Dragon Age 4 และเกมอื่นๆ อีกมากมายที่เรายังไม่มีข่าวสารเกี่ยวกับเกมเพิ่มเติมเลย ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นเกมเหล่านี้เพิ่มเติมในงานนี้ด้วยครับ Credit: GamingBolt

เพิ่งเปิดตัวกันแบบสดๆ ร้อนเลยกับเกม Final Fantasy XIV Endwalker โดยถ้าหากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสดู Trailer ไปแล้วจะพบว่าเนื้อเรื่องของ Expansion นี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับดวงจันทร์ จากตอนจบของวิดีโอ ซึ่งวิธีที่เราจะเดินทางไปดวงจันทร์ได้ อาจเป็นผ่านยานของเหล่าถั่วจากเกม Among Us ครับ! หลังจากมีการเปิดตัวไปได้เพียงแค่ 30 นาที Twitter Official ของ Among Us ก็มีการโพสต์ข้อความพร้อมกับรูปภาพ ที่เอาโลโก้ของ FFXIV Endwalker มาดัดแปลงเป็นสไตล์ Among Us พร้อมกับข้อความว่า "ถ้าพวกเราจะเป็นแบบนี้" ซึ่งทาง FFXIV ก็ตอบกลับแบบสนุกๆ ว่า "ค่าวาร์ปแค่เพียง 999 Gil เท่านั้น (บางที)" แน่นอนว่านี้ไม่ใช้การประกาศว่าจะมี Collaboration แน่ๆ แต่เหมือนว่าแฟนๆ จะอยากให้มันเกิดขึ้นมากๆ เลยครับ THIS COULD BE US pic.twitter.com/qO6WxPLFXv — Among Us (@AmongUsGame) February 6, 2021

ตั้งแต่การมาของแพตช์ Reflect in Crystal เนื้อเรื่องของ Final Fantasy XIV Shadowbringer ก็ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ และรอการมาของ Expansion ใหม่ โดยก่อนหน้านี้มีรายงานที่บอกว่า เราจะได้เห็นส่วนเสริมตัวใหม่ในวันนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามรายงานดังกล่าว Final Fantasy XIV EndWalker จะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ครับ! Trailer ตัวแรกของ Expansion นี้ได้บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ระหว่างเหล่า Scion กับ Empire อีกครั้ง ซึ่งจากตัวอย่างนี้ตัวร้ายของส่วนเสริมใหม่ก็ไม่ใช่ใครนอกจาก Varis zos Galvus ราชาคนปัจจุบัน แน่นอนว่ามีคลาสใหม่เปิดตัวในตัวอย่างนี้ด้วย และดูเหมือน Alphinaud ได้เปลี่ยนเป็นคลาสนั้นเรียบร้อยแล้ว รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ นอกจากวิดีโอ Trailer แล้วทาง Square Enix ยังมีการปล่อยวิดีโออีกหนึ่งตัวโชว์สกิลต่างๆ ของคลาสใหม่นี้ ซึ่งทำให้เราทราบว่าคลาสใหม่จะมีตำแหน่งเป็น Healer และมีชื่อว่า Sage โดยเท่าที่ดูจากวิดีโอ คิดว่าสกิลของเขาน่าจะเน้นไปที่การสร้างเกราะให้กับเพื่อนรวมทีม แบบเดียวกับ Scholar ครับ นอกเหนือไปจากนี้ก็มีการโชว์รูปภาพเมืองใหม่ เผ่าใหม่ที่เราจะได้เจอ, Primal ตัวใหม่, Raid ใหม่ทั้ง Savage และ Alliance และอื่นๆ อีกมากมาย โดยผมจะทำการแปะรูปทั้งหมดที่ปล่อยออกมาข้างล่างนี้ รวมถึงไลฟ์สตรีมเปิดตัวแบบเต็มๆ ให้เพื่อนๆ ได้ค่อยๆ ดูกันครับ

2020 ถือเป็นปีที่ยอดเยี่ยม และผิดพลาดในเวลาเดียวกันของ Square Enix โดยพระเอกในปีที่ผ่านมาคงจะเป็นใครไปไม่ได้เล่นนอกจาก Final Fantasy 7 Remake ที่ตอบรับความต้องการของแฟนๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม และทำยอดขายได้อย่างน่าเหลือเชื่อ น่าเสียดายที่ไม่ใช้กับ Marvel’s Avengers ที่ดูจะไม่เป็นไปตามที่คิดช่วง Q2 กับ Q3 ของปี แต่ถึงอย่างนั้นบริษัทก็ยังมียอดขายสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 33.7% อยู่ดีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แม้ว่าจะมียอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 33.7% แต่ทางฝั่งกำไรที่ทำได้ในปีนี้ยังคงน้อยกว่าของปีก่อนหน้าอยู่ 4.7% (ปีงบประมาณของ Square Enix จะจบลงที่เดือน 3 ของแต่ละปี ดังนั้นรายงานนี้จึงยังไม่ใช่ผลประกอบการทั้งปีของบริษัทครับ) อย่างไรก็ตามทางบริษัทคาดว่าพวกเขาจะทำกำไรในปีนี้ได้มากขึ้น 12.4% เมื่อเทียบแบบ ปี ต่อ ปี ครับ ทางฝั่งของแผนก MMO เอง แม้ว่าจะมียอดขายที่ลดลงในปี Q3 ของปี แต่ก็ยังถือว่าได้กำไรอยู่ครับ (ต้องขอบคุณเหล่าผู้เล่น Final Fantasy XIV) ในปี 2021 จะมีการประกาศเปิดตัว Expansion ใหม่ของ FFXIV และยังมีการพอร์ต FF7 Remake มาลงให้กับ PS5 กับ PC ด้วย ดังนั้นคิดว่าในปีนี้เองทางบริษัทก็น่าจะยังทำเงินได้มากสุดๆ เหมือนเดิมครับ Credit: GamingBolt

หลังจากลงให้กับ PS4 เท่านั้นเป็นเวลา 1 ปี เร็วๆ นี้ Final Fantasy 7 Remake ก็กำลังจะมาลงให้กับเครื่องอื่นๆแล้ว (ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็น PC กับ PS5) แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีการเปิดตัว Part 2 ของเกมเวอร์ชันนี้เลย (น่าจะมาหลัง FF16) โดยล่าสุดคุณ Kitase ที่เป็น Director ได้บอกว่า เนื้อเรื่องของ Part 2 จะทำให้แฟนๆ ทุกคนตกใจ จาก CEDEC conference (ที่แปลโดย @Aitaikimochi บน Twitter) ไดเรกเตอร์ทั้ง 2 คุณ Yoshinori Kitase และ Naoki Hamaguchi ได้กล่าวว่า "พวกเราอยากทำให้ Final Fantasy 7 Remake Part 2 จะเป็นเกมที่ยังคงตอบสนองต่อความคาดหวังของแฟนๆ ได้ ซึ่งในขณะเดียวกัน มันจะเหนือความคาดหมายของแฟนๆ ไปในทางที่ดีด้วย" ย้อนกลับไปพูดถึงเนื้อเรื่องในตัวเกมเวอร์ชัน Remake ก็คงต้องยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากต้นฉบับพอสมควร จนส่งผลให้ฉากจบที่ควรจะเป็นไม่เหมือนเดิม และคงไม่มีใครสามารถคาดเดาเนื้อเรื่องของช่วงต่อไปได้อีกแล้ว มารอลุ้นไปพร้อมๆ กันว่า เรื่องราวใน Part 2 นี้จะสร้างความตกใจให้เราได้ขนาดไหนครับ! FF7R Producer Kitase and Co-Director Hamaguchi talked a bit about Part 2 during the CEDEC conference! Heres the excerpts translation. Kitase mentions for Part 2, they want to deliver something that will live up to everyones expectations but also throw them off, in a good way. pic.twitter.com/aJtZq2jdz7 — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) January 30, 2021 Credit: GamingBolt

ทุกวันนี้ผลงานเกมที่ยอดเยี่ยมถูกวัดค่าจากสิ่งใด? เป็นความยอดเยี่ยมของเนื้อเรื่องที่แต่งมาได้ซึ้งกินใจจนห้ามน้ำตาของผู้เล่นไว้ไม่อยู่? บางครั้งอาจเป็นเกมเพลย์สุดมันส์ที่บังคับดึงอารมณ์ความสนุกของผู้เล่นออกมาได้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบชั่วโมง? บางคนอาจบอกว่าเป็นวิธีการนำเสนอที่ผู้พัฒนาสร้างสรรค์ได้แปลกตาไม่เหมือนใคร ความอลังการ / สวยงามของกราฟิกก็อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในนั้น หรือจริงๆ แล้วอาจเป็นการผสมผสานทั้ง 4 อย่างที่กล่าวมาเข้าด้วยกันอย่างลงตัวรึเปล่า เราถึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า "เกมนี้คือผลงานที่ยอดเยี่ยม" ? แม้ว่าทั้งหมดที่กล่าวมาจะถูกต้อง และอาจถูกใช้เป็นเกณฑ์ที่สื่อ หรือผู้เล่นจะมอบคะแนนให้กับเกมหนึ่งเกมจริง แต่จริงๆ เรากำลังมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป บางสิ่งที่คอยผลักดันให้ทั้ง 4 ได้อยู่ท่ามกลางสปอตไลท์ของเวทีแห่งการชื่นชม สิ่งที่ถูกเรียกว่า "Soudtrack และ BGM"   งานวิจัยเรื่อง "Does Music Induce Emotion?" ของนักจิตวิทยาชาว Serbia คุณ Vladimir J. Konečni ในปี 1982 ได้แสดงให้เห็นว่าท่วงทำนองที่ซับซ้อน และดังจะสร้างอารมณ์โกรธให้ผู้ชม ในขณะที่ดนตรีที่นุ่มนวล ผ่อนคลาย และเรียบง่าย จะมอบความสบายให้กับผู้ชม นอกจากนี้ในฉากเดียวกันหากเราเลือกใช้ดนตรีประกอบที่ต่างกันไป ก็จะทำให้ความรู้สึก ความสงสัย และอารมณ์ที่มีต่อฉากนั้นแตกต่างกันไป วิดีโอข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนซึ่งผมอยากให้เพื่อนๆ สละเวลาเล็กน้อยสัก 2 นาทีเพื่อดูมันครับ (ไม่ต้องดูจนจบก็คิดว่าคงเห็นภาพกันแล้ว) มาถึงจุดนี้หลายคนคงตั้งคำถามว่า "แล้วมันเกี่ยวกับเกมตรงไหน" ผมจะอธิบายว่า ก่อนอื่นเลยคือทั้ง 2 เป็นมัลติมีเดียเหมือนกัน และเป็นสื่อที่ให้ความบันเทิงเช่นเดียวกัน ดังนั้นวิธีสร้างของทั้งสองจึงแตกต่างกันแค่กระบวนการผลิตเท่านั้น (ซึ่งจากคำพูดของผู้กำกับชื่อดัง Christopher Nolan แล้ว จริงๆ เกมอาจสร้างยากกว่าหนังด้วยซ้ำ) ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าองค์ประกอบ หรือวิธีการใดๆ ที่ทำให้หนังเรื่องหนึ่งเป็นหนังที่ดีได้ วิธีการเหล่านั้นก็น่าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างวิดีโอเกมให้ดีได้เช่นกัน แบบนั้นแล้ว เมื่อสำหรับหนังเพลงประกอบเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ฉันใด เกมเองก็ไม่สามารถขาดเพลงประกอบได้ฉันนั้น เนื่องจากการสร้างอารมณ์ร่วมเป็นสิ่งที่ทำได้ยากหากเพียงผ่านตัวหนังสือ หรือสีหน้าของตัวละครอย่างเดียว ยิ่งเป็นฉากที่ซับซ้อนซึ่งมีทั้งความหวัง และความสิ้นหวังอยู่ด้วยดังเพลง Answer ฉาก Realm Is Reborn จาก Final Fantasy XIV ด้วยแล้ว การไม่มีบทเพลงใดๆ ประกอบเลย ฉากนี้ก็คงไม่ทำให้ผู้เล่นหลายหมื่นคนนั่งร้องไห้อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ของตัวเองหลังได้เห็นโลกของเกมที่พวกเขารัก NPC ที่พวกเขาชื่นชอบ ตายไปพร้อมกับโลกที่พังทลาย ดั่งคนบ้าในยามราตรี ในคืนที่ชมเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรก อีกหนึ่งตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของบทเพลงแห่งความหวัง และความสิ้นหวัง คงจะไม่พ้น Weight of The World ในตอนที่ผู้เล่นกำลังพยายามจะเก็บฉากจบสุดท้ายที่ชื่อว่า The [E]nd of Yorha เราจะต้องพบกับการต่อสู้ที่ไม่มีทางชนะได้ ตัวเกมจะถามทุกครั้งที่เราล้มเหลวว่า "จะยอมแพ้หรือไม่" ซึ่งในขณะเดียวกันเราจะต้องฟังบทเพลงที่มอบความสิ้นหวัง และความหวังให้ในเวลาเดียวกันไปด้วย โดยในทุกครั้งที่พ่ายแพ้ จะมีคำพูดให้กำลังใจจากผู้เล่นทั่วทุกมุมโลกค่อยๆ ขึ้นมาให้กำลังใจเรา พวกเขาจะบอกอยู่เสมอว่า "อย่ายอมแพ้", "นายทำได้", "เชื่อมันในตัวเองสิ" นำไปสู่ช่วงเวลาที่ตื้นตันจนไม่สามารถหาคำมาบรรยายได้ เมื่อได้ฉากจบสุดท้ายมา ตัวเกมจะถามว่า "คุณเอง ก็ต้องการส่งมอบความหวังให้กับคนอื่นรึเปล่า?" ถ้าหากใช่สิ่งที่ต้องแลกไปก็คือเซฟทั้งหมดของเกมที่เล่นมาจนถึงตอนนี้ ราวกับเป็นข้อความจากผู้พัฒนาว่า "ช่วงเวลาที่คุณเพิ่งได้สัมผัสไป จะมีได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น" บางครั้งดนตรีประกอบเบาๆ ที่มีเสียงร้องขับขานไม่เป็นภาษาในช่วง End Credit ก็อาจเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายก่อนการจากลาจากผู้พัฒนา เหมือนดังเช่น The Nameless Song จาก Dark Souls เมื่อเพลงดังกล่าวถูกขับขานผู้เล่นจะได้รับรู้ว่า "อา.. การเดินทางที่แสนยาวนานใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว" ปลายทางที่ไขว่คว้ามานานอยู่ห่างเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ทั้งความสนุก, ความทรมาน, ความขื่นขม, ความเศร้า, ความตื่นเต้น ความรู้สึกทุกอย่างค่อยๆ จมหายไปพร้อมกับ ตัวอักษร End Credit ที่ขึ้นมาแทนที่ ในช่วงเวลานี้บางคนอาจรู้สึกเศร้า บางคนอาจร้องไห้อย่างเงียบๆ และบางคนอาจหลับตาเพื่อเงียบหูฟังบทเพลงแห่งการจากลานี้ด้วยรอบยิ้ม และความคิดที่จะไม่ลืมท่วงทํานองตราบนานเท่านาน บทเพลงที่น่าจดจำบางครั้งอาจเป็น BGM เล็กๆ สั้นๆ ที่เราฟังจนคุ้นเคยโดยที่ไม่รู้ตัวได้เช่นกัน ซึ่งถ้าหากให้ยกตัวอย่างเพลงที่คนไทยส่วนใหญ่น่าจะรู้จัก และเมื่อฟังจะเกิดการคิดคำนึงถึง ก็คงไม่พ้นเพลง Theme หน้า Log In และเพลงบรรเลงของเมืองต่างๆ จากเกม Ragnarok ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ได้ยินก็ยังคงทำให้หวนรําลึกถึงความรู้สึกในวันวาน เมือง Prontera ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก, เมือง Morroc ที่มีพ่อค้าอยู่มากมาย, บางครั้งเราอาจได้เห็นห้องสนทนาที่มีหัวข้อแสนสนุก บางที่หัวมุมถนนตรงหน้าอาจผู้เล่นจำนวนมากกำลังหนีเอาตัวรอดจากบอสที่ออกมาจากไม้ผีอยู่ เมื่อเดินทางมาถึงหน้าดันเจี้ยนอาจได้พบกับสมาชิกเพื่อนร่วมกิลที่นัดหมายกันไว้ เมื่อได้ฟังเพลงข้างล่างนี้ทุกคนคิดถึงช่วงเวลาเหล่านั้นกันบ้างรึเปล่า? เพียงแค่เสียงจากกีตาร์โปร่งหนึ่งตัว กับถ้อยคำขับร้องที่ไม่ได้เป็นมืออาชีพ ในสถานการณ์ และฉากที่ถูกต้อง บางครั้งอาจน่าจดจำยิ่งกว่าดนตรีที่ถูกบรรเลงมาอย่างประณีต ดังเช่น Future Days ของ Joel ในช่วงเริ่มต้นของ The Last of Us Part 2 แม้เพลงนี้จะความยาวจะมีเพียงแค่ 3 นาที แต่ในช่วงเวลาสั้นๆ เชื่อว่าทุกคนจะสามารถเข้าใจได้เลยว่า Ellie มีความสำคัญต่อชายแก่คนนี้ยังไง ทำไมเขาถึงหวงแหนเธอขนาดนี้ และมันจึงทำให้เราเสียใจ รวมถึงโกรธมากเมื่อได้ทราบถึงโชคชะตาของเขาในเนื้อเรื่องของเกมหลังจากนี้ โดยที่หลายคนอาจไม่ได้ตระหนักเลยว่า ตัวเองได้มีอารมณ์ร่วมไปกับเนื้อเรื่อง รวมถึงเหตุการณ์ในเกมนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่านี้ไม่ใช้บทเพลงทั้งหมดที่ล่วนแล้วแต่งดงามในแบบของตัวเอง น่าจดจำในแบบของตัวเอง แต่หากจะให้ยกตัวอย่างทุกเพลงจากทุกเกมในโลกนี้แล้ว คิดว่าบทความนี้คงยาวแบบไม่มีวันจบสิ้นกันเลยทีเดียว ตัวอย่างที่ผ่านมาเพียงแค่อยากให้ทุกคนได้เห็นภาพถึงพลัง และความสำคัญของบทเพลง ที่มักไม่ค้อยถูกพูดถึง หรือได้รับความสนใจจากเหล่าผู้เล่นเท่าไหร่นัก และน่าเสียดายเหมือนกันที่มิอาจยกตัวอย่างเพลงที่ดี แต่ไม่ถูกจดจำในโลกวิดีโอเกมให้เพื่อนๆ ได้เห็นภาพได้ เนื่องจากตัวผมเองก็เพิ่งหันมาให้ความสนใจ บทเพลงที่สวยงามจากเกมเหล่านี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม "เกม" ก็ยังถือว่าเป็น Multimedia ชนิดหนึ่ง ที่สุดท้ายแล้วก็ยังคงจำเป็นต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้ตัวเองเป็นสิ่งที่น่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นภาพ ,การดำเนินของเนื้อเรื่อง, ภาษาที่ใช้, การเรียบเรียงคำพูดของตัวละคร, ฉาก, กราฟิก, ธีม, เกมเพลย์, ระบบ และปัจจัยสําคัญอีกมากมายที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นในท้ายที่สุดแล้ว ต่อให้เพลงที่ถูกแต่งขึ้นมานั้นจะมีดนตรีที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน พรรณนาได้งดงามเพียงใด ก็ยังเป็นเพียงแค่องค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้ผลงานมีคุณค่า ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักเพียงหนึ่งเดียวที่จำเป็นต้องสร้างออกมาอย่างประณีตจนไม่จำเป็นต้องทำสิ่งอื่นได้ เช่นนั้นแล้วก็คงมิอาจเข้าถึงจิตใจของผู้เล่น หรือทำให้ถูกจดจำได้ หากขาดองค์ประกอบอื่นๆ ไปแม้จะเป็นบทเพลงที่สวยงาม และน่าฟังเพียงใด เมื่อไม่มีคุณค่าในการจดจำ เพลงนั้นก็คงถูกลืมเลื่อนหายไปตามกาลเวลา

ในช่วง 6 - 7 วันก่อนหน้านี้มีข่าวลือที่บอกว่า Final Fantasy 7 Remake จะลงให้กับ PS5 หลังจากช่วงเวลา Exclusive บน PS4 หมดลงในช่วงต้นเดือน 4 ของปี 2021 ซึ่งวันนี้จากเว็บไซต์ ResetEra เอง ก็มีข่าวลือคล้ายๆ กันถูกปล่อยออกมาจาก KatharsisT ผู้เคยปล่อยข่าวลือที่มีความถูกต้องสูงเกี่ยวกับเกมของ Square Enix มาก่อนครับ! KatharsisT ได้กล่าวว่า เขาทราบเพียงแค่ว่าตัวเกมเวอร์ชัน PS5 และ PC จะถูกเปิดตัวภายในปี 2021 นี้ แต่เรื่องว่าจะลงวันไหน เดือนไหน เขาเองก็ไม่ทราบเช่นกัน จากรายงานของเว็บไซต์ Dsogaming ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ขุดไฟล์เกม Demo แล้วพบกับโค้ดบางส่วนที่สนับสนุนว่าตัวเกมจะลงให้กับ PC ไม่ว่าจะเป็น AMD, NVIDIA หรือ Resolutions สูงๆ ดังนั้นคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เราจะได้เล่นบนเครื่อง PC จริงๆ ครับ ในจุดที่จะลง PC คิดว่าคงไม่อยู่เหนือความคาดหมายเท่าไหร่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือตัวเกมจะรองรับ Ray-Tracing กับ DLSS หรือไม่? มากกว่า ถ้าหากว่าเราสามารถเล่นเกมนี้แบบเปิด Ray ได้คิดว่าคงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยเลยจริงๆ ครับ Yeah already discussed this yesterday in Discord with others that there are many "many" signs inside the Demo that we will see a future PC Port sooner or later. There is PC Code still left inside, and it mentions various higher Resolutions together with some NVIDIA and AMD stuff. — Roxanne ❎??‍♀️? (@roXyPS3) January 2, 2020 Credit: dsogaming

แม้เราจะยังไม่ทราบว่า Final Fantasy ภาคต่อไป จะวางขายให้เราได้ผจญภัยอีกครั้งเมื่อไหร่ แต่เหมือนว่าภาคต่อไปที่กำลังจะมา เราอาจได้ยินเสียงของ Noctis พระเอกจาก FF15 อีกครั้งในภาคใหม่นี้ด้วย เนื่องจากข้อความล่าสุดของ Ray Chase ซึ่งเป็นผู้ให้เสียงพากย์ตัวละครบน Twitter เหมือนจะเป็นการบอกใบ้ว่าเขากำลังมีส่วนร่วมในเกมภาคต่อไปอยู่ครับ Ray ได้โพสต์ข้อความออกมาด้วยกันทั้งหมด 4 โพสต์ โดยเริ่มจากการพูดว่า "I just cant wait to post about it" และตามมาด้วย "Like Im pretty much all out of final fantasy jokes" ซึ่ง 2 ข้อความนี้ ทำให้แฟนๆ คิดว่า "เขาต้องกำลังมีส่วนร่วมอยู่ในโปรเจกต์ Final Fantasy ภาคใหม่อย่างแน่นอน" ครับ Like Im pretty much all out of final fantasy jokes — Ray Chase (@RayChase) January 13, 2021 ข้อมูลเกี่ยวกับ Final Fantasy ภาคใหม่ ตอนนี้มีอยู่ 3 โปรเจกต์ด้วยกันคือ FF16, Ever Crisis และ The First Soldier ซึ่งเอาจริงๆ เราไม่มีทางรู้เลยว่าเขาหมายถึงภาคไหนกันแน่ แต่จากข้อความที่ 3 กับ 4 ทำให้เรารู้ว่าเขาจะไม่ใช่ Zack แน่ๆ เนื่องจากมันเขียนว่า "Oh Im not Zach" และ "Sorry for any confusion!" แต่มันไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในภาคนี้ เนื่องจากยังมีตัวละครอีกมากในเนื้อเรื่องของเกมที่จำเป็นต้องมีเสียงพากย์ครับ Sorry for any confusion! — Ray Chase (@RayChase) January 13, 2021 น่าเสียดายที่ Ray ไม่ได้บอกใบ้อะไรเราไปมากกว่านี้ และด้วยความที่ดันมีข่าว Final Fantasy มากมายในช่วงนี้ เลยทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่า เขามีบทบาทในภาคไหนกันแน่ คงได้แต่ต้องรอให้ทาง Square Enix ออกมายืนยันเรื่องนี้ด้วยตัวเองครับ

เกือบจะครบ 1 ปี แล้วตั้งแต่ที่ Final Fantasy 7 Remake ลงให้กับ PS4 เมื่อปีที่แล้ว มันจึงหมายความว่าชาว PC ใกล้จะได้สัมผัสเกมนี้ในแบบที่ภาพสวยกว่า และเฟรมเรตดีกว่าแล้วเร็วๆ นี้ (FF7 Remake จะเอ็กซ์คลูซีฟจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2021) ซึ่งนี่อาจหมายถึงการที่ตัวเกมอาจมีเวอร์ชัน PS5 ออกมาด้วยเช่นกันครับ Navtra ซึ่งเป็นผู้ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับ Final Fantasy 16 และเกมอื่นๆ อีกมากมายก่อนเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ได้โพสต์ข้อความใหม่บนเว็บไซต์ ResetERA กล่าวถึงการเปิดตัวของ Final Fantasy 7 Remake เวอร์ชัน PS5 กับ Expansion ใหม่ของ Final Fantasy XIV ในช่วงต้นเดือนหน้า แถมพวกเขายังคิดว่า Life is Strange ภาคใหม่ก็อาจเปิดตัวในช่วงเวลาเดียวกันด้วย อย่างไรก็ตาม Navtra ยังกล่าวอีกด้วยว่า สถานการณ์โควิดที่โลกเจออยู่ในตอนนี้ อาจทำให้ไม่มีการเปิดตัวอะไรเลยในช่วงเดือนหน้าก็เป็นได้ แต่เขาก็ยังเชื่อว่าภายในเดือน กุมภาพันธ์ของปีนี้ เราจะได้เห็น Square Enix ปล่อยข้อมูลออกเกี่ยวกับโปรเจคต์ที่ทำอยู่ออกมาเพิ่มเติมอย่างแน่นอน Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: GamingBolt

ในช่วงใกล้สิ้นปีแบบนี้ ร้านค้าเกมต่างๆ ได้เริ่มเทศกาลลดราคา Winter Sale ของตัวเองเพื่อให้เพื่อนๆ ได้ซื้อเกมมาสนุกกันในช่วงปีใหม่แล้ว ซึ่งล่าสุดก็เป็นข่าวดีสำหรับคนที่ชอบเล่นเกม MMORPG แต่ยังไม่เคยได้สัมผัส Final Fantasy XIV มาก่อน เนื่องจากล่าสุดทาง Square Enix ได้มีการลดราคาตัว Complete Edition ถึง 50% จนถึงวันที่ 19 มกราคม 2021 ครับ เว็บไซต์ Siliconera ได้มีรายงานว่า Final Fantasy XIV Complete Edition ตอนนี้กำลังลดราคาอยู่ทุกภูมิภาค และบนทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งเจ้า Complete Edition นี้จะมีทั้งตัวเกมหลัก และ Expansion ทั้งหมดแถมมาในแพ็กเดียว โดยล่าสุดก็เพิ่งจะมีการอัปเดต 5.4 เพิ่มคอนเทนต์ท้ายเกมเข้ามามากมายเลย ถ้าหากเพื่อนๆ ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะชอบเกมนี้หรือไม่ ก็สามารถเข้าไปทดลองเล่นตัว Trial ของเกมก่อนได้ครับ Final Fantasy XIV วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4 และ PC Credit: Siliconera

PlayStation Partner Awards 2020 คืองานประกาศรางวัลให้กับเกมยอดเยี่ยมที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation ในปี 2020 ซึ่งงานนี้จะมีจัดขึ้นหลายภูมิภาคทั่วโลกซึ่งในโซน Japan Asia เป็น Final Fantasy 7 Remake,  Dragon Ball Z: Kakarot, และ eFootball PES 2020 ที่ได้รางวัลไปในปีนี้ครับ! โปรดิวเซอร์ของเกมคุณ Yoshinori Kitase ขึ้นรับรางวัลในงานครั้งนี้พร้อมกับดาบ Buster Sword ที่เป็นการบ่งบอกว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจกับรางวัลนี้ และเกม FF7 Remake มากขนาดไหน ซึ่งนอกจากรางวัลดังกล่าวเกมนี้ยังมีอีกหลายรางวัลที่เข้าไปรอในรอบชิงแล้วใน The Game Awards 2020 งานนี้ต้องรอดูวันที่ 10 ธันวาคม 2020 พร้อมกันว่าเกมนี้จะได้รางวัลอะไรบ้างครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PS5 Credit: GamingBolt 

การเป็นเกมคู่แข่งในตลาดเดียวกันไม่จำเป็นต้องแข่งขันแย่งลูกค้ากันเสมอไป บางครั้งการแสดงความยินดีกับอีกฝ่ายเมื่อพวกเขาทำอะไรบางอย่างสำเร็จ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มจำนวนผู้เล่นที่มาจากอีกเกมได้เช่นกัน เหมือนที่ Final Fantasy 14 ร่วมแสดงความยินดีกับการมาของ Expansion ใหม่ Shadowlands ของ World of Warcraft ครับ Final Fantasy 14 ได้โพสต์ข้อความบน Twitter ของตัวเองพร้อมแท็ก World of Warcraft ด้วยข้อความว่า "ยินดีต้อนรับสู่ด้านมืด" (Expansion ล่าสุดของ FF14 มีชื่อว่า "Shadowbringers") และข้อความสั้นที่แสดงความยินดีว่า "ยินดีด้วยกับการวางจำหน่าย Shadowlands อย่างเป็นทางการ" ซึ่งข้อความนี้ดูจะทำให้แฟนๆ จากทั้งสองเกมดูมีความสุขกันมากๆ เนื่องจากมันทำให้มีความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 เกมจะมี Collaboration ร่วมกันเร็วๆ นี้ครับ! Welcome to the Shadows, @Warcraft. Happy #Shadowlands launch! pic.twitter.com/0aj7EXxFrf — FINAL FANTASY XIV (@FF_XIV_EN) November 23, 2020 ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่ามีแฟนเกมหลายคนเลยที่เรียกร้องให้ทั้งสองมี Crossover หรือ Collaboration ร่วมกัน ซึ่งความต้องการส่วนใหญ่จากแฟน WOW ดูพวกเขาจะอยากได้นก Chocobo ซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ FF มากๆ ในเกม WOW โดยตอนนี้ยังไม่มีการโต้ตอบอะไรกลับมาจาก Twitter ของทาง WOW ต้องรอดูต่อไปว่าทั้งสองจะมีกิจกรรมร่วมกันต่อไปในอนาคตหรือไม่ครับ! Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 และ PC ส่วน World of Warcraft ก็วางจำหน่ายแล้วบนเครื่อง PC เท่านั้น Credit: GameRant

Final Fantasy XIV อยู่คู่วงการเกมมานานกว่า 7 ปีแล้ว แม้ว่าในช่วงแรกเกมนี้จะทำออกมาได้ไม่ดีนัก แต่ตอนนี้คงกล่าวได้ว่า FFXIV เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่ดีสุดในโลกเลย แน่นอนว่ายังคงมีการอัปเดตคอนเทนต์ใหม่เข้ามาให้เราเล่นกันเรื่อยๆ ที่น่าดีใจคือตัวเกมจะไปลงให้กับ PS5 ด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่กราฟิกของเกมจะได้รับการพัฒนาให้สวยงามยิ่งขึ้น และมันน่าจะหมายถึงการที่ตัวเกมจะใช้พื้นที่มากขึ้นครับ มันจะดีขนาดไหนหากเราสามารถเก็บเกมนี้ไว้ในพื้นที่เฉพาะได้ อย่างน้อยนั้นก็เป็นสิ่งที่ Square Enix คิด พวกเขาจึงได้จับมือกับ  I-O Data และผลิต SSD สำหรับเก็บเกม Final Fantasy XIV ออกมาโดยเฉพาะ โดยข้อดีของ SSD ตัวนี้คือมันมาในดีไซน์ที่สวยงามมาก แถมยังสามารถพกพาได้สะดวก ดูรูปร่างหน้าตาของ SSD ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ [gallery columns="2" ids="71793,71794"] เจ้า SSD ตัวนี้จะมีราคาอยู่ที่ ¥11,880 (ประมาณ 3,000 - 4,000) บาท มีความจุที่ 500 GB ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อความต้องการของไฟล์เกม กับอัปเดตใหม่ๆ ที่จะตามมาในอนาคต และมีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 2 ธันวาคม 2020 นี้ โดนตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะสามารถหาซื้อนอกประเทศญี่ปุ่นได้หรือไม่ แต่คิดว่าถ้าหากมีความต้องการ Sqaure Enix จะส่งออกไปขายที่ประเทศอื่นด้วยอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy XIV วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS3, PS4, Xbox One และ PC Credit: Siliconera

หลังจากที่เปิดตัวครั้งแรกไปในงาน PS5 Showcase ช่วงกลางเดือน กันยายน 2020 ในที่สุดเราได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเกม Final Fantasy XVI เพิ่มมากขึ้นจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการที่เพิ่งจะเปิดให้สามารถเข้าไปดูได้แล้ว งานนี้บอกเลยว่าแฟนๆ ซีรีส์นี้ไม่ควรพลาดครับ! ภายในเว็บไซต์ของเกมนี้ ได้มีการอธิบายเกี่ยวกับอาณาจักรต่างๆ ที่เราจะได้พบในภาคนี้ ซึ่งเหมือนว่าในโลกของ FFXVI จะมีอาณาจักรให้เราได้สำรวจ 6 ที่ด้วยกันคือ The Grand Duchy of Rosaria, The Holy Empire of Sanbreque, The Kingdom of Waloed, The Dhalmekian Republic, The Iron Kingdom และ The Crystalline Dominion โดยไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทั้ง 6 กำลังทำสงครามกันอยู่หรือยังไงครับ นอกจากรายละเอียดเกี่ยวกับอาณาจักรต่างๆ แล้ว ภายในเว็บไซต์ยังมีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวละครที่เคยออกมาใน Trailer ของเกมด้วย โดยตอนนี้มีแค่ 3 ตัวละครเท่านั้นที่ถูกพูดถึงในเว็บไซต์ แต่คิดว่าอนาคตจะมีข้อมูลของตัวละครอื่นๆ ตามมาด้วยอย่างแน่นอนครับ เข้าไปดูเว็บไซต์ดังกล่าวได้ผ่านลิงก์นี้เลย Final Fantasy XVI ยังไม่มีกำหนดวางขายอย่างเป็นทางการ แต่ตัวเกมจะเล่นได้แค่บน PS5 เท่านั้นครับ  

ทุกคนรู้จัก Chocobo ไหมครับ? มันคือนกสีเหลืองที่น่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากนกกระจอกเทศในโลกความจริง ซึ่งเจ้า Chocobo อาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเกม Final Fantasy ได้เลย เพราะว่ามันน่ารักมากๆ (อันนี้ผมอวยส่วนตัวครับ) แต่เชื่อหรือไม่ว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ก็เป็นฆาตกรสุดโหดได้เช่นเดียวกัน! Final Fantasy XIV ได้ทำการอัปเดตแพตช์ 5.35 ในวันจันทร์ที่ผ่านมา และมันได้ทำการเพิ่มโซนใหม่ที่มีชื่อว่า Bozjan Southern Front เข้ามาด้วย โดยในพื้นที่นี้ได้มีการเพิ่ม World Boss ใหม่ที่มีชื่อว่า Red Comet เข้ามา ซึ่งเจ้าบอสตัวนี้มีโมเดลเป็น Chocobo สีแดง แต่อย่าให้รูปร่างของมันมาหลอกได้ครับ เพราะเจ้านกแดงนี้มันโหดมากๆ บนเว็บไซต์ Social Media ต่างๆ ได้มีการโพสต์ภาพพรรณนาถึงความโหดเหี้ยมของเจ้านกตัวนี้เต็มไปหมด โดยเฉพาะการโจมตีที่เรียกอุกกาบาตมาฆ่าเหล่าผู้เล่นเป็นวงกว้างนั้น ดูเป็นอะไรที่น่ากลัวมากจริง รับชมโพสต์ต่างๆ ดังกล่าวทั้งบน Twitter และ Reddit ได้ข้างล่างนี้เลยครับ This is what you need to know. pic.twitter.com/hSKe3LAQDf — おはお空@赤チョコボ地獄 (@OkuuTheEngineer) October 14, 2020 ffxiv players posting about the red chocobo pic.twitter.com/bwPwsFOfbh — haurchefant kissie indulgence ✿ (@handlesscombos) October 14, 2020 CRITICAL ENGAGEMENT LOST from r/ffxiv Id like to thank my chocobos for their hard work. from r/ffxiv Credit: PCGamer

นับว่าเป็นข่าวที่น่ายินดีสุดๆ สำหรับแฟนเกมซีรีส์ Final Fantasy XVI ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือออกมาว่าตัวเกมนั้นอาจจะวางจำหน่ายเร็วกว่าที่เราคิด เนื่องจากวันนี้มีอีกหนึ่งข่าวที่สนับสนุนว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง เพราทางผู้พัฒนาเพิ่งจะออกบอกออกมาเองเลยว่าตัวเกมพัฒนาระบบพื้นฐาน กับเนื้อเรื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ! ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจากหน้าเว็บรับสมัครงานของ Square Enix เอง(ขอบคุณ Gematsu) โดยดูเหมือนว่าตอนนี้ทางบริษัทกำลังหาคนมาช่วยสร้างฉาก และอนิเมชั่นการต่อสู้ต่างๆ ในเกมอยู่ ซึ่งในคำอธิบายรายละเอียดนั้นได้มีการบอกด้วยว่า "ระบบพื้นฐานทั้งหมด รวมไปจนถึงเนื้อเรื่องของเกม Final Fantasy XVI นั้นพัฒนาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" ดังนั้นความเป็นไปได้ที่เราจะได้สัมผัสเกมนี้ในช่วงปี 2021 - 2022 จึงเป็นไปได้สูงมาก แต่คงต้องรอดูกันต่อไปครับ Final Fantasy XVI ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา และจะวางขายบนเครื่อง PS5 เท่านั้น Credit: Siliconera

ตัวอย่างล่าสุดของ Final Fantasy 16 ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายด้วยเหตุผลหลากหลายอย่าง และหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้แฟนๆ ต่างตื่นเต้นกับวิดีโอตัวอย่างก็คือภาคนี้จะถูกตั้งให้อยู่ในโลกแฟนตาซีอย่างสมบูรณ์ ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่แฟนๆ ของซีรีส์นี้ร้องขอกันมานานแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งที่หลายๆ คนสังเกตเห็นจากวิดีโอตัวอย่างก็คือการที่ตัวเกมดูมีความดาร์คและเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ ดูเหมือนนี่จะเป็นแนวทางที่เกมจะดำเนินไป ซึ่ง Square Enix ได้เปิดเผยว่า Final Fantasy 16 ได้รับการจัดเรตเป็น 18+ และนี่เป็นภาคหลักของ Final Fantasy เกมแรกที่มีเรต 18+ แต่นี่เป็นเพียงการจัดเรตชั่วคราวในตอนนี้เท่านั้น และสิ่งต่างๆ ยังคงเปลี่ยนแปลงได้ตลอดครับ ถึงอย่างนั้นเราก็พอเดาธีมหลักของเกมได้คร่าวๆ แล้วครับ ว่ามันคงจะดุเดือดไม่น้อยทีเดียว Final Fantasy 16 อยู่ในระหว่างการพัฒนาสำหรับเครื่อง PlayStation 5 และจะเป็นเกม Exclusive ให้กับเครื่องดังกล่าวเป็นเวลา 1 ปี Credit: Gamingbolt

เปิดตัวไปแล้วกับเกม Final Fantasy 16 ในงาน PS5 showcase ซึ่งต้องบอกตรงๆ ว่า ทำเอาแฟนเกมตื่นเต้นไปตามๆ กัน เนื่องจากภาคนี้ดูจะกลับไปใช้เซ็ตติ่งแบบยุคกล่างในโลกแฟนตาซีอีกครั้ง อย่างไรก็ตามจากคำพูดของคุณ Naoki Yoshida โปรดิวเซอร์ในงาน TGS 2020 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ากราฟิกของเกมตอนที่ออกจะสวยกว่าที่เราได้เห็นใน Trailer ครับ! คุณ Naoki Yoshida ได้กล่าวว่า "กราฟิกที่เราได้เห็นในเกมเพลย์ของ Trailer ยังไม่ใช้สิ่งที่เราจะได้เห็นในเกมจริง โดยสาเหตุที่ภาพในเกมมันดูไม่สวยสมกับพลังของเครื่อง PS5 เป็รเพราะว่าทาง Square Enix ไม่ต้องการให้ใช้ Pre-Rendered Trailer ในการเปิดตัวเกม เพื่อป้องกันให้คนคิดว่า เกมจะยังไม่วางจำหน่ายเร็วๆ นี้ และทางทีมพัฒนาเองก็ต้องการใส่เกมเพลย์ลงไปในวิดีโอตัวนี้ด้วย" จากเหตุดังกล่าวจึงทำให้ทีมพัฒนาจำเป็นต้องใส่ Footage เกมเพลย์ที่ยังไม่ได้ Optimized ลงไปในวิดีโอด้วย จนส่งผลให้กราฟิกของช่วงเกมเพลย์ที่เราได้เห็น ไม่ได้สวยงามเหมาะสมกับเครื่อง PS5 ซึ่งคุณ Naoki Yoshida  ยืนยันว่าตัวเกมจริงจะมีกราฟิกที่สวยกว่านี้แน่นอน นอกจากนี้ในช่วงต้นเดือน ตุลาคม ที่จะถึงนี้ จะมีการปล่อยเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเกม พร้อมทั้งเผยข้อมูลเกี่ยวกับ โลก และตัวละครของ Final Fantasy 16 เพิ่มเติม เป็นไปได้ว่าเราอาจจะได้เห็นวันวางจำหน่ายของเกมกันในช่วงนั้นด้วยครับ Credit: GamingBolt

เมื่อ Final Fantasy 16 ได้เปิดตัวในงาน PS5 Showcase ของ Sony ทำให้แฟนๆ หลายคนต่างตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น ไม่ใช่เพียงเพราะจากการประกาศเปิดตัวหรือเรื่องของ Exclusive บน PlayStation 5 แต่เป็นเพราะมันดูเป็นเกมที่ สมบูรณ์ กว่าที่คิด Jason Schreier จาก Bloomberg ได้พูดคุยกับบุคคลต่างๆ และมีการเปิดเผยใน Triple Click Podcast ว่า Final Fantasy 16 ได้รับการพัฒนามาสี่ปีแล้ว นอกจากนี้ Schreier ยังกล่าวอีกว่า มันจะวางจำหน่ายเร็วกว่าที่คาดไว้ และจะไม่ยาวนานเป็น 10 ปี เหมือนกับภาค Final Fantasy 15  Final Fantasy 16 จะวางจำหน่ายให้กับเครื่อง PlayStation 5 เท่านั้น และผู้กำกับภาคนี้ก็คือคุณ Naoki Yoshida ซึ่งผลงานของเขาที่เรารู้จักกันดีก็คือ Final Fantasy 14 นอกจากนี้ยังมีการกล่าวว่าข้อมูลสำคัญจะเปิดเผยออกมาอีกครั้งในปี 2021 ครับ Credit: Gamingbolt

Final Fantasy XVI เปิดตัวแล้วในงาน PS5 Showcase หลังจากมีข่าวลือว่าจะมีการเปิดตัว FF ภาคใหม่ในงาน โดยภาคนี้ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งในเรื่องของธีม และเกมเพลย์ให้มีความแตกต่างออกไปจากเดิมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้มันยังเป็นเรื่องน่ายินดีมาก เพราะในไลฟ์สตรีมได้มีการบอกว่าเกมภาคนี้จะลงให้กับ PC ด้วย แต่เหมือนว่านั้นจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดที่เกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาดแบบเดียวกับตอน Demons Souls Remake ครับ ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจาก Gematsu ผ่าน Twitter โดยดูเหมือนว่าทาง Gematsu จะถามเรื่องนี้กับทาง Square Enix โดยตรงเลยว่า "เวอร์ชั่น PC ของ FFXVI จะมาเมื่อไหร่ หรือมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่" ซึ่งทางผู้พัฒนาก็ได้ตอบกลับมาว่า "เรายังไม่มีแผนที่จะเอาเกมนี้ลงให้กับเครื่องอื่นๆ นอกจาก PS5 ในตอนนี้" เท่านี้ก็ชัดเจนแล้วว่า FFXVI จะลงให้กับ PS5 เท่านั้นในตอนที่วางจำหน่ายครับ Final Fantasy XVI ยังไม่เปิดเผยวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และตัวเกมจะลงให้กับเครื่อง PS5 เท่านั้น I asked Square Enix about the PC version of FF16 since its not mentioned in the official trailer or press release. Response: "We have no further information on if FF16 will be released on platforms other than the PS5." Left: Trailer from stream. Right: Uploaded trailer. pic.twitter.com/xvmDE5ror1 — Gematsu (@gematsucom) September 16, 2020

หลังจากมีข่าวลือถึงการเปิดตัวภาคใหม่ ที่ออกมาก่อนหน้านี้กับเกม Final Fantasy XVI ในที่สุด เราก็ได้รับการยืนยันผ่านไลฟ์สตรีม PS5 Showcase แล้ววันนี้! แถมยังมีการโชว์กราฟิกภายในเกม รวมถึงเกมเพลย์แบบ Action จัดเต็มเลยด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! จุดที่น่าสนใจก็คือ สไตล์ภาพรวมถึงธีม Final Fantasy XVI ดูจะแตกต่างไปจากสไตล์ของ Final Fantasy ภาคก่อนหน้านี้พอสมควรเลย เพราะครั้งนี้ดูมีความตะวันตกมากๆ ในส่วนของเกมเพลย์เองก็มีกลิ่นอายของ Devil May Cry แบบสุดๆ คือถ้าบอกว่าเป็นคนละเกมเลยก็เชื่อครับ นอกจากนี้ภายในวิดีโอดังกล่าวยังมีการโชว์มนต์อสูรดังๆ ที่มักจะเห็นในซีรีส์นี้ด้วย งานนี้บอกเลยว่าแฟนๆ ห้ามพลาดครับ Final Fantasy XVI จะเป็นเกมที่สามารถเล่นได้แค่บน PlayStation ในตอนที่ออก และจะลงให้กับ PC ในภายหลัง

มีข่าวลือออกมาซ้ำๆ เกี่ยวกับเรื่องที่ว่า Final Fantasy XVI นั้นพร้อมที่จะเปิดตัวแล้ว และในตอนนี้แฟนๆ หลายคนก็คาดหวังว่าจะได้เห็นเกมดังกล่าวในงาน Future of Gaming ของ Sony ที่จะจัดในอาทิตย์นี้ด้วย ที่สำคัญความคาดหวังของแฟนๆ นั้นก็อาจจะเป็นจริงก็ได้ครับ สิ่งที่ทำให้แฟนๆ ซีรีส์ Final Fantasy มีความหวังมากกว่าเดิมก็เพราะ Shinji Hashimoto บุคคลสำคัญของ Square Enix ได้มีการรีทวีตโพสต์ประกาศไลฟ์สตรีมของ PlayStation 5 บน Twitter ก่อนจะลบโพสต์ไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีบัญชี Twitter ของ Final Fantasy XVI ที่ถูกพบเมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นของผู้จัดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันใดๆ จากทั้ง Square Enix และ Sony ถึงอย่างนั้นมันก็ยังมีความหวังอยู่ไม่น้อยเลยครับ ก็ได้แต่คาดหวังว่างานไลฟ์สตรีมในอาทิตย์นี้ของ Sony จะไม่ทำให้เราผิดหวัง Credit: Pushsquare

หมายเหตุ : ผู้เขียน เขียนบทความนี้จากประสบการณ์การเล่น Final Fantasy XIV Online นับตั้งแต่ Open Beta ของ A Realm Reborn จนถึง Expansion ล่าสุด Shadowbringers เป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม หมายเหตุ 2 : ในบทความนี้ ถ้ามีจุดที่ตกหล่น หรืออยากจะท้วงติง ถกเพื่อสนทนา ผู้เขียนมีความยินดีอย่างยิ่ง และพร้อมต้อนรับทุกคนที่สนใจ สู่โลกแห่ง Eorzea ด้วยความเต็มใจครับ ในแวดวงวิดีโอเกมยุคโมเดิร์นนั้น อาจจะกล่าวได้ว่า เกมแนว Massive Multiplayer Open-World RPG หรือ ‘MMORPG’ นั้นเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดและมีประวัติศาสตร์ที่มีสีสันที่สุดประเภทหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมันต้องใช้ทั้งกำลังแรงงานผู้สร้าง ความคิดสร้างสรรค์ และแนวคิดที่จะดึงดูดผู้เล่นให้อยู่ติดและยอม ‘จ่ายเงิน’ รายเดือนเพื่อเล่นมันต่อไป เช่นเดียวกับที่ Final Fantasy XIV เป็น และมันเป็นยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ เพราะมันผ่านจุดที่ตกต่ำที่สุด ไม่ใช่แค่ในฐานะตัวเกม แต่ในฐานะแฟรนไชส์ของ Final Fantasy เลยด้วยซ้ำ Final Fantasy XIV เปิดตัวเวอร์ชัน ‘1.0’ ในปี 2010 พร้อมเสียงตอบรับในทางลบอย่างมหาศาล ทั้งการเล่นที่ยากลำบาก เนื้อหาที่ไม่น่าสนใจ และระบบที่ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นเป็นอย่างมาก เสียงทางลบนั้นมากเสียจน Yoichi Wada ประธานบริษัท Square-Enix ในเวลานั้น ต้องออกตั้งโต๊ะแถลงการณ์ขออภัยต่อผู้เล่น และปลด Hiromichi Tanaka โปรดิวเซอร์คนเก่าออก ก่อนที่จะโยกย้าย Naoki Yoshida ที่ในเวลานั้น กำลังง่วนอยู่กับโปรเจ็กต์ Dragon Quest X ให้มาทำหน้าที่ ‘กอบกู้ซาก’ ของ FFXIV ให้กลายเป็น ‘เกมใหม่’ ที่จะเรียกศรัทธาผู้เล่นกลับมาอีกครั้ง (พวกเขาถึงกับทำเหตุการณ์ ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ จนกลายเป็นเทศกาลประจำปีทุกวันที่ 27 สิงหาคมกันเลยทีเดียว) [caption id="attachment_66005" align="alignnone" width="1024"] เหตุการณ์ The Calamity ที่ Bahamut หลุดจากการจองจำบนดวงจันทร์ Dalamud และเกือบทำลายทั้ง Eorzea ให้เป็นจุลด้วย Teraflare วันระเบิดเซิร์ฟเวอร์ เกมเวอร์ชัน 1.0 ที่อลังการงานสร้างอย่างมาก[/caption] FFXIV กลับมาอีกครั้งในปี 2013 ภายใต้ชื่อ ‘A Realm Reborn’ และที่เหลือคงไม่ต้องสาธยายกันให้มากความ มันค่อยๆ ไต่บันไดความสำเร็จและความยอดเยี่ยมไปทีละขั้น ด้วยการเล่นที่ดีขึ้น กราฟิกที่สวยงามขึ้น และเนื้อหาที่น่าติดตามมากขึ้น จนมาถึงวันนี้ กับ Expansion ตัวที่สามอย่าง Shadowbringers ที่เลยล่วงมาถึงแพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ ที่เหล่าผู้เล่นถึงกับยกให้มันคือ ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV ในรอบเจ็ดปีที่ผ่านมา ที่เกริ่นมาทั้งหมดนั้น เป็นเพียงการแนะนำในเบื้องต้น และสำหรับผู้เขียนที่เล่นและติดตาม FFXIV มาในตลอดเจ็ดปี ก็ต้องขอบอกว่า ไม่มีช่วงไหนจะเหมาะสมที่จะเข้าสัมผัสความสนุกของ MMORPG อย่าง FFXIV เท่ากับเวลานี้อีกแล้ว ด้วย 10 เหตุผล ที่ยังคงแจ่มชัด และน่าจะทำให้พี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านสนใจกันอยู่ไม่น้อย และถ้าบทความชิ้นนี้ ทำให้ใครติดใจ และผูกใจกับโลกแห่ง Eorzea ได้บ้างแล้วล่ะก็ ผู้เขียนก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง -กราฟิกสวยงาม และใช้สเปคเครื่องที่ไม่สูงนัก ข้อดีประการแรกของ FFXIV ในตลอดระยะเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมานั้น คงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า มันเป็นเกม MMORPG ที่กินทรัพยากรของ PC ค่อนข้างน้อยมาก ภายใต้งานออกแบบศิลป์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ มีความโดดเด่นชัดเจน และแม้ว่าในปัจจุบัน ทีมพัฒนาจะทำการอัพเกรดเอนจิ้นของตัวเกมให้รองรับสำหรับ DirectX11 เท่านั้น แต่มันก็ยังถือว่าเป็นลิมิตที่ต่ำมากๆ สำหรับ PC สายเล่นเกมโดยทั่วไป (ที่การ์ดจอของใครหลายคนน่าจะรองรับไปถึง DirectX12 และระบบ Ray Tracing กันแล้ว…) มันรันได้อย่างลื่นไหล รวมไปถึงอนิเมชันตัวละครที่หลากหลาย ปรับแต่งตัวละครได้ตามแต่ใจต้องการ ในระดับที่ต่อให้คุณกดสุ่มสร้างตัวละคร มันก็ยังออกมาดูดี คงยากจะหาเกมไหนที่จะมีคุณสมบัติเทียบเคียง FFXIV ได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เครื่อง PC ไม่แรงมากนัก และไม่คิดว่าจะสามารถรัน FFXIV ได้อย่างที่ควรจะเป็น ก็อยากจะบอกให้หายห่วง นั่นเพราะว่า… -ระบบ Cross-Play ระหว่าง PC และ Playstation 4 Final Fantalsy XIV ยืนยันตัวตนในฐานะเกม MMORPG แบบ Cross-Play มาตั้งแต่แรกเริ่ม ที่ผู้เล่นบน PC และ Playstation 3 (หรือ Playstation 4 ในตอนนี้) สามารถเล่นร่วมเซิร์ฟเวอร์เดียวกันได้ และหนึ่ง ID ก็สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งสองแพลทฟอร์ม (แต่แน่นอน เนื้อหาเสริม Expansion ก็ยังเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถเล่นไปได้ถึงระดับไหน…) แน่นอนว่าการเป็นเกม Cross-Play นั้น ทาง SQEN ได้คิดเผื่อสำหรับการควบคุมด้วยจอยแพดเอาไว้เป็นอย่างดี และนี่เป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่ใช้จอยแพดเล่นได้ง่ายมากๆ เกมหนึ่งในตลาดปัจจุบัน หรือถ้าไม่ถนัดจริงๆ คุณจะเอาคีย์บอร์ดกับเมาส์มาเสียบ USB กับเครื่อง Playstation 4 ก็ได้ เพราะมันถูกกำหนดเอาไว้เป็น Native Support โดยไม่ต้องปรับแต่งอะไรให้มากความ เล่นร่วมกันได้ กินสเปคไม่สูง แต่อาชีพที่หลากหลายก็ชวนให้ลายตาอยู่ไม่น้อย นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เย็นใจได้เลย เพราะ… -หนึ่งตัวละคร เล่นได้ทุกอาชีพ FFXIV นำเอาเสน่ห์แบบ Final Fantasy III และ Final Fantasy V เข้ามาผนวกไว้กับตัวเอง เพราะตัวละครของคุณหนึ่งตัว สามารถเป็นได้ ‘ทุกอาชีพ’ เท่าที่ใจอยากจะเป็น แค่เพียงเปิดเควสต์ เปลี่ยนอาวุธหลัก คุณก็สามารถสลับไปเล่นอาชีพอื่นๆ ได้ตามต้องการ วันนี้คุณอยากจะเล่นเป็น Black Mage จอมเวทย์ร่ายคาถา แต่ถ้าเบื่อๆ แล้วอยากไปชนกับศัตรูซึ่งๆ หน้า เปลี่ยนอาวุธมาเป็นขวานแล้วสลับเป็น Warrior ก็ย่อมได้ ในที่นี้ รวมถึงอาชีพสายขุดหาของและสายคราฟท์ ซึ่งอยู่ในกฏเกณฑ์เดียวกัน ทำให้คุณไม่ต้องสร้างตัวละครเป็นสิบๆ เพื่อรองรับกับอาชีพที่แตกต่าง ขอเพียงยังมีช่องว่างใน Armory Slot สำหรับอาวุธ ทุกอาชีพที่คุณปลดล็อคไว้แล้วก็พร้อมจะให้คุณเลือกเล่น แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาในการ Leveling ปลดล็อคความสามารถต่างๆ ตามระยะเวลา แต่ร้านค้า Mogstation ก็มีไอเทมพิเศษแบบจ่ายเงินจริง ให้คุณ skip เลเวลได้ตัวละครพร้อมใช้ในทันที แต่ผู้เขียนก็ไม่ขอแนะนำในหนทางนี้ เพราะ…. -เนื้อเรื่องสุดเข้มข้น ขับเคลื่อนทุกส่วนของตัวเกม Final Fantasy XIV คือเกมที่เป็น Story-Centric โดยแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหลัก Main Scenario ที่เข้มข้นในตลอดสาม Expansions ก็ดี (สงครามมังกรพันปี Dragonsong War ใน Heavensward, ภารกิจกอบกู้ Ala Mhigo จากจักรวรรดิใน Stormblood และการช่วยเหลือโลกต่างมิติใน Shadowbringers...) หรือแม้แต่เนื้อเรื่องของอาชีพต่างๆ ที่มีหลากหลายครบรส ทั้งดราม่า ตลกโปกฮา ซาบซึ้งใจ และน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพสายขุดสายคราฟท์ ที่มีเนื้อเรื่องเฉพาะเป็นของตัวเอง อันที่จริง คุณอาจจะไม่ต้องสนใจเนื้อหาและกด Skip ข้ามไปเลยก็ได้ แต่ขอบอกว่า คุณจะพลาดอรรถรสของตัวเกมไปเกือบครึ่ง ที่ทีมสร้างได้รจนาเรื่องราวไว้ได้อย่างจับใจ โดยเฉพาะกับภาค Shadowbringers ที่ Natsuko Ishikawa มือเขียนบทระดับต้นๆ ของทีม (ผู้เขียนบทอาชีพ Dark Knight อันลือชื่อ) สร้างสรรค์เรื่องราวได้อย่างอลังการ จนผู้เล่นต่างยกย่องให้แพทช์ 5.3 ว่าเป็น ‘จุดสูงสุด’ ของ FFXIV กันเลยทีเดียว (อ้อ แล้วในแพทช์ 5.3 ทีมพัฒนาทำการ ตัดทอน ภารกิจส่วนเกินที่ไม่จำเป็นในช่วง A Realm Reborn ไปเกือบ 30% ทำให้ pace การเล่นเร็วขึ้น สะดวกสบายแก่คนเล่นมากขึ้นด้วย นับเป็นนิมิตหมายที่ดีครับ~) แต่ลางเนื้อชอบลางยา ถ้าเนื้อหาไม่ใช่สิ่งที่คุณสนใจมากมายนักแล้วนั้น…. -เกมมีเมคานิคสุดท้าทาย รองรับกับผู้เล่นทุกระดับ เหตุผลที่ผู้เขียนไม่แนะนำให้คุณทำการ Skip เลเวล และให้เรียนรู้จากเบื้องต้น เพราะ FFXIV ยังเป็น MMORPG ที่ยังยึดกฎ ‘Holy Trinity’ สามโรลหลัก Tank, Healer, DPS และทุกการปะทะ ไม่ว่าจะดันเจี้ยนธรรมดา ไปจนถึง Savage Raid ระดับสุดโหด คุณต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง รู้ว่าอาชีพของตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง และจับมันให้อยู่มือ นี่ไม่ใช่เกมเดินทอดน่องเก็บเลเวลดาดๆ แต่เป็นเกมที่ทุกคนต้องรู้หน้าที่ และหนุนเสริมส่งซึ่งกันและกัน มันมีตั้งแต่ระดับง่ายๆ ผ่านได้อย่างไม่ยากเย็น จนถึงระดับซูเปอร์ Ultimate Raid ที่ท้าทายเหล่ายอดมนุษย์ทีม Raider มือฉมัง (พร้อมของรางวัลเป็นอาวุธเอาไว้ใส่เดินขิง…) เรียกว่าคุณจะไม่ได้อยู่เฉยๆ แน่ๆ ถ้าเดินตามเนื้อหาที่วางเอาไว้ คุณจะได้พบกับทุกการปะทะอย่างแน่นอน แล้วสำหรับผู้เล่นสาย  Casual ล่ะ? คนที่อยากจะเอกเขนกเล่นเกมดูบรรยากาศอย่างสบายใจ หายห่วง นั่นเพราะ… -อีเวนท์ประจำปีไม่มีขาด ถ้าไม่นับ World of Warcraft ที่มีอีเวนท์ประจำปีระดับแน่นอนชนิดแปะเป็น In-Game Calendar แล้วนั้น FFXIV ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มากหลายด้วยอีเวนท์สนุกๆ ประจำปีให้ได้ร่วมสนุกกัน ไม่ว่าจะเป็นอีเวนท์ข้ามปี อีเวนท์หน้าร้อนชายทะเล อีเวนท์วันเด็กหญิงของญี่ปุ่น อีเวนท์ระลึกวัน ‘ระเบิดเซิร์ฟเวอร์’ อีเวนท์วันฮัลโลวีน จนถึงอีเวนท์วันวาเลนไทน์ มันอาจจะเป็นเพียงส่วนประกอบง่ายๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่ก็เช่นเดียวกับทุกส่วนของตัวเกม ทุกอีเวนท์ผ่านการเขียนบทและรจนามาได้อย่างพอเหมาะ เล่นได้สนุกและบันเทิงอยู่ไม่น้อย พร้อมของรางวัลตอบแทนอีกมากมาย (อ้อ ผู้เล่นสามารถซื้อแพ็คเกจ แต่งงาน ในเกมได้ด้วย ซึ่งจะได้ของแถมพิเศษอีกต่างหาก~) แล้วนอกเหนือจากอีเวนท์ประจำปี มันมีอะไรที่เกี่ยวโยงกับ Final Fantasy ภาคก่อนๆ หรือเปล่า? เชื่อว่านี่เป็นคำถามที่น่าจะเกิดขึ้น และในความเป็นจริงนั้น… -References กับซีรีส์ Final Fantasy (และซีรีส์เกมอื่น) ใส่มาจนล้นไม่มีขาดตก ด้วยการยืนอายุของซีรีส์ Final Fantasy มากว่าสามทศวรรษ ทำให้ทีมงานสร้างของ XIV มีวัตถุดิบที่จะสามารถจะหยิบจับมาใช้ได้อย่างอยู่มือ ผู้เล่นจะได้พบกับตัวละครที่คุ้นเคย เหตุการณ์ที่คุ้นเคย จนถึง Dungeon และบอสที่คุ้นเคยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Raid แบบ 24 คนไต่ Crystal Tower จากภาคสาม, การใส่ดันเจี้ยนที่พ้องเนื้อหาไปกับโลก Ivalice ของ Final Fantasy Tactics และ Final Fantasy XII หรือการ Collaboration ล่าสุดกับ Yoko Taro กับซีรีส์ Nier : Automata ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นภายใต้ชื่อ YoRHa: Dark Apocalypse เรียกว่าคนที่ติดตามซีรีส์ Final Fantasy มาโดยตลอด จะต้องมีจุดที่ต้องโดนใจเข้าสักที่สองที่อย่างแน่นอน แต่เนื้อหาและการ Collaborate ที่มากมายอาจจะไม่เพียงพอ เพราะการสร้างเกมนั้น ‘ดนตรี’ ก็เป็นส่วนประกอบสำคัญ นั่นทำให้… -ดนตรีในเกมนี้คืออลังการศิลป์อย่างแท้จริง จุดเด่นหนึ่งของ FFXIV ที่มีมาในตลอดทุก Expansions นั้น คือดนตรีประกอบ ที่ได้ทั้ง Nobuo Uematsu ปรมาจารย์รุ่นเก๋าแห่ง SQEN มาร่วมช่วยสร้าง ประกอบกับฝีมือของ Masayoshi Soken โปรดิวเซอร์เพลงหลักที่ทำดนตรีให้กับทุกการปะทะร่วมกับวง The Primals และเพลงเปิดอันยิ่งใหญ่ในเสียงร้องระดับสวรรค์สร้างของ Susan Calloway ชนิดที่ทุกเพลง สามารถรวมฮิตออกขายซื้อมาฟังได้แบบไม่เสียดายเงิน มันคือการกลั่นทุกประสบการณ์ทางดนตรีของทีมสร้างอย่างไม่มีกั๊กไม่มีเม้ม ที่พร้อมจะทำให้มันสุดยอดยิ่งๆ ขึ้นไป แต่เกมที่หนักเนื้อหาและแน่นคอนเทนต์ขนาดนี้ เราจะไว้ใจได้แค่ไหนว่าพวกเขาจะนำเสนอออกมาได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย หายห่วงครับ นั่นเพราะ… -คุณภาพคอนเทนต์เกมไม่เคยตก ด้วยระบบ Subscription-Based FFXIV เป็นหนึ่งในไม่กี่เกม MMORPG ที่กล้ายืนหยัดด้วยระบบ ‘จ่ายรายเดือน’ แบบ Subscription-Based ซึ่งทีมสร้างก็ไม่ทำให้ผู้เล่นผิดหวัง เพราะพวกเขามีตารางที่ชัดเจนในการปล่อยคอนเทนต์ตอนใหม่ๆ และเพิ่ม Features ที่น่าสนใจชนิดที่ไม่มีขาด มีอะไรให้ทำทั้งสาย Casual และ Hardcore แน่นอนว่าในแพทช์ล่าสุด 5.3 อย่าง Reflections in Crystal มีอุปสรรคจากวิกฤติ COVID-19 ที่ทำให้พวกเขาต้องปล่อยมันออกมาช้ากว่ากำหนดถึงเดือนครึ่ง (และกระทบถึงแพทช์อื่นๆ และการเปิดตัว Expansion ใหม่…) เพราะต้องจัดระบบการทำงานเพื่อป้องกันสุขภาพของทีมงาน แต่ Naoki Yoshida ก็ยืนยันผ่านรายการ Live Letter แล้วว่า เขาจะไม่ยอมประนีประนอมคุณภาพเด็ดขาด ทุกอย่างต้องไปให้ถึงจุดสูงสุดแม้จะต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นก็ตาม ซึ่งในตลอดเจ็ดปี มันก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า ทีมสร้างนั้น ‘เอาจริง’ และทุ่มใส่เต็มเม็ดแบบไม่มีอะไรจะเสีย (และดีขึ้น ดีขึ้นเรื่อยๆ…) และแน่นอน ด้วยระบบการจ่ายเงินเช่นนี้ ทำให้ FFXIV ไม่มีอาการแบบ ‘Pay to Win’ หรือเทพทรูใดๆ ทั้งสิ้น มาถึงจุดนี้ ถ้าพี่ๆ เพื่อนๆ รู้สึกว่าการจ่าย ‘รายเดือน’ นั้นเป็นสิ่งที่ผลักไสไม่ให้เข้ามาสัมผัสตัวเกม และรู้สึกว่า ไปหาเกมที่เล่นได้ฟรีมาเล่นไม่ดีกว่าหรือ ก็ขอบอกว่า ... -ตอนนี้ Free-Trial ได้ถึง Level 60 และเนื้อหาของ Expansion แรกอย่าง Heavensward ตั้งแต่แพทช์ 5.3 ‘Reflections in Crystal’ นั้น ทางทีมพัฒนาเปิดกว้างและให้พื้นที่สำหรับคนที่อยากลองเล่นได้เข้ามาสัมผัสได้นานขึ้น เพราะตอนนี้ ตัวเกมหลักและ Expansion ตัวแรกอย่าง Heavensward สามารถเล่นได้ ‘ฟรี’ จนถึงเลเวล 60 ซึ่งพี่ๆ เพื่อนๆ สามารถไปหาโหลดลงทะเบียนได้ที่ https://freetrial.finalfantasyxiv.com/gb/ หรือบนระบบ Playstaion 4 ได้ที่ Store ของโซนอเมริกาและยุโรป ภายใต้เงื่อนไขสามประการ คือ… -ตัวละคร Free-Trial จะมีเงินติดตัวได้สูงสุด 300,000 Gil และใช้ Marketboard ซื้อขายไม่ได้ (ป้องกันการถล่มตลาด) -ตัวละคร Free-Trial ไม่สามารถ Add เพื่อนได้ด้วยตนเอง (แต่ให้ฝั่งผู้เล่น Add และชวนเข้าปาร์ตี้ได้) -ตัวละคร Free-Trial จะไม่สามารถรับ Tomestone (หน่วยเงินหลัง End-Game) ใดๆ ได้ ก็เป็นที่เข้าใจกันได้ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้ว อิสระทั้งหมด คุณจะเล่นเป็นเผ่าไหน อาชีพไหน ไม่มีจำกัด ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับคนที่อยากลองสัมผัส แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเล่นได้นานแค่ไหน และถ้าเล่นตัว Free-Trial แล้วติดใจ คุณสามารถซื้อตัวเกมมาเปลี่ยนสถานะเป็น Full Subscription เล่นต่อได้ทันทีโดยไม่เสีย Progress เดิมที่ทำไว้ นับว่า SQEN ใจกว้างในการนี้พอสมควรทีเดียว Final Fantasy XIV ก้าวข้ามผ่านปีที่ 7 เข้าสู่ปีที่ 8 อย่างท้าทาย จากวันที่มันเป็นเพียง ‘ซากแห่งความอัปยศ’ ของ SQEN ทีมงานของ Naoki Yoshida กอบกู้มันจากเถ้าถ่าน สรรสร้างอย่างประณีต และใส่หัวใจให้เต็มร้อยกับผลงานชิ้นนี้ และผู้เขียนก็เชื่อว่า มันจะเป็นหนึ่งในการผจญภัยที่ยาวนานและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับปณิธานของ Yoshida ที่กล่าวว่า เขาอยากทำเกมนี้ต่อไปอีกระดับสิบปี จนกว่าชีวิตจะหาไม่…   ‘และโลกแฟนตาซีอันรุ่มรวย สนุกสนาน และหลากหลายนี้ กำลังรอให้คุณไปสัมผัสอยู่ ไม่มีจังหวะไหนที่ดีไปกว่าตอนนี้อีกแล้วล่ะครับ!’

หลังจากที่แฟนๆ ต่างกำลังให้ความสนใจ และรอคอยการเปิดตัวในพาทที่ 2 ของเกม Final Fantasy 7 Remake อย่างต่อเนื่องเชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะลืมภาคต่อของเกมอย่าง Final Fantasy 16 กันไปบ้าง แต่ก็ได้มีข่าวลือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเกมออกมา เนื่องจากช่วงนี้ใกล้การเปิดตัวรายชื่อเกมที่จะลงบนเครื่อง PS5 อย่าง State Of Play นั้นอยู่ในช่วงการพิจรณารายชื่อเกมซึ่งบริษัท Square Enix เองมีสัญญาเกม Exclusive กับทาง SONY ตั้งแต่ Final Fatasy 7 ไม่แน่ว่าภาคต่อไปที่กำลังจะเปิดตัวอาจจะเป็น Final Fantasy 16 โดยแอบพัฒนามาตลอดและแฟนๆ นั้นไม่เคยรู้เลย จากงานเปิดตัวเกมอย่าง PS5 Games Showcase ได้เปิดตัวไปเราจะสังเกตุได้ว่าไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของตัวเกม Final Fantasy 16 ให้แฟนๆ ได้เห็นจนวินาทีสุดท้าย พวกเขาได้ทิ้งท้ายไว้เพียงว่า พวกเขาจะเปิดตัวเกมในงานที่ยิ่งใหญ่แบบนี้อีกครั้ง จึงทำให้หลายๆ คนต่างสันนิษฐานว่าเราอาจจะได้เห็นเซอร์ไพรส์ภายในงาน State Of Play ครั้งนี้ก็ว่าได้ รายละเอียดดังกล่าวเป็นเพียงแค่ข่าวลือจากการคาดเดาเท่านั้นทาง SONY ยังไม่ได้ประกาศรายละเอียดของเรื่องนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ทุกคนสามารถรอติดตามข่าวสารได้จากงาน State Of Play ที่จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 6 สิงหาคมนี้ Credit: Gamingbolt

จากบทสัมภาษณ์ผ่านสื่อของ Famitsu เกี่ยวเกม Final Fantasy VII Remake ที่ก่อนหน้านี่ได้เปิดเผยข้อมูลการทำงานภายในทีมในเรื่องของจุดจบของเกมที่ทางผู้พัฒนามีความเห็นต่างกัน ว่าอยากให้ตัวเกมใน Part หลังมีจุดจบแปลกใหม่มากขึ้น     ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันออกมาแล้วว่าตัวเกมกำลังมุ่งหน้าพัฒนาอย่างเต็มที่ ด้วยข้อความพร้อมภาพที่โพสบน Twitter ของ aitaikimochi ผู้แปลบทความจาก Ryokutya2089 ที่ทาง Tetsuya Nomura ผู้พัฒนา กล่าวถึงฟีเจอร์บางอย่างในเกมเกี่ยวกับตัวเกมออกมาเพิ่มเติม เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยอีกว่า     "พวกเรากำลังเร่งพัฒนาให้เร็วที่สุด และทำออกมาอย่างเต็มที่เพื่อมอบประสบการณ์บนโลก Final Fantasy สุดยิ่งใหญ่ให้กับแฟนๆ ที่รอคอย พวกเขาจะมอบภาพรวมไปถึงรายละเอียดตัวเกมอันสวยงามให้ตัวเกมเป็นงานที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น"     ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเกมเพิ่มเติมเลยว่าจะมีทิศทางไปทางใดกันแน่ ผู้เล่นอย่างเราคงต้องไปรอลุ้นกันในเกมต่อไปค่ะ         Credit: Gameinformer

หนึ่งในเกมที่ทุกคนต่างรอคอยในการเปิดให้แฟนๆ ได้เข้าไปเล่นกันต่อกับเกมแห่งปีที่จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก Final Fantasy 7 Remake ซึ่งมีข่าวลือ และรายละเอียดของตัวเกมออกมาตลอดเวลาทำให้ผู้คนต่างคาดหวังกับส่วนของ Part 2 ที่กำลังพัฒนาอยู่ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร     จากบทสัมภาษณ์ผ่านสื่อ Famitsu ที่ได้พูดคุยกับหนึ่งผู้พัฒนาเกมคุณ Tetsuya Nomura เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่าการทำงานภายในทีมเป็นไปอย่างราบลื่นไม่มีปัญหาภายในทีมตลอดระยะเวลาในการทำงานเลย ด้วยการวางแผนการทำงานที่ดี และการทำตามแผนงานตั้งแต่เริ่ม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทีมพัฒนาคือความเห็นต่างในเรื่องของเนื้อเรื่องตอนท้ายที่หลายๆ  คนอยากให้จุดจบแตกต่างออกไปจากเดิมเนื่องจากมีความเห็นว่าผู้เล่นใน Part แรกอาจคาดเดาเนื้อเรื่องใน Part ที่ 2 ได้     แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังไม่ได้มีการออกมายืนยันอย่างแน่ชัดว่าตัวเกมจะเปลี่ยนจากเดิมหรือไม่ ไม่แน่ว่าอาจจะได้เห็นเนื้อเรื่องที่ดูมีความเข้มข้นขึ้นจากบางส่วนที่ผู้พัฒนาตั้งใจอยากจะทำให้ผู้เล่นตื่นเต้นกับตัวเกมใน Part 2 มากกว่า Part ก็เป็นได้ ถือว่าผู้พัฒนาเองมีความใส่ใจในการพัฒนาอยู่ตลอดเวลายังไงก็คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ     Credit: Gamingbolt

จากที่ก่อนหน้านนี้มีข่าวว่า Square Enix ได้เปิดตัวเกม Final Fantasy Crystal Chronicles ที่จะทำการรีมาสเตอร์ หลังจากตัวเกมนี้เคยทำออกมาเมื่อหลายปีมาแล้วบนเครื่อง Nintendo Gamecube ล่าสุดมีรายละเอียดเพิ่มเติมในระบบของตัวเกมออกมาเพิ่มแล้ว !! จากโพสทวิตเตอร์ของทางผู้พัฒนา Final Fantasy Crystal Chronicles ฉบับรีมาสเตอร์ได้ถูกแปลโดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Robert Sephazon เนื้อหากล่าวว่าตัวเกมได้รับการยืนยันแล้วว่าจะไม่มีการเล่นแบบ multiplayer และ Co-op สาเหตุมาจากปัญหาการพัฒนา ซึ่งผู้เล่นหลายๆคนที่กำลังเล่นตัวเกมนี้ต่างก็คาดหวังให้มีระบบเล่นออนไลน์กลับมาดังเดิม Final Fantasy Crystal Chronicles จะพร้อมให้ทุกคนได้เล่นบนเครื่อง PS4 ,Switch และบนสมาร์ทโฟน ในวันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้ It has been confirmed that Final Fantasy: Crystal Chronicles Remastered does not offer offline/local multiplayer due to development reasons. https://t.co/YoSZ0UMvI2 — Robert Sephazon (@Sephazon) July 15, 2020 Credit: Gamingbolt

Final Fantasy เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ JRPG ชื่อดัง ที่อยู่คู่กับวงการเกมมานาน ในปีนี้เองก็เพิ่งจะมีการวางจำหน่าย Final Fantasy 7 Remake ไป ซึ่งในตอนจบของภาคนี้เนื้อเรื่องของเกมบ่งบอกอย่าชัดเจนว่าจะตัวเกมจะต้องมีภาคต่ออย่างแน่นอน แต่ในณะที่แฟนๆ กำลังรอการมาของพาร์ท 2 อย่างใจจดใจจ่อ ดูเหมือนว่า Final Fantasy 9 ก็มีสิทธิจะได้ไปต่อเช่นเดียวกันครับ! มันก็ 20 ปี แล้วหลังจากที่ Final Fantasy 9 วางจำหน่ายครั้งแรก ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา มันทำให้คุณ Toshiyuki Itahana ผู้เป็น Game Director กับ Character Designer ของภาคคิดได้ว่า "Final Fantasy 9 ยังสามารถทำเนื้อเรื่องต่อได้อีก" คำพูดดังกล่าวออกจากปากของเขาผ่านการสัมภาษณ์กับ RPG Site โดยนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของเขาเท่านั้น ทาง Square Enix ไม่ได้กำลังพัฒนา Expansion ใหม่ หรือ FF9 Remake อยู่แต่อย่างใด Final Fantasy 9  วางจำหน่ยแล้ววันนี้ Nintendo Switch, PlayStation 4, PlayStation, Android, Xbox One, iOS, และ PC Credit: GameRant

เหมือนกับหลายๆ วงการ โลกของวิดีโอเกมเองก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นกัน ผลกระทบนี้ทำให้การพัฒนาเกมหรือการให้บริการเกมล่าช้าลง และหนึ่งในเกมที่ได้รับผลนั้นก็คือ Final Fantasy VII Remake โปรดิวเซอร์ Yoshinori Kitase ให้สัมภาษณ์กับ The Guardian เกี่ยวกับสถานการณ์ภาคต่อของ Final Fantasy VII Remake เขากล่าวว่าเกมนี้ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นผลกระทบในระยะยาว ในปัจจุบันทีมพัฒนายังคงสร้างเกมต่อไป แม้ว่าประสิทธิภาพของการทำงานจะลดลงเพราะต้องทำงานทางไกล Kitase หวังว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะช่วยบรรเทาความเครียดของผู้คนที่ต้องใช้ชีวิตในช่วงเวลา Lockdown และมอบความเพลิดเพลินให้กับช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เมื่อต้นปีไม่นานหลังจากวางจำหน่าย Final Fantasy VII Remake ทีมพัฒนาก็ประกาศว่ากำลังทำภาคต่อของเกมดังกล่าว แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราก็ได้แต่หวังว่าภาคต่อของเกมนี้จะทำออกมาได้ดีเหมือนภาคแรกครับ Credit: Gamingbolt

เกมบางเกมสร้างขึ้นมาแล้วประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรก บางเกมค่อยๆ ดังตามกาลเวลา แต่มีเกมอีกประเภทหนึ่งครับที่เปิดตัวปุ๊ปเจอปัญหาเพียบ และถูกผู้เล่นวิจารณ์กันในด้านแย่ๆ แต่เชื่อมั้ยครับเกมเหล่านั้นได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาปรับปรุงแก้ไข จนทำให้มันกลับมาผงาดในโลกของวงการเกม ซึ่งเรามาดูกันครับว่าจะมีเกมอะไรบ้างที่เปิดตัวได้ย่ำแย่แต่ก็กู้ฐานแฟนคลับและแสดงสปริตของนักพัฒนากลับมาได้! Final Fantasy XIV Final Fantasy XIV เป็นอีกหนึ่งเกมที่จะเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาถึงความผิดพลาดที่บริษัท Square Enix เคยสร้างเกมซีรี่ส์นี้ขึ้นมา ซึ่งในช่วงแรกที่ออกมาในปี 2010 นั้น เกมนี้ถูกวิจารณ์ในแง่ลบเป็นวงกว้างทั้งจากนักวิจารณ์และเหล่าเกมเมอร์ มากขนาดที่บริษัทยอมเลื่อนวันจ่ายค่าบริการรายเดือนสำหรับสมาชิกเกมนี้ออกไปและยังทำการเปลี่ยนแปลงหลายๆ อย่างในเกม เช่น ปัญหาของเพลง ระบบการต่อสู้ ระบบอื่นๆ อีกมาก แต่สุดท้ายแล้วทีมพัฒนาจึงคิดได้ว่าปัญหาต่างๆ นั้นมันไม่ได้อยู่ที่ปลายเหตุ แต่อยู่ที่ต้นเหตุพวกเขาจึงโละทุกอย่าง เริ่มทำโครงการนี้และเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด จนกระทั่ง 3 ปีต่อมาครับ พวกเขาได้กลับมาโดยมีการใส่ชื่อเพิ่มมาว่า "A Realm Reborn" แต่ผลก็คือมันดีเกินคาดมากๆ Square Enix ได้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อเกมเมอร์ และผู้กำกับผู้อำนวยการอย่าง Naoki Yoshida ก็กลายเป็นตำนาน. World of Warcraft ในหัวข้อนี้ถือเป็นข้อที่หลายๆ คนมักจะบอกได้เต็มปากว่า ค่าย Blizzard มักจะทำให้เกมของพวกเขามีปัญหาบ่อยในช่วงเปิดตัว แต่พวกเขาก็เก่งในเรื่องก้ไขใส่ใจกับเกมเมอร์ทุกคน อย่างเกม“ World of Warcraft” เกมที่เปิดตัวในปี 2004 และมาด้วยปัญหามากมาย ไม่ว่าจะปัญหาของเซิร์ฟเวอร์ที่รับผู้เล่นไม่ไหวถูกดีดออกกันเกือบครึ่ง เกมเพลย์ที่ดูจะล้าสมัย หรือการถูกดีดออกจากเกมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสำหรับประสบการณ์เรื่องปัญหาเหล่านี้ ผมขอชมเลยว่า ค่าย Blizzard มีภูมิคุ้มกันที่ดีสามารถรับมือกับปัญหาเหล้านั้นได้ โดยพวกเขาได้ทำการปรับปรุงแก้ไขทุกอย่างจนเกมนี้กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ทั้งยังเป็นจุดกำเนิด ต้นกำเนิดของเกมดังหลายๆ เกมอีกด้วย หลักฐานยืนยันก็คือมีผู้ลงทะเบียนเกือบ สิบล้านคนในปี 2009 และไปแตะยอดนึ่งร้อยล้านคนในปี 2014. Warframe Warframe เป็นเกมที่เปิดตัวในปี 2013 ซึ่งตัวเกมก็ไม่ได้ดังมากในช่วงนั้นครับ ทั้งยังได้รับคำวิจารณ์จากนักวิจารณ์และผู้เล่นจำนวนมาก ในตอนนั้นผมก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าไปเล่นครับตัวเกมจะไม่ได้มีความหลากหลายอะไรมาก เพียงแค่เราเลือกดาว เลือกด่านและจอยเข้าไปเล่นกับผู้เล่นคนอื่นๆ สูงสุด 4 คนหน้าที่หลักๆ ก็คือกำจัดศัตรูและไปให้ถึงจุดหมายของเกม มันมีเท่านี้จริงๆ ครับในช่วงนั้น แต่พอเวลาผ่านไปผมกลับเข้าไปเล่นอีกครั้ง สิ่งที่ตกใจคือเกมมีอะไรที่เพิ่มเข้ามาเยอะมาทั้งระบบ PVP ระบบสู้ BOSS หรือดาวที่สามารถลงไปเพื่อพบปะกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ ซึ่งล่าสุดด้วยเหตุผลหลายๆ อย่างทั้งการโฆษณาและงานคุณภาพของเกมทำให้ในปี 2019 Warframe กลายเป็นหนึ่งในเกมยอดนิยมบน Steam และมีผู้เล่นมากถึงห้าสิบล้านคน! No Mans Sky เรียกได้ว่าในช่วงนั้นตัวอย่างการเปิดตัวของเกม No Mans Sky นั้นสร้างความผิดหวังให้กับเหล่าเกมเมอร์มากๆ หลังจากเกมวางจำหน่าย เพราะเกมนี้มีแต่โฆษณาที่เกินจริง สิ่งที่ขาดๆ เกินๆ มากมาย เช่น ไม่มีระบบออนไลน์แต่ตัวอย่างเหมือนจะมีระบบนั้น บั๊คเกมมหาศาล ระบบเกมที่ซ้ำๆ จำเจ ทำให้ช่วงนั้นกระแสด้านลบคะแนนใน Steam ลดลงเรื่อยๆ แต่แล้วผู้พัฒนาก็ไม่ยอมแพ้ครับ พวกเขาพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้นเช่น ใส่ระบบออนไลน์ ปรับปรุงเกมเพลย์ ยังมีการอัพเดทลูกเล่นต่างๆ อีกมากมาย ล่าสุดได้มีการรองรับระบบ VR ด้วยครับ บอกเลยว่าถึงแม้พวกเขาจะโฆษณาเกินจริงในช่วงแรก แต่ตอนนี้ผมขอเปลี่ยนเป็นใช้คำว่าดีเกินกว่าที่โฆษณาไว้! Star Wars Battlefront II ทุกคนน่าจะรู้จักกับคนว่า Free To Win / Pay To Win ใช่มั้ยครับซึ่งผมจะสรุปดราม่าของเกมนี้ให้สั้นๆ นะครับคือเกมนี้นอกจากเราจะต้องเสียเงินเพื่อเข้าไปเล่นเกมแล้ว ซึ่งมันก็ดูน่าจะเป็น Free To Win แต่เกมดังมีระบบสุ่มกล้องในเกมอีก! จนทำให้ผู้เล่นรวมตัวกันกล่าวหาเกมในแง่ลบในจำนวนมาก ซึ่งปัญหานี้ส่งผลหนักไปถึงค่ายเจ้าของภาพยนต์ การเมืองเรื่องการออกกฏหมายจะห้ามมีการซื้อขายในเกม ( ในกรณีเราซื้อเกมมาแล้ว! ) จนในปัจจุบันทาง EA ก็น้อมรับคำติเหล่านั้นและปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่างเช่น ระบบ Lootbox จะเป็นเพียงไว้สุ่มของตกแต่งเท่านั้น และปล่อยให้มีการอัพเดทฟรี! Halo: The Master Chief Collection ชุดเกม Halo ภาค1-4 นี้มีปัญหาที่หนักมากๆ ในช่วงแรกคือ การเชื่อมต่อที่ไม่เสถียรเลยและหลุดบ่อยมาก การจับคู่หาทีมก็ช้ามากๆ จนทำให้ทาง Microsoft  ต้องมาไถ่โทษลูกค้าด้วยการให้ Xbox Live Gold ฟรีหนึ่งเดือน และแถม DLC อย่าง Halo 3: ODST มาให้ฟรีๆ และหลังจากนั้นพวกเขาก็พยายามแก้ปัญหาการเชื่อมต่อจนสำเร็จและผู้เล่นก็กลับมาเล่นกันอย่างหนาแน่น ล่าสุดพวกเขาก็ทำการแฟลตข้ามไปยังร้านค้าอย่าง Steam  ( อย่าลืมนะครับว่าบางเกมพี่ Microsoft เขาจะวางขายแค่ร้านของพวกเขาเท่านั้น ) ที่สำคัญพวกเขาใส่ Halo Reach เข้าไปในคอลเลกชั่นอีกด้วย. Street Fighter V การสร้าง Street Fighter V ในช่วงนั้นเรียกได้ว่ามีความคาดหวังจากแฟนๆ ที่สูงมากครับ แต่ด้วยความกดดันและรีบร้อนในการทำเกมทำให้ช่วงแรกเกมทำออกมาได้ไม่ได้ ตัวเกมเหมือนจะขาดเนื้อหาของโหมดเนื้อเรื่องมากพอสมควร ไหนจะเซิร์ฟชอบมีปัญหาอีกและ DLC ที่ราคาแพงเกินไป สิ่งนี้ทำให้ผู้ผลิตเกมอย่าง Yoshinori Ono ออกมายอมรับถึงเกมนี้ว่ามันไม่ใช่เกมที่สมบูรณ์แบบ แต่พวกเขาไม่ใช่เพียงออกมายอมรับ พวกเขายังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาของเกมในด้านต่างๆ ทั้งเรื่องความเสถียรของเซิร์ฟเวอร์ เพิ่มโหมดเนื้อเรื่องให้มากขึ้น และใส่ตัวละครใหม่ๆ เข้ามา จนได้เปิดตัวภาค “Arcade Edition” ออกมาให้เราเห็นกันครับ. Sea of Thieves อีกเกมที่ไม่น่าจะทำออกมาพลาดได้อย่างเกม Sea of Thieves ของค่ายพัฒนา Rare เกมได้รับกระแสด้านลบจากนักวิจารณ์และเกมเมอร์ว่าขาดเนื้อหาและมีเจอปัญหาเยอะ ทำให้ช่วงแรกๆ เกมถูกผู้เล่นหลายๆ คนเบื่ออย่างรวดเร็ว เพราพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอะไร ยังมีปัญหาด้านเซิร์ฟเวอร์ที่ล่มบ่อยด้วย แต่แล้วผู้พัฒนาได้เพิ่มลูกเล่นด้วยโหมดใหม่ Tall Tales, Arena และ Hunters Call ทำให้เกมมีความาหลากหลายในการเล่นมากขึ้น และยังมีการอัพเดทเรื่อยๆ ในอนาคตแน่นอน. Diablo III เกมตำนานภาคต่อที่เปิดตัวในปี 2012 ค่าย Bizzard อีกแล้วครับท่านเปิดตัวมาก็โดนเลยครับ ผู้เล่นส่วนใหญ่เข้าเกมกันไม่ได้ และที่สำคัญระบบบางอย่างที่เป็นสเนห์ของเกมทางค่ายก็ดันไปตัดออกเฉยเลย ด้วยเหตุนี้ทำให้เกมถูกร้องเรียน แต่ทางค่ายก็ดื้อดึงที่จะยังไม่ทำการคืนเงินแก่ผู้เล่นที่เจอปัญหาเหล่านี้ พวกเขาเร่งแก้ไขและเพิ่มระบบใหม่ๆ ( ของเดิมที่ลบไปก็เอากลับเข้ามาครับ55 ) จนทำให้ผู้เล่นหน้าเก่าต้องกลับมาเล่นอีกครั้ง และดึงดูดผู้เล่นใหม่ๆ ได้ ซึ่งในปี 2015 เกมสามารถวางขายได้มากถึง 30 ล้านฉบับเลยทีเดียวครับ.

เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเปิดตัวทดลองเล่นของเกม Final Fantasy Crystal Chronicles: Remastered Edition ทางผู้พัฒนาเลยใจดี เปิดให้ผู้เล่นที่สนใจเข้าไปร่วมทดลองพร้อมกับเพื่อนๆ ได้ฟรี !! ตัวเกมเวอร์ชั่นทดลองจะให้ผู้เล่นได้ตะลุย 3 ดันเจี้ยนแรกของเกมพร้อมกับเพื่อนๆ สูงสุด 4 คน ก่อนที่ตัวเกมจะพร้อมให้ได้เล่นกันในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคม หากต้องการเล่นเกมอย่างต่อเนื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวล ผู้ที่เล่นตัวเกมเวอร์ชั่น Demo จะสามารถเล่นตัวเกมต่อได้ทันทีในตอนที่เกมออกตัวเต็มมา หากมองภาพให้เข้าใจมากขึ้นคือหากเราเข้าร่วมดันเจี้ยนที่ 3 ไปแล้วเราก็จะผ่านดันเจี้ยนนั้นๆ ในตัวเกมเวอร์ชั่นเต็มด้วยนั่นเองถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยหล่ะ Final Fantasy Crystal Chronicles Remastered Edition สามารถเล่นได้บนเครื่อง Nintendo Switch, PlayStation 4 พร้อมทั้งสมาร์ทโฟน ระบบ Android และ Apple iOS ในญี่ปุ่น และอเมริกาเหนือ วันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้ Credit: Siliconera

ปัจจุบันนี้มีเกมดีๆ ออกมากมายสนุกทั้งในเกมเพลย์ เนื่อเรื่อง เสียงเพลง หรือกระทั่งความอลังการของงานภาพ แต่เกมบางเกมเราไม่สามารถเล่นกับเพื่อนได้! มีหลายเกมที่ใส่โหมด Co-op แล้วมีปัญหาตามมามายครับ แต่ถ้าสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ การที่เราสามารถเล่นเกมที่ดี และที่เรารักกับเพื่อนๆ ได้มันจะมีความสนุกขนาดไหนกันครับลองคิดดู วันนี้เรา GameFever TH ได้นำ 10 เกมออฟไลน์ที่ควรจะมีโหมดผู้เล่นหลายคน ( จะเป็นภาค DLC หรือภาคต่อไปผมเชื่อว่าแฟนๆ ร้องดีใจลากเพื่อนมาเล่นด้วยแน่นอนครับ ) เรามาดูกันครับว่ามีเกมอะไรบ้าง. 1.Horizon Zero Dawn Horizon Zero Dawn ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมล่ามอนส์สุดมันอย่างเกม Monster Hunter  ซึ่งนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทางเกมได้แสดงเคารพของพวกเขาด้วยการให้ Aloy ตัวเอกของเรื่องเข้าไปเป็นสกินในเกม Monster Hunter บน PS4  ซึ่งถ้าเกมนี้สามารถเล่น Online หรือ Co-op ได้บอกเลยว่าเราจะสนุกไปกับดารล่าหุ่นยนต์ไดโนเสาร์กับเพื่อนๆ แน่นอนเรียกได้ว่า ให้ความรู้สึกเหมือน Monster Hunter เลยนะครับ. 2.The Legend Of Zelda: Breath Of The Wild Legend Of Zelda: BreathOf The Wild ภาคแรกก็ให้เสียงตอบรับที่ดีแล้ว ซึ่งล่าสุดมีแฟนๆ จำนวนมากเห็นคลิปวีดีโอเปิดตัวตัวอย่างภาค 2 ทำให้เห็นว่า Link และ Zelda ออกเดินทางผจญภัยไปด้วยกัน ลองคิดดูว่าถ้าเราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ สามารถช่วยกันปราบมอนส์เตอร์ และสำรวจ Hyrule เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลย. 3.Final Fantasy VII Remake สำหรับเกม Final Fantasy VII Remake ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ ในบรรดาแฟนๆ และหมู่นักวิจารณ์แต่มีความเห็นจากนักวิจารณ์บางกลุ่ม แนะนำว่า Final Fantasy VII Remake ควรมีโหมดผู้เล่นหลายคน ลองนึกภาพเรากับเพื่อนๆ ร่วมกันทำภารกิจบุกเมือง Midgar แล้วทำการบุกยึดเตาปฏิกรณ์ Shinra ในฐานะสมาชิก Avalanche ซึ่งบอกเลยว่าทั้งดูเท่ และมันแน่นอน ยิ่งถ้าเราเล่นกันแบบเป็นงานมีการออกคำสั่งคนนึงเก็บซ้าย เก็บตัวขวา บอกเลยว่าโึคตรเท่! 4.Middle-Earth: Shadow Of War เรียกได้ว่า Middle-Earth: Shadow Of War เป็นหนึ่งในเกมที่ไม่มีค่ายไหนสามารถพยายามที่จะเลียนแบบระบบของเกมนี้ได้เลย สำหรับคนที่รู้จักจะพอเข้าใจนะครับว่าเป็นนี้มันมีรายละเอียดเยอะมากๆ อันดับต้นๆ ของเกมแนวนี้เลยก็ว่าได้ครับ แล้วทีนี้มันจะเจ๋งแค่ไหนครับ ถ้าผู้พัฒนาจะเปิดโหมดใหม่หรือสร้างโหมดผู้เล่นหลายคนให้เราสามารถไปยึดถิ่น หรือรวบรวมกองทัพOrcs ของตัวเองยกทัพไปตีกันเอง หรือรวมมือกันหลายๆ กองทัพแล้วไปถล่มศัตรู โคตรเท่ โคตรอลังการ! 5.Marvel’s Spider-Man Marvel’s Spider-Man ถือว่าทำหลายๆ ส่วนได้ดีในหมดเกมแนว Spider-Man และมีผู้เล่นบางคนเอาเขาไปลง Mod ใน Grand Theft Auto V จึงได้มีหลายๆ คนเสนอแนวคิดของโหมดผู้เล่นหลายคน เช่น ให้ทีมหนึ่งอยู่ในกลุ่มอันธพาลเป็นวายร้าย ทีมหนึ่งเป็น Spider-man คอยขวัดขวางไม่ให้วายร้ายก่อเหตุสำเร็จ ซึ่งแนวคิดหลายๆ อย่างที่แฟนๆ เสนอไปผมเชื่อว่าทางผู้พัฒนาจะนำไปปรับปรุงและทำให้เกมเหล่านี้มีโหมดออนไลน์แน่นอนครับ. 6.Valkyria Chronicles 4 Valkyria Chronicles 4 ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าถ้าเกมนี้สามารถเล่นกับเพื่อนได้มันจะเพิ่มความสนุกได้หลายเท่าตัวเลยครับ เกมนี้จะเป็นเกมผสมกันระหว่าง กลยุทธ์ RPG Real-time Turn-Base เป็นเกมที่ผสมเยอะแต่ลงตัวครับ นึกภาพเราอยู่ในสนามรบจริงๆ มีเวลาคิดจำกัดต้องสื่อสารกันดีๆ ทุกฝีก้าว ซึ่งถ้าใครไม่เชื่อฟังความเห็นของเพื่อน หรือของหัวหน้าความซวยมาเยือนแน่นอนครับ แต่ซวยทั้งทีม เห็นมั้ยครับว่าแค่คิดก็สนุกแล้ว ถึงแม้ว่าเกมนี้จะออกมานานแล้ว แต่ในอนาคตถ้ามีภาค5 ผมเชื่อเลยครับว่าผู้พัฒนากำลังหาทางใส่โหมด Co-op ลงไปแน่นอนครับ. 7.Just Cause 4 ซีรีส์นี้สร้างขึ้นจากแนวคิดของการสร้างความโกลาหลด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ที่จะทำให้ภาพยนตร์แอ็คชั่นกลิ่นอายยุค 80 แล้วจะเป็นยังไงครับถ้าคนที่จะมาสร้างความวอดวาย ความโกลาหลมีมากกว่าหนึ่งคน โดยการชวนเพื่อนมาทำภารกิจ แต่ว่าเรื่องนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ครับ สำหรับเกมนี้เพราะถ้ามีผู้เล่นเพิ่มมาอาจจะทำให้เรื่องกราฟฟิค หรือเรื่องเกมเพลย์ที่สนุกน้อยลง ดังนั้นเราต้องมารอดูในอนาคตว่าผู้พัฒนาจะตัดสินในกับเรื่องนี้อย่างไรครับ. 8.Sekiro: Shadows Die Twice FromSoftware ค่ายที่สร้างสรรค์ผลงานเกมตระกูล Dark Souls มามากมาย หนึ่งในนั้นก็มีเกม Sekiro: Shadows Die Twice แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือเกมนี้ไม่มีโหมด Co-op หรือโหมดออนไลน์เหมือนกับเกม Soul อื่นๆ แต่ผู้พัฒนาหันมาโฟกัสที่ระบบเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ที่เพิ่มความเร็วขึ้นมากกว่าเกมอื่นๆ ในซีรี่ส์ แต่ถ้าลองคิดๆ ดูนะครับเวลาเราเจอบอสยักษ์ใหญ่ โหดๆ แล้วอยากได้เพื่อนซักคนมาคอยรุกคอยรับช่วยเราจะเป็นอะไรที่สนุกไปอีกระดับนึงเลยนะครับ ยิ่งถ้ามีลานประลองฝีมือก็ยิ่งได้วัดสกิลเพลย์กันได้ด้วย! 9.Shadow Of The Colossus Shadow Of The Colossus เป็นเกมที่มีเนื้อหาและเกมเพลย์ที่น่าสนใจ ถ้าเราสามารถสามารถต่อสู้กับเหล่ายักษ์ใหญ่ในเกมกับเพื่อนๆ ได้ล่ะครับมันจะเป็นยังไง คงได้ได้อารมณ์แบบเกม Monters Hunter ระดับนึงเลยแต่เกมนี้จะแฝงไปด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่จะทำให้แตกต่างจากเกมอื่นๆ ซึ่งหวังหว่าในอนาคตที่เครื่อง PS5 ออกวางจำหน่ายเกมนี้จะมีภาคใหม่ๆ ที่มีระบบออนไลนฺ์ให้เราร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ได้นะครับ. 10.Resident Evil 3 Remake อีกหนึ่งเกมที่ควรจะมีโหมด Co-op มากๆ ครับเพราะนอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นแล้ว เรายังได้เห็นความแอบหวานของจิลกับคาร์ลอส ซึ่งถ้าเราสามารถเล่นกับเพื่อน หรือเล่นกับแฟนอาจจะสนุกไม่ใช่น้อยเลยครับ ขอแค่โหมดเนื้อเรื่องซักนิด Mini-Games ซักหน่อยเหมือน Resident Evil 7 หลังจากเคลียร์เกม มีนักวิจารณ์บางท่านบอกมาว่าถ้าเป็นไปได้ก็ทำให้มีโหมด Co-op ในเกมไปเลยอาจจะเพิ่มความสนุกและโอกาสที่จะทำให้เกมเมอร์กลับไปเล่นซ้ำได้มากกว่าการทำ Project Resistance แบบออนไลน์เพราะตัวเกมภาคนี้สนุกก็จริง แต่ไม่ได้มีเนื้อเรื่องหรือความต่อเนื่องในการเล่นเท่าไหร่นัก ซึ่งหวังว่าในอนาคต resident evil ภาคต่อๆ ไปจะมีโหมด Co-op ให้เล่นกับเพื่อนได้ แบบนี้มีตกใจขว้างจอยพร้อมกันแน่นอนครับ555 Credit: Gamerant

Final Fantasy VII Remake เพิ่งวางจำหน่ายไปช่วง ต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ FF ภาคเดียวที่ได้วางจำหน่ายในปีนี้ครับ เพราะล่าสุดได้มีข่าวออกมาแล้วว่า Final Fantasy Crystal Chronicles Remastered Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้ครับ แน่นอนขึ้นชื่อว่าเป็นภาค Remastered ตัวภาพ กราฟิก และเสียงของเกมต่างได้รับการทำใหม่ จนสวยงามยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช้แค่นั้นเพราะตัวเกมเวอร์ชั่นนี้จะมีระบบ Cross-Play กับ Cross-Save ให้เราสามารถเล่นกับเพื่อนบนเครื่องอื่นๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มดันเจี้ยนใหม่เข้ามาให้ท้าทายมากมายเลยด้วย ใครเป็นแฟนเกมนี้คงต้องบอกว่าห้ามพลาดครับ Final Fantasy Crystal Chronicles Remastered Edition จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 สิงหาคม 2020 นี้บนเครื่อง Nintendo Switch, PlayStation 4, Android และ Apple iOS. Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Final Fantasy VII Remake เรียกได้ว่าเป็นเกม RPG ดังจากยุคเก่าที่กลับมาได้อย่างสมศักดิ์ศรีจริงในปี 2020 ตัวเกมเรียกได้ว่าทำออกมาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่อง, เกมเพลย์, กราฟิก, หรือเพลงประกอบ ซึ่งล่าสุดเราก็สามารถซื้อเพลงประกอบของเกมมาฟังได้แล้ว ทั้งในรูปแบบ CD และไฟล์ Digital ครับ! เพลงประกับเวอร์ชั่น CD สามารถสั่งซื้อได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ Square Enix Store ในราคา $77.77 ที่ตอนนี้ขึ้นว่าของขาดตลาดอยู่ แต่ที่ใครไม่อยากรอ ก็สามารถซื้อเพลงเหล่านี้ในรูปแบบไฟล์ Digital ผ่าน Amazon Music Store, Google Play Store, และ iTunes ได้เช่นกัน สามารถฟังแบบ Online ได้ถ้าหากเป็นสมาชิกของ Apple Music แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถฟังผ่าน Spotify ได้ครับ Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 2 เดือนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าหลายคนน่าจะเล่นเกมนี้จนเคลียร์ และพบว่าเนื้อเรื่องของเกมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมพอสมควร ทำให้เราไม่รู้แล้วว่าใน Part ต่อไปที่จะออกมา เนื้อเรื่องของเกมจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่เหมือนว่าตอนแรกโปรดิวเซอร์ของเกมจะอยากให้เนื้อเรื่องมันแตกต่างจาก Original มากกว่านี้อีกครับ! Yoshinori Kitase ผู้เป็นโปรดิวเซอร์ของเกมได้เปิดเผยกับ Push Square ว่า ในตอนแรกตัวเขาตั้งใจที่จะให้เนื้อเรื่องมันแตกต่างไปจาก Original มากกว่านี้ แต่ว่าไดเร็กเตอร์ทั้งสองคุณ Tetsuya Nomura กับ Naoki Hamaguchi คิดว่าควรให้ความเคารพเนื้อเรื่อง Original และรักษามันไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้เนื้อเรื่องของเกมมันออกมาอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: GamingBolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

นับเป็นข่าวดีสำหรับคนที่ชอบเล่นเกม MMORPG ครับ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า Final Fantasy XIV จะเปิดให้เล่นฟรีจนถึงวันที่ 26 พฤษภาคม 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 ดังนั้นสำหรับคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสหนึ่งใน MMORPG ยอดเยี่ยมของโลกอย่างเกมนี้มาก่อน ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ! ตัวเกมเวอร์ชั่นที่จะเปิดให้เข้าไปเล่นได้ฟรีนั้น จะเป็นเพียงแค่ Final Fantasy XIV: A Realm Reborn หรือก็คือจะไม่มีคอนเทนต์ของ  Heavensward, Stormblood, และ Shadowbringers ให้ทดลองเล่นด้วย และน่าเสียดายที่ดูเหมือนว่าผู้เล่นโซนอเมริกาเหนือจะไม่สามารถเข้าไปทดลองเล่นในครั้งนี้ด้วยได้ แต่บ้านเราเล่นได้ไม่มีปัญหาครับ Final Fantasy XIV วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4 และ PC Credit: Gematsu สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

บทความนี้อาจจะมีเนื้อหาสปอยเนื้อเรื่องของเกม Final Fantasy 7 Remake เชื่อว่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่น่าจะได้สัมผัสกันไปแล้วกับเกม Final Fantasy 7 Remake เกม JRPG สุดคลาสสิค ที่คืนชีพขึ้นมาใหม่ด้วยเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่พัฒนาขึ้นจากเมื่อยีสิบกว่าปีที่แล้วอย่างลิบลับ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว จะมีแฟนๆ บางส่วนที่ไม่ค่อยพอใจกับช่วงตอนจบ ที่ดูจะเปลี่ยนแปลงทิศทางของเนื้อเรื่องเกมไปอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบตอนจบ เชื่อว่าทุกคนที่ได้เล่นเกมก็คงแอบรอดูภาคต่อไปของเกมอย่างจดจ่อไม่แพ้กันอย่างอย่างแน่นอน แต่ดูเหมือนว่าในขณะนี้ แม้แต่ผู้พัฒนาก็ยังไม่สามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าเกมภาคสองจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ อ้างอิงจากบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับร่วมสองคน คุณ Motomu Toriyama และ Naoki Hamaguchi และผู้กำกับระบบต่อสู้คุณ Teruki Endo ในหนังสือ Final Fantasy VII Remake Ultimania ที่เปิดเผยว่าในขณะนี้ เกม FF7R ภาคสองยังคงอยู่ในกระบวนการวางแผนเท่านั้น และยังไม่มีการตัดสินใจอะไรแน่นอนเกี่ยวกับเกมภาคใหม่ Here is Part 8 of the #FF7RUltimania interview with Toriyama (Co-Director), Hamaguchi (Co-Director), and Endo (Battle Director) where they talk about plans for the next installments world. Im translating this interview in random order, so parts will be uploaded sporadically! pic.twitter.com/cQAhVmD9Go — ☆オードリーAudrey☆ (@aitaikimochi) May 3, 2020 "เกมภาคแรกนั้นตั้งอยู่ในเมือง Midgar ทั้งหมด ซึ่งเป็นส่วนที่ผมรับผิดชอบในเกมภาคต้นฉบับด้วย ผมจึงจำเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน Midgar ได้ขึ้นใจเลย แต่ในเกมภาคใหม่นี้ เราจะให้ผู้เล่นได้ออกไปสำรวจนอกเมือง Midgar แล้ว ซึ่งผมยอมรับว่าตัวผมเองจำเนื้อเรื่องหลังจาก Midgar ไม่ค่อยได้แล้ว ผมจำได้ว่าพวกตัวเอกจะเดินทางไปยังเมืองที่ชื่อว่า Kalm ต่อไป แต่ระหว่างทางเกิดอะไรขึ้นบ้าง อันนี้คงต้องไปเล่นเกมดั้งเดิมทวนความจำซะก่อน" คุณ Toriyama กล่าว ด้วยสเกลของเกม ที่ถูกปรับให้กว้างใหญ่ขึ้นกว่าเกมภาคต้นฉบับหลายเท่า ย่อมทำให้การออกแบบโลก Open World ของเกมภาคต่อมีความท้าทายตามไปด้วย ซึ่งคุณ Hamaguchi กล่าวว่าทีมพัฒนาอยากจะทำให้โลกของเกมมีความกว้างใหญ่ไพศาล เพื่อให้ผู้เล่นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของการผจญภัยจริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน โลกก็ต้องไม่ใหญ่เกินไปจนเป็นอุปสรรคกับเนื้อเรื่อง ซึ่งเป็นจุดสมดุลที่ทีมพัฒนายังหากันอยู่ในช่วงนี้ สุดท้ายนี้ เมื่อถูกถามถึงความคาดหวังของผู้พัฒนาต่อเกมภาคต่อไป ทางคุณ Hamaguchi กล่าวว่าเขายังคงอยากให้เกมภาคต่อไปสามารถสร้างความรู้สึกตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เล่นได้ไม่ต่างกับเกมภาคแรก โดยเขาอยากจะเพิ่มระบบใหม่ๆ ที่จะทำให้เกมภาคต่อแตกต่างจากเกมภาคแรก แต่จะเป็นอะไรกันแน่นั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไปอีกยาวๆ เลยจ้า! Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วสำหรับ PS4 โดยเฉพาะ สำหรับคนที่ยังไม่ได้สัมผัสเกม สามารถอ่านรีวิวของเราได้ตามลิงค์ นี้ ส่วนคนที่เล่นจบแล้ว อยากจะร่วมพูดคุยกันเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของซีรี่ส์ สามารถเข้าไปอ่านบทวิเคราะห์ตอนจบเกม (คลิ๊ก) และบทความเปิดประวัติตัวละคร Zack Fair (SOLDIER ผมดำในนิมิตของ Cloud) ของเราได้ ที่นี่ Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

แม้จะไม่ใช่ภาคที่ถูกกล่าวถึงเท่าไหร่นัก แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะไม่รู้ก็คือเกม Final Fantasy III มีความสำคัญต่อซีรี่ส์ Final Fantasy โดยรวมอย่างมาก ในฐานะเกมที่บุกเบิกระบบเกมเพลย์และองค์ประกอบที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของเกม Final Fantasy ภาคต่อๆ มาหลายอย่างด้วยกัน เพื่อฉลองวันครบรอบ 30 ปีวันวางจำหน่ายเกม Final Fantasy III (วันที่ 27 เมษายน 1990) ทางผู้พัฒนา Square Enix ได้ปล่อยยทความสัมภาษณ์อดีตผู้พัฒนาตำแหน่งดีไซเนอร์ (ผู้ออกแบบระบบ) ของเกมคุณ Hiromichi Tanaka ผู้ซึ่งเปิดเผยแรงบันดาลใจ และที่มาขององค์ประกอบหลายๆ อย่างของเกม ที่กลายเป็นลายเซ็นของ Final Fantasy มาจวบจนทุกวันนี้ ซึ่งหลายข้อมีความน่าสนใจ และอาจจะคาดไม่ถึงสำหรับแฟนๆ ของซีรี่ส์อีกด้วย! (แปลจากบทความต้นฉบับโดย Kotaku) Moogle: ตัวละครธรรมดา ที่กลายเป็น Mascot โดยไม่ตั้งใจ หนึ่งในเอกลักษณ์ของจักรวาล Final Fantasy ที่ถูกบุกเบิกโดยเกม Final Fantasy III คือตัว Moogle ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในมาสคอตหลักของซีรี่ส์ Final Fantasy ในความทรงจำของเกมเมอร์หลายๆ คน (เคียงบ่าเคียงไหล่กับน้อง Chocobo) สิ่งที่หลายคนอาจจะไม่รู้คือทีมพัฒนาเกม Final Fantasy III ไม่เคยตั้งใจจะให้เหล่า Moogle กลายเป็นตัวละครที่รักใคร่ของแฟนๆ เลยซักนิด โดยคุณ Tanaka เล่าว่าเผ่า Moogle ที่พบได้ในเกม ถูกใส่เข้าไปเพียงเพราะทีมอยากให้ผู้เล่นได้พบกับชนเผ่าอะไรซักอย่างซึ่งอาศัยอยู่ในถ้ำ จึงเป็นที่มาของปีกค้างคาวอันเป็นเอกลักษณ์ของมันนั่นเอง "คือ จะว่ายังไงดีล่ะ เท่าที่ผมจำได้ พวก Moogle ไม่ใช่ตัวละครที่เราให้ความสำคัญหรือสนใจมันเท่าไหร่เลยด้วยซ้ำ พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มตัวละครอีกกลุ่มหนึ่งที่เราใส่เข้าไปในเกม และเราใส่พวกเขาเข้าไปแค่เพราะเราอยากให้ผู้เล่นได้พบกับตัวละครอะไรซักอย่างในสถานที่นั้นเท่านั้นเอง พวก Moogle เป็นเพียงแค่ชนเผ่าที่อาศัยในถ้ำเท่านั้น โดยเราไม่เคยคาดหวังว่ามันจะกลายเป็นมาสคอตอย่างทุกวันนี้" คุณ Tanaka กล่าว [caption id="attachment_52733" align="aligncenter" width="800"] ภาพวาดตัว Moogle จากเกม Final Fantasy III[/caption] ระบบมนต์อสูร และท่า Zantetsuken ของ Odin อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของ Final Fantasy ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในเกมภาค 3 คือระบบมนต์อสูรหรือ Summon นั่นเอง โดยในเกม Final Fantasy III จะเปิดให้ตัวละครบาง Job Class สามารถเรียกอสูรอย่าง Ifrit, Bahamut หรือ Leviathan ออกมาช่วยโจมตีได้ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือท่าโจมตีสุดยอดของมนต์อสูร Odin หรือ Zantetsuken ที่แสดงให้เห็นตัวละครศัตรูถูกฟันขาดเป็นสองส่วน ซึ่งถือเป็นลูกเล่นทางกราฟฟิคที่สุดยอดมากในยุค NES/Famicom ที่เกมวางจำหน่าย คุณ Tanaka อธิบายว่าในช่วงนั้น Square (ในสมัยก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น Square Enix) กำลังพัฒนาเกมสำหรับทีวีที่ใช้เทคโนโลยี CRT ซึ่งทำให้สามารถขยับชิ้นส่วนบนหน้าจอแยกกันเป็นเส้นๆ ได้ พวกเขาจึงตัดสินใจใช้เทคนิคนี้ให้เป็นประโยชน์ด้วยการเลื่อนตัวมอนส์เตอร์ออกจากกัน เพื่อสร้างเอฟเฟกต์ของการถูกเฉือนเป็นสองท่อน เหตุผลดังกล่าวยังเป็นสาเหตุที่พื้นหลังในฉากต่อสู้เป็นสีดำทั้งหมดยกเว้นตรงด้านบนสุดนิดเดียว เพราะถ้าฉากด้านหลังโมเดลศัตรูมีรายละเอียดมาก เมื่อขยับร่างกายศัตรู ชิ้นส่วนในฉากก็จะขยับตามไปด้วย ทำให้ไม่ได้เอฟเฟกต์ที่ต้องการ จาก Class System ธรรมดา สู่ Job System อันเลื่องลือ แม้ในเกม Final Fantasy I จะมีระบบ Class เบื้องต้น ที่ให้ผู้เล่นสร้างปาร์ตี้ 4 คนจากตัวละคร 6 คลาส (แต่ละคลาสสามารถพัฒนาเป็นคลาสใหม่ได้อีกคลาสละ 1 ขั้น) ที่ให้เลือกตอนต้นเกม แต่ Final Fantasy III คือเกมภาคแรกที่ตีความระบบนี้ใหม่ให้กลายเป็นระบบ Job System ของจักรวาล Final Fantasy นั่นเอง หนึ่งในความท้าทายของการพัฒนาระบบ Class ให้ลึกขึ้น ทำให้ผู้พัฒนาจำเป็นต้องคิดหาวิธีในการทำให้แต่ละคลาสมีจุดเด่นของตัวเอง เช่น Black Mage ก็จะสามารถใช้เวทย์โจมตีได้ หรือ Thief ก็จะสามารถขโมยได้ เป็นต้น แต่สำหรับ  Dragoon นั้น ผู้พัฒนาเลือกให้จุดเด่นของจ๊อบเป็นท่าโจมตี Jump ซึ่งกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของจ๊อบ Dragoon ตลอดมา แต่อย่าถามนะว่าทำไมคลาส Dragoon (ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากชื่อหน่วยทหารม้าในยุคกลาง) เกี่ยวอะไรกับท่า Jump เพราะแม้แต่คุณ Tanaka ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน "พอมามองย้อนกลับไป ผมและเพื่อนร่วมงานก็ยังสงสัยกันอยู่ว่าทำไมเราถึงเลือกให้ท่า Jump กลายเป็นจุดเด่นของจ๊อบ Dragoon" คุณ Tanaka กล่าวพร้อมกับหัวเราะ [caption id="attachment_52734" align="aligncenter" width="860"] Cain จาก Final Fantasy IV[/caption] "ผมว่าไม่ใช่อะไรหรอก มันคงเป็นไอเดียชั่ววูบที่เราคิดกันขึ้นมาได้กลางดึกซักคืนหนึ่ง ผมว่าเราคงจินตนาการถึงพวก Dragoon ต้องกระโดดจับขามังกร ก่อนจะทิ้งตัวกลับมาบนพื้นอะไรทำนองนั้นแหละ ผมว่าไอเดียเดิมของคุณ Koichi Ishii (ผู้ออกแบบระบบ Job) อาจจะตั้งใจให้ Dragoon มีความเป็นทหารม้าเหมือนกับที่มามากกว่า แค่ว่าสุดท้ายเราจัดสินใจเปลี่ยนม้าเป็นมังกรเท่านั้นเอง" ยิ่งเกมมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาจะเริ่มกล้าพูดถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของเกมเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งบทสัมภาษณ์ของคุณ Hiromichi Tanaka ถือเป็นตัวอย่างของการได้เข้าถึงเบื้องหลังของเกมคลาสสิคที่เราอาจไม่เคยได้รู้มาก่อน และอิทธิพลของเกมสมัยก่อนต่อเกมที่เรารู้จักทุกวันนี้อีกด้วย Final Fantasy III วางจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 27 เมษายนปี 1990 สำหรับเครื่อง NES/Famicom และมีภาค Remake ใหม่ทางมือถือ iOS, Android Credit: Kotaku  สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้ 20 วันแล้ว ซึ่งคงต้องยอมรับว่า FF7 Remake เป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีมากเลยทีเดียว ไม่ใช้แค่เกมเพลย์ กับเนื้อเรืองเท่านั้นที่ทำออกมาได้ดี แต่เพลงประกอบของเกมเองก็เรียกได้ว่าทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ เช่นกัน ไม่ใช้เรื่องแปลกเลยที่จะมีการจัดคอนเสิร์ต Orchestra โดยนำเพลงในเกมมาเล่นสดให่ฟังด้วย ซึ่งตอนแรกตัว Final Fantasy 7 Remake Orchestra World Tour มีกำหนดจะไปขึ้นแสดงในหลายๆ ประเทศช่วงปี 2020 นี้ แต่เพราะการระบาดของ COVID-19 ก็เลยดูเหมือนว่า การขึ้นแสดงจะต้องถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 แทนในบางพื้นที่ครับ! รายชื่อของโชว์ที่ต้องถูกเลื่อนวันขึ้นแสดงออกไปเป็นปี 2021 แทนนั้นตอนนี้มี 3 โชว์ด้วยกัน ซึ่งทางเราก็ได้ทำการสรุปไว้ให้แล้วข้างล่างนี้ ว่างานไหนบ้างที่ถูกเลื่อนออกไป และเลื่อนออกไปเป็นวันที่เท่าไหร่ครับ The Los Angeles จากวันที่ 14 มิถุนายน 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 6 มีนาคม 2021 The Toronto, Ontario จากวันที่ 26 และ 27 มิถุนายน 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 20 และ 21 พฤษภาคม 2021 Singapore จากวันที่ 4 กรกฎาคม 2020 เลื่อนไปเป็นวันที่ 23 มิถุนายน 2021 แทน Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Siliconera สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!  

ในยุคสมัยของ PlayStation 1 วงการวีดีโอเกมก็ได้เข้าสู่ยุคสมัยของกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น ซึ่งในปี 1997 เกม Final Fantasy VII ก็ได้แสดงให้ชาวเกมเห็นถึงกราฟฟิคที่สวยงามมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหรือเมืองขนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคนิคที่ไม่น่าจะทำได้ในสมัยนั้น และเกิดเป็นมาตรฐานใหม่ของเกม Final Fantasy ที่จะมาพร้อมกับภาพที่มีความสมจริงนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนกระทั่งการกลับมาของ Final Fantasy VII Remake ในปี 2020 งานใหญ่อีกงานหนึ่งของ Square Enix ก็คือการทำให้กราฟฟิคและตัวละครของเกม ให้กลับมาในภาพที่มีความสมจริงล้ำสมัยอีกครั้ง ด้วยเทคดนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวหน้าไปไกลกว่าเดิม ซึ่งเบื้องหลังที่มาของการทำให้ตัวละครมีความสมจริงนั้นจะเป็นอย่างไร ก็สามารถติดตามได้ใน Inside Final Fantasy VII Remake ตอนสุดท้ายนี้ ********** อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 / อ่านตอนที่ 3 / อ่านตอนที่ 4 ********** เมื่อปี 2005 ภาพยนตร์ Final Fantasy VII: Advent Children ได้เคยแสดงให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นถึงความสมจริงของกราฟฟิค CG ที่มีตัวละครเหมือนกับคนจริงๆ มาแล้ว และถึงแม้มันจะผ่านมานานกว่า 10 ปีแล้ว แต่หลายคนก็ยังคงรู้สึกว่ากราฟฟิคของภาพยนตร์นั้นยังมีความสมจริงอยู่มากทีเดียว ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น คุณ Tetsuya Nomura (Director & Concept Design) จึงได้บอกว่าตัวเกมในตอนนี้นั้นเป็นกราฟฟิคที่มีความสมจริงแบบ “Remake” ซึ่งทั้ง Remake และ Advent Children นั้นถึงพยายามจะทำให้มีความสมจริงมากขนาดไหน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำให้สมจริงเหมือนกับคนจริงๆ แบบ 100% เพื่อเป็นการรักษาเสน่ห์ของตัวละครเอาไว้ ทั้งสองภาคจึงได้ทำให้มีความคาบเกี่ยวกับคนจริงๆ แบบเฉียดฉิวมากที่สุด คุณ Masaaki Kazeno (Character Modelling Director) และ คุณ Hiroyuki Nagatsuka (Lead Animator) เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการทำโมเดลของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นโมเดลของตัวละครเอกอย่าง Cloud, Barret, Aerith, Tifa และศัตรูกับมนต์อสูร ซึ่งคุณ Masaaki จะดูภาพต้นแบบตัวละครฉบับดั้งเดิมที่ดีไซน์โดยคุณ Nomura ควบคู่กับองค์ประกอบใหม่ที่ได้ถูกดีไซน์ขึ้นมาในภาคนี้ จากนั้นจึงได้นำมาปรับเปลี่ยนให้เป็นสัดส่วนที่ดูมีความสมจริงมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นตัวเอกอย่าง Cloud ที่จะถือดาบ Buster Sword ที่มีขนาดใหญ่เอาไว้ เขาจึงต้องดูมีกล้ามเนื้อที่จะถือดาบได้อยู่บ้าง ถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างที่ผอมเพรียวก็ตาม และจุดเด่นของตัวละครใน Final Fantasy ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือทรงผม ซึ่งพวกเขาต้องทำให้ดูแบบ 360 องศาแล้ว ก็ยังดูเป็นทรงผมที่ชี้แหลมของ Cloud ได้อยู่ ส่วนเรื่องการเคลื่อนไหวของตัวละครนั้น คุณ Hiroyuki จะต้องคิดว่าตัวละครแต่ละคนจะแสดงการเคลื่อนไหวแบบไหน ซึ่งแต่ละตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายที่ต่างกัน อย่างเช่นเมื่อเวลาตัวละครอยู่เฉยๆ ก็จะเห็นแบร์เร็ตขยับแขนหรือจับแขนข้างที่มีอาวุธอยู่ ส่วนคลาวด์ก็อาจจะขยับดาบที่มีขนาดใหญ่ซึ่งเป็นจุดเด่นของตัวเอง ทางด้าน คุณ Hidekazu Miyake (Cutscene Director) ที่รับผิดชอบส่วนของฉากคัตซีน ก็ต้องทำคัตซีนขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากเกมต้นฉบับเดิม ซึ่งจะมีอีกหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในส่วนนี้อย่าง คุณ Ryo Hara (Lead Animation Programmer) และ คุณ Akira Iwasawa (Facial Director) ที่เป็นผู้รับผิดชอบเป็นส่วนสุดท้าย ด้วยการทำส่วนของการแสดงสีหน้าตัวละคร ซึ่งในขณะที่ Final Fantasy VII: Advent Children ฝ่ายอนิเมเตอร์ต้องเริ่มทำภาพขึ้นมาจาก 0 โดยที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าเหมือนในสมัยนี้ ซึ่งการแสดงสีหน้าตัวละครในภาค Remake นี้ ก็จะมีการใช้ Facial Capture ที่แสดงผลการตรวจจับใบหน้าได้แบบเรียลไทม์เหมือนกับ Motion Capture โดยพื้นฐานของการแสดงสีหน้าจะมี 6 แบบ คือ โกรธ, เกลียด, กลัว, ดีใจ, เสียใจ, และ ตกใจ ซึ่งทุกตัวละครจะมีการเซ็ตอัพการแสดงสีหน้าในแบบต่างๆ เอาไว้ และนำมาปรับให้เข้ากับเสียงพากย์ ทำให้การเคลื่อนไหวของปากนั้นสามารถเปลี่ยนตามเสียงพากย์ของประเทศต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติตามที่เซ็ตไว้ ทีมงานต้องการแสดงความเท่ของตัวละคร และความเป็น Final Fantasy VII รูปแบบใหม่ การเคลื่อนไหวในฉากต่างๆ จึงมีการทำงานที่แตกต่างกัน อย่างเช่น ฉากแรกของเกมที่ Cloud กระโดดลงมาจากรถไฟนั้น ก็ได้ใช้นักแสดงที่เป็นนักยิมนาสติกจริงๆ มาเป็นคน Capture การเคลื่อนไหวให้ หรือตอนที่ตัวละครถูกเสกกลายเป็นกบ คุณ Hiroyuki Yamaji (Battle Animation Director) ก็ได้ทำให้กบนั้นสามารถกระโดดได้ไกลถึง 15 เมตร และมีการออกแบบท่าต่อยเตะในเวลาต่อสู้ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้เหมือนกบจริงๆ ซะทีเดียว แต่ก็เป็นการต่อสู้ของกบที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนแน่นอน อีกด้านหนึ่ง คุณ Iichiro Yamaguchi (Lighting Director) เป็นคนรับผิดชอบเรื่องการแสดงผลของแสง เขาก็ต้องทำให้มันสมดุลย์กับความ Retro และความ Modern เพื่อทำให้ผู้เล่นเก่ารู้สึกถึงโทนภาพที่คุ้นเคยในรูปแบบใหม่ได้ ซึ่งคุณ Ichiro ก็ได้บอกว่าส่วนที่ยากที่สุดคือการแสดงของแสงในเมืองสลัมของ Midgar ที่มีทั้งผู้คนและบ้านเมือง กับฉากของ Cloud และ Sephiroth ที่อยู่ท่ามกลางกองไฟ นอกจากเรื่องของกราฟฟิคตัวละคร และแสงสีต่างๆ แล้ว ก็ยังมีเรื่องของเอฟเฟ็คต์ประกอบเป็นสีสันเพิ่มเติมด้วย ซึ่งคุณ Shintaro Takai (Graphics & VFX Director) ก็บอกว่าเขารู้สึกสนุกกับการใส่เอฟเฟ็คต์เท่ๆ อย่างตอนเวลาที่ Cloud ใช้ Limit Break ที่ชื่อ “Cross Slash” เขาก็ต้องใส่เอฟเฟ็คต์ให้ตรงกับจังหวะการเคลื่อนไหว แต่ก็มีจุดที่ยากคือเหล่ามนต์อสูรที่ต้องทำให้มีคุณภาพมากขึ้นกว่าเดิมมาก ยกตัวอย่างเช่น Ifrit นั้น ในเกมต้นฉบับสามารถทำให้ดูเป็นการโจมตีด้วยไฟที่ร้อนแรงได้ก็พอ แต่ใน Remake นั้นจะต่างออกไป และมีเรื่องของการเคลื่อนไหวและการโจมตีด้วย สุดท้ายนี้ คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ผู้เป็นคนริเริ่มทำโปรเจ็คต์ Final Fantasy VII Remake ก็ได้บอกว่าระหว่างการทำงานนั้นเขามีทั้งส่วนที่สนุกและมีความสุข จากการที่ได้นำผลงานที่ผ่านมาถึง 23 ปี ให้กลับมามีความสมจริงมากขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้มันจะมีเรื่องแปลกๆ อย่างการที่มีมอนสเตอร์ปลาอยู่ในตึก หรือการมีหุ่นยนตร์ รวมถึงการตกจากความสูงมากกว่า 100 เมตร แล้วยังไม่ตายอยู่บ้าง แต่สิ่งเหล่านั้นก็ยังคงเอาไว้เพื่อไม่ให้เอกลักษณ์ของเกมต้นฉบับเปลี่ยนไป และทำให้ทีมงานสนุกกับการออกแบบกัน และคุณ Kitase ก็คาดหวังให้กราฟฟิคของเกมในตอนนี้ สามารถแสดงความรู้สึกของตัวละครได้อย่างสมจริง และเข้าใจความรู้สึกของตัวละครอย่าง Cloud รวมถึงให้ผู้เล่นได้สนุกกับเรื่องราวการต่อสู้กับบริษัทชินระ ภายในเมืองขนาดใหญ่ที่มีชื่อว่า Midgar นี้ด้วย

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้ว ซึ่งคิดว่าหลายๆ คนก็คงจะเล่นตัวเกมภาคนี้จนเคลียร์กันไปแล้ว หลังจากที่เล่นเกมภาคนี้จนจบคิดว่าหลายคนคงสัยสัยเลยว่าตัวเกม Part ต่อไปจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ และภาคนี้จะมีทั้งหมดกี่ Part กันแน่ โดยคำตอบของคำถามนี้ ดูเหมือนว่าแม้แต่ Producer ของเกมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเกมภาคนี้มันจะมีทั้งหมดกี่ Part กันแน่ครับ! ได้มีบทสัมภาษณ์กับคุณ Tetsuya Nomura ไดเรกเตอร์ของเกม และ Yoshinori Kitase ที่เป็นโปรดิวเซอร์ จากนิตยสาร Ultimania เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าตัวเกมนั้นจะมีทั้งหมดกี่ Part รวมไปจนถึงมีแผ่นการต่อไปอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องแรกที่คุณ Nomura เปิดเผยเกี่ยวกับ Part ต่อไปก็คือว่า "เราอยากให้การต่อสู้กับ Last Boss ตัวต่อไปนั้นเกิดขึ้นที่ทางหลวง Midgar และจะมีตัวละครหนึ่งที่รอดชีวิตมาได้ ซึ่งเขาจะนำไปสู่ปริศนาที่ยิ่งใหญ่กว่า" ส่วนว่าตัวเกมจะมีทั้งหมดกี่ Part นั้น คุณ Nomura ได้กล่าวว่า "มีการคาดเดากันอย่างแพร่หลายว่าเกมจะมีทั้งหมด 3 Part แต่ในความเป็นจริงก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเกมจะมีทั้งหมดกี่ Part" "ส่วนคำถามเรื่องว่าภาคต่อไปจะวางจำหน่ายเมื่อไหร่ อันนี้อาจจะขึ้นอยู่กับว่าสุดท้ายแล้วเราอยากให้เกมมีกี่ Part กันแน่ ถ้าเราแบ่งเนื้อเรื่องทั้งหมดออกเป็นแค่ไม่กี่ส่วน เกมแต่ละภาคอาจจะยาวขึ้น แต่ก็ต้องพัฒนานานขึ้นด้วยเช่นกัน ในทางกลับกัน ถ้าเราปล่อยเป็นส่วนเล็กๆ หลายส่วนแทน ก็อาจจะทำให้ปล่อยภาคต่อไปได้เร็วขึ้น ซึ่งผมเองได้แต่หวังว่าเราจะปล่อยภาคต่อไปได้โดยเร็วที่สุด" Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น (หมายเหตุ: บทความเวอร์ชั่นดั้งเดิม มีการผิดพลาดในการแปลเนื้อหาจากแหล่งข่าว ทำให้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้พัฒนาจะปล่อยเกมออกเป็นหลายส่วน ซึ่งเราได้แก้ไขเนื้อหาให้ตรงตามข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ต้องขออภัยท่านผู้อ่านที่อาจจะเกิดการเข้าใจผิดจากข้อมูลที่คลาดเคลื่อนด้วยครับ) https://twitter.com/aitaikimochi/status/1254993181701111809?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1254993181701111809&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.vg247.com%2F2020%2F04%2F28%2Fff7r-nomura-final-fantasy-7-remake-parts%2F https://twitter.com/aitaikimochi/status/1254993741451952128 Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวที่ค่อนข้างชวนช็อคในแวดวงนักอ่านและนักเขียนพอสมควร เมื่อ คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือที่รู้จักกันในนามปากกา พนมเทียน’ เจ้าของผลงานนิยายผจญภัยอมตะของไทยอย่าง ‘เพชรพระอุมา’ และศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2540 ได้ถึงแก่กรรมในวัย 89 ปีด้วยโรคหัวใจ ถือได้ว่าเป็นความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแก่แวดวงอย่างที่ไม่อาจประเมินค่าได้ [caption id="attachment_51861" align="aligncenter" width="1024"] คุณฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ ครูพนมเทียน เจ้าของผลงานนวนิยาย เพชรพระอุมา ผู้ล่วงลับ[/caption] สำหรับผู้เขียน เพชรพระอุมา จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่ช่วย Shape เส้นทางงานตัวอักษรอยู่ไม่น้อย เพราะได้พาตัวเองไปร่วมท่องป่าล่องไพรไปกับจอมพรานอย่างรพินทร์ ไพรวัลย์และคณะ ก่อนที่จะเริ่มจับปากกาเขียนเรื่องราวของตัวเองอย่างจริงจัง แน่นอนว่าในความสมบูรณ์แบบของนวนิยายเรื่องนี้ตลอดทั้ง 48 เล่ม มันมีรูปแบบการดำเนินเนื้อหาในทฤษฎีหนึ่งอันเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในทางวรรณกรรมวิจารณ์อย่าง ‘ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษ’ หรือ ‘Hero’s Journey’ ที่ถูกนำมาศึกษา และปรับใช้ในการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสื่อแขนงต่างๆ และแน่นอน รวมถึงชิ้นงานอย่างวิดีโอเกมก็ไม่มีข้อยกเว้นด้วยเช่นกัน ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ถ้ากล่าวโดยสั้นๆ มันคือการศึกษารูปแบบและลักษณะของเรื่องราวปรัมปรา ว่าแม้จะมีรายละเอียดปลีกย่อยบางส่วนที่แตกต่างกัน แต่ก็มีจุดร่วมและโครงสร้างบางอย่างที่เหมือนกันที่สามารถจัดจำแนกเป็นหมวดหมู่ได้อย่างสรุปเป็นหัวข้อได้ทั้งหมด 8 หลักใหญ่ร่วมกัน (หรือซอยย่อยออกเป็น 17 หัวข้อหลัก) ตามแผนภาพที่นำเสนอด้านล่างนี้ การศึกษาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น เริ่มต้นขึ้นในปี 1871 โดย เอดเวิร์ด เบอร์เนตต์ ไทเลอร์ ที่ทำการสังเกตว่า เรื่องราวและตำนานต่างๆ ของโลกนั้น มีจุดร่วมกันบางอย่างที่มีแบบแผนและรูปแบบที่ตายตัว ก่อนที่นักวิชาการท่านอื่นๆ จะนำเอาทฤษฎีทางจิตวิเคราะห์ของทั้ง ซิกมันด์ ฟรอยด์ และคาร์ล ยุง เข้ามาใช้ร่วมกัน แต่คนที่นำเอาทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษมาใช้อย่างจริงจังนั้น กลับเป็น โจเซฟ แคมป์เบิล ที่นำเอาแนวคิดดังกล่าวมาใช้อย่างจริงจังในหนังสือ ‘วีรบุรุษพันหน้า (The Hero with a Thousand Faces) และสรุปเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญได้ดังต่อไปนี้ วีรบุรุษออกจากโลกธรรมดาไปสู่ดินแดนที่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ ที่นี้เขาจะได้พบกับสิ่งชักจูงที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ และจะได้รับชัยชนะ จากนั้นเขาจะกลับมาจากการผจญภัยอันลึกลับนี้พร้อมกับพลังที่สามารถช่วยผู้ชายคนอื่นได้ แน่นอนว่าทฤษฎีดังกล่าวนี้ แม้จะมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ไม่พ้นข้อครหาและเสียงวิพากษ์ว่า มันเป็นแนวคิดที่กว้างเกินกว่าที่จะใช้ประโยชน์ได้ในหลักการศึกษาปรัมปราวิทยาเปรียบเทียบ แต่เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า มันเป็นเสาหลักหรือ Foundation ที่ดีเพียงพอสำหรับการบอกเล่าเรื่องราวในสื่อชนิดต่างๆ ตั้งแต่ตำนานการเดินทางของพระพุทธเจ้า เรื่องราวของพระเยซูคริสต์ บัญญัติสิบประการของโมเสส การเดินทางไปทำลายแหวนหนึ่งเดียวของโฟรโด้ใน The Lord of the Rings และรวมถึงการเขียนเรื่องราวในสื่อแขนงใหม่อย่างเช่นภาพยนตร์ และวิดีโอเกม สำหรับสื่อวิดีโอเกมที่เติบโตและต่อยอดมาอย่างยาวนานจนกลายเป็นอีกหนึ่งสื่อบันเทิงแขนงหลักในรอบสี่ทศวรรษนั้น การพัฒนาการบอกเล่าเนื้อหาก็เป็นส่วนสำคัญที่ถูกให้ความใส่ใจ และการใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษนั้น ก็เป็นอุปกรณ์สำคัญในการสร้างความลื่นไหลในจังหวะการเล่น เพราะไม่ว่าจะเป็นการตามหาเจ้าหญิงพีชใน Super Mario Brothers, การผจญภัยข้ามยุคของภาคีมือสังหารในซีรีส์ Assassin’s Creed, การลุยฝ่าขุมนรกของ Doom Slayer ใน Doom Eternal, การผจญภัยของ Cloud Strife และผองเพื่อนใน Final Fantasy 7 Remake ไปจนถึงการเดินทางกอบกู้โลกหลังหายนะของ Aloy ใน Horizon Zero Dawn แต่สื่อวิดีโอเกมนั้นมีความพิเศษบางอย่างที่ทำให้ผู้สร้างต้องมีความใส่ใจกับการใช้งานทฤษฎีของวีรบุรุษที่มากกว่าสื่อบันเทิงชนิดอื่นๆ กล่าวคือ มันเป็นสื่อที่ ‘มีการตอบสนอง’ และ ‘ปฏิสัมพันธ์’ กับผู้เสพรับอย่างตรงไปตรงมา มันคือการนำพาผู้เล่นไปสวมรับกับบทบาทและควบคุมทุกสิ่งที่เป็นไปผ่านหน้าจอในตลอดระยะเวลาหลักสิบจนถึงหลักร้อยชั่วโมง แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเทียบกับสื่อที่มีธรรมชาติในการปฏิสัมพันธ์กับผู้เสพรับในทางเดียวอย่างเช่นภาพยนตร์ เพราะหน้าที่หลักของผู้สร้าง ไม่เพียงแต่จะต้องรังสรรค์โลกพื้นหลังของเกมให้มีความน่าเชื่อถือเป็น Context สำคัญ (ดังเช่นบทความชิ้นก่อนหน้านั้นที่ผู้เขียนได้ยกอ้างกล่าวถึงไปแล้ว) หากแต่ลำดับเรื่องราวและการเดินทางของตัวละครเอง ก็ต้องสมเหตุสมผลภายใต้ขอบเขตและเงื่อนไขที่กำหนด ไม่นับรวมกับ Content ที่จะต้องให้ความสนุกอย่างเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้เล่นนั้นมีส่วนร่วม และเชื่ออย่างสนิทใจว่า ตัวละครที่เขาจะได้ใช้เวลาร่วมกันนั้น เป็นเวลาคุณภาพที่คุ้มค่ามากพอจนกว่าจะถึงปลายทาง อนึ่ง การใช้ทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษในชิ้นงานวิดีโอเกม แม้จะเป็นเสาหลักสำคัญที่ผู้สร้างใช้ยึดโยงเอาไว้เป็นแก่นสำคัญ แต่ด้วยธรรมชาติของสื่อชนิดนี้เองนั้น เปิดทางให้กับการดัดแปลงและตีความได้อย่างหลากหลายสำหรับการบอกเล่าเนื้อหาและการใช้ทฤษฎีดังกล่าว เพราะมัน ‘อาจจะ’ ไม่จำเป็นว่าจะต้องจบลงด้วยความผาสุกแบบ Happy Ending เสมอไป การเรียนรู้และเหตุการณ์ของตัวละครอาจจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด การแตกสลาย และการ ‘กลายสภาพ’ ไปสู่ตัวตนใหม่ (ซึ่งก็ตรงกับหลักข้อสุดท้ายของทฤษฎี…) ดังเช่นผลงานเกมเดินหน้ายิงอย่าง Spec Ops: The Line ได้เลือกใช้ (เป็นหนึ่งในผลงานเกมเดินหน้ายิงที่แม้จะไม่โด่งดังมากนัก แต่ก็มีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยมที่ผู้เขียนขอแนะนำ…) และในทางหนึ่ง ในอนาคตข้างหน้า มันกำลังจะมีผลงานที่ท้าทายทฤษฎีการเดินทางของวีรบุรุษอย่าง Watch Dogs : Legion ที่ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทตัวละครที่ ‘หลากหลาย’ ทั้งพื้นหลัง ความเป็นมา และคุณสมบัติ มันก็น่าลุ้นอยู่ไม่น้อย ว่าทีมสร้างจะสามารถผูกเรื่องราวและใช้ทฤษฎีดังกล่าวอย่างไร ภายใต้สภาพแวดล้อมเปิด และการมีจุดร่วมอย่างกว้างๆ ไม่เจาะจงตายตัว ถือได้ว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับผลงานชิ้นนี้ (ที่เราอาจจะต้องรอนานกว่าที่คิด จากแผนการเลื่อนการวางจำหน่ายเกมของ Ubisoft ที่ถูกผลักออกไปอย่างไม่มีกำหนด…) แต่ในท้ายที่สุดนี้ หากมองในโครงสร้างของทฤษฏีการเดินทางของวีรบุรุษที่ถูกใช้งานมาในตลอดระยะเวลาหลายสิบปีนั้น มันก็สะท้อนถึงความต้องการบางอย่างที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ในความปรารถนาที่จะเป็น ‘ใครสักคน’ ที่มีความสำคัญ ออกเดินทางในการผจญภัยอันไม่ธรรมดา และกลับมาพร้อมชัยชนะอันยิ่งใหญ่ และสื่อวิดีโอเกม ก็ยิ่งตอกย้ำแนวคิดหลักนี้ให้เด่นชัดมากขึ้นโดยธรรมชาติของการปฏิสัมพันธ์และการตอบสนองของผู้เล่นที่มีต่อชิ้นงาน ที่สามารถควบคุม กระทำ และกำหนดทิศทางได้ด้วยตนเอง เพราะในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น มันอาจจะเป็นวงจรอันน่าเบื่อหน่ายของการใช้ชีวิตตามกำหนดและรูปแบบที่คุ้นเคยและชินชา โดยเฉพาะกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ที่วิกฤติโรคร้าย COVID-19 ทำให้ทุกอย่างถูกแช่แข็งและหยุดนิ่งไปโดยไม่รู้ว่าปลายทางจะไปจบลงที่ใด และเปลี่ยนโฉมหน้าของการเล่นเกมไปในทิศทางที่ไม่เคยมีมาก่อน… และการได้สวมบทบาทเป็นใครสักคน ไม่ว่าจะในรอยเท้าของรพินทร์ ไพรวัลย์กับคณะแห่งเพชรพระอุมา หรือวีรกรรมของ Big Boss (Punished Snake) ในซีรีส์ Metal Gear Solid ก็ตอบรับกับเสียงเรียกที่อยู่ภายในใจของเรา ที่ถูกปลูกฝังผ่านสื่อ เรื่องราว การบอกเล่า มาอย่างยาวนานตลอดช่วงระยะเวลาการเติบโตมาเป็นตัวตนในทุกวันนี้ และ ตัวเอกที่ดี ที่เรามีใจอยากเชียร์ ก็ถูกสะท้อนผ่านแนวคิดของทฤษฎีดังกล่าว ไม่ว่าจะทางใดทางหนึ่ง เสมอมา... ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นการกลับมาที่เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมากๆ ซึ่งในช่วงตอนจบของเกมก็ทำเอาผู้เล่นอยากรู้เลยว่า Part ต่อไปของเกมจะมาเมื่อไหร่ แน่นอนว่ามันคงไม่ใช้เร็วๆ นี้อย่างแน่นอนที่เราจะได้สัมผัสตัวเกม แต่ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นส่วนหนึ่งของอาวุธที่จะมีให้เก็บในเกม Part ต่อไปจาก Final Fantasy 7 Remake Art Book เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ! ภายใน Art Book นั้นมีภาพ Concept Art ของอาวุธมากมาย ซึ่งบางอันเราก็ได้เห็นในเกม Final Fantasy 7 Remake ที่ออกมาแล้ว แต่อาวุธบางชิ้นที่มีอยู่ใน Concept Art นั้นไม่มีอยู่ในเกมด้วย ทำให้คิดว่าเป็นไปได้อาวุธเหล่านั้นอาจจะไปปรากฏในตัวเกม Part ต่อๆ ไป แน่นอนว่ามีความเป็นไปได้ที่ บางชิ้นอาจจะแค่ไม่ถูกนำมาใช้จริงเฉยๆ เช่นกันครับ ดูรูปต่างๆ ได้ข้างล่างนี้เลย Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 ครับ Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake นั้นวางจำหน่ายมาได้หลายอาทิตย์แล้ว ตัวเกมได้รับเสียงตอบรับที่ค่อนข้างดี ซึ่งในภาคนี้ก็มีตัวละครหลายตัวเลยที่ได้ทำการเปิดตัว Red XIII เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน น่าเสียดายที่มันเป็นช่วงเวลาสั่นๆ เท่านั้นที่เราได้เขามา Guest Character ช่วยต่อสู้ด้วย แต่ดูเหมือนว่าด้วย Save Editor เราก็สามารถเล่นเป็น Red XIII ในช่วงสั่นๆ ของเกมได้นั้นครับ Save Editor ตัวนี้ถูกสร้าง และพัฒนาโดย Xeeynamo ซึ่งด้วย Save Editor ตัวนี้ผูเล่นสามารถ จัดการช่องเก็บของ รวมไปจนถึง Materia และ Levels ของตัวละครได้ เหนือสิ่งอืนไดคือผู้เล่นจะสามารถควบคุม Red XIII ด้วยตัวเองได้เช่นกัน จริงๆ แล้ว Red XIII นับเป็นตัวละครหลักของเกม FF7 Remake แต่ที่เราไม่สามารถเล่นเป็นเขาได้นั้น จากคำยืนยันของคุณ Naoki Hamaguchi ทำให้ทราบว่า เป็นเพราะเหล่าผู้พัฒนาไม่มีเวลามากที่จะทำให้เขาเป็นตัวละครที่เล่นได้ครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/MP1stLara/status/1253057708976193536 Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 14 เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกม MMO ที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ เกมหนึ่ง แต่ในช่วง 50 เลเวลแรกนั้น เรียกได้ว่ายังคงมีเควสเนื้อเรื่องที่สิ้นเปลือง และยาวเกินไปมากๆ ถ้าเทียบกับ 3 Expansion หลังที่ออกตามมา แต่จากไลฟ์สตรีมประกาศอัปเดตแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะมีการอัปเดตในช่วงฤดูร้อนนี้ ก็ทำให้เราทราบว่า จะมีการย่อเนื้อเรื่องช่วงแรกของเกมให้กระชับ และเล่นง่ายขึ้นครับ! ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์ PCGamer ทำให้เราทราบว่าเควสเนื้อเรื่องของเกมจะถูกตัดออกไปประมาณ 13 เปอเซ็น และมีการปรับปรุงเควสเกือบทั้งหมดให้สามารถทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Exp ที่ได้ รวมไปจนถึงของรางวัลเป็น Gear ต่างๆ มากขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นสามารถไปจนถึงเลเวล 50 ได้ง่ายกว่าเดิม นอกจากนี้ผู้เล่นยังจะสามารถใช้สัตว์บินได้ใน แมพ 50 เลวลแรกแล้วเช่นกัน อีกทั้งเควสสำหรับการทำให้สัตว์บินได้ จะถูกทำเป็นเควสหลักแทนที่จะเป็นเควสรอง เพื่อให้ผู้เล่นจะได้ไม่พลาดเควสที่สำคัญนี้ครับ แน่นอนว่านี้ไม่ใช้ทั้งหมดที่จะถูกอัปเดตในแพทช์ 5.3 ที่มีชื่อว่า Reflections in Crystal ในส่วนของรายละเอียดอื่นๆ สามารถเข้าไปดูได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ Final Fantasy 14 วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PC  และ PS4 Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เปิดตัวด้วยการขายได้มากกว่า 3.5 ล้านชุดภายในเวลาแค่ 3 วัน ข่าวนี้บอกเราได้เป็นอย่างดีว่ามีผู้เล่นมากมายขนาดไหนที่รอการมาของเกมนี้ ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นที่เป็นต้นกำเนิดของเกมเอง ก็มียอดขายที่สูงถึงเกือบ 700,000 ชุดในอาทิตย์แรกเช่นกัน แต่เหมือนว่ากระแสของเกมจะไม่ได้แรงมากมายอะไรขนาดนั้นครับ เพราะในอาทิตย์ที่ 2 ของการวางจำหน่าย กลับเป็น Animal Crossing: New Horizons ที่สามารถทำยอดขายได้สูงกว่าถึง 4 เท่าครับ! Famitsu ได้เผยยอดขายเกมในอาทิตย์ก่อนในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นอาทิตย์ที่ 2 ของการวางจำหน่ายเกม Final Fantasy 7 Remake ตัวเกมนั้นมียอดขายเหลือเพียงแค่ 70,652 ชุดเท่านั้นในขณะที่ทาง Animal Crossing: New Horizons กลับมียอดขายสูงถึง 286,586 ทั้งที่ตัวเกมวางจำหน่ายมมานานมากแล้ว ข่าวนี้บงบอกได้เป็นอย่างดีเลยครับว่าตัวเกม Animal Crossing: New Horizons นั้นมาแรงขนาดไหน และทำไมเครื่อง Nintendo Switch จึงขาดตลาดเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นครับ ดูอันดับยอดขายเกมอื่นๆ ได้ข้างล่างนี้ ข้างหน้ายอดขายของอาทิตย์ที่แล้ว ข้างหลังเป็นยอดขายตลอดกาลในประเทศญี่ปุ่น 01. [NSW] Animal Crossing: New Horizons – 286,586 / 3,611,246 02. [PS4] Final Fantasy 7 Remake – 70,652 / 773,505 03. [NSW] Mario Kart 8 Deluxe – 13,313 / 2,882,585 04. [PS4] Resident Evil 3 – 12,247 / 236,435 05. [NSW] Super Smash Bros. Ultimate – 9,034 / 3,655,868 06. [PS4] One Piece: Pirate Warriors 4 – 8,682 / 116,217 07. [NSW] One Piece: Pirate Warriors 4 – 8,080 / 98,912 08. [NSW] Super Mario Party – 8,005 / 1,406,903 09. [NSW] Pokemon Sword / Shield – 7,915 / 3,570,493 10. [NSW] Minecraft – 7,154 / 1,356,230 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากรอคอยมานานหลายปีในที่สุดเหล่าเกมเมอร์ก็มีโอกาสที่จะได้เล่นเกม Final Fantasy 7 Remake แล้ว โดยจากข่าวก่อนหน้านี้ ที่บอกว่าตัวเกมมียอดผู้เล่นสูงถึง 2.3 ล้านคนในเวลาไม่กี่วัน ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเกมเมอร์รอการมาของเกมนี้มากขนาดไหน และวันนี้ก็มีอีกหนึ่งข่าวที่ยืนยันสิ่งนั้นครับ ล่าสุดได้มีการประกาศออกมาผ่านทาง Twitter ของ Final Fantasy VII Remake แล้วว่า ตัวเกมนั้นสามารถขายได้สูงถึง 3.5 ล้านชุดโดยใช้เวลาแค่ 3 วันเท่านั้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เพราะมีแผ่นหลุดออกมาก่อนในบางพื้นที่รึเปล่า ตัวเกมถึงได้มียอดขายที่สูงมากๆ ขนาดนี้ แต่ผมเชื่อว่าต่อให้ไม่มีแผ่นหลุดออกมาก่อนเลย ตัวเกมก็น่าจะขายได้ประมาณนี้อยู่ดี นอกจากนี้ยอดขาย 3.5 ล้าน ในเวลา 3 วัน ยังเป็นสถิติใหม่ของเกม PlayStation 4 Exclusive ที่ขายได้เยอะที่สุดอีกด้วย (ก่อนหน้านี้เป็นเกม Spider-Man ทำยอดขายได้ 3.3 ล้านชุดในเวลา 3 วัน) เราคงสามารถพูดได้อย่างเต็มปากแล้วว่า FF7 Remake เป็นเกมที่ประสบความสำเร็จครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1252583111390408706?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1252583111390408706&ref_url=https%3A%2F%2Fgamerant.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-ps4-sales%2F Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เกม War of The Visions : Final Fantasy Brave Exvius เป็นเกมที่มีเควสให้ทำเยอะมาก แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่าควรทำเควสไหน และเควสไหนให้อะไรกับเราบ้าง ลุงไอซ์รวบรวมมาให้ดังนี้เลยจ้ะ 1. Story Quests เป็นส่วนสำคัญของเกมที่จะนำพาผู้เล่นเข้าสู่เนื้อเรื่องที่เข้มข้นสไตล์ Final Fantasy ดังนั้นเราไปดูกันว่าการเล่น Story Quest ได้อะไรเป็นสิ่งตอบแทนบ้าง อย่างแรกที่ได้เหมือนกันแทบจะทุกเควสที่ผ่านครั้งแรก คือ 100 EXP และเพชร 50 เม็ด   ส่วน Mission ของแต่ละเควสจะให้ของที่แตกต่างกันไปซึ่งของที่ได้หลัก ๆ คือ ของสำหรับ Enchant Job แต่ก็มีของอื่น ๆทั้ง เพชร, EXP Cube, Crafting Recipe, Potion ฯลฯ  เช่นเดียวกับของที่ดรอปในด่านต่าง ๆ ของ Story Quest อีกด้วย 2. World Quests แบ่งออกเป็น Hard Quest ที่แจกเพชร 50 เม็ดสำหรับการเล่นผ่านครั้งแรก และในการเล่นครั้งต่อไปแม้จะแจกของหลากหลาย แต่ของสำคัญที่ Hard Quest แจกก็คือ Unit Shard ของสำคัญเพียงอย่างเดียวที่ใช้ทำ Limit Break โดยที่แต่ละเมืองจะมีเควสสำหรับแต่ละตัวละครให้เราสามารถเลือกเก็บ Unit Shard ได้ แต่ก็มีข้อจำกัดที่สามารถเล่นเได้ตามจำนวนที่กำหนดเท่านั้น Character Quest ที่แจก Unit Shard ถึง 15 อัน และเพชร 50 เม็ดสำหรับการเล่นผ่านครั้งแรก หลังจากนั้นของที่แจกก็ไม่ได้แตกต่างจาก Story Quest เท่าไหร่นัก Subquest เป็นเควสที่แจกของดีมาก ๆ อย่าง เพชร 100 เม็ด และ Fragment of Thought ของธาตุต่าง ๆ 10 อัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับการ Awaken อีกด้วย 3. Farplane แบ่งออกเป็น 4 ส่วน แต่ตอนนี้เปิดให้เล่นแค่เพียง 3 ส่วนดังนี้ Event แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ Limited เป็นส่วนที่มี Event พิเศษแบบจำกัดเวลา ซึ่งจะแจกของแตกต่างกันไปในแต่ละ Event แต่ส่วนมากจะเป็นของดีที่ไม่ควรพลาดในการเล่น เช่น ตัวละคร, Crafting Recipe ฯลฯ Day/Training เป็นส่วนที่มีเควสให้เล่นอีกหลายเควสดังนี้ EXP CHAMBER เป็นเควสที่แจก EXP Cube อย่างเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นที่เก็บ EXP Cube เลยก็ได้ดังนั้นหากอยากอัพเลเวลให้ตัวละครก็อย่าลืมมาเล่นเควสนี้นะจ๊ะ GIL CHAMBER เควสนี้แจกแต่ Gil Snapper หรือก็คือเจ้าเต่าน้อยราคาแพงที่จะช่วยให้เงินของเราเพิ่มขึ้นมากอย่างง่ายดาย ยิ่งถ้าได้เต่าทองยิ่งดีมาก ๆ เลย ORE CHAMBER เควสนี้เล่นแล้วจะได้ Andamantite ซึ่งเอาไว้ Enchance พวก Equipment นั่นเอง GROWTH EGG CHAMBER สำหรับคนที่อยากอัพเลเวลให้ Vision Card ต้องไม่พลาดที่จะเล่นเควสนี้เด็ดขาด เพราะเควสนี้แจกของสำหรับ Enchanement Vision Card นั่นเอง POT CHAMBER เควสนี้แจก Burst Pot สำหรับอัพสกิลท่าไม้ตาย และ Armor Pot สำหรับอัพเลเวลความสามารถพิเศษที่ติดมากับ Equipment พิเศษบางชิ้น High Difficulty TRAINING CHAMBER เป็นเควสที่ยากสมชื่อ แต่ของที่ได้มาก็คุ้มกับความยาก นั่นก็คือ ของสำหรับอัพ Job Level ระดับ 10-15 ซึ่งหายากมาก ๆ เลย ALCRYST CHAMBER ของแต่ละธาตุ ที่จะแจก Acryst และ Awakening Soul ของแต่ละธาตุที่ใช้สำหรับการทำ Awaken ESPER AWAKENING CHAMBER ของแต่ละธาตุ เควสนี้แจก Esper Awakening Stone ของแต่ละธาตุ ซึ่งเอาไว้ใช้สำหรับ Awaken Esper นั่นเอง Multi เป็นการเล่นเควสแบบทีมร่วมกับคนอื่นโดยจัดทีม 4 คนกับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็สนุกไปอีกแบบ ซึ่งลุงขอกระซิบบอกว่าลุงเล่นบ่อยมาก เพราะถ้าเราไม่ได้เป็นคนตั้งห้อง จะไม่เสีย NRG ในการเล่นแต่ก็ยังคงได้ของอยู่ ส่วนของที่ได้นั้นก็ขึ้นกับว่าเล่นในเควสไหน ซึ่งเควสก็จะคล้าย ๆ กับ Event  คือมี Limited, Alcryst Chamber, Esper Awakening Chamber, High Difficulty Training Chamber ส่วนของที่ได้ก็คล้าย ๆ กับที่เล่นใน Event นั่นเอง Beasts Den เป็นเควสสำหรับอัพ Espers หรือมนต์อสูรให้เก่งขึ้น โดยมีด่านเฉพาะของ Espers แต่ละตัวเลย ซึ่งสิ่งที่ได้ก็คือ Awakening Stone สำหรับ Espers แต่ละตัว และ Espers Awakening Stone ของแต่ละธาตุอีกด้วย ทีนี้ก็รู้แล้วว่าจะเล่นเควสไหนเพื่อให้ได้ของอะไร ดังนั้น ไปลุยกันเลยยยยยย

เกม War of The Visions : Final Fantasy Brave Exvius เป็นเกมที่มีตัวละครมากมาย อาชีพหลากหลาย ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลให้มีสกิลเยอะมาก ๆ จนยากที่จะจดจำได้หมดว่าสกิลไหนใช้ทำอะไร มีรายละเอียดต่าง ๆ อย่างไรบ้าง ทำให้หลายคนคงเลือกที่จะไม่สนใจมันซะเลย แค่เลือกตัวละครที่ชอบ อัพเลเวลมันสูง ๆ แล้วให้สู้แบบ Auto อย่างเดียวซึ่งก็พอได้ แต่จะเป็นการลดความสนุกสนานของเกมไปเยอะเลย เพราะส่วนที่ทำให้เกมนี้สนุกคือการวางแผนการต่อสู้ ซึ่งการจะวางแผนได้ดีจะต้องเข้าใจสกิลของตัวละครที่เรามีอยู่ด้วย ดังนั้นลุงไอซ์จะบอกสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจในสกิลต่าง ๆ ของตัวละครนะจ๊ะ 1. ประเภทของสกิล แบ่งตามการใช้งานจะแบ่งออกเป็น Normal Attack (สัญลักษณ์สีแดง) - สกิลที่ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ในขณะทำการต่อสู้ได้ โดยอาจจะเป็นสกิล Attact, Buff, Debuff ก็ได้ Support (สัญลักษณ์สีเขียว) - สกิลที่ติดตัวที่ช่วยให้ตัวละครเก่งขึ้นโดยไม่ต้องกดใช้สกิล Reaction (สัญลักษณ์สีน้ำเงิน)- สกิลที่มีโอกาสแสดงผลอัตโนมัติเมื่อโดนโจมตี ถ้าแบ่งจากผลของสกิลจะแบ่งออกเป็น Attack คือ สกิลที่ใช้ในโจมตีศัตรู โดยมีทั้งการโจมตีทางกายภาพที่ความรุนแรงขึ้นอยู่กับค่า ATK และการโจมตีด้วยเวทย์ที่ความรุนแรงขึ้นอยู่กับค่า MAG ซึ่งในเกมนี้การโจมตีสามารถโดนพวกเดียวกันได้ด้วย ดังนั้นจะต้องใช้สกิลอย่างระมัดระวัง ถ้าไม่อยากทำร้ายเพื่อนร่วมทีม Buff คือ สกิลที่ช่วยเสริมพลังให้กับตัวเองและเพื่อนร่วมทีมในด้านต่าง ๆ ทั้งการเพิ่มพลังชีวิต พลังโจมตี พลังป้องกัน หรือค่าต่าง ๆ เพื่อทำให้สามารถต่อสู้ได้ดีขึ้น Debuff คือ สกิลที่ลดความสามารถของศัตรู ทำให้ศัตรูอ่อนแอลง เพื่อช่วยให้เพื่อนร่วมทีมสามารถจัดการกับศัตรูได้ง่ายขึ้นนั่นเอง โดยสกิลไหนสามารถทำอะไรได้ จะต้องอ่านจากคำอธิบายสกิลเท่านั้น ถ้าใครไม่เก่งภาษาอังกฤษ อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจให้ใช้ Google translate ช่วยแปลนะจ๊ะ 2. ขอบเขตการใช้สกิล ทุกสกิลจะมีขอบเขตที่สามารถใช้สกิลได้ โดยสามารถดูได้จากการกดที่ Detailed Display ตามภาพนี้ จะได้พบกับภาพด้านล่าง ซึ่งหากมองด้านซ้ายจะพบกับรูปขอบเขตการใช้สกิล และให้ดูทางขวาที่เขียนว่า Range Height จะบอกระดับความสูงที่สามารถใช้สกิลได้ อย่าลืมดูตรงนี้ด้วยนะ เดี๋ยวจะใช้สกิลไม่ได้อย่างที่ต้องการ 3. ระยะแสดงผลสกิล สกิลส่วนมากอาจจะแสดงผลแค่ช่องเดียว หรือแสดงผลที่ตัวละคร แต่บางสกิลจะมีระยะแสดงผลสกิล ซึ่งสามารถดูได้จากส่วนที่เป็นสีส้ม นั่นคือส่วนที่สกิลแสดงผล เช่น การโจมตีเป็นวงกว้างก็จะมีระยะบอกว่าวงกว้างแค่ไหน ศัตรูที่ยืนอยู่ที่ช่องไหนจะโดนการโจมตีบ้าง 4. ค่าพลังที่ใช้สกิล การใช้สกิลจะต้องใช้ค่าพลังบางอย่าง ซึ่งเกมนี้แบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ AP (Attack Points) และ TP (Technical Points) สามารถดูได้ที่มุมขวาล่างของรายละเอียดสกิลตามภาพด้านล่าง 5. ระยะเวลาร่าย ระยะเวลาการร่ายก็สามารถดูได้จากภาพเดียวกับด้านบน นั่นก็คือ Cast Speed นั่นเอง ซึ่งเป็นค่าที่บอกว่าสกิลนั้นใช้เวลาร่ายนานแค่ไหนก่อนที่จะใช้สกิลออกไป ซึ่งจะส่งผลต่อลำดับการต่อสู้อีกด้วย โดยสามารถดูได้ที่ด้านซ้ายของหน้าจอต่อสู้ ตัวละครไหนที่กำลังใช้สกิลจะขึ้นว่า Charge 6. จำนวนครั้งที่ใช้ได้ สามารถดูได้จากภาพด้านล่าง โดยให้ดูในช่อง Uses อย่างตัวอย่างด้านบนคือ 7/7 หมายถึง สามารถใช้ได้ 7 ครั้ง ใน 1 การต่อสู้ โดยเมื่อใช้สกิลไป 1 ครั้งก็จะลดเป็น 6/7 เมื่อถึง 0/7 ก็จะไม่สามารถใช้สกิลนี้ได้อีกในการต่อสู้ครั้งนี้ ดังนั้นต้องดูด้วยว่าตัวละครของคุณมีจำนวนสกิลให้ใช้มากพอที่จะต่อสู้หรือไม่ เพราะถ้าหมดแล้วจะต้องโจมตีธรรมดาอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อดูครบ 6 ข้อแล้วแปลว่าคุณรู้จักสกิลนั้นดีพอแล้ว  ซึ่งก่อนที่คุณจะอัพสกิลใด ๆ ควรศึกษาสกิลนั้นก่อน เพื่อไม่ให้เสียเงินและ JP ไปอย่างเสียเปล่า หรือถ้าจะให้ดี ควรอ่านสกิลของตัวละครให้แน่ใจก่อนที่คุณจะปั้นตัวละครนั้น ก็จะดีมาก ๆ เลยจ้า

แน่นอนว่าทุกคนที่เล่นเกม War of The Visions : Final Fantasy Brave Exvius จะต้องอยากให้ตัวละครของคุณเก่งกาจมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเกมนี้ก็มีหลายวิธีเหลือเกินที่จะช่วยให้ตัวละครของคุณเก่งขึ้น ดังนั้นวันนี้ลุงไอซ์จะมาแนะนำ 8 วิธีเพิ่มความเก่งให้ตัวละครของคุณ 1. Up Level เป็นเรื่องพื้นฐานของเกมแทบจะทุกเกมในโลกนี้ วิธีการทำให้ตัวละครเก่งขึ้นก็คือการอัพเลเวลของตัวละครนั่นเอง โดยเราสามารถอัพเลเวลของตัวละครได้หลัก ๆ 2 ทาง ต่อสู้ - การต่อสู้เป็นวิธีการอัพเลเวลที่ตรงไปตรงมา อยากเก่งขึ้นก็ต้องออกไปสู้ ดังนั้นหากคุณอยากให้ตัวละครตัวไหนเก่งขึ้น ก็ต้องเลือกตัวนั้นออกไปสู้บ่อย ๆ แต่ถ้าอยากปั้นตัวละครเลเวลต่ำ ให้เพิ่มเลเวลอย่างรวดเร็ว ลุงแนะนำให้ใช้วิธี Skip Battle เพราะการ Skip Battle จะทำให้คุณสามารถข้ามการเล่นในด่านที่ผ่านภารกิจทั้งหมดแล้ว โดยได้รับ EXP และ Item โดยที่ไม่ต้องต่อสู้จริง ดังนั้นคุณสามารถใช้ตัวละครเลเวลต่ำทั้งทีม Skip Battle ผ่านด่านยาก ๆ เพื่อให้ได้ EXP เยอะ ๆ ได้อย่างสบายเลยจ้ะ Enchant - อีกทางหนึ่งที่จะสามารถอัพเลเวลให้กับตัวละครได้ก็คือการ Enchant การ Enchant คือการอัดฉีด EXP เข้าสู่ตัวละครโดยใช้ EXP Cube ทำให้ตัวละคนเลเวลอัพได้โดยที่ไม่ต้องออกไปต่อสู้่ด้วยตัวเองให้เสียเหงื่อแม้แต่หยดเดียว ซึ่งสามารถหา EXP Cube ได้จากการเล่น Quest, Event และซื้อจาก Store นั่นเอง 2. Awaken เมื่ออัพเลเวลไปจนเลเวลเต็มแล้ว การ Awaken เป็นวิธีที่จะทำให้ Max Level เพิ่มขึ้นได้อีก แต่ความยากก็คือต้องไปหาของมากมายเพื่อทำการ Awaken ซึ่งก็ต้องหาจากการเล่น Quest, Event และบางอย่างก็สามารถซื้อได้จาก Store ซึ่งของที่ใช้จะตรงตามธาตุของตัวละคร ดังนั้นคุณต้องวางแผนให้ดีว่าแต่ละธาตุ คุณจะปั้นตัวละครตัวไหน เพราะว่าวัตถุดิบที่ใช้ในการ Awaken นั้นไม่ได้หามาได้ง่าย ๆ นะจ๊ะ 3. Limit Break Limit Break เป็นอีกทางที่จะเพิ่ม Max Level ได้ และยังสามารถเพิ่ม Max Job Level ได้อีกด้วย แต่จะทำ Limit Break ได้ก็ยากขึ้นไปอีก เพราะจะต้องใช้ Shard ของตัวละครนั้น ๆ ซึ่งจะหาได้จากการ Summon, Quest, Event และบางตัวละครก็มีวางขายใน Store ซึ่งมีทั้งแบบที่ซื้อได้ด้วยเงินและเพชร อันนี้ก็แล้วแต่ดวงด้วยว่าจะ Summon ได้ Shard ของตัวไหนบ้างนะจ๊ะ 4. Abilities สามารถเพิ่มความสามารถด้านต่าง ๆ ของตัวละคร, ปลดล๊อคสกิล และเพิ่มเลเวลของสกิล โดยใช้ค่า JP ซึ่งหาได้จากการต่อสู้ และการที่จะสามารถปลดล๊อคแต่ละช่องได้ จะต้อง Up Job Level ของแต่ละอาชีพของตัวละครให้ตรงกับสกิลที่ต้องการเสียก่อน 5. Job Enchance คิอการเพิ่ม Job Level นั่นเอง ซึ่งสามารถทำได้โดยการหาของต่าง ๆ ตามที่กำหนดเอาไว้มาเพื่อทำ Job Enchance ซึ่งแต่ะละเลเวลก็ต้องการของที่แตกต่างกันไป โดยสามารถหาของที่ใช้ในการทำ Job Enchance ได้จาก Quest, Event และซื้อจาก Store นั่นเอง 6. Equipment การที่ตัวละครจะเก่งได้ แน่นอนจะต้องมีอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่เพิ่อเพิ่มความสามารถ โดยในเกมนี้สามารถหา Equipment ได้จากการซื้อจาก Store และ Craft ขึ้นมาด้วยตัวเอง เมื่ออยากได้ Equipment อะไรก็ให้หา Recipe ของสิ่งนั้นมาสร้างขึ้นด้วยวัสดุที่กำหนดเอาไว้ได้เลยนะจ๊ะ 7. Espers นี่คือสิ่งที่สาวก Final Fantasy ทุกคนรู้จักดี Espers ก็คือมนต์อสูรนั่นเอง เป็นการเรียกอสูรออกมาช่วยต่อสู้ ซึ่งอสูรตัวนั้นจะเก่งแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับระดับของอสูร และเลเวลที่เราอัพให้กับอสูรตัวนั้นนั่นเอง 8. Vision Cards เป็นการ์ดที่นอกจากจะจะช่วยเพิ่มความสามารถต่าง ๆ ให้กับตัวละครที่สวมใส่ แล้วยังเพิ่มความสามารถให้กับเพื่อนในทีม (Party) อีกด้วย ซึ่งแต่ละการ์ดก็จะมีความสามาถที่แตกต่างกันไป และเหมาะสมกับตัวละครแต่ละตัว ดังนั้นต้องเลือกให้ดีนะจ๊ะ ที่ลุงบอกไปเป็นการทำให้ตัวละครเก่งขึ้นเท่านั้น ถ้าอยากให้ทีมเก่งขึ้นจะต้องมีการเลือกตัวละคร และสิ่งต่าง ๆ อย่างเหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ด้วย เพื่อให้ตัวละครสามารถแสดงความเก่งกาจออกมาได้อย่างเต็มที่ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ทีมแข็งแกร่งขึ้นอย่างแน่นอนเลยนะจ๊ะ

Final Fantasy 7 Remake เป็นเกมที่ใครหลายคนรอคอยอยู่อย่างแน่นอน และตัวเกมก็วางจำหน่ายมาได้เกือบจะ 1 อาทิตย์แล้ว ซังเกตุได้ว่าตอนนี้มีคอนเทนต์มากมายเลยที่เกี่ยวกับเกม FF7R ในโลกอินเตอร์เน็ต แต่เชื่อเถอะครับว่าเกมนี้เป็นที่นิยมมากกว่าที่คิดแน่นอน เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าตัวเกมนั้นมียอดผู้เล่นสูงถึง 2.3 ล้านคน ภายในเวลาแค่ 3 วันเท่านั้นครับ! จากรายงานของ Gamestat บ่งบอกได้เป็นอย่างดีเลยว่าเกมนี้เป็นที่นิยมมากขนาดไหน และไม่ใช้แค่นั้น เพราะ 2.3 ล้านคนในที่นี้ คือนับเฉพาะจำนวนคนที่ Online เท่านั้น ยังไม่นับจำนวนผู้เล่น Offline ที่ไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่อีกด้วย ส่วนว่าเกมนี้มีคนให้ความสนใจจริงๆ เท่าไหร่กันแน่ คิดเดี๋ยวคงจะสามารถดูได้จาก ยอดขายของเกม ที่น่าจะมีการเปิดเผยเร็วๆ นี้ แต่ผู้เขียนคิดว่าน่าจะมากกว่า 10 ล้านไปแล้วครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในช่วงต้นของการเล่นเกม War of The Visions : Final Fantasy Brave Exvius หลายคนน่าจะพบว่ามีเงินเหลือใช้มากมาย บางคนอาจจะเหลือเป็นหลักสิบล้าน จนรู้สึกว่าตัวเองรวยมาก ลุงไอซ์ก็ร่ำรวยมากมายเช่นกัน จนต้องมาเล่าให้ฟังว่าถ้ารวยมากจนเงินเหลือ ควรจะเอาเงินไปทำอะไรดี ตามนี้เลยจ้ะ 1. ซื้อของใน Shop ในร้านค้าจะมีของต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้ตัวละครและทีมของเรามีความสามารถมากขึ้น ซึ่งสามารถซื้อได้ด้วยเงิน หรือเพชร แต่เนื่องจากเรารวยเงินไม่ได้รวยเพชร เราก็จะเน้นซื้อของที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินก็แล้วกัน โดยเงินในเกมนี้เรียกว่า Gil เมื่อเข้าร้านมาให้เรากดที่ปุ่ม All ด้านล่างของร้าน เพื่อเปลี่ยนให้เป็น Gil จะเป็นการ Filter เลือกเฉพาะของที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินเท่านั้น จะได้ไม่พลาดไปซื้อของด้วยเพชรเดี๋ยวจะเศร้าเอาได้ นอกจากจะซื้อของที่ร้านธรรมดา แล้วยังมีของในร้าน Event ให้ผลาญเงินได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกได้จากทางด้านซ้ายของจอเลยจ้า ส่วนของที่ลุงแนะนำให้ซื้อเป็นอันดับแรกก็ต้องเลือกของที่จำเป็นต้องใช้งานก่อน เช่น Shard ตัวละคร, ของที่ใช้สำหรับอัพ Job, Potion ฯลฯ แล้วค่อยซื้อของอื่น ๆ แต่ถ้ารู้สึกว่ารวยมาก ไม่มีที่เก็บเงินก็ซื้อทุกอย่างที่สามารถซื้อด้วยเงินได้เลยจ้า   2. ซื้อของกินสำหรับ Replenish ถ้าใครมีกิล เมื่อเข้าไปในกิลจะสามารถทำการ Replenish ได้ เพื่อเพิ่มค่า JP และ Bravery ให้กับตัวละคร ด้วยการให้กินของกินดี ๆ นั่นเอง ซึ่งของกินนั้นต้องซื้อด้วยเงิน ดังนั้นจึงเป็นอีกทางที่ช่วยให้เราผลาญเงินที่มีอยู่มากมายของเราได้บ้างนั่นเอง   3. อัพ Skill หลายคนอาจจะคิดว่าการอัพ Skill ใช้แต่ JP เพราะในช่วง Job level ต่ำ ๆ จะใช้เงินน้อยมากจนแทบไม่รู้สึก แต่เมื่อ Job level สูงขึ้น การอัพแต่ละครั้งจะต้องใช้เงินจำนวนมาก ดังนั้นการใช้เงินไปกับการอัพ Job ถือเป็นอีกทางที่ผลาญเงินได้เยอะมาก ๆ แล้วยังทำให้ตัวละครของเราเก่งขึ้นอีกด้วย   4. อัพ Vision Card การอัพเลเวล Vision Card จะต้องใช้ Growth Egg และเงิน ซึ่งเช่นเดียวกับการอัพสกิล ถ้าอัพเลเวลสูง ๆ จะต้องใช้เงินในการอัพเยอะมาก ดังนั้นหากเงินยังไม่หมด แนะนำให้อัพ Vision Card ด้วยนะจ๊ะ   5. สร้างอุปกรณ์สวมใส่ (Crafting) อุปกรณ์สวมใส่ในเกมนี้ต้องสร้างเองถึงจะได้ของดี ๆ มาใช้ โดยในการสร้างจะต้องมี Recipe ,วัตถุดิบ และเงิน ในการสร้าง ซึ่งบางอย่างก็สามารถหาซื้อได้ใน Shop บางอย่างก็ต้องหาจากด่านต่าง ๆ แม้จะไม่ได้ใช้เงินเยอะมากมายแต่ก็ช่วยให้ตัวละครของเราเก่งขึ้นได้อีกด้วย   ถ้าทำตามทั้งหมดนี้แล้วเงินยังเหลือได้ถือว่ารวยจริง ๆ เพราะก่อนเขียนไกด์นี้ ลุงไอซ์ได้ลองผลาญเงินดูด้วยตัวเอง จากประมาณ 20 ล้าน ตอนนี้เงินหมดแล้วจ้า แต่สิ่งที่ได้มาก็คือทีมเก่งขึ้นมากเลย ดังนั้นขอไปเก็บตังใหม่ก่อนล่ะ บาย บาย

เปิดตัวกันมาได้ซักพักแล้ว สำหรับเกม War of The Visions: Final Fantasy Brave Exvius หลายคนที่เน้นเล่นแบบชิล ๆ ตอนลุยด่านก็กด Auto อย่างเดียว น่าจะเริ่มติดไม่สามารถผ่านด่านด้วยการ Auto ได้ คงจะงงว่า เอ๊ะ! ทำไมไม่ผ่านซักที อัพตัวละครให้เก่ง เลเวลเยอะแยะ ใช้อาวุธดี ๆ แล้วก็ยังไม่ผ่าน วันนี้ลุงไอซ์จะมาบอกวิธีลุยด่านให้ผ่านฉลุยนะจ๊ะ 1. ดูรายละเอียดก่อนเข้าด่าน ก่อนเข้าด่านให้กดที่รูปแว่นขยายด้านขวาล่างของปุ่มเข้าด่านเพื่อดูรายละเอียดของด่าน เมื่อกดเข้ามาแล้วจะพบกับรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้ Victory Conditions - รายละเอียดเงื่อนไขในการผ่านด่าน โดยส่วนมากจะบอกแค่ ให้กำจัดศัตรูให้หมด และอย่าให้ตัวละครของเราตายหมด Embark Units Restriced - ตัวละครที่กำหนดให้ใช้ในด่าน ส่วนมากจะไม่กำหนดเอาไว้ แต่บางด่านอาจจะมีกำหนดตัวละครที่ต้องใช้ หรือห้ามไม่ให้ใช้ก็ได้ Map Effect - ผลกระทบจากสถานที่ต่อสู้ แต่ละสถานที่อาจจะมีผลบวกหรือลบกับธาตุบางธาตุ ให้เลือกธาตุที่ได้รับผลบวกและหลีกเลี่ยงธาตุที่ได้รับผลลบ Quest Information Recommended - แนะนำเลเวลของตัวละครที่จะเข้าลุยด่าน ส่วนนี้จะทำให้รู้ว่าด่านนี้ยาก หรือง่ายแค่ไหน ตัวละครที่เรามีอยู่สามารถเข้าสู้ด่านนี้ไหวหรือยัง First Time Completion Reward - ของรางวัลที่จะได้เมื่อผ่านด่านครั้งแรก เป็นของรางวัลที่ได้เพียงครั้งเดียว ส่วนมากจะเป็น EXP และเพชร Quest Mission - ภารกิจของด่าน ซึ่งถ้าทำได้จะได้ของรางวัลเพิ่ม ซึ่งจะได้เพียงครั้งเดียวเหมือนกัน แต่ภารกิจและของรางวัลจะแตกต่างกันไปในแต่ละด่าน Obtainable Items - ของรางวัลที่มีโอกาสจะได้ในการผ่านด่านนี้ เรียกง่าย ๆ ว่าของดรอป ว่าด่านนี้ดรอปอะไรบ้างนั่นเอง 2. เล่นด่านใหม่ อย่าเพิ่ง Auto / ด่านไหนเล่นไม่ผ่าน ให้เลิก Auto ให้สังเกตุว่าเพราะหลายด่านจะมีจุดพิเศษให้ไปยืนบนจุดนั้นเพื่อให้มันทำงาน อย่างเช่นด่าน Do As The Lions Do ใน Part 1 Chapter 1 Scene 1 จะมีจุดให้ไป Active เพื่อให้ต้นไม้ล้มทับศัตรู ซึ่งจะช่วยให้ผ่านด่านนี้ได้อย่างง่ายดายขึ้นมาก ซึ่งบางด่านก็อาจจะเป็นปุ่มที่พื้นให้กด เพื่อทำให้สะพานขาด, ปิด-เปิดประตู ฯลฯ ซึ่งอาจจะช่วยให้เราสามารถผ่านด่านได้ง่ายขึ้นมาก และบางด่านอ่านจะไม่สามารถผ่านได้เลยถ้าไม่ไปกดปุ่มเพื่อให้เกิดอะไรบางอย่างขึ้น ต้องลองสังเกตุดูให้ดีนะจ๊ะ 3. วิเคราะห์สมรภูมิรบ สมรภูมิรบมีผลกับการต่อสู้ โดยบางครั้งส่งผลน้อย แต่บางครั้งก็ส่งผลมากซะจนทำให้ทีมที่เลเวลสูงกว่าศัตรูมาก ก็ยังแพ้ได้ โดยจะต้องจัดทีมให้เหมาะสมกับสมรภูมิรบ เช่น หากมีพื้นที่สูงต่ำมาก ควรเลือกตัวที่มีสกิลโจมตีแบบต่างระดับได้ หรือสามารถเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วบนพื้นที่ต่างระดับได้ดี แต่ถ้าเป็นพื้นราบ ก็ควรเลือกตัวที่มีสกิลโจมตีระยะไกลบนพื้นราบได้ดี เป็นต้น   4. แพ้-ชนะทางธาตุ ตัวละครแต่ละตัวจะมีธาตุประจำตัวอยู่ ให้จัดทีมโดยที่ตัวละครของเราชนะทางธาตุศัตรู เพื่อเพิ่มโอกาสชนะให้มากขึ้น ซึ่งแต่ละธาตุก็จะมีการแพ้-ชนะทางกันอยู่เรียงกันไป โดยทางซ้ายจะชนะทางขวา และขวาสุดชนะซ้ายสุด ส่วนธาตุแสงและมืด จะแพ้-ชนะกันเอง 5. เก็บคริสตัล ในการต่อสู้ เมื่อมีใครตาย คือโดยโจมตีจนเลือดหมด และเลขที่ขึ้นบนหัวนับถอยหลังจนถึง 0 แล้ว จะเปลี่ยนเป็นคริสตัล ให้รีบเก็บคริสตัลก่อนที่ศัตรูจะเก็บไป เพราะคริสตัลนั้นช่วยเพิ่มทั้ง HP, TP, Bravery และยังได้ JP ไว้ไปอัพสกิลต่าง ๆ ซึ่งการเพิ่ม HP และ TP จะช่วยโอกาสในการชนะให้กับทีมอีกด้วยนะจ๊ะ 6. กำหนดจุดเริ่มต้นให้ดี ทุกครั้งที่เริ่มเข้าลุยด่าน เราจะสามาถกำหนดจุดเริ่มต้นของตัวละครแต่ละตัวได้ด้วยตัวเอง แต่ตัวเกมจะตั้งเป็น Auto ไว้ให้ เราต้องไปปรับที่ Initial Placement ให้เป็น ON ตามภาพด้านล่าง เพื่อให้สามารถเลือกวางตัวละครแต่ละตัวให้เหมาะสมกับหน้าที่ เช่น ตัวโจมตีระยะใกล้ก็ควรอยู่ใกล้ศัตรูให้มากที่สุด ต่อมาจึงเป็นตัวเวทย์ ตัวโจมตีระยะไกล แล้วจึงเป็นตัว Support เป็นต้น 7. จัดทีมให้เหมาะสม การจัดทีมมีความสำคัญ อย่าเอาแต่กด Auto Formation โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับด่านที่เคยสู้แพ้มาแล้ว ให้จัดทีมเหมาะสมกับสถานการณ์ บางด่านอาจจะเน้นตัวโจมตีระยะไกล เพราะศัตรูอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำ บางด่านต้องมีตัวฮีล-ชุบ เพราะศัตรูโจมตีรุนแรงมาก เป็นต้น 8. ให้เพื่อนช่วยหรือจ้างคนมาช่วยลุย ก่อนที่จะเข้าต่อสู้ อย่าลืมให้เพื่อนช่วยหรือจ้างคนมาช่วยลุย โดยการกดที่ Companion เพื่อเลือกเอาเพื่อนมาช่วยหรือจ้างคนอื่นมาช่วยลุยได้ โดยถ้าตัวละครที่เราเลือกเป็นของเพื่อนก็จะไม่เสียเงินในการจ้าง ซึ่งการจ้างคนมาช่วยนั้นราคาจะสูงขึ้นตามระดับเลเวลของตัวละคร แต่ก็คุ้มค่าเพราะจะช่วยให้เราสามารถผ่านด่านต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายขึ้นมากเลยนะจ๊ะ ถ้าหากทำตามทั้ง 8 ข้อแล้วก็ยังสู้ไม่ชนะ ลุงแนะนำให้ไปเก็บเลเวลเพิ่มก่อน เพราะเทคนิคที่ลุงบอกไป จะใช้ได้ผลก็ต่อเมื่อตัวละครในทีมของเรามีเลเวลสูงพอที่จะสู้กับศัตรูในด่านนั้น ๆ ได้ด้วยนะจ๊ะ

Final Fantasy VII ได้กลับมาอีกครั้งแล้วในฉบับ Remake ซึ่งการเป็นเกม RPG ที่อยู่คู่วงการเกมมากว่า 23 ปี ก็มีสิ่งที่เป็นมนต์เสน่ห์ของเกมอยู่ในใจของผู้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่น่าหลงใหล เกมเพลย์ที่สนุกลุ่มลึก และเพลงประกอบที่อยู่ในความทรงจำของเรื่องราวภายในเกม ********** อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 / อ่านตอนที่ 3 ********** “Inside Final Fantasy VII Remake” จะพาคุณไปพบกับมนต์เสน่ห์เหล่านั้นอีกครั้ง จากเบื้องหลังของผู้ที่สรรค์สร้างเกมนี้ขึ้นมา ในจุดเริ่มต้นของ “Project Final Fantasy VII Remake” ตอนที่ 4 ซึ่งว่าด้วยเรื่องของเพลงประกอบภายในเกม โดยจะแสดงให้เห็นถึงการทำงานและความคาดหวังของเหล่าผู้ประพันธ์เพลง ที่ต้องการมอบมนต์ขลังที่ไม่เสื่อมคลายนี้ให้กับผู้เล่นทุกคน - เพลงของ Final Fantasy VII นั้นมีเพลงที่อยู่ในความทรงจำของผู้เล่นมากมาย และเพลงเหล่านั้นก็ได้ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ในฉบับ Remake ให้ไพเราะมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหนึ่งในผู้รับผิดชอบการทำงานด้านเพลงประกอบในภาคนี้อย่างคุณ Keiji Kawamori (Music Supervisor) ก็ได้บอกว่าพวกเขามีการพูดคุยถึงฉากต่างๆ มากมาย ว่าในแต่ละฉากนั้นต้องการเพลงประกอบในอารมร์แบบไหนบ้าง - คุณ Mitsuo Suzuki (Composer) ได้เสริมถึงเพลงที่จะโต้ตอบกับผู้เล่น อย่างเช่นในเพลงประกอบบางฉากก็จะมีอยู่ 3 เวอร์ชั่น ซึ่งถึงแม้จะมีจังหวะและเมโลดี้ที่เหมือนกัน แต่ก็ได้มีการเรียบเรียงที่ต่างกัน จึงทำให้ถึงแม้จะเป็นเพลงเดียวกัน แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันไปในแต่ละฉาก ซึ่งคุณ Mitsuo ก็ได้เปรียบการทำงานในส่วนนี้ว่าเขาเหมือนเป็น DJ ที่ต้องเล่นเพลงให้เข้ากับบรรยากาศในตอนนั้น - คุณ Masashi Hamauzu (Composer) ได้พูดถึงเพลงที่แตกต่างกันในแต่ละฉากว่ามันจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึกในระหว่างการเล่น อย่างเช่นการทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น หรือเพลงที่ทำให้เข้าถึงบรรยากาศในตอนนั้น คุณ Keiji จึงได้ยกตัวอย่างเพลง “Aerith Theme” ซึ่งในต้นฉบับนั้นจะมีแค่เวอร์ชั่นเดียว แต่ในคราวนี้จะมีทั้งเพลงในเวอร์ชั่นต่างๆ อย่างการใช้ในฉากที่สนุกสนาน ฉากที่รู้สึกเศร้า หรือฉากในชีวิตประจำวัน - การทำเพลงประกอบในเกมต้นฉบับนั้น มีข้อจำกัดทางด้าน Hardware ในสมัยนั้นอยู่ แต่ในปัจจุบันนั้นสามารถพัฒนาเพลงประกอบให้เข้ากับคัตซีนของเกมได้มากขึ้นแล้ว และนอกจากเพลงประกอบและคัตซีนที่เคยมีในต้นฉบับจะถูกปรับปรุงใหม่ ในเกมเวอร์ชั่น Remake ก็ยังมี เพลงประกอบใหม่และฉากคัตซีนใหม่ๆ มาควบคู่กันด้วย - สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการบรรเลงเพลงขึ้นมาใหม่ ก็คือส่วนทำนองของเพลง ซึ่งในปัจจุบันนั้นการเล่าเรื่องผ่านคัตซีนมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่มีบทพูดประกอบเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องทำให้ทำนองของเพลงสามารถเข้ากับเหตุการณ์ในฉากนั้นได้เป็นอย่างดีที่สุด และในเวอร์ชั่น Remake นี้ก็ยังได้คุณ Nobuo Uematsu มาช่วยแต่งเพลง Theme Song ของเกมด้วย ทำให้คุณ Keiji รู้สึกดีใจมาก และคิดว่าคุณ Uematsu คือคนที่ขาดไปไม่ได้สำหรับ Final Fantasy VII ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้แต่งเพลงในฉบับดั้งเดิมแล้ว คุณ Uematsu ก็ยังช่วยให้คำแนะนำหลายๆ อย่าง ในการแต่งเพลงฉบับ Remake ด้วย - นอกจากเรื่องของเพลงประกอบแล้ว ส่วนที่ขาดไปไม่ได้ระหว่างการเล่นเกมก็คือเสียงประกอบ ซึ่งในส่วนนี้คุณ Makoto Ise (Soud Director) ก็ได้บอกว่าพวกเขามีการคิดค้นระบบที่เรียกว่า Masts ขึ้นมา ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถใส่เสียงการเคลื่อนไหวให้กับตัวละครหรือเสียงต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งถึงแม้จะฟังดูเป็นระบบที่สะดวกสบาย แต่ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากเหมือนกันในการคิดระบบนี้ขึ้นมา และพวกเขาก็ยังต้องเริ่มจากการบันทึกเสียงประกอบใหม่ทั้งหมด อย่างเช่น เสียงของอาวุธหรือเสียงวัตถุมากมายที่มีอยู่ในเกม - คุณ Masashi ได้เคยร่วมร้อง chorus ในเพลงประกอบของ Sephiroth ของเกมต้นฉบับมาก่อน นั่นจึงทำให้เป็นงานแรกที่เขาได้มีส่วนร่วมกับคุณ Uematsu ซึ่งจากตอนนั้นมาก็มีเพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบกันอยู่มากมายจนถึงทุกวันนี้ แต่คุณ Keiji ก็อยากจะแสดงให้แฟนๆ รุ่นใหม่เห็นด้วยว่าเพลงของ Final Fantasy VII นั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน และหวังว่าทุกคนจะสนุกกับเพลงประกอบที่เปลี่ยนไปในฉากต่างๆ โดยที่ยังคงมนตร์สเน่ห์ของ Final Fantasy VII ได้สำหรับคนทุกกลุ่มไม่เสื่อมคลาย

Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายมาได้ 5 วันแล้ว ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการกลับมาของสุดยอดเกม JRPG นี้ทำให้เราเหมือนได้ย้อนกลับไปในช่วงวัยเด็กอีกครั้ง ทั้งยังมอบประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน แต่จะมีสักกี่คนที่ได้มีโอกาสเป็นผู้ให้เสียงพากย์ของตัวละครหลักในเกมแบบนี้ แล้วยังมีโอกาสได้เล่นเกมดังกล่าวแล้วฟังเสียงพากย์ของตัวเองไปด้วย? อย่างน้อยวันนี้เราก็ได้เห็นสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับผู้ที่เป็นคนให้เสียงพากย์ของตัวละคร Aerith แล้วครับ! Briana White คือชื่อของคนที่เป็นคนให้เสียงพากย์ภาษาอังกฤษของตัวละคร Aerith โดยตัวของเธอเองก็เป็นทั้ง YouTuber และ Twitch streamer ด้วย แน่นอนว่าเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่เล่นเกม FF7R ด้วยเช่นกัน ซึ่งพอมาถึงฉากที่ Cloud ได้พบกับ Aerith ครั้งแรก เพียงแค่ได้ยินเสียงที่เธอเป็นคนพากย์เอง Briana ก็ได้ร้องไห้ออกมา รับชมภาพวินาทีสุดประทับใจได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/TheStrangeRebel/status/1249894432976957440?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1249894432976957440&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.ign.com%2Farticles%2Ffinal-fantasy-7-remake-watch-aerith-voice-actor-hear-herself-for-the-first-time Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

นี่คือบทที่สามกับการแปลคลิปวิดีโอ Inside ของเกม Final Fantasy VII Remake ที่ในครั้งนี้จะทำการเล่าถึงระบบการเล่นรูปแบบใหม่ของเกมสุดสมบูรณ์แบบที่แตกต่างจากภาคก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ยังได้นำระบบเก่าอย่าง ATB (Active Time Battle) เข้ามาผสมผสานได้อย่างลงตัว นี่คือการเล่าจากผู้พัฒนาโดยตรง จะเป็นอย่างไรไปตามพวกเรา GameFever TH มาครับ อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 - ระบบการเล่นแบบดั้งเดิมของ Final Fantasy VII ฉบับดั้งเดิมนั้น เป็นระบบเลือกคำสั่งโจมตีแบบ Turn-Base แต่การเปลี่ยนแปลงเป็นระบบแอ็คชั่นใน Final Fantasy VII Remake นั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่มาก คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ได้บอกว่าเขาต้องการให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์จากเกมเพลย์ในรูปแบบใหม่ ด้วยระบบการเล่นที่ทำให้รู้สึกถึงความพึงพอใจ และยังคงความเป็น RPG ด้วยระบบ ATB (Active Time Battle) ของตัวเกมต้นฉบับ ในการเลือกคำสั่งการกระทำเอาไว้ - คุณ Tetsuya Nomura (Director & Concept Design) บอกว่าเมื่อคิดถึงเกมที่จะทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นมากที่สุด เขาก็พบว่าในปัจจุบันนี้มีผู้เล่นเกมแอ็คชั่นกันเยอะมากขึ้น ซึ่งความสำคัญของเกมแอ็คชั่นนั้นก็อยู่ที่การบังคับตัวละครแบบ Real-Time แต่สำหรับความเป็นเกม Final Fantasy ก็จำเป็นต้องมีเกจการกระทำต่างๆ โดยเฉพาะ Final Fantasy VII แล้วจะขาดเกจ ATB และระบบ Materia ไปไม่ได้เลย พวกเขาจึงได้นำสิ่งที่กล่าวไว้มาผสมกัน และปรับปรุงให้มีความสมดุลย์กับระบบการเล่นของเกมมากที่สุด - คุณ Teruki Endo (Battle Director) และคุณ Naoki Hamaguchi (Co-Director (Game Design Programing)) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดีไซน์เกมเพลย์ ได้กล่าวถึงการนำระบบการเลือกคำสั่งและระบบ ATB มาใช้ในปัจจุบัน ซึ่งระบบดังกล่าวนั้นมีอยู่ในเกมฉบับดั้งเดิม แต่เมื่อนำมาใช้กับเกมแอ็คชั่น จึงเป็นเป้าหมายแรกของพวกเขาที่ต้องคิดว่าจะทำยังไงให้เข้ากับสไตล์การเล่นของเกม และทำให้มีความทันสมัยโดยที่แฟนเกมรุ่นใหม่กับแฟนเกม RPG รุ่นก่อน สามารถเล่นเกมนี้ไปด้วยกันได้ - พื้นฐานของเกมแอ็คชั่นนั้นจะเห็นได้ว่ามีทั้งเรื่องของการควบคุมตัวละคร การหมุนมุมกล้องได้อย่างอิสระ หรือการกดปุ่มโจมตี แต่จุดที่ลำบากที่สุดนั้นคือการทำต้องกำหนดว่าตัวเกมนั้นจะมีความแอ็คชั่นถึงขนาดไหน และการใช้ ATB แบบไหนถึงจะรู้สึกสนุกที่สุด ซึ่งพวกเขาต้องทดลองสร้างศัตรูขึ้นมาหลายๆ แบบ เพื่อทดลองว่าเกมเพลย์นั้นสามารถเล่นได้กับศัตรูทุกแบบในเกมจริงๆ - คุณ Kitase เสริมว่าภายในเกมเพลย์ของ Final Fantasy VII Remake ที่เป็นเกมแอ็คชั่นนั้น เมื่อทำการเปิดเมนู Command แล้ว จะตัดเข้าสู่ระบบ Tactical Mode ซึ่งตัวเกมจะเข้าสู่ภาพสโลว์โมชั่นระหว่างการต่อสู้ เพื่อให้สามารถมีเวลาคิดและเลือกคำสั่งที่จะทำได้ นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดการเล่นที่ชื่อว่า Classic Mode ที่ตัวละครจะทำแอ็คชั่นโจมตีแล้วให้ผู้เล่นได้เลือกคำสั่งเพิ่มเติม ซึ่งทั้งสองระบบนี้ทำมาเพื่อรองรับผู้ที่เล่นเกมแอ็คชั่นไม่เก่งนั่นเอง - อีกหนึ่งจุดเด่นที่ยังไม่หายไปใน Final Fantasy VII Remake ก็คือระบบ Limit Break หรือระบบท่าไม้ตาย ซึ่งเมื่อตัวละครได้รับความเสียหายที่มากพอจนทำให้เกจ Limit เต็ม ก็จะสามารถใช้ท่าโจมตีพิเศษของแต่ละตัวละครได้ได้ ส่วนระบบ Materia นั้นก็ได้ถูกพัฒนาขึ้น และมันยังได้มีการพูดถึงมากขึ้นในเนื้อเรื่องของเกมด้วย - คุณ Tomotaka Shiroichi และ คุณ Kosuke Sakane (Lead Battle Designer) ได้เล่าถึงจุดเด่นของการต่อสู้กับ Boss ในเวอร์ชั่น Remake ว่ามีอยู่ 2 อย่าง โดยอย่างแรกคือระบบ Phase ซึ่งเมื่อบอสถูกโจมตีจนได้รับความเสียหายไปถึงจุดหนึ่ง ก็จะมีคัตซีนเปลี่ยนเข้าสู่ Phase 1, 2, 3 ที่จะทำให้บอสเก่งขึ้นตามลำดับและเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์ของการต่อสู้ และอีกส่วนที่สำคัญคือการสร้างบอสที่ตัวใหญ่ออกมาให้มีการเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นรู้สึกดดันได้มากกว่าตัวเกมต้นฉบับที่เป็น Turn Base RPG และได้เรียนรู้วิธีการต่อสู้จากการเล่นจากการเคลื่อนไหวมากขึ้น - ระบบ Materia ยังมีความจำเป็นในการใช้ต่อสู้กับบอสมากขึ้น โดยมันจะทำให้ผู้เล่นได้ลองผิดลองถูกว่าการใช้ Materia แบบไหน ถึงจะเหมาะสมกับการเล่นและการสู้บอสแต่ละตัว ส่วนระบบ Summon หรือระบบอัญเชิญมนตร์อสูรนั้น คุณ Hidekazu Miyake (Cutscene Director) ก็ต้องคำนึงถึงการปรากฎตัวของมนตร์อสูรที่ออกมาในสถานที่ที่แตกต่างกันไป เพราะในขณะที่ตัวเกมต้นฉบับนั้นจะอัญเชิญมนตร์อสูรออกมาโจมตีเพียงครั้งเดียว แต่ในเวอร์ชั่น Remake มนตร์อสูรจะปรากฎตัวได้ทั้งในฉากที่มีพื้นที่แคบและพื้นที่กว้าง และมาต่อสู้กับบอสร่วมกับผู้เล่นด้วย - นอกจากระบบต่อสู้แล้ว ใน Final Fantasy VII Remake ก็ยังมีส่วนการเล่นอื่นๆ อย่างเช่น Sub-Quest หรือ Mini Game ที่คุณ Naoki ต้องคิดว่าเขาจะใส่ไปตรงส่วนไหนของเนื้อเรื่องโดยไม่ทำให้การดำเนินเนื้อเรื่องของเกมเสียไป ซึ่งมันจะมีช่วงที่ให้ผู้เล่นได้มีเวลาไปทำสิ่งเหล่านั้นอย่างอิสระ และได้พบกับความสนุกในเมือง Midgar ที่เพิ่มมากขึ้น ไม่แพ้จากในตัวเกมต้นฉบับเลย

นิตยสาร Famitsu ของประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer ของเกม Final Fantasy VII Remake คุณ Yoshinori Kitase ซึ่งกล่าวถึงตอนจบของเกม โดยคุณ Kitase ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ทั่วโลกที่ร่วมกันสนับสนุนเกม และยังแสดงออกถึงความรู้สึกตื่นเต้นต่อท่าทีและความเห็นที่แฟนๆ จะมีต่อตอนจบของเกม และอนาคตของซีรี่ส์ Final Fantasy VII Remake ต่อไปในอนาคต "สำหรับแฟนๆ ที่เฝ้ารอเกมนี้มา 23 ปี ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสทำให้ความหวังของทุกท่านได้เป็นจริง เกม FF7R อาจจะเป็นเกมเต็มตัว ที่สามารถสนุกได้ในตัวของมันเอง แต่มั่นใจได้เลยว่าเรื่องราวของเกมยังไม่จบง่ายๆ แน่นอน สำหรับเกมภาคแรกนี้ เราได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเป็นไปได้อันยิ่งใหญ่ของซีรี่ส์ในอนาคต และเราได้แทรกคำใบ้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะตามมาไว้ในเกมมากมาย ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป ในส่วนตัวผมเองรู้สึกตื่นเต้นมากว่าแฟนๆ จะมีทฤษฏีสนุกๆ อะไรมาถกเถียงกันทางสื่อโซเชี่ยล ผมและทีมงานจะยังคงรับฟังความเห็นของทุกคน เพื่อให้แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของเกมในอนาคต" ผู้ที่ติดตามเกม Final Fantasy VII ภาคต้นฉบับมาตลอลด อาจจะรู้สึกผิดหวังกันบ้าง ที่เกมภาค Remake จะเปลี่ยนแปลงทิศทางไปจากที่หลายๆ คนคาดหวังเอาไว้ แต่ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบทิศทางใหม่ของผู้พัฒนา ก็ปฏิเสธยากว่าอนาคตของเกมภาค Remake นั้นน่าจับตามองเป็นอย่างมาก Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วสำหรับ PS4 เท่านั้น สำหรับคนที่สนใจเกม สามารถอ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่ หรืออ่านเคล็ดลับต่างๆ สำหรับการเล่นเกม ที่นี่ Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เกม War of The Visions : Final Fantasy Brave Exvius เป็นเกมที่เพชร (Visiore) มีคุณค่ามาก นอกจากจะสามารถนำมา Summon ตัวละครและของดีๆ ได้แล้ว ยังสามารถใช้ซื้อของหายากต่างๆ ได้อีกด้วยวันนี้ลุงไอซ์ GameFever TH จึงเขียนไกด์นี้ขึ้นเพื่อสายฟรีจะได้รู้วิธีหาเพชรมาใช้กันฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงินซักบาท เราไปดูกัน 1. รางวัล Login ประจำวัน อันนี้ทุกคนคงจะพอรู้อยู่แล้ว ว่าทุกวันที่ Login เข้าไปในเกมจะได้รับของรางวัลจาก Event ต่าง ๆ ซึ่งหลายครั้งก็จะได้เพชรฟรี ๆ เป็นของรางวัล Login ประจำวัน ดังนั้นหากไม่อยากพลาดเพชรฟรี อย่าลืม Login เข้าเกมให้ได้ทุกวันเลยนะจ๊ะ   2. ผ่าน Quest ทุกครั้งที่ผ่าน Quest ไม่ว่าจะ Story Quest หรือเควสอื่น ๆ อย่าง Event / Multi / Beasts Den / Hard Quest เมื่อเล่นผ่านได้ ก็จะได้รับเพชร 50 เม็ดเป็นของรางวัล ซึ่งแม้เหมือนจะไม่เยอะมากมาย แต่พอรวมกันทุกเควสแล้วเยอะมากเลย ดังนั้นจงเก็บเควสทั้งหมดที่สู้ไหว และเมื่อมีเควสใหม่เมื่อไหร่ก็อย่าลืมไปเก็บให้หมด เพชรฟรีทั้งนั้นเลย   3. เก็บ Mission ต่าง ๆ โดยเฉพาะส่วนของ Milestone >> Training ซึ่งจะแบ่งรายละเอียดลงไปอีก โดยอันที่แจกเพชรหลัก ๆ จะเป็น Consume Visiore / Make More Friends /  Awaken a Unit และ Limit Break a Unit ซึ่งแต่ละ Mission จะให้ทำในสิ่งที่แตกต่างกันไป ง่ายบ้าง ยากบ้าง แต่ก็แจกเพชรเยอะมากถึง Mission ละ 200 เพชร ดังนั้นสายฟรีอย่างเราห้ามพลาด ต้องเก็บให้ครบทุกอันให้ได้เลย และนอกจาก Training แล้ว Event บางอันก็มีแจกเพชรด้วยเหมือนกัน อย่าลืมดูเพื่อไม่ให้พลาดเพชรฟรี ๆ นะจ๊ะ   4. ผ่าน Subquest Subquest เป็นส่วนประกอบของ Hard Quest ที่หลายคนมองข้าม หรือทำเควสแต่ไม่ได้มารับของรางวัล ซึ่งลุงไอซ์จะสอนอย่างละเอียด ห้ามพลาดสำหรับสายฟรีที่ต้องการจะเก็บเพชรฟรีให้มากที่สุดอย่างเราเลยนะ เพราะ Subquest เป็นที่ ๆ สามารถหาเพชรฟรีได้เป็นพัน ๆ เม็ดเลยนะ โดยสามารถรับเควสได้ที่เมืองต่าง ๆ ใน Hard Quest เมื่อรับมาแล้ว เราสามารถดูได้โดยกดปุ่ม Subquest List ที่มุมจอขวาล่างของหน้า Hard Quest เมื่อมาถึงหน้า Subquest List จะมี 3 ปุ่มหลักคือ Ongoing - เควสที่กำลังทำอยู่ หรือแปลง่าย ๆ ว่ายังทำไม่สำเร็จนั่นเอง อย่าลืมทำให้หมดล่ะ Complete - เควสที่ทำเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้รับของรางวัล หลายคนที่ทำเควสเสร็จแล้วก็ปล่อยทิ้งเควสเอาไว้ที่หน้านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ !!! เพราะเท่ากับคุณยังไม่ได้รับรางวัลจากการทำเควสไปนั่นเอง Reward Claimed - หน้านี้คือเควสที่รับรางวัลไปแล้ว วิธีรับของรางวันคือไปที่หน้า Complete เลือกเควส แล้วกดปุ่ม Claim เพื่อรับรางวัล โดยให้กดรับให้หมดทุกเควสไม่ให้เหลือเลยจะได้รับของรางวัลให้ครบทั้งหมดเลยนะจ๊ะ   หวังว่าวิธีการหาเพชรฟรีที่ลุงบอก จะไม่ยากเกินไปที่จะทำได้ และช่วยให้ผู้เล่นสายฟรีได้มีเพชรเอาไว้ใช้ Summon หรือซื้อไอเทมที่อยากได้กันนะจ๊ะ ทุกคน  

วางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วกับเกม Final Fantasy VII Remake เกมที่คืนชีพตำนาน JRPG อันเป็นที่รักยิ่งของเกมเมอร์ทั่วโลก ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ด้วยระบบเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่ใหญ่และใหม่กว่าเดิม ให้เหล่าผู้เล่นเก่าได้มีโอกาสหวนคืนสู่นคร Midgar ให้หายคิดถึง และยังเป็นการแนะนำผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ ให้รู้จักกับหนึ่งในเกมที่มีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์เกมยุคใหม่ถึงทุกวันนี้ หลังจากที่ได้เล่นเกมมาแล้ว (อ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่) แม้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะไม่ได้มีระดับความยากมากมายอะไรเป็นพิเศษ (อย่างน้อยก็ในโหมด Normal ที่ผู้เขียนเล่น) แต่ก็มีเคล็ดลับหลายอย่างที่ถ้าผู้เขียนรู้มาก่อนจะเริ่มเล่น ก็คงจะทำให้เล่นเกมง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่เรากำลังทำความเข้าใจกับระบบต่อสู้ของเกม ด้วยประการฉะนี้ ผู้เขียนจึงอยากจะมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ ไม่กี่ข้อ ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้เอาไว้ จะได้เล่นเกมอย่างไร้กังวลที่สุดจ้า! อย่าลืมใช้สกิล! อันนี้อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องที่ไม่น่ามาบอกกัน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับผู้เขียน ด้วยความที่ระบบต่อสู้มีความเป็นเกมแอคชั่นสูง ทำให้บางครั้งผู้เขียนมัวแต่ง่วนกับการเล่นเกมให้เป็นเกมแอคชั่น เช่นการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีศัตรู หรือการทำคอมโบ ซึ่งส่งผลให้การต่อสู้กับศัตรูบางชนิดที่ควรจะง่ายและรวดเร็ว กลับกลายเป็นใช้เวลาและเลือดเนื้อ/ไอเทมมากกว่าที่จำเป็น ยิ่งในชั่วโมง-สองชั่วโมงแรกของเกมยิ่งต้องระวังไม่ให้ติดเป็นนิสัย เพราะศัตรูส่วนใหญ่จะยังอ่อนแอพอให้ฆ่าด้วยการโจมตีธรรมดาได้ แต่พอพ้นจากนั้นไป จะต้องพึ่งพาสกิลในแทบจะทุกการต่อสู้เลย กันไว้ให้ชิน แม้ว่าการกลิ้งหลบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายไปเลย จะดูเหมือนทางเลือกที่ฉลาดกว่าการยืนกดป้องกันเพื่อลดความเสียหายที่ได้รับเท่านั้น แต่สิ่งที่ผู้เขียนค้นพบคือการกลิ้งหลบของเกม Final Fantasy VII Remake มี Invincibility Frame ดั่งที่มักจะพบในเกมแอคชั่นส่วนใหญ่อยู่น้อยมากๆ (หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ) ทำให้การกลิ้งหลบการโจมตีที่รวดเร็ว หรือการโจมตีที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทำได้ยากกว่าที่หลายคนอาจจะคุ้นชินจากการเล่นเกมแอคชั่นอื่นๆ ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ การยอมยืนกันและรับความเสียหายที่ลดลง จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้รับความเสียหายน้อยลงแล้ว ยังทำให้เกจ ATB ของเราเพิ่มเร็วขึ้น และทำให้ตัวละครไม่ล้มลงอีกด้วย แน่นอนว่าการกลิ้งหลบยังคงจำเป็นสำหรับการโจมตีที่ป้องกันไม่ได้ หรือการโจมตีระยะไกลที่เคลื่อนที่ช้า และการโจมตีที่อาจจะทำให้ติดสถานะ เช่นพิษ ใบ้ เป็นต้น จงมี Materia Assess ติดตัวตลอดเวลา เมื่อคุณได้รับ Assess Materia มาจาก NPC ที่ชื่อ Chadley นั้น จงใส่มันลงไปในช่อง Materia ของ Cloud ซักช่องหนึ่ง และเก็บมันไว้ตรงนั้นจนจบเกม เจ้า Materia เม็ดนี้จะมอบความสามารถ Assess ให้กับตัวละครที่ใส่ ทำให้สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูได้ เช่นเงื่อนไขในการเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูแต่ละชนิด ซึ่งทำให้การต่อสู้ในเกมนี้ง่ายขึ้นหลายเท่า เพราะศัตรูเก่งๆ บางตัวอาจจะมีจุดอ่อนแปลกๆ เช่นต้องโจมตีจากด้านหลังเท่านั้น หรือต้องใช้การโจมตีนี้ในจังหวะนี้เท่านั้น ไม่งั้นจะทำความเสียหายไม่ค่อยได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยิ่งเราใช้สกิล Assess ใส่ศัตรูหลายชนิด Chadley ก็จะเริ่มพัฒนา Materia ชนิดใหม่ๆ มาขายให้เราอีกที แถมถ้าทำไปเรื่อยๆ ยังอาจจะปลดล๊อค VR Battle ให้เราลองสู้กับบอส Summon ต่างๆ และเอามันมาเป็นพวกได้ด้วย เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่เกมไม่ได้บอก (หรืออาจจะบอกแล้วผู้เขียนพลาดไป) คือเมื่อคุณลองใช้ Assess ใส่ศัตรูครั้งหนึ่ง คุณจะสามารถเรียกดูหน้าต่างรายละเอียดศัตรูชนิดนั้นได้ทันที ด้วยการกด Touchpad เมื่อพบศัตรูชนิดนั้นๆ ในการต่อสู้ จะได้ไม่เหมือนผู้เขียน ที่เล่นไปครึ่งเกมโดยที่คอยกด Assess ใหม่ทุกครั้งเวลาต้องการอ่านจุดอ่อนศัตรู... เพิ่มเลือดปาร์ตี้อย่างรวดเร็วด้วยปุ่ม L1 ผู้เล่นบางคนอาจจะหงุดหงิด เวลาที่ต้องการจะใช้ไอเทมหลายชิ้น แต่เกมบังคับให้เปิดเมนูใหม่ทุกครั้งที่กดใช้ไอเทมหนึ่งชิ้น แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเปิดเมนูค้างเอาไว้ได้ด้วยการกดปุ่ม L1 ค้างเอาไว้ในตอนที่ใช้ไอเทม เราจะได้กดใช้ไอเทมได้หลายๆ ครั้ง หรือกระทั่งสลับไปยังตัวละครอีกตัวได้เร็วๆ พยายามใช้ตัวละครระยะไกลในการฮีล แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถมอบ Heal Materia ให้กับตัวละครไหนก็ได้ แต่ผู้เขียนพบว่าการมอบ Materia ให้กับตัวละครที่โจมตีระยะไกลอย่าง Barret และ Aerith เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกเขามักจะยืนห่างจากศัตรู และมีโอกาสโดนขัดจังหวะร่ายสกิลน้อยกว่า Cloud หรือ Tifa โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม ที่ศัตรูเริ่มท้าทายและดุดันมากขึ้น นอกจากนี้ ในเวลาฉุกเฉิน ผู้เล่นสามารถสลับมาควบคุมตัวละคร Barret และ/หรือ Aerith ด้วยตัวเองเพิ่มเพิ่มเกจ ATB ของตัวละครจากระยะปลอดภัยได้ด้วย ในจังหวะที่ต้องฮีลเยอะๆ จะได้ทำได้เร็วขึ้น ใช้สกิล Pray บ่อยๆ เมื่อพูดถึงการฮีล ตัวละคร Aerith จะมาพร้อมกับ Materia เม็ดหนึ่งที่มอบความสามารถ (Ability) Pray ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถฮีลเพื่อนทั้งปาร์ตี้พร้อมๆ กันได้โดยไม่เสีย MP โดยผู้เขียนมักจะลืมว่ามีสกิลนี้อยู่ และเพิ่มเลือดโดยใช้ Cure/Cura แทนบ่อยๆ ซึ่งเปลือง MP และ Ether มาก แน่นอนว่าด้วยความเป็น Materia จะใส่ให้ตัวละครไหนก็ได้ แต่ตามที่กล่าวไปข้างบน การฮีลในเกมนี้ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของตัวละครระยะไกลอย่าง Aerith และ Barret อยู่แล้ว การทิ้ง Materia Pray เอาไว้กับ Aerith จึงถือเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด แก้ไข: มีผู้อ่านท่านหนึ่งแก้ไขข้อมูลมาว่า Pray เป็น Materia ไม่ใช่สกิลติดตัวของ Aerith ซึ่งผู้เขียนได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนอาจจะลืมเองเพราะใส่ Materia เอาไว้กับ Aerith ตลอดเวลา ขอขอบคุณสำหรับข้อแก้ไขด้วยครับ เก็บท่า Overcharge ของ Barret ไว้สำหรับเวลาจำเป็น สำหรับผู้เขียน ความสามารถ Overcharge ของ Barret เป็นหนึ่งในความสามารถที่ดีที่สุดในเกมเลย นอกจากจะสร้างความเสียหายได้รุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว การโจมตีนี้ยังทำให้หลอด Stagger ของศัตรูเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุด Overcharge ยังทำให้เกจ ATB ของ Barret เพิ่มขึ้นเมื่อใช้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถนี้จึงมีประโยชน์มากในหลายๆ สถานการณ์ เช่นถ้าต้องการฮีลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่มีใครมีเกจ ATB สามารถสลับมาเล่น Barret และเพิ่มเกจตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อฮีลในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ หรือถ้าศัตรูติดสถานะ Stagger การใช้ Overcharge ก็จะทำความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรู ทำให้เกจ Stagger เพิ่มขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยลงแขกได้นานขึ้น และยังทำให้มีเกจ ATB ไว้ให้ Barret ใช้ท่าใหญ่ๆ ซ้ำได้อีกด้วย สกิล Triple Strike ของ Cloud สามารถทำความเสียหายได้มากกว่าหนึ่งครั้งต่อศัตรูหนึ่งตัว เคล็ดลับหนึ่งที่ผู้เขียนชอบใช้เวลาเล่น Cloud คือการรอให้ศัตรูมายืนกระจุกกันเป็นกลุ่ม แล้วใช้สกิล Triple Strike เพื่อโจมตี โดยสำหรับสกิล Triple Strike นั้นจะทำให้ Cloud พุ่งไปฟันศัตรูในบริเวณใกล้ๆ กัน 3 ตัว แต่สิ่งที่เกมไม่ได้บอกคือ ศัตรูหนึ่งตัวสามารถโดนความเสียหายจาก Triple Strike ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ถ้าพวกมันยืนอยู่ใกล้กันมากพอที่จะโดนดาบของ Cloud เมื่อเขาแกว่งฟันตัวแรก และถ้ามันอยู่ใกล้กันมากพอเป็นกลุ่มๆ เราก็จะสามารถสร้างความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรูทั้งกลุ่ม แลกกับเกจ ATB ช่องเดียวเท่านั้น อย่าลืมเปิด Unbridled Strength ให้ Tifa ตัวละคร Tifa จะมาพร้อมกับสกิลติดตัวที่ชื่อว่า Unbridled Strength ซึ่งจะบัฟการโจมตีปกติและเพิ่มความเสียหายเมื่อใช้ Ability ต่างๆ ของเธอ และทำให้ท่าพิเศษ (ปุ่มสามเหลี่ยม) ของเธอเปลี่ยนไปตามจำนวนครั้งที่กด Unbridled Strength (สูงสุดสองครั้ง) โดยหลายคนอาจจะมองข้ามสกิลนี้ไปเพราะเกมไม่ได้บอกชัดเจนว่าทำอะไรได้ แต่ในความเป็นจริง การใช้สกิลนี้ควบคู่กับท่าโจมตีอื่นๆ ของเธอ ทำให้ Tifa เป็นตัวละครที่สามารถทำความเสียหายในขณะที่ศัตรู Stagger อยู่ได้มหาศาล มีประโยชน์มากๆ ในการต่อกรกับเหล่าบอสในเกม ที่ถ้าไม่ได้ Stagger แล้วจะโดนความเสียหายน้อยมาก คอมโบง่ายๆ สำหรับ Tifa คือการใช้สกิล Unbridled Strength เตรียมไว้ก่อนสองครั้ง เมื่อศัตรูติดสถานะ Stagger แล้ว ให้สลับมาควบคุม Tifa และกดใช้ท่าโจมตีสามเหลี่ยมของเธอติดๆ กันสองครั้ง (จะเป็นท่า Rise and Fall และ Omnistrike) ซึ่งจะช่วยเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูรวมกัน 45% และทำให้เกจ ATB ของ Tifa กลับมาเต็มสองช่องอีกครั้งด้วย ซึ่งเราสามารถวนคอมโบนี้ได้เรื่อยๆ (กด Unbridled Strength สองครั้งอย่างรวดเร็ว ต่อด้วยท่าสามเหลี่ยมสองครั้ง) จนกว่าศัตรูจะหายจากสถานะ Stagger เลย หรือถ้าใครมีสกิล True Strike จากอาวุธ Purple Pain แล้ว จะใช้ควบคู่กับคอมโบนี้เพื่อเพิ่มหลอด Stagger ก็ได้เช่นกัน ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อาจจะมีบางคนกำลังประสบปัญหาการซื้อเกม Final Fantasy VII Remake ผิดเวอร์ชัน เพราะหน้าร้าน Store ของโซน SEA บ้านเราอาทิ ไทย, สิงค์โปร, อินโดนิเซีย และมาเลเซีย มีการวางจำหน่ายเวอร์ชันตัวเกมหลายภาษาทั้ง จีน/เกาหลี และ อังกฤษ/ญี่ปุ่น มันเลยทำให้หลายๆ คนอาจจะเผลอกดซื้อผิดเวอร์ชันได้ เช่นอยากจะซื้อเวอร์ชั่น อังกฤษ/ญี่ปุ่น แต่บังเอิญซื้อผิดเป็นเวอร์ชัน จีน/เกาหลี เป็นต้น แต่ตอนนี้ทาง Sony ประกาศออกมาแล้วสำหรับใครที่ซื้อผิดเวอร์ชั่นคุณสามารถเรียกร้องขอคืนเงินได้ ถ้าหากคุณซื้อตัวเกมผิดเวอร์ชั่นก่อนวันที่ 8 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งคนที่มีเงื่อนไขครบได้รับการคืนเงินให้เป็น PlayStation Wallet ส่วนคนที่ซื้อเกมผิดหลังจากวันที่กำหนดในบางโซนเช่นฮ่องกงที่มีปัญหา ก็อาจจะสามารถติดต่อ Support ได้แต่จะดูเป็นกรณีไป ที่มา siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Macherie Hourne หญิงเหล็กสุดสวย ในเกม War of The Visions: Final Fantasy Brave Exvius เจ้าหญิงแห่งอาณาจักร Hourne นางเอกของเรื่อง ที่โดนโจมตีโดยกลุ่มโจรลึกลับ ระหว่างการเดินทางไปพบกับคู่หมั้นของเธอ ซึ่งนำไปสู่โชคชะตาระหว่างเธอกับ Mont Leonis คู่หมั้นของเธอ และเจ้าชายแห่งอาณาจักร Leonis ผู้พากษ์เสียงภาษาญี่ปุ่น คือ Lynn นักพากษ์สาวสวยชาวญี่ปุ่น ที่พากษ์เสียงให้กับอนิเมชั่นที่โด่งดังมาแล้วมากมาย เช่น Sword Art Online /  Dr.Stone / The Promised Neverland ฯลฯ ผู้พากษ์เสียงภาษาอังกฤษ คือ Skyler Davenport นักพากษ์ และนักแสดงสาวสวย ที่พากษ์เสียงให้กับอนิเมชั่นที่โด่งดังมาแล้วมากมาย เช่น Sword Art Online / Onepiece 3D2Y / Hunter x Hunter ฯลฯ Macherie Hourne เป็นตัวละครระดับ UR ธาตุแสง อาชีพหลักเป็น Cleric และมีอาชีพรองเป็น Monk / Black Mage (ในเกม WOTV FFBE ทุกตัวละครจะมี 3 อาชีพ) Macherie Hourne เป็นตัวละครที่มีความสามารถหลากหลาย มีสุดยอดเวทย์สาย Support, เวทย์โจมตี และที่ทำให้เธอได้รับฉายาหญิงเหล็ก ก็คือสกิลการโจมตีแบบ Physical Damage ที่ได้มาจากอาชีพ Monk และยังมีท่าไม้ตายสุดโหดฟาดด้วยคฑาอย่าง Radiant Twinstrike อีกด้วย โดยสกิลแต่ละสกิลจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ 1. Normal Attack - สกิลที่ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ในขณะทำการต่อสู้ได้ โดยอาจจะเป็นสกิล Attact, Buff, Debuff หรือ Support ก็ได้ 2. Reaction - สกิลที่มีโอกาสแสดงผลอัตโนมัติเมื่อโดนโจมตี 3.Support - สกิลที่ติดตัวที่ช่วยให้ตัวละครเก่งขึ้นโดยไม่ต้องกดใช้สกิล โดยสกิลในข้อ 2 และ 3 สามารถเซ็ทได้ที่หน้าจอ Ability Set   อาชีพหลัก Cleric Normal Attack - Cure / Banish / Dark Veil / Light Veil / Pringed Staff / Calamity Guard / Esunaga / Erase Reaction - Auto-Cure Support - SPR Up Lv. 1 อาชีพรอง Monk Normal Attack - Pummel / Store / Terra Slash / Revive / Surge Strike Reaction - Fist Counter Support - Strike Mastery / HP Up Lv. 1 Black Mage Normal Attack - Osmose / Banishga / Sleep / Bio / Banish / Drain / Banishra Reaction - Magic Counter Support - MAG Up Lv. 1 คะแนนรีวิว 8.5/10 จุดแข็ง - นอกจากจะเป็นนางเอกที่สวยแจ่มแล้ว ยังเป็นตัวละคร Support ที่ดีมาก ๆ ตัวนึง แล้วยังมีความสามารถหลากหลาย สามารถทำได้ทั้ง Support และโจมตี ซึ่งสามารถโจมตีได้ทั้งแบบ Magic และ Physical Dmg. ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ชอบตัวที่สามารถพลิกแพลงใช้งานได้หลากหลาย จุดอ่อน - เนื่องจากการสกิลของเธอมีความหลากหลาย ทำให้ไม่โดดเด่นในด้านใดด้านหนึ่งอย่างชัดเจน ไม่เหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ เพราะจะไม่สามารถใช้งานได้ดี และถ้าไม่เลือกอัพสกิลให้ดีอาจจะกลายเป็นตัวละครกาก ๆ ตัวนึงก็ได้

Final Fantasy เป็นชื่อของเกม JRPG ที่อยู่คู่กับวงการเกมมาอย่างยาวนาน และหนึ่งในภาคซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตำนานของซีรีส์อย่าง Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายแล้วในวันพรุ่งนี้จริงๆ แล้วไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่ถ้าเกิดว่าเนื้อเรื่องของแต่ละภาคนั้นจะมีคาวมเกี่ยวข้องกันไม่มากก็น้อย และวันนี้ก็มีคนที่พบอีกหนึ่งหลักฐาน ที่บอกว่า Final Fantasy 7 นั้นจริงๆ เป็นเรื่องราวหลังจาก Final Fantasy 10-2 หลายร้อยปีครับ! ถ้าย้อนกลับไปสักหน่อยในเกม Final Fantasy 10-2 นั้นเคยมีตัวละครหนึ่งที่ชื่อว่า Shinra ได้ค้นพบกับสถานที่หนึ่งซึ่งมาพลังงานชีวิตมหาศาลรั่วไหลออก ซึ่ง Yuna ที่เป็นนางเอกของภาค ก็เคยได้พูดไว้ว่า "แบบนี้เราก็จะสามารถสร้างเมืองที่ไม่มีวันหลับไหล ขึ้นมาในพื้นที่ดังกล่าวได้ มันสุดยอดไปเลย" รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ ในตอนแรกทุกคนก็มีคิดกันอยู่บ้างเหมือนกันครับ ว่าภาค 10-2 อาจเป็นเรื่องราวก่อนภาค 7 ก็เป็นได้ แต่ด้วยความที่ไม่มีหลักฐานอะไรมากไปกว่านี้ทำให้ผู้เล่นคิดว่า "คงเป็นแค่หนึ่งใน Easter Egg ที่ผู้พัฒนาใส่เอาไว้เฉยๆ" แต่ว่าใน Final Fantasy 7 Remake บริเวณภายในของบริษัท Shinra มีคนพบรูปภาพเก่าๆ ที่เหมือนถูกถ่ายเอาไว้เมื่อนานมาก่อนถูกติดไว้บนผนังของบริษัท ซึ่งชายที่นั่งอยู่ตรงกลางของรูปภาพดันไปมีหน้าตาเหมือนกับตัวละคร Shinra ในภาค 10-2 พอดี แถมชื่อของบริษัทก็ดันเป็น Shinra อีก แบบนี้ก็ไม่รู้แล้วเหมือนกันครับว่าสรุป ภาค 7 เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นหลังภาค 10-2 จริงๆ หรือเป็นอีก 1 Easter Egg ที่ผู้พัฒนาใส่มากันแน่ แน่นอนว่าคุณ Nojima ที่เป็นผู้เขียนเนื้อเรื่องไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย แต่ถ้าเกิดว่า Final Fantasy 7 เป็นภาคต่อของ Final Fantasy 10-2 จริง ดูจากความเก่าของรูปแล้ว FF7 คงเป็นเหตุการในอีกหลายร้อยปีหลังภาค 10-2 แน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เกม War of The Visions : Final Fantasy Brave Exvius เป็นเกมที่มีรายละเอียดในเกมเยอะมาก ทั้งตัวละคร ของสวมใส่ การ์ด ฯลฯ และยังมีด่านต่าง ๆ ให้เล่นมากมาย กิจกรรมที่ต้องทำในแต่ละวันจึงมีมากตามไปด้วย ดังนั้นลุงไอซ์จะรวบรวมสิ่งที่ต้องทำทุกวันไม่ควรพลาดมาไว้ให้นะจ้ะ 1. Log in เข้าเกมทุกวัน - เพื่อรับรางวัล Login Bonus ซึ่งเป็นของดี ๆ มากมาย เพราะมีรางวัล Login หลายอย่าง อย่างช่วงนี้ก็มี Release Commemoration Login Bonus, 1 Million Download Login Bonus, April Login Bonus ดังนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด ไม่ว่าจะยุ่งยังไงก็แค่ Login เข้ามารับรางวัล ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ได้ของดี ๆ แล้วจ้ะ   2. ดูโฆษณาเพื่อ Summon ฟรี - โดยสามารถ Summon ฟรีแบบ 1 Million Download Limited Normal Summon ที่จะได้ทั้งตัวละครและของต่าง ๆ ที่สามารถ Summon ได้ 3 ครั้ง แต่เมื่อ Summon 1 ครั้งต่อวัน แต่จะต้องเว้นครั้งละ 5 ชั่วโมงหรือ Video Summon ที่จะได้ Gil Snappers (เต่าน้อยที่เอาไว้ขายได้เงิน) หรือ Story Skip Tickets (ตั๋วเล่นซ้ำด่านแบบไม่ต้องสู้) ที่สามารถ Summon ได้ 3 ครั้งต่อวัน แต่สามารถ Summon ได้ติดต่อกัน 3 ครั้งได้เลย 3. Summon แบบลดราคา - จะมีบางช่วงที่มีกิจกรรมลดราคาการ Summon อย่างตอนที่ลุงเขียนไกด์นี้ก็มีลดราคา Rare Summon อยู่ โดยคิดราคา Summon Unit & Vision Card ที่การันตีว่าจะได้ตั้งแต่ MR ขึ้นไป ในราคาเพียง 50 เพชร (Visiore) เท่านั้น แต่ต้องเป็นเพชรแบบที่ซื้อมา ไม่ใช่ได้แจกจากในเกมนะจ๊ะ   4. Daily Mission - ทุกวันจะมี Mission ให้ทำ ซึ่งของรางวัลที่ได้ก็ถือว่าไม่ควรพลาด เพราะมีทั้งเพชร (Visiore), ตั๋ว Summon, EXP Cube ฯลฯ  ดังนั้น อย่าลืมมาทำ Mission ประจำวันกันด้วยนะจ๊ะ   5. ส่ง Chocobo ออกไปหาของ - เราสามารถใช้แรงงาน Chocobo ให้ไปหาของมาให้เราได้ โดยในเบื้องต้น สามารถส่งตัวละครไปกับ Chocobo ได้ 3 ตัว ซึ่งจะได้ EXP ด้วย และของที่ได้กลับมาก็ถือว่าโอเคเลย ดังนั้นอย่าลืมส่ง Chocobo ไปหาของมาให้เราด้วยเน้อ   6. Day / Training Event -เป็น Event ที่มีให้เล่นทุกวัน แต่บางอัน เช่น EXP Chamber มีกำหนดจำนวนการเล่นต่อวัน ซึ่งของรางวัลที่ได้จาก Event ให้ก็ถือว่าดีมาก ๆ เลย ดังนั้นต้องพยายามเล่นทุกวันให้ได้เลย   7. Limited Event - เป็น Event ที่มีให้เล่นบางช่วงเวลา และได้ของรางวัลพิเศษ ดังนั้นถ้าพอจะมีเวลา ก็ควรเล่นก่อนที่จะหมดช่วง Limited นะจ๊ะ 8. รับ - ส่งของขวัญให้กับเพื่อน และสมาชิกกิล - ทุกวันจะสามารถรับ และส่งของขวัญให้กับเพื่อนในหน้า Friends และ หน้า Guild ได้ ซึ่งจะได้ Friend Medal และ Guild Medal โดยสามารถนำไปซื้อสินค้าได้ใน Mog Shop นี่คิดสิ่งที่ลุงไอซ์คัดมาว่าควรจะทำให้ได้ทุกวัน เพราะส่วนมากจะเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก หรือได้มาฟรี แต่จริง ๆ ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะมากมาย เล่นได้ทั้งวัน ซึ่งก็เหมาะกับช่วงนี้ที่หลาย ๆ คนคงมีเวลาเล่นมากขึ้นเพราะได้หยุดอยู่บ้าน ถ้าใครเป็นแบบนั้นก็จัดเต็มไปเลยจ้า

Mediena สุดยอดจอมเวทย์สาวแสนสวย ในเกม War of The Visions: Final Fantasy Brave Exvius ที่แม้ภายนอกเธอจะดูเหมือนเด็กสาว แต่มีข่าวลือว่าเธอมีอายุมากกว่าร้อยปีแล้ว จึงทำให้เธอมาพร้อมเวทย์มนต์คาถามากมายที่เธอสามารถใช้กำจัดศัตรูทั้งหมดที่เข้ามาขวางทางของเธอให้หายไปได้อย่างง่ายดาย ผู้พากษ์เสียงคือ Shizuka Itoh นักร้องและนักพากษ์สาวสวยชาวญี่ปุ่น ที่พากษ์เสียงให้กับอนิเมชั่นที่โด่งดังมาแล้วมากมาย   Mediena เป็นตัวละครระดับ UR ธาตุน้ำแข็ง อาชีพหลักเป็น Black Mage และมีอาชีพรองเป็น Green Mage / Ninja (ในเกม WOTV FFBE ทุกตัวละครจะมี 3 อาชีพ) เป็นตัวละครสายเวทย์ที่ทุกคนที่เล่นเกมนี้ต้องการจะครอบครองเธอให้ได้ เพราะมีสกิลโจมตีที่หลากหลาย และรุนแรงมากแล้วยังมีท่าไม้ตายที่รุนแรงอย่าง Cosmo Plume ที่สามารถเก็บกวาดศัตรูให้หายไปทั้งกลุ่มได้อย่างง่ายดายอีกด้วย โดยสกิลแต่ละสกิลจะแบ่งออกเป็น 3 แบบ 1. Normal Attack - สกิลที่ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ในขณะทำการต่อสู้ได้ โดยอาจจะเป็นสกิล Attact, Buff, Debuff หรือ Support ก็ได้ 2. Reaction - สกิลที่มีโอกาสแสดงผลอัตโนมัติเมื่อโดนโจมตี 3.Support - สกิลที่ติดตัวที่ช่วยให้ตัวละครเก่งขึ้นโดยไม่ต้องกดใช้สกิล โดยสกิลในข้อ 2 และ 3 สามารถเซ็ทได้ที่หน้าจอ Ability Set   อาชีพหลัก Black Mage Normal Attack - Bio / Drain / Osmose / Blizzard / Blizzara / Toad / Sleep / Blizzaga / Flare Reaction - Magic Counter Support - MAG Up Lv.1 อาชีพรอง Green Mage Normal Attack - Barblizzard / Dispel / Ruin / Vitalize / Deshell / Deprotect Reaction - Dispel Counter Support - Emerald Echo / Saviors Protection Ninja  Normal Attack - Utsusemi / Decider of Fate / Shuriken / Hide / Poison Mist / Hyoton Reaction - Poison Barb Support - Shadow Runner   คะแนนรีวิว 9.5/10 จุดแข็ง - นอกจากความสวยเซ็กซี่แล้ว ยังมีสกิลเวทย์มนต์โจมตีที่รุนแรงจนสามารถเก็บกวาดศัตรูได้อย่างสบาย สมกับที่มีอาชีพหลักเป็น Black Mage แล้วยังมีสกิลอื่น ๆ จากอาชีพรองที่ช่วย Support ทั้งตัวเอง และปั่นป่วนศัตรูได้อีกด้วย และยังมีค่าสแตทที่ถือว่าดีมากอีกด้วย จุดอ่อน - เนื่องจากการสกิลทั้งหมดของเธอจะต้องใช้ค่า AP ทำให้ไม่สามารถโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง และยังมี Cast Speed ที่ทำให้เมื่อจะโจมตีก็ต้องกะเวลาร่ายเวทย์ให้ดีอีกด้วย

ช่วงนี้มีกระแสการนำเกมเก่ามาทำการ Remake ให้ภาพมีความทันสมัยขึ้น ให้มีรูปแบบการเล่นที่เข้าถึงง่ายขึ้น ซึ่งในตอนนี้เกมที่ทำภาค Remake ล่าสุดมี 2 เกม คือ Final Fantasy 7 และ Resident Evill 3  แต่ 2 เกมนี้ควรซื้อเกมไหม? เกมไหนน่าซื้อกว่ากัน? วันนี้เราจะมาหาคำตอบด้วย 3 หัวข้อ คือ เนื้อเรื่อง / รูปแบบการเล่น และความคุ้มค่าในการซื้อแต่ละเกม พร้อมแล้วก็เลื่อนลงไปอ่านต่อได้เลย! 1.ด้านเนื้อเรื่อง -Final Fantasy 7 Mako เป็นพลังงานสำคัญที่เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ของโลก และเป็นเชื้อเพลิงที่ให้พลังแก่เมืองมิดการ์ ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรนี้ผ่านเครื่องปฏิกรณ์ Mako จึงทำให้บริษัทไฟฟ้า Shinra มีอำนาจควบคุมโลกทั้งใบ กลุ่ม ragtag ของนักอุดมคตินิยมนามว่า Avalanche เป็นหนึ่งในป้อมปราการสุดท้ายของการต่อต้าน Cloud ทหารรับจ้างฝีมือดีได้เข้าร่วมในปฏิบัติการบุกโจมตี เพื่อทำลายเครื่องปฏิกรณ์ Mako หมายเลข 1 ในเมืองมิดการ์การระเบิดทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในความสับสนอลหม่าน และท่ามกลางความโกลาหลที่รุนแรง Cloud ก็ถูกรบกวนด้วยนิมิตของศัตรูที่ขมขื่นที่เคยเกิดขึ้นในอดีต หลังจากภาพหลอนจางหายไป เขาก็พบหญิงสาวคนหนึ่งกำลังขายดอกไม้ซึ่งได้ยื่นดอกไม้สีเหลือง 1 ดอกแก่เขา ในทันทีนั้นร่างของเงามากมาย ก็หมุนรอบตัวพวกเขา และนั้นจะเป็นอีกครั้งของจุดริ่มต้นเรื่องราวที่จะกำหนดชะตากรรมของโลกทั้งใบ -Resident Evill 3 ในช่วงภัยพิบัติเมือง Raccoon City ที่เป็นเมืองคู่กับซีรี่ส์เกม Resident Evill มาอย่างยาวนาน โดยภาค 3 นี้จะดำเนินเรื่องผ่าน จิล  วาเลนไทน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวละครจากเภาคต้นฉบับ กล่างถึงการกระทำที่โหดร้ายของอัมเบรลล่า ที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์การทำลายล้างเมือง และการให้กำเนิดซอมบี้ จิลล์ และผู้เชี่ยวชาญของเธอจากกองกำลังหน่วย STARS ต้องทำงานเพื่อเปิดโปงความลับขององค์กรชั่วนี้ให้โลกได้รับรูป แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจิลและพรรคพสกได้ค้นพบความลับที่น่าตกใจของเมืองแห่งนี้ และพบศัตรูใหม่ที่ทรงพลังยิ่งกว่าศัตรูตัวไหนๆที่เคยพวกเขาเจอมา มันมีนามว่า Nemesis! -สรุป FF7 เป็นเกมที่มีเนื้อหาแฟนตาซี มีความแอ็คชั่น ความรักดราม่า มีความยาวของเนื้อหาเยอะมากทำให้คุณอินกับตัวละครและตัวเกม RE3 เป็นเกมที่มีเนื้อหาเน้นความน่ากลัว ลึกลับ ซ่อนปริศนา มีความยาวไม่ได้มากเหมือน FF7 แต่ใช้เนื้อหาอย่างคุ้มค่า และตัวละครก็ไม่ได้มีเยอะ แต่มีบทบาทสำคัญในทุกๆฉากที่ปรากฏตัวออกมา สรุป FF7 เหมาะกับผู้ที่ชอบเกมแนวโลกแฟนตาซีและเสพเนื้อเรื่อง/ตัวละคร ส่วนRE3 เหมาสำหรับผู้ที่ชอบเกมแนวสยองขวัญซอมบี้ แต่มีความแอ็คชั่นอยู๋ในตัวด้วย 2.ด้านเกมเพลย์ -Final Fantasy 7 ในภาคต้นฉบับเกมนี้จะเป็นมุมมองจากที่สูงและเป็นการต่อสู้แบบ Turn-Base ซึ่งความสนุกในรูปแบบการเล่นนี้ จะมีน้อยกว่าการต่อสู้แบบ Real-Time ดังนั้นในภาค Remake นี้หลายๆอย่างจะถูกเปลี่ยนแปลงให้ดูน่าติดตามมากชึ้น เช่น มุมมองเปลี่ยนเป็นบุคคลที่ 3 และการต่อสู้จะใช้รูปแบบ Real-Time ซึ่งทำให้มีความสนุก และท้าทายมากขึ้นเหมือน Final Fantasy ภาคใหม่ๆในปัจจุบัน -Resident Evill 3 เช่นเดียวกันเกมนี้ก็ในภาคต้นฉบับจะมีระบบการเล่นที่เข้าถึงยากระดับนึง และใช้มุมกล้องมุมสูง แถมยังล็อคการหมุนของกล้องทำให้แรกๆอาจจะมึนๆกับการหมุนตัวก่อนแล้วค่อยเดิน ผมคิดว่าพวกคุณก็เคยเจอปัญหาเดียวกันนี้แบบผม555 ในภาค Remake นี้ผู้พัฒนาได้เปลี่ยนจากใช้มุมสูง เป็น TPS ( มุมมองบุคคลที่ 3 ) และไม่ล็อคกล้องแล้วทำให้การเคลื่อนไหวต่างๆง่ายขึ้นทันตาเห็น รวมทั้งระบบการยิงยังง่ายขึ้นเหมือนภาค 2 Remake ที่ทำออกมาเมื่อไม่นานมานี้นั่นเอง -สรุป FF7 เปลี่ยนจากการต่อสู้แบบ Tuse-Base เป็น Action Real-Time และเปลียนภาพมุมกล้องจากมุมสูงไปเป็นมุมมองบุคคลที่3 ปรับให้มีการใช้คอมโบและสกิลมากขึ้น พูดสั้นๆว่าเน้นบู๊แหลก สาดสกิลคอมโบรัวๆครับ RE3 เปลี่ยนจากการใช้กล้องมุมสูงเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 เช่นกัน และไม่มีการล็อคกล้องไว้ตามฉากนั้นๆเหมือนภาคต้นฉบับ เปลี่ยนเป็นให้กล้องติดตามผู้เล่นทำให้การควบคุมตัวละครง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก และระบบการยิงก็ปรับปรุงให้ง่าย แต่สิ่งที่ท้าทายคือ จะมีกระสุนที่จำกัด และศัตรูที่ไล่คุณตลอดทั้งเกม! สรุป FF7 เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเกมแนว ARPG การใช้คอมโบ อัพเกรดสกิล เจอมอนส์เตอร์ตัวใหญ่ๆ ส่วนRE3 เหมาะสำหรับผู้ที่เกมแนว Action/Horror ชอบความท้าทาย ชอบการยิงและการหนีบ้างในบางจังหวะ. 3.ด้านความคุ้มค่า -Final Fantasy 7 ตอนนี้ในเว็บไซต์หลักมีอยู่ 2 ราคา คือ 1.แบบปกติราคา 1,790 บาท 2.แบบ Deluxe Edition ราคาอยู่ที่ 2,390 บาท ทั้ง 2 ราคานี้จะมีของแถมพิเศษในเกม โดยจะเปิดให้โหลดล่วงหน้า 2 วันก่อนเกมจะเปิดให้เล่นได้ในวันที่ 4 เมษายน 2020 นี้ -Resident Evill 3 สิ่งที่คุณจะได้รับคือ ตัวเกมเต็ม และ Resident Evil Resistance โหมดมัลติเพลย์เยอร์ไว้เล่นกับเพื่อนๆ 1 VS 4 โดยสามารถเล่นได้ในวันที่ 3 เมษายนปี 2020 นี้ และนี่คือทั้งหมดที่คุณจะได้รับ ในสตรีมมีราคาอยู่ที่ 1,809 บาท -สรุป ทั้ง 2 เกมมีราคาใกล้เคียงกันมาก และแต่ละเกมจะมีของแถมให้กับผู้ที่ทำการ Pro-Oder อย่าง FF7 ถ้าซื้อไปคุณจะได้ไอเทม และอุปกรณ์บางอย่างที่สามารถใช้ในตอนเล่นเกมได้ ส่วน RE7 จะแถมเกม Resident Evil Resistance สำหรับเล่นแบบ 1VS4 แนบมาด้วย ดังนั้นทั้ง 2 เกมถือว่าคุ้มค่าทั้งคู่ ตรงจุดนี้ผู้อ่านต้องตัดสินใจให้ดีว่าชอบเกมไหนมากที่สุด แต่ถ้าตัดสินใจไม่ได้ก็ซื้อทั้ง 2 เกมมาเลยครับ!555 ใครซื้อมาแล้วก็อย่าลืมมาอวดกันนะครับ.      

สำหรับเกมเมอร์ที่เติบโตมาในยุค 90 สมัยที่เครื่อง PS1 กำลังเฟื่องฟู เชื่อว่าคงเคยได้เห็นหรือได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเกม Final Fantasy VII มาไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะจากเนื้อเรื่องและตัวละครอันเป็นที่รักยิ่งของแฟนๆ มาตลอดระยะเวลาเกือบ 25 ปีนับตั้งแต่ที่เกมวางจำหน่ายในปี 1997 หรือจากอิทธิพลอันใหญ่หลวงมากมายที่เกมมีต่อทั้งแนวเกม RPG และวงการเกมในภาพกว้าง ในฐานะเกมแรกๆ ที่เปลี่ยนจากการใช้ภาพ 2D มาเป็นโมเดลโพลิก้อนแบบ 3D ในยุคนั้น และเป็นเกมแรกที่ใช้สไตล์การออกแบบศิลป์ที่ผสมผสานความเป็นแฟนตาซีและไซไฟเข้าด้วยกัน อันกลายมาเป็นเอกลักษณ์ของเกม Final Fantasy แทบทุกภาคตั้งแต่นั้นมา จึงไม่น่าแปลกใจที่วงการเกมโดยรวมจะยกย่องเกมในฐานะ "ตำนาน" ที่ยังคงมีคนติดตามอย่างเหนียวแน่นตลอดมา ด้วยเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวไป ทำให้การมาถึงของเกม Final Fantasy VII Remake เปรียบเสมือนฝันที่เป็นจริงของเกมเมอร์หลายๆ คนทั่วโลก ที่ถวิลหาโอกาสที่จะกลับไปผจญภัยในดินแดน Midgar อีกครั้ง ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยกระดับขึ้นมาใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นของเกมยุคปัจจุบัน และร่วมเดินทางกับเหล่าตัวละครผองเพื่อนที่ไม่ได้พบเจอกันมากว่า 20 ปี ในฝั่งของผู้เขียนเอง แม้จะไม่ได้คาดหวังอะไรนักจากเกมนี้ แต่ก็สามารถพูดได้อย่างมั่นใจว่าเกม Final Fantasy VII Remake ถือเป็น JRPG ที่ยอดเยี่ยมเกมหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยเกมเพลย์สไตล์แอคชั่นที่ดุเดือด ท้าทาย และแพรวพราว กับกราฟฟิคและการออกแบบโลกของเกม ที่ทำออกมาได้น่าสนใจและน่าค้นหา รวมไปถึงตัวละครหลักทุกตัว ที่ล้วนมีเสน่ห์และเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งเป็นจุดที่ดูจะได้รับอนิสงค์จากกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็คงปฎิเสธไม่ได้เช่นกันว่า Final Fantasy VII Remake คงไม่ใช่เกมที่หลายๆ คนคาดหวังเอาไว้เช่นกัน ด้วยรูปแบบของเกมที่ดำเนินไปค่อนข้างเป็นเส้นตรง ไม่ค่อยเปิดโอกาสใหผู้เล่นได้สำรวจเมือง Midgar เท่าไหร่นัก แถมนอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว เกมมีอะไรให้ทำน้อยมากเมื่อเทียบกับเกม RPG ฟอร์มใหญ่ๆ ที่วางจำหน่ายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเมื่อเล่นจบแล้ว แทบจะไม่เหลือเหตุผลให้กลับไปเล่นต่อเลย ซึ่งอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับแฟนๆ ตัวยงของเกม แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ หรือผู้ที่คาดหวังจะได้รับประสบการณ์เกม RPG แบบเน้นๆ อาจจะต้องปรับความคาดหวังกันซักเล็กน้อย ◊ เนื้อเรื่อง ◊ สำหรับคนที่อาจจะไม่เคยติดตามเนื้อเรื่องของเกม FF7 มาก่อนจริงๆ เนื้อเรื่องของเกม Remake จะดัดแปลงมาจากช่วงแรกสุดของเกมภาคต้นฉบับ โดยจะติดตามตัวละครเอก Cloud Strife อดีตสมาชิกหน่วยทหารพิเศษ SOLDIER และผองเพื่อนในกลุ่ม Avalanche ในการต่อกรกับองค์กรพลังงาน Shinra ผู้ซึ่งผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วยการดูดเอา Mako หรือพลังชีวิตของโลกมาใช้ คนที่เคยเล่นเกม FF7 ต้นฉบับมาก่อน น่าจะรู้ดีว่าเนื้อเรื่องที่แท้จริงของเกมมันยิ่งใหญ่กว่าแค่การต่อกรกับองค์กรชั่วร้ายอย่าง Shinra มาก แต่สำหรับเกม Final Fantasy VII Remake ผู้เขียนพบว่าเนื้อเรื่องส่วนที่ชอบมากที่สุด กลับเป็นช่วงเวลาเล็กๆ ที่เน้นการพัฒนาตัวละคร เช่นฉากที่ Tifa พยายามช่วย Cloud หาห้องพัก หรือฉากการสนทนาระหว่าง Cloud และ Aerith ระหว่างเดินทางหลบหนีทหาร Shinra มากกว่าเหตุการณ์ใหญ่ๆ ในเนื้อเรื่องหลักเสียอีก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากกราฟฟิคที่พัฒนาขึ้น บวกกับการพากย์เสียงที่ยอดเยี่ยมของเกมด้วย ทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีชีวิตชีวา ทั้งในด้านอากัปกิริยาและเสียงพากย์ ที่ช่วยสื่อตัวตนที่แตกต่างกันของตัวละครแต่ละตัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในฉากเงียบๆ ที่เกมมีเวลาให้ใกล้ชิดตัวละครมากกว่า หรือฉากที่แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวเมือง Midgar ที่ช่วยเสริมบรรยากาศและความรู้สึกกว้างขวางของนคร Midgar ได้อย่างน่าทึ่ง แม้ว่าเกมเองจะไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สำรวจเมือง Midgar มากเท่าไหร่ อาจจะด้วยความที่เกมจำเป็นต้องยึดอยู่กับโครงเรื่องเดิมของต้นฉบับ แต่เกม FF7R เป็นเกมที่มีความเป็นเส้นตรงค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ RPG ใหญ่ๆ หลายเกมในปัจจุบัน ผู้เล่นจะไม่สามารถเดินทางไปมาระหว่างเขตต่างๆ ของเมือง Midgar ได้ หรือกระทั่งการกลับไปยังพื้นที่เก่าที่เคยผ่านมาแล้ว ก็ยังทำไม่ได้เช่นกัน เพราะพื้นที่ที่ผู้เล่นจะสำรวจได้จะขึ้นอยู่กับเนื้อเรื่องของเกมเท่านั้น (เช่น Chapter 3 จะอยู่ในเขตหนึ่ง แต่พอไป Chapter 4 แล้วก็กลับไปไม่ได้อีก) หมายความว่าถ้าพลาดความลับหรือเควสย่อยไป จะต้องเล่นต่อไปจนจบเกมก่อนเพื่อปลดล๊อคระบบ Chapter Select จึงจะกลับไปเล่นต่อได้ และถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าเราจะมีอิสระ เพราะเมื่อเริ่มเล่น Chapter หนึ่งแล้ว จะต้องเล่นต่อจนจบ Chapter เกมจึงจะถือว่าเราเล่นเนื้อหาเหล่านั้นผ่านแล้วจริงๆ นอกจากเนื้อเรื่องหลักแล้ว เกมยังมีเควสย่อยให้ทำอยู่ประปรายตามทางด้วย โดยต้องบอกตามตรงว่าเควสย่อยของเกม FF7R ยังทำออกมาได้ไม่ดีนัก แม้ว่าเนื้อเรื่องในเควสย่อยหลายเรื่องจะเปิดโอกาสให้พัฒนาตัวละคร และบางเควสถึงกับส่งผลต่อเหตุการณ์เล็กๆ ในเนื้อเรื่องหลักด้วย แต่ภารกิจที่เราต้องทำส่วนใหญ่จะเน้นการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ฆ่ามอนส์เตอร์ แล้วกลับมาส่งเควส การทำเควสเสริมส่วนใหญ่จึงไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ มีเพียงบางเควสจริงๆ ที่ทำแล้วได้ของรางวัลที่คุ้มค่า แต่เควสในเกมก็ไม่ได้มีเยอะแยะมาก (ราวๆ 20 กว่าเควส) การจะทำทั้งหมดจึงไม่ได้ใช้เวลามากมายเช่นกัน เหมือนเป็นของแถมให้ผู้เล่นได้มีเหตุผลในการใช้เวลากับเกมและโลกของเกมมากขึ้นเท่านั้น ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ไม่ได้จะบอกว่าเนื้อเรื่องของเกม FF7R ไม่ดี หรือเป็นปัญหาสำหรับการเล่นเกม แต่เรียกว่ามันรู้สึก "ธรรมดาๆ" มากกว่า คนที่คาดหวังว่าเกมจะมีความอิสระหรือเปิดกว้างเหมือนเกม RPG หลา่ยๆ เกมในตลาดอาจจะผิดหวังกันได้ และอาจจะด้วยความที่รู้อยู่แล้วด้วยว่าเนื้อเรื่องทั้งหมดของเกมเป็นเพียงส่วนที่เล็กมากๆ เมื่อนำไปเทียบกับเนื้อเรื่องดั้งเดิมของต้นฉบับ มันเลยอดรู้สึกไม่ได้ว่าเหตุการณ์หลายอย่างที่เห็นอยู่นี้ ไม่ได้มีความหมายขนาดนั้นในภาพใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อไปถึงช่วงท้ายเกม ที่ผู้พัฒนาเริ่มจะแย้มๆ ถึงศัตรูที่แท้จริงของเนื้อเรื่อง และทิศทางในอนาคตของซีรี่ส์ FF7R ต่อไป ซึ่งบอกได้สั้นๆ แบบไม่สปอยว่า "เหนือทุกความคาดหมาย" ของทุกคนแน่นอน ◊ เกมเพลย์ ◊ อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ขาดไปไม่ได้คือเรื่องระบบต่อสู้ ที่เปลี่ยนจากระบบแบบ Turn-based เหมือนภาคดั้งเดิม มาสู้ระบบที่เน้นแอคชั่นแบบ Real-time ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้เล่นดั้งเดิมหลายคนกังวลใจอยู่มากที่สุดเกี่ยวกับเกมภาคใหม่ แต่ถ้าวัดด้วยตัวของมันเอง (คือไม่เอาระบบดั้งเดิมเป็นมาตรวัด) ระบบต่อสู้ของ FF7R ถือว่าทำออกมาได้สนุกมาก และสามารถรักษาสมดุลระหว่างการเล่นเกมแอคชั่นเต็มตัว และการต่อสู้ผ่านเมนูของเกม RPG คลาสสิคได้อย่างกลมกล่อม ในการต่อสู้นั้น ผู้เล่นจะต้องใช้การโจมตีธรรมดาไปพลาง ระหว่างรอให้เกจ ATB ของตัวละครเพิ่มจนเต็ม จึงจะสามารถใช้ความสามารถพิเศษหรือเวทย์มนตร์ของตัวละครนั้นๆ ได้ การสร้างหรือรับความเสียหายจะช่วยให้เกจ ATB เพิ่มเร็วขึ้นด้วย ผู้เล่นจะสามารถกดปุ่มเพื่อชะลอการเคลื่อนที่ทั้งหมด และเรียกเมนูคำสั่งขึ้นมาเพื่อเลือกใช้สกิล ผู้เขียนยอมรับว่าในช่วงชั่วโมงแรกๆ ของเกม ผู้เขียนรู้สึกติดขัดกับระบบนี้พอสมควร เพราะรู้สึกเหมือนโดนขัดจังหวะตอนบู๊ จึงพยายามใช้ปุ่มลัดในการกดสกิลเป็นหลัก แต่เมื่อเล่นไปซักพัก เริ่มทำความรู้จักระบบ Stagger ของเกม (คล้ายกับระบบใน FF13/15 ที่เมื่อโจมตีจุดอ่อนศัตรูไปเรื่อยๆ จะทำให้ศัตรูล้มลง และโดนความเสียหายมากขึ้นชั่วขณะ) และเจอศัตรูหลากหลายชนิด ที่ล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อนและเงื่อนไขในการ Stagger ไม่เหมือนกัน เช่นศัตรูตัวหนึ่ง จะต้องโจมตีสวนในจังหวะที่มันกำลังจะโจมตีเท่านั้น จึงจะทำให้ติด Stagger ได้ หรืออีกตัวที่ต้องใช้เวทย์มนตร์เท่านั้นเป็นต้น หรือกระทั่งศัตรูระดับบอส ที่มักจะมีชิ้นส่วนให้เราโจมตีได้หลายชิ้นเพื่อจำกัดการโจมตี ทำให้ผู้เขียนจำเป็นต้องปรับตัวและวางแผนมากขึ้น จนทำให้รู้สึกชอบระบบนี้ขึ้นมาในที่สุด เพราะระบบเปิดโอกาสให้ผู้เขียนสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์และวางแผนใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสำคัญมากในช่วงท้ายๆ ที่เกมเริ่มมีศัตรูหลายชนิดให้เราต้องรับมือพร้อมกัน แม้เกมจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่เป็นแอคชั่นมากขึ้น แต่รับประกันได้ว่าการใช้ความคิดและการวางแผนแบบ RPG ยังคงมีอยู่เต็มเปี่ยมแน่นอน ที่สำคัญยิ่งกว่าคือการควบคุมตัวละครเพื่อนร่วมปาร์ตี้ เพราะผู้เล่นจะสามารถควบคุมตัวละครโดยตรงได้แค่ทีละตัว ในขณะที่ตัวละครตัวอื่นๆ มักจะเดินไปเดินมา หรือยืนป้องกันเฉยๆ เพราะ A.I. ของเพื่อนร่วมปาร์ตี้ก็ไม่ได้ดีนัก การหยุดเวลาจึงทำให้เราสามารถสั่งการเพื่อนร่วมปาร์ตี้ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำในเวลาที่จำเป็น เช่นการสั่งให้ใช้เวทย์ป้องกัน หรือใช้สกิลใส่ศัตรูที่ Stagger อยู่เป็นต้น นอกเหนือไปจากการหยุดเวลาเพื่อออกคำสั่ง เกมยังเปิดให้ผู้เล่นสลับไปควบคุมตัวละครอื่นๆ ในปาร์ตี้ได้อย่างอิสระอีกด้วย ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้เขียนชอบมากๆ เพราะแต่ละตัวจะมีวิธีการเล่นที่แตกต่างกันไปหมด เช่น Tifa จะเน้นการโจมตีเป็นคอมโบที่รวดเร็ว และมีการเคลื่อนที่ที่ว่องไวคล่องตัวเป็นพิเศษ ในขณะที่ Barret จะเน้นการโจมตีระยะไกลด้วยแขนปืน แต่จะเคลื่อนไหวช้า และกลิ้งหลบได้ระยะสั้นกว่าคนอื่น ซึ่งรายละเอียดที่ต่างกันเล็กน้อยเหล่านี้ล้วนช่วยเพิ่มมิติในการเล่นเกมขึ้นไปอีกขั้น แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหา เพราะ A.I. ของเพื่อนร่วมปาร์ตี้บางครั้งก็ไม่ฉลาดเอาซะเลย อย่างในการสู้กับบอสครั้งหนึ่ง ที่ตัวละคร Barret ของผู้เขียนดึงดันจะวิ่งไปยืนสาดกระสุนอยู่หน้าบอสให้ได้ แทนที่จะยืนยิงห่างๆ ในที่ปลอดภัย จนผู้เขียนรู้สึกเหมือนโดนบังคับให้ต้องควบคุมตัวเขาตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้เขาวิ่งเข้าไปตายอย่างไร้ค่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากการต่อสู้ เกมมีระบบเกมเพลย์อันเป็นแก่นอยู่อีกอย่าง ก็คือการพัฒนาความสามารถของตัวละคร ซึ่งมีหลักๆ อยู่สองอย่าง นั่นก็คือระบบการอัพเกรดอาวุธ และระบบ Materia อันเป็นเอกลักษณ์ของ Final Fantasy VII ภาคดั้งเดิมนั่นเอง ระบบอาวุธของเกม FF7R จะค่อนข้างแตกต่างจากอาวุธในเกม RPG ส่วนใหญ่ แต่จะมีความใกล้เคียงกับระบบ Job Class มากกว่า โดยตัวละครแต่ละตัวจะได้รับอาวุธตัวละครประมาณ 4-6 ชนิด (เท่าที่ผู้เขียนหาได้) อาวุธแต่ละชนิดจะสามารถใช้แต้ม SP เพื่ออัพเกรดความสามารถไปได้เรื่อยๆ จนจบเกม ซึ่งแต่ละชิ้นมักจะอัพเกรดไปในทิศทางที่กำหนดแนวทางการเล่นของตัวละครนั้นๆ ไปเลย เช่นอาวุธชิ้นหนึ่งอาจจะสามารถเพิ่มพลังโจมตีกายภาพได้เยอะ ในขณะที่อาวุธอีกชิ้นหนึ่งจะเพิ่มพลังเวทย์และความเสียหายธาตุต่างๆ เป็นต้น แต่ละตัวละครจะได้รับอาวุธที่กำหนดแนวทางเหล่านี้เหมือนกัน (ทุกตัวจะมีอาวุธที่เน้นเวทย์ เน้นป้องกัน เน้นโจมตี เหมือนกัน) แม้ตัวละครแต่ละตัวอาจจะมีแนวทางที่เข้ากับความสามารถเฉพาะตัวมากกว่า เช่น Aerith ที่ไม่ว่ายังไงก็จะต้องเป็นตัวละครสายเวทย์มนตร์ หรือ Barret ที่มีความสามารถพิเศษที่เหมาะกับการใช้แทงค์ (แต่เอ็งใช้ปืนนะ?!) แต่ระบบก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถทดลองกับการจัดปาร์ตี้เพื่อให้เข้ากับความชอบหรือสถานการณ์ได้พอสมควร ระบบการอัพเกรดอาวุธก็จะทำงานควบคู่ไปกับระบบ Materia ที่เปรียบเสมือนสกิลที่เราสามารถสวมใส่ให้ตัวละคร โดย Materia ทุกชนิดในเกมสามารถใส่ให้กับตัวละครทุกตัว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการกำหนดหน้าที่ของตัวละครแต่ละตัว เช่นตัวหนึ่งอาจจะมี Materia เวทย์หลายธาตุ ในขณะที่อีกตัวมี Materia ที่เพิ่ม Max HP เยอะๆ เอาไว้แทงค์ ซึ่งทั้งหมดนี้เองคือสิ่งที่เสริมมิติควมเป็น RPG ให้กับเกม เอาไว้ถ่วงดุลความแอคชั่นของการต่อสู้ สำหรับการเล่นในโหมด Classic ซึ่งจะทำให้เกมควบคุมส่วนแอคชั่นของเกมโดยอัตโนมัติ และให้ผู้เล่นควบคุมเพียงการกดเมนูเพื่อใช้สกิลเมื่อเกจ ATB เต็ม ผู้เขียนรู้สึกว่ามันทำให้เกม "ง่าย" ไปซะหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะเกมจะปรับระดับความยากให้เทียบเท่ากับระดับ Easy โดยอัตโนมัติเมื่อเราเลือกเล่นในโหมดนี้ ทำให้ความรู้สึกดุเดือดเลือดพล่านของเกมหดหายไปอย่างมาก เพราะเราจะไม่ต้องกังวลเรื่องการป้องกันหรือหลบหลีกการโจมตีอีกต่อไป นอกจากการต่อสู้และพัฒนาตัวละคร เกมยังมี Minigame ต่างๆ ให้เล่นกัน ซึ่งเข้าใจว่าเป็นเกมคลาสสิคจากภาคเก่าด้วย เช่นการขี่มอเตอร์ไซค์ หรือการเต้นใน Honeybee Bee Inn ซึ่งก็เป็นกิจกรรมสนุกๆ เล็กน้อยให้ผู้เล่นได้ทำเพื่อเพิ่มมิติให้กับเกมเพลย์ จะได้ไม่ซ้ำซากเกินไป แฟนๆ ของเกมภาคดั้งเดิมอาจจะรู้สึกตื่นเต้นกับมินิเกมฉบับปรับปรุงใหม่เหล่านี้เป็นพิเศษ ถ้าจะพูดถึงจุดอ่อนของเกมเพลย์ คงเป็นเรื่องที่เกมไม่ค่อยมีความลับหรือเนื้อหาแบบ Endgame ให้ทำหลังเล่นจบเนื้อเรื่องเลย โดยนอกจากระบบ Chapter Select ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ การเล่นจบเนื้อเรื่องจะปลดล๊อคระดับความยาก Hard ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถตามหา Summon Materia เพื่อเรียกสัตว์อสูรที่หาได้เฉพาะในระดับ Hard เท่านั้น แต่ในเมื่อผู้เล่นเล่นเนื้อเรื่องจบแล้ว และเกมก็ไม่ได้มีบอสหรือดันเจี้ยนลับให้พิชิตหลังจบเกม ของรางวัลต่างๆ ที่ปลดล๊อคในระดับ Hard จึงรู้สึกไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่สำหรับผู้เขียน นอกจากเป็นของเอาใจแฟนเกม ด้วยการอวด Summon เท่ๆ มากกว่า ◊ กราฟฟิค/การนำเสนอ ◊ แม้ว่าเกม FF7R จะไม่ได้เปิดให้ผู้เล่นสำรวจมหานคร Midgar อย่างลึกซึ้งเท่าที่ผู้เขียนคาดหวังไว้ แต่ต้องกล่าวชมจริงๆ ว่าพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ในเกมนั้นทำออกมาได้ละเอียดละเมียดละไมเป็นอย่างยิ่ง แต่ละพื้นที่ของเกมมีกลิ่นไอที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ที่สื่อถึงความเป็นอยู่และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันของชาวเมือง Midgar เขตต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นความซอมซ่อแต่มีชีวิตชีวาของสลัมเขต 7 (Sector 7 Slums) ไปจนถึงแสงสีที่แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ของ Wallmarket เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ช่วงเวลาเล็กๆ ที่เกมใช้ในพื้นที่เหล่านี้ ซึ่งมักเป็นสถานที่ที่ผู้เล่นจะได้เห็นการปฏิสัมพันธ์น่ารักๆ ระหว่างตัวละคร น่าจดจำกว่าเหตุการณ์ใหญ่ๆ ของเนื้อเรื่อง ที่มักจะเกิดขึ้นในโรงงานหรือดันเจี้ยนมืดๆ แคบๆ นอกจากนี้ เกมมีปัญหาเรื่องกราฟฟิคพื้นผิว ที่โหลดตามเกมไม่ทันบ้างบางครั้ง (เช่นเวลาหันกล้องเร็วๆ) แต่ก็ถือว่าไม่ได้ใหญ่โตอะไร และแทบดูไม่ออกเลยในดันเจี้ยน อีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้กับเกมได้เป็นอย่างดี คือเรื่องเสียงพากย์และสีหน้าท่าทางของตัวละคร ซึ่งถือว่าท๊อปฟอร์มเลยสำหรับเกมของ Square Enix ในช่วงหลายปีมานี้ แม้ว่าจะมีปัญหาเรื่องการขยับปากของตัวละคร ที่ดูแปลกๆ ไม่ตรงคำพูดอยู่บ่อยครั้ง หรือท่าทีกิริยาของตัวละครบางตัว ที่มีความเป็นอนิเมะสูงมาก จนบางทีก็ทำให้อารมณ์หลุดจากเกมเหมือนกัน (ไม่รู้ว่าถ้าเล่นเสียงญี่ปุ่นจะมีปัญหาพวกนี้ไหม) แต่โดยรวมๆ แล้วตัวละครทุกตัวของเกม FF7R ก็ถือเป็นสีสันหลักของเกมอย่างแน่นอน ในเรื่องของเพลงประกอบ ต้องบอกว่าเกมทำออกมาได้ค่อนข้างดี แม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะแอบชอบเพลงแบบต้นฉบับมากกว่า แต่เพลงเวอร์ชั่นรีมิกซ์ต่างๆ ของภาคใหม่ก็ช่วยเสริมบรรยากาศของเกมได้ดี แม้ว่าจะมีปัญหาเล็กน้อยที่ความดัง เพราะในหลายฉากผู้เขียนรู้สึกว่าเกมเร่งเสียงเพลงขึ้นมาดังมาก จนแทบจะฟังเสียงพูดของตัวละครไม่รู้เรื่องเลย โดยเฉพาะในฉากต่อสู้ นอกจากนี้ เกมยังมีบั๊คในระบบการคำนวนตำแหน่งเสียง ที่ทำให้เสียงพูดของตัวละครบางครั้งฟังดูแผ่วๆ เหมือนพูดมาจากระยะไกล ทั้งที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน หรือบางทีก็ตัดเข้าออกระหว่างระยะใกล้-ไกลกลางประโยคเลยก็มี ซึ่งจุดนี้ทำให้ฟังบทสนทนาไม่ออกบ่อยๆ (ยังดีอ่านซับได้) และทำให้อรรถรสของเกมเสียไปเล็กน้อยเวลาที่เกิดขึ้น ◊ สรุป ◊ แม้จะไม่ใช่เกมที่หลายคนคาดหวังจะได้เห็น แต่ในฐานะคนที่ไม่ได้มีความผูกพันลึกซึ้งกับเกมต้นฉบับ ผู้เขียนก็พูดได้เต็มปากว่า FF7R เป็นเกม JRPG ที่สนุกเกมหนึ่ง ด้วยระบบการต่อสู้และพัฒนาตัวละครที่น่าสนใจ รวมไปถึงเหล่าตัวละครเอก ซึ่งล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ เหมือนเป็นการตอกย้ำตัวเองว่าทำไมเกม Final Fantasy VII จึงเป็นที่รักของเกมเมอร์ได้ขนาดนี้ ถึงเกมจะมีข้อบกพร่องพอสมควรในหลายๆ ด้าน ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นเหตุมาจากการที่เกมไม่สามารถฉีกไปจากเนื้อเรื่องเดิมได้ก็ตาม สิ่งที่ไม่ได้พูดถึงมากนักในรีวิวนี้คือช่วงตอนจบของเกม ที่ไม่อยากสปอยมาก เพราะเชื่อว่าน่าจะเหนือความคาดหมายของทุกคน และทำให้อนาคตของซีรี่ส์ Final Fantasy VII Remake น่าตื่นเต้นขึ้นอย่างมหาศาลเลยทีเดียว แล้วรออ่านบทวิเคราะห์ตอนจบของเกมได้ทาง GameFever ต่อไปจ้าาาา! [penci_review id="49621"]

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายภาค Remake ของเกม RPG ในตำนานอย่าง Final Fantasy VII Remake ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดตัวไปเมื่อหลายปีก่อน ในที่สุดอีกไม่ถึง 3 วันเราก็จะได้สัมผัสเกมนี้กันแล้ว แต่ว่าการกลับมาในครั้งนี้ ก็ได้ทำการเปลี่ยนระบบการเล่นของเกมไปมากพอสมควรเลย รวมไปจนถึงเนื้อเรื่องของเกมที่มีการดัดแปลงไปบ้างเช่นกัน จนแฟนๆ ซีรีส์นี้บางคนเริ่มไม่แน่ใจแล่วว่า ควรจะซื้อเกมภาค Remake นี้มาเล่นดีรึเปล่า แน่นอนว่าในเมื่อเป็นเกมที่ใครหลายคนต่างเฝ้ารอแบบนี้ มันก็ต้องถูกส่งให้กับทางสื่อต่างๆ ได้ทำการเล่นก่อน เพื่อที่จะได้สามารถเขียนรีวิวได้อยู่แล้ว เพื่อให้ง่ายขึ้นต่อการตัดสินใจสำหรับแฟนๆ หรือผู้เล่นหน้าใหม่สำหรับซีรีส์นี้ ว่าจะซื้อ FFVII Remake มาเล่นดีรึเปล่า ทางเราจึงได้ทำการรวบรวมคะแนนรีวิว ของสื่อต่างประเทศมาให้ได้ดูกัน โดยคะแนนดังกล่าวก็ได้มากจากเว็บไซต์ Metacritic เจ้าเดิม และเกมนี้ก็ได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 87 เลยด้วยครับ PlayStation Universe  90/100 GamesRadar+  90/100 DualShockers 85/100 IGN 80/100 Push Square 80/100 VG247 80/100 USgamer 70/100 จากเท่าที่เห็นจากคะแนนรีวิวทั้งหมดแล้ว สื่อต่างๆ ให้คะแนนเกมนี้อยู่ในช่วง 80-90 ซะส่วนใหญ่ มีน้อยมากๆ ที่จะให้คะแนนเกมนี้ตำกว่า 80 โดยไม่ว่าจะเป็นค่ายที่ให้คะแนนเยอะ หรือว่าน้อย มีหนึ่งเรื่องที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน นั้นก็คือระบบต่อสู้แบบ Real Time Action ของเกม มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถที่แตกต่างกัน ซึ่งการสลับควบคุมแต่ละตัว เพื่อต่อสู้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ต้องยอมรับเลยว่าผู้พัฒนา ทำระบบนี้ออกมาได้ดีจริง ทาง VG247 ถึงขนาดบอกว่า "นี้คือเกมที่ที่ทำ Combat System ในเกมรูปแบบ 3D ของซีรีส์ Final ได้ดีที่สุด" เลยด้วยครับ อีกเรื่องที่หลายๆ สื่อชื่นชมเกมนี้ก็คือในเรื่องขององค์ประกอบเกมที่ทำออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่สวยงาม, เพลงประกอบที่ไพเราะ, หรือรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ถ้าเอาแค่เรื่องเกมเพลย์ กับภาพ แล้วละก็ Final Fantasy VII Remake นับเป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลยก็ว่าได้ ทางด้านข้อเสียหลายสื่อก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน นั้นก็คือตัว Side Quests ของเกมที่ทำออกมาได้น่าเบื่อมากๆ คือมันไม่สมเหตุสมผลเลย กับการที่ทหารรับจ้างอย่าง Cloud ถูกขอให้ไปตามหาเด็กที่หลงทาง, จัดการกับหนูท่อ, หรือตามหาไอเทมอะไรก็ไม่รู้ แถม Side Quests ต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเนื้อเรื่องเลย มันเหมือนกับเล่นเกม MMORPG ที่ไปต้องเดินไปคุยกับ NPC รับเควส ทำ แล้วก็ส่ง แต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่มัน Offline เท่านั้น หลังจากที่ได้อ่านรีวิวไปแล้วก็บอกได้เลยว่าเกมนี้มีดีเยอะมากๆ คือถ้าเอาแค่เกมเพลย์อย่างเดียวรับรองว่าดีมากๆ แน่นอน แต่ยังไงคนที่จะตัดสินว่าเกมนี้สนุกรึเปล่าก็คือตัวผู้เล่นเองครับ แล้วรออ่านรีวิวจาก GameFever ได้เร็วๆ นี้จ้า! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายของเกม Final Fantasy 7 Remake ซึ่งจากข่าวก่อนหน้านี้ก็ทำให้เรารู้แล้วว่าในช่วง 23 ปีที่ผ่านมา ตัวเกมนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปมากน้อยขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกของเกม หรือ ระบบแบทเทิล วันนี้ก็ได้มีการปล่อยรูปภาพมากมายโชว์ ตัวละครเก่าๆ ในลุคใหม่ออกมามากมายเลยด้วย ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าตัวละครต่างๆ มีความ สวยหล่อขึ้นอย่างมากเลยทีเดียวครับ ในรูปภาพชุดใหม่ที่ปล่อยออกมานั้น เป็นการโชว์ตัวละครต่างๆ จากทางฝั่ง Shinra ไม่ว่าจะเป็น Rufus ที่เป็นรองประธานของบริษัท, Reeve  หนึ่งในผู้บริหารของบริษัท และเป็นอีกหนึ่งตัวละครสำคัญประจำซีรีส์, Scarlet ผู้อำนวยการด่านอาวุธของ Shinra, ไอ้อ้วน Palmer และ Kyrie สาวน้อยจอมโกงประจำ Sector 5 เรียกได้ว่าแต่ละคนเปลี่ยนไปมากจริงๆ โดยเฉพาะ Scarlet กับ Kyrie รับชมรูปต่างๆ ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Rufus Reeve Scarlet Palmer Kyrie Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เรียกได้ว่า 23 ปี แล้วหลังจากที่เกม Final Fantasy 7 เวอร์ชั่น Original วางจำหน่ายครั้งแรก และใกล้เข้ามาเรื่อยๆ กับวันวางจำหน่ายภาค Remake ของตัวเกม แน่นอนว่าระยะห่างกว่า 20 ปีนี้ ทำให้ตัวเกมนั้นเปลี่ยนไปมากพอสมควร แม้แต่เนื้อเรื่องของเกมยังมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยด้วยเลย เพื่อที่จะได้เห็นภาพว่าตัวเกมเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน วันนี้ก็มีคนทำวิดีโอที่จะช่วยอธิบายเรื่องนั้นออกมาแล้วครับ ภายในวิดีโอดังกล่าวจะเห็นได้ว่าตัวเกมมีการเปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว ตั้งแต่กราฟิกของเกมที่สวยสมจริงขึ้นอย่างมาก, เพลงของเกมที่มีการแต่งใหม่, ระบบต่อสู้ของเกมที่เปลี่ยนจาก Active Time Battle มาเป็น Real-Time Action, หรือตัวละครใหม่ๆ ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่น Remake เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปเยอะจนแทบจะจำกันไม่ได้เลย รับชมวิดีโอดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอกันแทบจะข้ามยุคคอนโซล ในที่สุดเกมเมอร์ทั่วโลกก็ใกล้จะได้สัมผัสกับเกม Final Fantasy VII Remake เต็มทีแล้ว ด้วยวันวางจำหน่ายของเกม ที่อยู่ห่างออกไปอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น (แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะได้แผ่นหลุดกันมาบ้างแล้วอ่านะ...) ล่าสุด เพื่อเรียกน้ำย่อยแฟนๆ ครั้งสุดท้ายก่อนเกมวางจำหน่าย ทางผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอตัวอย่างใหม่ล่าสุดของเกมออกมาให้ชมกัน ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเกมเพลย์และฉากคัตซีนใหม่ๆ ที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน ให้ดูกันเพลินๆ ถึง 4 นาทีกว่าไปเลย สำหรับแฟนๆ ที่เคยเล่นเกมภาคดั้งเดิมมาแล้ว น่าจะมีอะไรให้คิดถึงกันพอสมควรเลย ส่วนคนที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน ตัวอย่างนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นภาพโลกของเกม รวมไปถึงเหล่าตัวละครหลักที่เราจะพบในเกมได้เป็นอย่างดี (คำเตือน: อาจจะมีรายละเอียดเนื้อเรื่องหลายอย่าง ที่เกมเมอร์อาจจะรู้สึกเป็นการสปอย) ยิ่งเห็นอย่างนี้แล้ว ยิ่งแทบจะอดใจรอไม่ไหวเลย ขอหลับแล้วตื่นมาเล่นเกมอาทิตย์หน้าเลยได้ไหมนะ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เรียกได้ว่าวันนี้มีข่าวเกี่ยวกับเกม Final Fantasy เยอะจริงๆ ครับ อย่างที่ ทราบว่าก่อนหน้านี้มีการประกาศเกี่ยวกับการเล่นแบบ Digital ของ FF7 Remake ที่ Square Enix ออกมาบอกว่าจะไม่สามารถเล่นได้ก่อนวันที่ 10 เมษายน 2020, อีกหนึ่งข่าวคือในวันที่ 2 เมษายน 2020 ที่ผ่านมามีการฉลองครบรอบ 26ปี ของ FFVI และในวันเดียวกัน ก็เป็นวันที่เกม Final Fantasy IX ถูกลบออกไปจาก Steam อย่างไม่ทราบสาเหตุด้วยครับ! ใน Community ของเกม Final Fantasy IX บน Steam ได้มีการโพสต์ข้อความที่บอกว่า ตัวเกม Final Fantasy IX ไม่สามารถเล่น หรือดาวโหลดได้แล้วออกมา บนเว็บไซจ์ Steam DB เองก็มีข้อมูลที่บอกว่ามีไฟล์เกมของ FFIX ได้ถูกลบออกไปจริงๆ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวถูกอัปเดตครั้งสุดท้ายเมื่อ 19 ชั่วโมงก่อน และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการออกมาพูดถึงเรื่องนี้ทั้งจากฝั่ง Steam และ Square Enix ดังนั้นคิดว่าคงจะเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากคนครับ ยังไงคงต้องติดตามดูกันต่อไปว่า ตัวเกมจะกลับมาให้สามารถเล่นได้บน Steam อีกครั้งรึเปล่า Final Fantasy IX วางจำหน่ายแล้ววันนี้ ทั้งบน Nintendo Switch, PS4, Android, Xbox One, iOS, และ PC Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy VII Remake กำลังจะวางจำหน่ายแล้วในอีกไม่ถึง 7 วันต่อจากนี้ แต่ในวันที่ 2 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา เป็นวันเกิดครบรอบ 26ปี ของ Final Fantasy VI อีกหนึ่งภาคที่เรียกได้ว่าดีที่สุดแล้วของ Final Fantasy โดยเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 26ปี ของตัวเกม ทาง Square Enix จึงได้มีการเปิดเผยข้อมูล 6 อย่าง ที่แฟนๆ อาจจะยังไม่รู้เกี่ยวกับเกมภาคนี้ ส่วนว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง ดูได้ข้างล่างนี้เลยครับ! 1. Final Fantasy Vi คือภาคที่มีตัวละครให้ พาเข้าทีมทั้งหมด 14 ตัว และนับเป็นภาคที่มีตัวละครหลัก ที่สามารถพาเข้าทีมได้เยอะที่สุด 2. Final Fantasy VI เป็นภาคแรกที่ไม่ได้กำกับโดย Hironobu Sakaguchi ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดเกมซีรีส์นี้ แต่เป็นผลงานของ Yoshinori Kitase และ Hiroyuki Itou ซึ่งเป็น Co-Directors ร่วมกัน 3. Final Fantasy VI นับเป็นภาคแรก ที่ Tetsuya Nomura ได้ช่วยออกแบบตัวละครให้กับซีรีส์ โดยตอนแรกคนที่รับหน้าที่ออกแบบตัวละครของเกมซีรีส์นี้ จะเป็น Yoshitaka Amano เพียงคนเดียวเท่านั้น 4. ภาคนี้เป็นภาคที่ใช้หนัง Star Wars เป็น References เยอะมากๆ อย่างประโยคข้างบนนี้ ก็ได้มาจากบทพูดของ เจ้าหญิง Leia ในหนังเรื่อง Star Wars: Episode IV – A New Hope 5.  Kefka ไม่ได้เป็นแค่หนึ่งในตัวร้ายซึ่งดีที่สุด แต่เสียงหัวเราะของเขา ยังเป็นหนึ่งใน Sound Effects ดีที่สุดของโลกของ วิดีโอเกมด้วย 6. นี้คือวิดีโอโปรโมทของเกมตัวแรกๆ ในสมัยเครื่อง Super Famicom Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งในเกมที่ผู้เล่นทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ และด้วยความที่ตัวเกมนั้นถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ เร็วขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นทุกคนจะได้สัมผัสเกมนี้อย่างแน่นอนในวันที่วางจำหน่าน ก็เลยทำให้เกิดเหตุการแผ่นหลุดมากมายอย่างที่เห็นก่อนหน้านี้ แต่ถึงแม้ว่าตัวแผ่นของเกมจะหลุดออกมาในตลาดจนถึงขนาดว่ามีคนสามารถเล่นเกมนี้ได้แล้วในตอนนี้ ก็ดูเหมือนว่าตัว Digital จะไม่มีการวางจำหน่ายก่อนกำหนดอย่างแน่นอนครับ! Square Enix ได้ออกมาบอกอย่างเป็นทางการว่า "เราทราบดีว่าการส่งแผ่นให้กับร้านค้าต่างๆ ก่อน มันคงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมไม่ให้มีแผ่นหลุดออกมาเลยได้ แต่ไม่ว่ายังไงทางเราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 ดังนั้นผู้เล่นจะสามารถเล่นเกมผ่านระบบ Digital ได้ในวันที่ 10 เมษายน 2020 เท่านั้น" แต่ในบ้านเราผู้เขียนยังไม่เห็นข่าวว่ามีแผ่นหลุดออกมาเลย ดังนั้นถ้าผู้พัฒนาเขาว่าวันที่ 10 ก็คงต้องเป็นไปตามนั้นครับ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เช่นเดียวกับเกมฟอร์มยักษ์หลายๆ เกมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เกม Final Fantasy VII Remake จะต้องใช้พื้นที่ในการโหลดเกมกว่า 100GB เลยทีเดียว แม้ว่ามองเผินๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลก แต่ต้องไม่ลืมว่าส่วนใหญ่เกมที่ใช้พื้นที่มากขนาดนั้น มักจะเป็นเกมโลกเปิดที่มีเนื้อหาเยอะมากๆ อย่าง Red Dead Redemption 2 หรือ Assassins Creed: Odyssey ซึ่งเกม Final Fantasy VII Remake ไม่น่าจะเปิดกว้างเท่าเกมเหล่านั้นแน่ๆ หนำซ้ำเกมยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องทั้งหมดของ Final Fantasy VII อีกต่างหาก จึงน่าสงสัยว่าเหตุใดเกมจึงต้องใช้เนื้อที่มากขนาดนั้น ล่าสุด ผู้พัฒนาเกมได้ตอบคำถามนี้แล้วในบทสัมภาษณ์ระหว่างคุณ Naoki Hamaguchi (ผู้กำกับร่วม) กับสื่อ USgamer โดยคุณ Naoki เปิดเผยว่า เหตุผลที่เกมมีขนาดไฟล์ใหญ่ขนาดนั้น เป็นเพราะผู้พัฒนาต้องการจะสร้าง Asset เฉพาะสำหรับพื้นที่ต่างๆ ของเกมนั่นเอง สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบ คำว่า Asset หมายถึงโมเดลสิ่งของต่างๆ ในเกม เช่นก้อนหิน ต้นไม้ ถังขยะ เสาไฟ หรือกระทั่งหน้าตาของ NPC ที่ผู้เล่นจะสามารถมองเห็นได้ ซึ่งเกมส่วนใหญ่มักจะนำ Asset เหล่านี้มาใช้ซ้ำกันหลายครั้งในเกมเพื่อประหยัดเนื้อที่ และเพื่อให้ผู้พัฒนาไม่ต้องนั่งสร้างสิ่งของประกอบฉากขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่จำเป็นต้องใช้ อย่างในกรณีของ Final Fantasy VII Remake คุณ Naoki กล่าวว่าผู้พัฒนาได้สร้างชุด Asset ใหม่ขึ้นสำหรับทุกพื้นที่ต่างๆ ในเกมโดยเฉพาะ เช่น NPC ที่เห็นในเขตหนึ่งของ Midgar ก็จะไม่เหมือนกับ NPC ในอีกเขตหนึ่งอย่างชัดเจน ทำให้ผู้พัฒนาสามารถแสดงออกถึงความแตกต่างระหว่างพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างชัดเจน "เราเลือกใช้ฉากหลัง เพลงประกอบฉาก และตัวละครประกอบฉากที่แตกต่างกันทั้งหมดในแต่ละสถานที่ ซึ่งให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งสำหรับผู้เล่นและผู้พัฒนา" ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลที่ทำให้เกม Final Fantasy VII Remake มีขนาดไฟล์ใหญ่เป็น 100GB นั่นเอง คงต้องรอดูตอนเกมวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนนี้ว่าจะสมราคาคุยของผู้พัฒนาหรือไม่! Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่พูดถึงเนื้อเรื่อง ตัวละคร และแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบเกมไปแล้วในสองตอนที่ผ่านมา (อ่านบทสรุปภาษาไทยตอนที่ 1 และ 2) ล่าสุดทางผู้พัฒนา Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดี Inside Final Fantasy VII Remake ตอนใหม่ออกมาแล้ว โดยในตอนล่าสุดนี้จะเน้นไปที่การอธิบายระบบเกมเพลย์ทั้งหมดในเกม ภายในคลิปวีดีโอจะมีบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาระดับสูงมากมาย ที่จะพูดถึงการเล่นเกมในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบต่อสู้แบบใหม่ ที่พยายามจะผสมผสานเสน่ห์ของเกมแอคชั่น เข้ากับระบบ ATB อันเป็นเอกลักษณ์ของเกมภาคต้นฉบับ ไปจนถึงระบบการพัฒนาตัวละครด้วย Materia และระบบเควสเสริมใหม่ของเกม คลิปเปิดมาด้วยบทสัมภาษณ์ของคุณ Tetsuya Nomura (Director) ผู้อธิบายถึงเหตุผลในการเลือกใช้ระบบต่อสู้ที่เน้นแอคชั่นมากขึ้น โดยเขาอธิบายว่าค่ายเห็นว่าการควบคุมแบบแอคชั่นดูจะเป็นมาตรฐานหนึ่งของเกมสมัยใหม่ นอกจากนี้ ทางทีมพัฒนายังต้องการที่จะทำให้การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น และทำให้ประสบการณ์ของผู้เล่นไม่โดนขัดจังหวะ เช่นเวลาต้องเปลี่ยนฉากเข้า-ออกการต่อสู้เหมือนในเกมต้นฉบับ ทำให้การควบคุมแบบแอคชั่นตอนโจทย์ความต้องการนี้ ในขณะเดียวกัน ทีมพัฒนาก็ต้องการจะรักษาเอกลักษณ์ความเป็น RPG ของ Final Fantasy เอาไว้ รวมทั้งระบบ ATB อันเป็นเอกชักษณ์ของภาค 7 โดยเฉพาะอีกด้วย ทีมจึงต้องพยายามอย่างมากในการหาจุดตรงกลางระหว่างความคลาสสิคนั้น และความเป็นเกมแอคชั่นสมัยใหม่ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือระบบต่อสู้ที่ให้ผู้เล่นสามารถเลือกสมดุลระหว่างความเป็นแอคชั่นและ Turn-based ได้เอง โดยผู้ที่ชอบการเล่นแบบแอคชั่นมากหน่อยก็สามารถใช้ระบบคีย์ลัดในการใช้สกิลได้ ในขณะที่คนที่คิดถึงระบบ Turn-based แบบเดิมสามารถใช้การควบคุมแบบ Classic Mode ได้ หรือบางคนอาจจะชอบทั้งสองอย่าง ก็สามารถเล่นแบบปกติสลับกับเปิด Action Menu ก็ได้เช่นกัน Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ ทว่าเนื่องจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ทำให้ Square Enix จำเป็นต้องจัดส่งแผ่นเกมก่อนล่วงหน้าในบางพื้นที่ เช่นประเทศออสเตรเลีย ส่งผลให้ผู้เล่นในพื้นที่เหล่านั้นมีโอกาสได้เล่นเกมก่อนใครเพื่อน ใครเข้า Youtube ช่วงนี้ก็ระวังสปอยกันด้วยนะจ๊ะ! Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ด้วยปัญหาด้านการขนส่ง อันเนื่องมาจากมาตรการรับมือไวรัส COVID-19 ในหลายพื้นที่ ทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Square Enix ต้องออกมาแถลงมาตรการรองรับ เพื่อให้แฟนๆ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกสามารถรับแผ่นเกม และเริ่มเล่นเกมพร้อมกับคนอื่นได้ทันวันวางจำหน่าย วันที่ 10 เมษายนนี้ ล่าสุด ดูเหมือนว่ามาตรการรองรับของ Square Enix จะไม่ได้เจาะจงเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อเกมแบบแผ่นอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงผู้ที่สั่งซื้อเกมแบบดิจิตอลทางร้านค้า PS Store อีกด้วย เมื่อล่าสุดมีผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera และ Reddit หลายคนรายงานว่า เวลา Pre-load (การดาวน์โหลดเกมล่วงหน้า) ของเกม Final Fantasy VII Remake ได้ถูกเลื่อนขึ้นมาให้เป็นวันที่ 3 หรือ 4 เมษายนนี้ (ตามโซนของแต่ละคน) แทนที่จะเปิดให้โหลดก่อนหน้าวันวางจำหน่ายเพียง 1-2 วันตามปกติ [caption id="attachment_48721" align="aligncenter" width="1920"] ภาพจากผู้ใช้เว็บ Resetera[/caption] สำหรับเหตุผลในการเลื่อนวัน Pre-load ให้เร็วขึ้น น่าจะมาจากการที่ Sony ประกาศจะจำกัดความเร็วการดาวน์โหลดของ PSN เพื่อลดภาระการใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากขนาดของไฟล์เกมที่ใหญ่กว่า 100GB อาจจะทำให้หลายๆ คนต้องใช้เวลาโหลดเกมนานกว่าปกตินั่นเอง ทั้งนี้ เนื่องจากการตัดสินใจขนส่งแผ่นเกมล่วงหน้าไปให้หลายประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือสถานการณ์ของ Square Enix เอง ทำให้ในขณะนี้มีแผ่นเกมหลุดออกมาในตลาดบ้างแล้วประมาณหนึ่ง และแน่นอนว่าย่อมมีวีดีโอและรูปภาพที่อาจจะสปอยเนื้อหาของเกมหลุดออกมาด้วยเช่นกัน ใครที่กลัวโดนสปอยอาจจะต้องระวังกันหน่อยนะจ๊ะ (หรือจะหาแผ่นหลุดมาเล่นซะเองก็ไม่ว่ากัน...) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ค่ายพัฒนาและผู้จัดจำหน่ายเกม Square Enix ได้เปิดเผยโฉมหน้าของชุดเพลงประกอบหรือ Soundtrack ของเกม Final Fantasy VII Remake ออกมาแล้ว โดยภายในชุดจะประกอบไปด้วยแผ่นซีดีเพลง 7 แผ่น รวมกันทั้งหมด 156 เพลง และจะมีแผ่น Bonus Track แยกอีก 1 เพลง (แผ่นแยก) พิเศษสุดสำหรับผู้ที่ซื้อชุดแรกๆ จะได้รับเซ็ต “Special Edit Version” ซึ่งจะมากล่องลายพิเศษที่ออกแบบมาจากดาบ Buster Sword ของตัวเอก Cloud Strife นั่นเอง ชุด Soundtrack นี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ในราคา $77.77 (ราว 2,556 บาท) ผู้ที่อยากรีบจับจองก่อนเพื่อจะได้รับชุด “Special Edit Version” สามารถเข้าไปสั่งล่วงหน้าและดูรายชื่อเพลง (Track List) ได้ ที่นี่ เกม Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนเกมฝั่งตะวันตกเหงื่อตกกันอยู่ซักพัก จากข่าวการขาดตลาดของแผ่นเกม Final Fantasy VII Remake อันเนื่องจากปัญหาด้านการขนส่ง อันเป็นเหตุมาจากมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัส COVID-19 ของหลายๆ ประเทศ ล่าสุดทาง Square Enix ได้ออกมาประกาศแล้วว่าค่ายได้ตัดสินใจแก้ปัญฆาดังกล่าว ด้วยการจัดส่งแผ่นเกมไปให้ร้านค้าในภูมิภาคยุโรป (EU) และออสเตรเลีย (AU) เร็วกว่ากำหนด ทำให้ผู้เล่นในพื้นที่ดังกล่าวอาจจะมีโอกาสได้เล่นเกมก่อนใครเพื่อน เนื่องจากมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป ทำให้ทาง Square Enix ไม่สามารถรับปากได้ว่าแผ่นจะไปถึงก่อนหรือหลังวันวางจำหน่าย แต่ค่ายก็หวังเพียงว่าผู้ที่ได้แผ่นเกมไปก่อน จะหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อหาในเกมต่อผู้เล่นคนอื่น สำหรับโซนอเมรีกา จะทำการจัดส่งแผ่นเกมตามกำหนดการเดิมภายในสัปดาห์นี้ โดย Square Enix ค่อนข้างมั่นใจว่าจะถึงมือผู้เล่นทันกำหนดการวางจำหน่ายแน่นอน ทั้งนี้ ในคำประกาศของค่ายไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าในโซนเอเซีย แต่การที่หลายๆ ร้านในพื้นที่ต่างๆ จะได้แผ่นเกมล่วงหน้า ก็เพิ่มโอกาสที่จะมีร้านที่เอาแผ่นเกมออกมาขายช่วงหน้าเช่นกัน ใครที่ทรไม่ไหวอยากลองเล่นเกมก่อนใคร ลองไปสืบกันได้ เผื่อบางร้านบ้านเราจะมีแผ่นหิ้วเหลือๆ ให้สอยกับเขาบ้าง... Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy XIV กลายเป็นหนึ่งในเกม MMORPG ที่มีผู้เล่นเยอะเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยความที่ตัวเกมได้รับความนิยมมากๆ ทาง Square Enix จึงได้มีการเปิดร้านที่มีชื่อว่า Eorzea Cafe ที่มีการขาย อาหาร หรือของหวานมากมาย ซึ่งได้รับแรงบรรดาลใจมาจากตัวละครต่างๆ ในเกม อย่างล่าสุดก็เพิ่งมีการเปิดตัวเมนูของหวานใหม่ ที่ได้แรงบรรดาลใจมาจาก บอสยากที่สุดในเกมตอนนี้ครับ! เมนูดังกล่าวเป็น Honey Toast ที่ดูแล้วรู้เลยว่า ได้แรงบรรดาลใจมาจาก Alexander ที่เป็นบอสยากที่สุดในเกมตอนนี้  แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่ Alexander เท่านั้นที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามมา แต่ยังมี King Tomato Soup และ Ala Mhigo Castle Hanging Garden Fruit Tea ด้วย น่าเสียดายที่ร้าน Eorzea Cafe นั้นมีแค่ในประเทศญึ่ปุ่นเท่านั้น ถ้าหากใครแวะไป Akihabara ก็อย่าลืมไปลองชิมดูครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ถือเป็นช่วงที่เรายังพบกับวิกฤตไวรัส "โควิด-19" อยู่อย่างหนักหน่วง เรายังไม่สามารถออกจากบ้านได้อย่างสะดวก และหลายๆ ที่ต่างก็ต้องทำงานแบบ WFH หรือ Work from Home กันอย่างถ้วนหน้า และในช่วงที่ชีวิตต้องอยู่ติดบ้านแบบนี้ เกมใหม่ๆ ดีๆ ถือเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมนี้เอง ก็มีเกมดีๆ ใหม่ๆ ออกมาให้เราได้เล่นอย่างจัดเต็มทีเดียว ไม่ว่า Gwent: The Witcher Card การ์ดเกมเล่นง่ายจากซีรีส์ The Witcher, War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius เกม FFT แนววางแผนจากซีรีส์ Final Fantasy, Disney Sorcerers Arena ศึกตัวละครจากการ์ตูนดิสนีย์, Respawnables Heroes เกม TPS งานดีคล้ายๆ Overwatch และ Masketeers: Idle Has Fallen เกม idle RPG สุดน่ารัก เกมที่ 1 : Gwent: The Witcher Card Game ค่ายเกม : CD PROJEKT S.A. แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] Gwent: The Witcher Card Game ไม่ได้เกมใหม่อะไร เพราะตัวเกมได้วางจำหน่ายอยู่ทั้งบน PC และปล่อยให้เล่นบนแพลตฟอร์ม iOS มาอย่างช้านานแล้ว ซึ่งล่าสุดก็ถึงคราวของแฟนๆ เกมบน Android ที่จะได้สัมผัสเกมเกมนี้กันสักที โดย Gwent เป็นเกมการ์ดมินิเกมที่มีอยู่ใน The Witcher 3: Wild Hunt มาก่อน ตัวเกมสนุกขนาดที่คนเข้า The Witcher 3: Wild Hunt เพื่อเข้าไปเล่นเกมการ์ดเกมนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเมื่อตัวเกมถูกทำออกมาเป็นแบบสแตนด์อโลน ความสนุกของตัวเกมก็ได้ถูกขยายออกไปมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม เกร็ดเสริม : Gwent: The Witcher Card Game เป็นการ์ดเกมที่เข้าถึงได้ง่าย ตัวเกมมีการตัดสินแพ้ชนะจากจำนวนตัวเลขรวมที่มากกว่าเท่านั้น จะมีการแข่งขันทั้งหมด 3 รอบ เอาชนะ 2 ใน 3 โดยแต่ละรอบจะมีการจั่วการ์ดขึ้นมาจำนวนหนึ่ง เราจะต้องใช้การ์ดจำนวนที่มี เพื่อทำผลรวมตัวเลขให้ได้จำนวนมากกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม แต่ละรอบเราสามารถเลือกที่จะยอมแพ้ เพื่อเก็บการ์ดที่สำคัญ สำหรับไปเล่นในรอบต่อไปได้ เกมที่ 2 : War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius ค่ายเกม : SQUARE ENIX Co.,Ltd. แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius เป็นเกมแนว Tactics strategy RPG ที่ได้รับความนิยมมากๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตัวเกมมียอดดาวน์โหลดมากถึง 9 ล้านครั้ง และติดอันดับ 5 บน App Store ตัวเกมมีเรื่องราวเล่าถึงทวีป Ardra ทวีปที่กำลังถูกรุกรานโดยหลายๆ ประเทศ เพื่อเข้าครอบครอง ตัวเกมให้อารมณ์ และกลิ่นอายของเกมซีรีส์ Final Fantasy Tactics แต่ดูสดใหม่ และควบคุมได้ง่ายกว่าบนแพลตฟอร์มมือถือ เกร็ดเสริม : ตัวเกมเป็นเกมแนวกลยุทธ์ ที่ต้องใช้ภูมิประเทศให้ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างความได้เปรียบในการเอาชนะศัตรู เกมที่ 3 : Disney Sorcerers Arena ค่ายเกม : Glu แพลตฟอร์ม : [Android] + [iOS] Disney Sorcerers Arena เป็นเกมแนว turn-based RPG ที่โดดเด่นด้วยการหยิบเอาเหล่าตัวละครชื่อดังมากมายจากในการ์ตูนเจ้าหญิง Disney ของแต่ละจักรวาล มาเป็นตัวละครให้เราได้จัดทีม และต่อสู้กับอีกฝ่ายหนึ่ง โดยตัวละครแต่ละตัวนอกจากมีคลาสที่โดดเด่นแตกต่างกันแล้ว ความสามารถของตัวละครเอง ก็ยังแตกต่างกันอีกด้วย ตัวละครแต่ละตัวสามารถอัปเกรดความสามารถ ปลดล็อคสกิล และความสามารถใหม่ๆ ตัวเกมมาพร้อมกับระบบกาชาเก็บสะสมตัวละคร เกร็ดเสริม : ในเกมมีฮีโร่จาก Disney ให้เราได้เลือกเก็บมากกว่า 100 ตัว ตัวเกมมีโหมดการเล่นที่หลากหลาย ทั้ง Campaign และ PvP เกมที่ 4 : Respawnables Heroes ค่ายเกม : Digital Legends Entertainment แพลตฟอร์ม : [iOS] Respawnables Heroes เป็นเกมแนว TPS หรือ Third-person Shooter ที่โดดเด่นด้วยสีสัน และความเร็วในสไตล์เสน่ห์ของเกม Overwatch ของค่าย Blizzard ตัวเกมมาพร้อมกับตัวละครหลากหลายรูปแบบ ซั่งมีทั้งความสามารถ และเกียร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ตัวเกมใช้การแข่งขันแบบ 4v4 ที่จำเป็นต้องใช้ทั้งความสามัคคี และความสามารถของตัวละครให้ผสานกัน ซึ่งด้วยความหลากหลายของตัวละครก่อให้เกิดความเป็นไปได้ และความหลากหลายในการต่อสู้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เกมที่ 5 : Masketeers: Idle Has Fallen ค่ายเกม : Appxplore (iCandy) แพลตฟอร์ม : [Android]  Masketeers: Idle Has Fallen เป็นเกม Idle RPG จากค่าย Appxplore ซึ่งมีผลงานออกมามากมาย อาทิ Crab War และ Light A Way and Thor: War of Tapnarok ตัวเกมจะกล่าวถึงทีม Masketeers ที่เราจะต้องรวบรวมทีมเพื่อต่อสู้กับเหล่าปีศาจร้าย ตัวเกมจะให้เราออกคำสั่งการโจมตีผ่านทางตัวลูก orbs ที่จะก่อให้เกิดเป็นการโจมตี หรือกระบวนท่าที่ผสานกันออกมาอย่างทรงพลัง ตัวเกมจะมีตัวละครที่โดดเด่นแตกต่างกันตามหน้ากากที่สวมใส่ ซึ่งมีหลายตัวละครที่หลากหลายให้เราได้ปลดล็อค

War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius เกมใหม่มาแรงที่สาวก Final Fantasy รอคอยให้มีภาษาอังกฤษมานาน ในที่สุดก็ได้เปิดให้ได้เล่นแบบ Global กันแล้ว แน่นอนว่าลุงไอซ์ต้องไม่พลาดที่จะเล่นเกมนี้อย่างแน่นอน และเนื่องจากเกมนี้มีระบบ Summon ตัวละครเริ่มต้นเกมฟรี ๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่จะได้ตัวละครระดับสูงได้ฟรี ๆ ด้วยการ Summon ใหม่จนกว่าจะได้ตัวละครที่ต้องการ ซึ่งต่อไปลุงจะใช้คำว่า Reroll ดังนั้นวันนี้ลุงจะมาสอนวิธี Reroll ให้นะจ้ะ ขั้นตอนการทำ Reroll ในมือถือ 1. โหลดเกม และติดตั้งให้เรียบร้อย 2. เข้าเกม ห้ามผูกบัญชีเด็ดขาด!!! เราจะผูกบัญชีเมื่อ Reroll จนได้ตัวที่ต้องการแล้วเท่านั้น ตอนนี้ให้เลือก Guest ไปก่อน 3. เล่นตาม Tutorial ที่เกมสอนไปเรื่อย ๆ จนถึงการสอนให้ Summon เมื่อสุ่มเสร็จแล้วให้ตรวจสอบว่าได้ตัวที่ต้องการหรือไม่     ซึ่งเกมนี้แบ่งระดับตัวละครเรียงจากเก่งไปกากดังนี้ UR - เทพ MR - เก่งมาก SR - เก่ง R - กาก สำหรับลุงไอซ์ ถ้าได้ UR ซัก 1 ตัวก็ถือว่าเจ๋งแล้ว  ยิ่งถ้าได้ 2 ตัวแบบในภาพนี่สุดยอดเลย *ถ้าพอใจแล้ว ให้ไปข้อ 4 ต่อ แต่ถ้าไม่พอใจให้ลบเกมแล้วกลับไปเริ่มข้อ 1 ใหม่ 4. เล่นตาม Tutorial ต่อไปจนสามารถกดรับของรางวัลได้ จะได้เพชรมาประมาณ 3500   แล้วให้เล่นต่อไปจนกว่าจะได้เพชร 4500 แล้วจึงมา Summon จะสามารถ Summon x10 ได้ถึง 3 ครั้ง โดยให้เลือก Summon จากอันบนสุด  ซึ่งในเป็นการ Summon สำหรับคนเริ่มต้น และแบ่งเป็น 3 Step ตามภาพ โดยใน Step ที่ 3 จะได้ UR แน่ ๆ 1 ตัว ถ้าได้ UR เพิ่มมาอีกซัก 2-3 ตัวก็ถือว่าแจ่มแล้ว **ถ้าพอใจให้ไปข้อ 5 ต่อ แต่ถ้าไม่พอใจให้ลบเกมแล้วกลับไปเริ่มข้อ 1 ใหม่   5. เมื่อพอใจแล้วให้ทำการผูกไอดีโดยเข้าไปที่ Menu >> Accounts แล้วเลือกผูกกับ Facebook หรือ Google ให้เรียบร้อยเผื่อกรณีต้องลบเกมหรือย้ายเครื่อง ข้อมูลเกมก็จะไม่หายไปไหนนะจ้ะ   *** ถ้าทำ Reroll บนมือถือ Android ที่ Root ไม่ต้องลบเกมแล้วลงใหม่  ให้ไปที่ root/data/data/com.square_enix.android_googleplay.WOTVffbeww/files/ แล้วลบไฟล์ชื่อ pinfo จะเป็นการลบข้อมูลบัญชี guest ที่เราใช้สุ่ม หลังจากนั้นให้เข้าเกมแล้วเริ่มใหม่ได้เลย   ยังไงก็อย่ามัวแต่ Reroll นานจนไม่ได้เล่นเกมซักที เอาแค่พอประมาณแล้วที่เหลือก็ไปลุ้นคราวหน้าก็ได้ เพราะในช่วงแรก เกมนี้ก็แจกเพชรให้มา Summon เยอะพอประมาณเลยทีเดียวนะจ้ะ

ด้วยสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้พัฒนาเกมหลายค่ายประสบปัญหาเรื่องการจัดส่งแผ่นเกมไปยังร้านค้าในประเทศต่างๆ ที่อาจจะมีมาตรการรับมือโรคระบาดที่เข้มข้นเป็นพิเศษ หรืออาจจะถึงขั้นปิดประเทศ ส่งผลให้แผ่นเกมที่จะวางจำหน่ายในช่วงนี้หลายเกม จำเป็นต้องเผชิญสภาพขาดตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล่าสุด หลังจากที่บอกให้แฟนๆ ทำใจกันมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในที่สุด Square Enix ก็ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าเกมเมอร์ฝั่งตะวันตก (โซน US และ EU) ควรจะต้องทำใจว่าแผ่นเกม Final Fantasy VII Remake จะขาดตลาดในพื้นที่เหล่านั้นแน่นอน อย่างน้อยก็ในอนาคตอันสั้นนี้ โดยแม้ค่ายจะยืนยันว่าจำนวนแผ่นเกมมีเพียงพอสำหรับความต้องการของผู้เล่นแน่นอน แต่ด้วยปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ค่ายไม่สามารถรับปากได้ว่าสินค้าจะไปถึงพื้นที่ต่างๆ ได้เมื่อไหร่ ในขณะนี้ หลายประเทศทั่วได้ออกมาตรการห้ามการเข้า-ออกประเทศ และจำกัดการขนส่งสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อร้านค้าปลีก เพื่อเร่งรัดให้สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตสามารถกระจายไปสู่ประชาชนได้อย่างรวดเร็วที่สุด จึงถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เกมจะถูกให้ความสำคัญน้อยเมื่อเทียบกับสินค้าอย่างอาหารหรือยานั่นเอง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางผู้พัฒนาได้เปิดเผยเช่นกันว่ามีร้านค้าในบางพื้นที่ ที่ได้รับแผ่นเกมไปเก็บไว้เพื่อรอวันวางจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว และมีหลายร้านที่เริ่มนำแผ่นเกมออกมาวางจำหน่ายล่วงหน้า ซึ่งค่ายยอมรับว่าคงไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ใครมีเพื่อน พี่ น้อง เปิดร้านเกม ลองโทรไปถามดูนะจ๊ะว่าได้แผ่นเกมมาแล้วหรือยัง (แล้วทักมาบอกผู้เขียนด้วย...) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Inside Final Fantasy VII Remake” เป็นบทสัมภาษณ์ของผู้ที่อยู่เบื้องหลังการทำงาน ที่จะพาคุณไปพบกับเบื้องหลังของแนวคิดและจุดเริ่มต้นของ “Project Final Fantasy VII Remake” และใน EP.2 นี้จะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวของเนื้อเรื่องของเกมและตัวละคร และเป็นอย่างไร ไปชมกันได้เลย !! ********** อ่าน EP.1 ********** - เรื่องราวของ Final Fantasy VII ได้เริ่มต้นขึ้นในเมือง Mindgar เมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่บริษัท Shinra Company ได้ก่อร่างสร้างขึ้นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ด้วยการนำพลังงานมาโคมาใช้ในการเป็นพลังงานของเมือง ทำให้ประชาชนในเมืองได้อาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของบริษัท Shinra มาอย่างยาวนาน ทว่า กลุ่มต่อต้านที่มีชื่อว่า Avalanche ได้ลุกขึ้นต่อสู้กับบริษัท Shinra ที่นำพลังของโลกมาใช้เป็นพลังงานมาโค และทำให้โลกใบนี้กำลังค่อย ๆ เสื่อมสลายลงอย่างช้า ๆ  โดยมีภารกิจในการระเบิดเตาพลังงานมาโคเป็นเป้าหมาย ทำให้อดีต Soldier ฝีมือดีอย่าง Cloud Stife ได้มาเข้าร่วมภารกิจ และเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดของเกม - เนื่องจาก Final Fantasy VII ได้วางจำหน่ายครั้งแรกบนเครื่อง PlayStation มานานถึง 23 ปี แล้ว ทำให้คุณ Yoshinori Kitase (Producer) ยอมรับว่าเขาเองก็ส่วนที่ลืมรายละเอียดเกี่ยวกับโลกของเกมไปบ้างแล้วเหมือนกัน แต่เขายังจำแก่นหลักของเรื่องที่มี Cloud เป็นตัวเอก และส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวละครอื่นอย่าง Aerith และ Tifa รวมถึงคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Sephiroth ได้ดี ซึ่งพอตัวละครเหล่านี้ได้กลับมารวมตัวกัน เขาจึงต้องกลับหวนรำลึกทบทวนใหม่ถึงเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง - ก่อนเริ่มทำ Project Remake คุณ Kitase ได้กลับไปลองเล่นตัวเกมต้นฉบับอีกครั้ง และเขาพบว่าเนื้อเรื่องใน Midgar นั้นค่อนข้างสั้นจนน่าตกใจมากทีเดียว ซึ่งมันสามารถใช้เวลาเพียง 7-8 ชั่วโมง ก็สามารถจบเนื้อเรื่องถึงตอนที่ออกจากเมืองมิดการ์ได้แล้ว ในฉบับรีเมคเขาจึงอยากให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์ที่มากขึ้น และได้คิดภาพของเมืองที่กว้างใหญ่เอาไว้ - ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบในการเขียนเนื้อเรื่องและบทของตัวละครแล้ว คุณ Kazushige Nojima (Story & Scenario) และ คุณ Motomu Toriyama (Co-Director (Scenario Design)) จึงได้พูดถึง Cloud ว่าเขาเป็นตัวเอกที่เท่ และยังมีฝีมือการต่อสู้ที่เก่งกาจ ทำให้เขาเป็นที่ชื่นชอบของผู้เล่นมากมาย และได้ไปปรากฎตัวในเกมอื่นอีกหลาย ๆ เกม - บทบาทของ Cloud นั้นถูกวางเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งเขาเป็นเด็กธรรมดาที่อยากจะเป็นคนเก่งเหมือนกับคนอื่น ๆ เขาจึงได้ใฝ่ฝันที่จะออกจากหมู่บ้านไปเป็น Soldier ผู้เก่งกาจของบริษัท Shinra Company แต่เมื่อเกิดเหตุที่ทำให้เขาได้เลิกเป็น Soldier เขาก็ได้กลับมาพบเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้ง - ในเกมต้นฉบับนั้น Cloud ได้มีการเขียนบทเอาไว้ให้เป็นตัวละครที่เท่และมีความสุขุม ซึ่ง Cloud จะไม่ใช่คนที่มีความสดใสหรือมีอัธยาศัยที่ดีเท่าไหร่นัก แต่ดูเหมือนเขาจะมีเรื่องที่คิดอยู่ในใจตลอดเวลา ส่วนในฉบับ Remake คุณ Nojima ก็อยากจะแสดงด้านที่ดู “ไม่เท่” ของ Cloud ให้เห็นมากขึ้นด้วย เพราะความจริงแล้ว Cloud เป็นคนที่อยากได้รับการยอมรับจากคนอื่น แต่เรื่องไหนที่เขาไม่รู้หรือไม่อยากทำความเข้าใจ เขาก็จะชอบพูดว่า “ไม่สนใจ” ออกมาเป็นประจำ ซึ่งการที่ไม่สนใจอะไรเลยนี้บางทีก็ทำให้แสดงด้านที่ดูไม่เท่เลยออกมา และเป็นความท้าทายของคุณ Nojima ในการที่เขาจะสามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครออกมาได้สมจริงอย่างที่ตั้งใจไว้หรือไม่ - ทางด้านตัวละครเอกหญิงอย่าง Tifa Lockhart เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กของคลาวด์ ซึ่งในอดีตนั้นเคยเกิดเหตุการณ์ที่พ่อของเธอถูกฆ่าและหมู่บ้านถูกทำลาย เธอจึงเป็นอีกคนหนึ่ง ที่เหมือนจะมีชีวิตอยู่ด้วยการแก้แค้น แต่อีกด้านหนึ่งนั้นเธอก็เป็นคนที่อ่อนโยนและมีความลังเลได้ง่าย ซึ่ง Tifa จะมีความรู้สึกที่สับสนไม่แน่ใจว่าการทำเรื่องที่รุนแรงแบบนี้จะเป็นสิ่งที่ดีแล้วจริง ๆ รึเปล่า ซึ่งเนื้อเรื่องภายในเกมจะได้เห็นช่วงที่เธอพูดคุยกับ Cloud และเผยเรื่องราวของการเป็นเพื่อนสมัยเด็กให้เห็นมากขึ้น - อีกหนึ่งในตัวละครหลักของเกมอย่าง Barret Wallace เขาเป็นคนที่มีความกระตือรือร้น และแสดงออกอย่างตรงไปตรงมามาก ซึ่งเขาเป็นหัวหน้าของกลุ่ม Avalanche และมีหัวใจที่เร่าร้อนพร้อมมีคำพูดที่จะปลุกใจในการทำเป้าหมายได้ดีอยู่เสมอ จึงทำให้สมาชิกในกลุ่มต่อต้านอยากคอยติดตามสนับสนุนเขาไปด้วย - ทางด้าน Aerith Gainsborough พวกคุณ Nojima ก็บอกว่ามีเรื่องที่ยังไม่สามารถพูดถึงได้อยู่ในตอนนี้อยู่อีกมาก ซึ่ง Aerith นั้นมีอดีตที่ลึกลับ ทำให้ชีวิตในวัยเด็กของเธอส่วนใหญ่นั้นจะอยู่กับการที่ถูกขังอยู่ในห้อง แต่เธอก็เป็นคนที่ดูมีความอิสระ ทำอะไรตามใจ และยังมีจิตใจดีต่อผู้อื่น เรียกได้ว่า Aerith เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับชีวิตมากทีเดียว แต่เนื่องจากเธอมีพลังพิเศษบางอย่างอยู่ จึงทำให้เธอคอยถูกตามล่าตัวจาก Shinra Company - นอกจากเหล่าบรรดาตัวละครหลักแล้ว ก็ยังมีตัวละครอื่น ๆ ที่มีบทบาทมากขึ้นในตัวเกมฉบับ Remake อย่างสมาชิก Avalanche ทั้ง 3 คนอย่าง Biggs, Wedge, และ Jessie โดยพวกเขาจะมีบทบาทกับ Cloud และช่วยทำให้เรื่องราวใน Midgar มีความสดใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมากขึ้น - ส่วนตัวร้ายประจำภาคอย่าง Sephiroth เขาเป็น Soldier ที่ถูกเรียกว่าวีรบุรุษในตำนาน และเป็นคนที่ Cloud ใฝ่ฝันอยากจะเป็น แต่เมื่อเกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้นเขาก็ได้หายตัวไป ซึ่งบทบาทในฉบับ Remake ของเขาจะเป็นยังไงนั้น คงต้องให้ผู้เล่นได้ติดตามกันในเกมด้วยตัวเอง - Final Fantasy VII Remake นั้นมาพร้อมกับกราฟฟิคและเสียงพากย์เต็มรูปแบบ ซึ่งในตัวเกมต้นฉบับนั้นไม่เคยมีเสียงพากย์มาก่อน ทำให้คุณ Nojima อยากจะแก้ไขปรับเปลี่ยนบทพูดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ตัวละครได้มีการแสดงออกที่สมจริงมากขึ้น แต่ก็ยังคงความเป็นตัวละคนที่มีเสน่ห์เหมือนกับต้นฉบับเอาไว้ - คุณ Toriyama ได้เสริมว่าตัวเกมในสมัยก่อนนั้นจะไม่มีเรื่องของการใช้มุมกล้อง หรือการแสดงออกทางสีหน้าในการเล่าเรื่องเหมือนกับสมัยนี้ ในคราวนี้ที่มีการใส่เสียงพากย์ให้ตัวละครมีชีวิตและมีความสมจริงมากขึ้น จึงมีความแตกต่างกับเกมสมัยก่อนเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเป็นฉากหน้าจอดำที่มีแต่บทพูดเพียงอย่างเดียว ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากไม่ใส่ชื่อเอาไว้ก็จะไม่รู้ว่าใครเป็นคนพูด แต่เมื่อมีเสียงพากย์แล้วก็จะรู้ได้ในทันที เขาจึงต้องพยายามหาทางเล่าเรื่องในส่วนนี้ให้มีเสน่ห์เหมือนกับต้นฉบับด้วย - เนื้อเรื่องหลักของเกมในฉบับ Remake จะยังคงดำเนินเรื่องเหมือนกับต้นฉบับ แต่จะมีการเพิ่มฉากใหม่ ๆ หรือส่วนที่เพิ่มเติมเข้ามาอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของ Cloud กับตัวละครอื่น ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามา และอยากให้ผู้เล่นได้ติดตามกัน - ในการทำงานนั้น มี Staff หลายคนที่เข้ามาทำงาน เพราะประทับใจจากการที่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน แต่พวกคุณ Nojima ก็คิดว่าต่อให้เป็นผู้เล่นที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะระบบการเล่นของเกมก็เป็นระบบแบบใหม่แทบทั้งหมด เนื้อเรื่องเองก็สามารถติดตามทำความเข้าใจได้ง่าย ส่วนแฟน ๆ ที่เคยติดตามเกมต้นฉบับมาก่อน เขาก็รู้สึกดีใจมากที่ยังมีผู้เล่นบอกว่าชื่นชอบเรื่องราวที่เขาเคยเขียนเอาไว้เมื่อ 20 ปีก่อนจนถึงทุกวันนี้ คุณ Nojima จึงรู้สึกตื่นเต้นและให้ความสำคัญกับความรู้สึกแฟน ๆ ในการเขียนเรื่องราว Remake มากเช่นกัน - คุณ Kitase ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอยากให้คนที่ไม่เคยเล่นเกมต้นฉบับมาก่อน ได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ  จากการ Remake และได้พบเรื่องราวที่น่าตกใจจากความเป็น Final Fantasy VII แบบดั้งเดิม ซึ่งมันมีความสนุกอยู่มากมาย ทั้งการได้รับรู้ความรู้สึกของพวก Cloud การได้ผจญภัยในโลกของ Midgar และการต่อสู้กับ Shinra ส่วนคนที่เคยเล่นมาก่อนแล้วก็จะได้สนุกกับเนื้อเรื่องฉบับดั้งเดิม ที่ได้ถูกนำมาเล่าในแบบใหม่อีกครั้ง และได้พบกับสิ่งใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา คุณ Kitase จึงคาดหวังว่าผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับความสนุกที่แตกต่างกันไป ซึ่งอยู่ใน Final Fantasy VII Remake นี้

เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเกมฟอร์มยักษ์ที่จะมาพร้อมกับสินค้า เกี่ยวกับเกมนั้นมากมาย ยิ่งเกมที่มีคนให้ความสนใจมากๆ ทั้งยังเป็นเกมที่มีฐานแฟนคลับหนาแน่นอย่าง Final Fantasy 7 Remake ด้วยแล้ว ยิ่งไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร โดยก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นสินค้าของ FF7 Remake ไปแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกา, สร้อยคอ, กระเป๋า หรือว่า แผ่นฝาของเครื่อง PS4 วันนี้ Square Enix ก็ได้ทำการเปิดตัวสินค้าอีก 1 ตัว นั้นก็คือชุดแผ่น CDs รวมเพลง Soundtrack ของเกมในราคา $77.77 ครับ ชุดแผ่นเพลง Soundtrack ดังกล่าวมีด้วยกันทั้งหมด 7 แผ่น ซึ่งตอนนี้หน้าเว็บไซต์ Square Enix Store ก็ได้มีการวางสินค้าแล้วในราคา $77.77 (ราคา 7,777 Yen ในประเทศญี่ปุ่น) ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่เกมฟอร์มยักษ์อย่าง FF7 Remake ที่จะมีเพลง Soundtrack ของเกมเยอะมากๆ จนถึงขนาดต้องใช้แผ่น CDs ถึง 7 แผ่น โดยตัวผู้เขียนเองก็คิดว่าเพลงต่างๆ ในเกมภาคนี้ต้องมีความไพเราะมากอย่างแน่นอน เพราะเพลงประกอบใน Theme Song Trailer นั้นมันฟังแล้วสบายหูมากๆ เลยครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในอีกประมาณ 2 อาทิตย์ต่อจากนี้ แน่นอนว่าการมาของ FF7 Remake ในครั้งนี้ทำให้เหล่าแฟนเกมเก่าๆ รวมไปจนถึงผู้เล่นหน้าใหม่ ตื่นเต้นไปตามๆ กัน แต่ก็คงจะมีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ที่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเครื่อง PS4 เลย ทาง Sony เองก็เหมือนจะรู้ถึงเรื่องนี้เช่นกัน ล่าสุดจึงได้มีการประกาศเปิดตัวแพ็คตัวเครื่อง PS4 พร้อมกับแผ่นเกม! โดยแพ็คเกจดังกล่าวนั้นมีให้เลื่อกซื้อทั้งแบบเครื่อง PS4 ธรรมดา (HDD 500 GB) สำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงิน และแบบเครื่อง PS4 Pro (HDD 1 TB) สำหรับคนที่ต้องการเครื่องซึ่งมีศักยภาพสูงสุด โดยทั้ง 2 แพ็คเกจนั้นเปิดตัวในราคา 29,980 Yen และ 39,980 Yen ตามลำดับ (ราคาดังกล่าวยังไม่รวมภาษี) นอกจากนี้แพ็คเกจทั้งสอง ยังแถม Dynamic Theme ของ Cloud มาด้วย คิดว่าแพ็คเกจดังกล่าวคงจะมีให้ซื้อในไทยด้วยเช่นกัน ท่าใครสนใจก็ลองติดต่อร้านตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านดูครับ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

สวัสดีแฟนๆ Final Fantasy VII ทุกท่าน เตรียมตัวกันพร้อมหรือยังสำหรับการสัมผัสความสนุกอีกครั้งในฉบับ Remake แน่นอนว่าความท้าทายอย่างแรกที่ต้องเจอในเกมเลยก็คือการต่อสู้กับบอสตัวแรก! ซึ่งหากคุณกำลังเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังประสบปัญหา พบว่าการต่อสู้กับบอสแมงป่อง Scorpion Sentinel นั้นยากเกินฝีมือไป ไกด์ฉบับนี้จะมาแนะนำวิธีต่อสู้ทั้งลักษณะการโจมตีของบอส รวมถึงวิธีหลบหลีก ซึ่งเชื่อว่าหากทุกคนได้ลองศึกษาดูแล้ว จะต้องกลับไปฝึกฝนและชนะกันได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ว่าแล้วเราก็ลองไปดูวิธีต่อสู้กับเจ้าบอสแมงป่องนักษ์นี้กันเลย! < สิ่งที่ควรรู้ในการสู้กับ Scorpion Sentinel > Scorpion Sentinel เป็นเครื่องจักรสังหารที่บริษัท Shinra สร้างเอาไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยของเตาพลังงานมาโค โดยการต่อสู้กับมันนั้นจะมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 Stage ซึ่งแต่ละสเตจก็จะมีท่าโจมตีที่เป็นอุปสรรคอยู่ สิ่งจำเป็นคือการเก็บเกจ ATB เพื่อใช้เวทมนตร์จะเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือได้มาก วิธีจัดการคือการหาโอกาสใช้เวทมนตร์เพื่อทำให้มันล้มลงได้ง่ายขึ้น และรู้จักวิธีหลบท่าโจมตี แล้วหาจังหวะสร้างความเสียหายเพื่อให้มันเปลี่ยนไปยังสเตจต่อไปให้เร็วที่สุด แต่จะทำได้อย่างไรนั้น เราลองมาศึกษาดูวิธีกันไปทีละส่วนเลยครับ < ท่าโจมตีของ Scorpion Sentinel > Electrostomp ท่ากระทืบเท้าที่จะปล่อยไฟฟ้าออกมา สามารถป้องกันด้วยการกลิ้งหลบออกมานอกระยะ หรือเคาเตอร์กลับด้วยการใช้ Punisher Mode แต่จะแลกกับการที่ทำให้เราโดนความเสียหายไปด้วยเช่นกัน Target Scanner ทำแสกนศัตรูเพื่อล็อคเป้าหมาย หากโดนล็อคเป้าแล้วจะทำให้โดนโจมตีด้วยท่ายิงมิซไซล์ Mark 99 Launchers อย่างแม่นยำ หากโดนล็อคเป้าเอาไว้แล้วควรรีบโจมตีเพื่อให้การล็อคเป้าหายไป Mark 99 Launchers ท่ายิงไซล์ออกมาเป็นวงกว้าง ถ้าหากโดน Target Scanner ล็อคเป้าหมายเอาไว้ จะทำให้มีโอกาสหลบได้ยาก แต่วิธีหลบจริงๆ นั้นสามารถทำได้ โดยสามารถถอยออกมาให้พ้นระยะหรืออยู่ในพื้นที่โล่ง แล้วกลิ้งตัวหรือพุ่งเข้าไปหามันในตอนที่ปล่อยมิซไซล์ออกมาก่อนถึงตัว หากทำถูกจังหวะจะสามารถทำให้หลบการโจมตีได้ แต่การใช้วิธีหลบแบบนี้ต้องอาศัยเทคนิคการจับจังหวะให้ถูกต้องอยู่พอสมควร การโจมตีอีกรูปแบบหนึ่งในท่านี้ คือการที่มันจะกระโดดไปเกาะกำแพงและยิงมิซไซล์ออกมา วิธีแก้ง่ายๆ คือให้ดูจังหวะตอนที่มันเกาะถึงกำแพงแล้ว ให้กดใช้เวทยมนตร์โจมตีก่อนที่มันจะใช้ท่า จะทำให้เป็นการแคนเซิลการใช้ท่านี้ได้ทันที EM Field ท่าชาร์จพลังและปล่อยคลื่นไฟฟ้าออกมารอบตัว เมื่อใช้ท่านี้จะมีกระแสไฟฟ้าขึ้นที่พื้น ให้รีบถอยออกมาอยู่นอกระยะโดยเร็วที่สุด Mark 98 Cannons ท่ายิงปืนกลที่แขนทั้งสองข้าง มีระยะการโจมตีอยู่ที่ด้านหน้าและด้านข้าง หากหลบอ้อมไปด้านหลังจะสามารถรอดจากการโจมตีได้ Stinger Salvo ท่ากระทืบเท้าและโจมตีด้วยลำแสงที่หาง หากหลบไปด้านข้างหรือด้านหลังจะทำให้ไม่โดนการโจมตี Death Grip เมื่อใช้ท่านี้ มันจะจับตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในทีมเอาไว้ ให้รีบใช้ตัวละครอีกตัวโจมตีก่อนที่มันจะทำการโจมตีออกมา Tail Laser ท่ายิงเลเซอร์ออกจากหาง เมื่อใช้ท่านี้มันจะทำการชาร์จพลังโดยมีกระแสไฟฟ้าป้องกันรอบตัว และมีเศษเหล็กหล่นลงมา 2 จุด หากเราอยู่ในระยะใกล้เกินไป จะทำให้โดนการโจมตีและกระเด็นออกมาโดยอัตโนมัติ สิ่งที่ทำได้ในท่านี้มีเพียงหลบอยู่หลังเศษเหล็กที่หล่นลงมา แล้วคอยเตรียมตัวให้พร้อมหลังจากมันโจมตีเสร็จเท่านั้น < วิธีต่อสู้กับ Scorpion Sentinel > Stage 1 ในสเตจแรกนี้มันจะเริ่มด้วยการใช้ท่า Electrostomp ให้เรากลิ้งหลบออกมาด้านหลัง หรือด้านข้าง และพยายามทำคอมโบของ “Operator Mode” และ “Punisher Mode” อย่างต่อเนื่องให้ครบทั้ง 2 ชุด จากนั้นให้ใช้ Abilities หรือ เวทมนตร์ จะสามารถทำให้มันล้มลงได้ ซึ่งถ้าหากเรามีเกจ ATB เพียงพอ สามารถโจมตีสลับกับการใช้ท่า Focused Thrust หรือใช้เวทมนตร์เพื่อทำให้มันเกิดการ Staggered และต่อคอมโบชุดใหญ่อีกได้ หากทำความเสียหายอย่างต่อเนื่องได้มาก ก็สามารถทำให้มันเปลี่ยนไปสู่สเตจต่อไปได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ต้องไม่ต้องกลัวท่าโจมตีอื่นเลย แต่ถ้าหากไม่สามารถทำความเสียหายได้มากพอในทีเดียว มันจะกระโดดไปเกาะกำแพง และยิงมิซไซล์ด้วยท่า Mark 99 Launchers และกลับมาใช้ท่าโจมตีอื่น ให้คอยสังเกตุและคอยหลบให้ดี Stage 2 เมื่อเริ่มสเตจนี้ มันจะอยู่ในระยะห่างกับเราพอสมควร ถ้าหากวิ่งเข้าไปหามันจะสามารถใช้ท่า Mark 99 Launchers ยิงมิซไซล์โดนใส่เราได้ แต่ถ้าเราใช้ Cloud ล็อคเป้าเอาไว้และกดสี่เหลี่ยม จะทำให้สามารถพุ่งเข้าไปประชิดตัวได้อย่างรวดเร็ว และทำให้มันไม่ยิงมิซไซล์ออกมา ในเวฟนี้มันจะใช้บาเรียป้องกันการโจมตีของเรา ทำให้ไม่สามารถโจมตีด้วยท่ากายภาพได้ โดยปกติแล้วต้องทำการโจมตี Field Generator ที่อยู่ใต้ท้อง แต่หากอ้อมไปด้านหลัง แล้วโจมตีด้วยเวทมนตร์ จะทำให้มีโอกาสทำให้บาเรียหายไปได้ในครั้งเดียว หลังจากบาเรียหายไปแล้วมันจะกระโดดไปใช้ท่า Mark 99 Launchers อีกครั้ง และเมื่อมันกลับมาจะเป็นการโจมตีสลับกับการกระโดดไปมา ถ้าหากคอยสร้างความเสียหาบแล้วระวังการโจมตีไปด้วย ก็จะไปสู่สเตจต่อได้โดยที่ไม่มีอะไรต้องกังวล Stage 3 เริ่มต้นสเตจนี้มันจะใช้ท่า Tail Laser โดยอัตโนมัติทันที ให้หลบอยู่หลังเศษเหล็กที่หล่นลงมาแล้วเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อมันโจมตีเสร็จแล้วจะเริ่มใช้ท่าโจมตีสลับกันไประหว่าง Mark 99 Launchers , Mark 98 Cannons , EM Field และสลับกับการกระโดดไปมาอยู่กับที่เพื่อหามุมโจมตีเรา ให้คอยเข้าไปโจมตีทีละ 2-3 ครั้ง แล้วถอยหลบออกมาเพื่อระวังการโจมตี  เมื่อสร้างความเสียหายถึงจุดหนึ่งมันจะใช้ท่า Stinger Salvo เป็นการบอกให้รู้ว่าใกล้จะทำการเปลี่ยนไปสเตจต่อไปแล้ว Stage 4 มาถึงสเตจนี้ได้ก็ไม่มีอะไรยากแล้ว โดยหากใช้เวทยมนตร์หรือโจมตีขาหน้าทั้งสองข้างให้มันล้มได้อย่างรวดเร็ว ที่เหลือก็สามารถโจมตีปิดฉากรับชัยชนะมาอย่างง่ายดาย และขอแสดงความยินดีด้วยที่คุณสามารถปราบบอสตัวแรกของเกมได้แล้ว ปัจจัยสุดท้ายของการต่อสู้นั้นคือฝีมือและเทคนิคการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนเอง ซึ่งไกด์การต่อสู้ฉบับนี้ เป็นเพียงการแนะนำวิธีการต่อสู้โดยรวมเท่านั้น หวังว่าใครที่ได้ลองศึกษาดูแล้ว จะนำเทคนิคบางอย่างไปใช้ และสนุกกับเกมกันได้มากขึ้นครับ

หลังจากที่มีการเปิดให้ Pre-Register กันไปก่อนหน้านี้ วันนี้เกม War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius ก็เปิดให้สามารถเล่นได้อย่างเป็นทางการแล้วทั้งใน Google Play และ App Store โดยเกมนี้จะไม่ต้องจ่ายตั้งเพื่อซื้อ แต่เป็นเกม Free to Play ที่ใช้ระบบ Micro-Transactions แทนถ้าเกิดว่าใครที่เป็นคนชอบเล่นเกมแนว Turn-Based Tactical แล้วละก็ เกมนี้ก็ดูเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ! เนื้อเรื่องของ War of the Visions จะกล่าวถึง ประเทศเล็กที่มีชื่อว่า Leonis ซึ่งอยู่ท่ามกลาง ประเทศมหาอำนาจยักษ์ใหญ่มากมาย ด้วยวิสัยทัศน์ ความหวัง และความฝันของนักรบในตำนาน ยังคงทำให้ประเทศแห่งนี้คงความเป็นเอกราชเอาไว้ได้ แต่ไม่มีอะไรในโลกที่จะคงทนได้ตลอดไป เมื่อเวลาผ่านความมั่นคงที่มีก็ค่อยๆ สั่นคลอนที่ละเล็กที่ละน้อย โชคชะตาของ Leonis จะเป็นเช่นไร ติดตามได้ในเกมนี้เลยครับ War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius เปิดให้เล่นได้ฟรีแล้วทั้งบนGoogle Play และ App Store Credit : Gematsu ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

แม้จะเป็นเกมที่มีผู้คนเฝ้ารอจะได้เล่นมากที่สุดในโลกเกมหนึ่ง แต่สิ่งหนึ่งที่แฟนๆ ของเกม Final Fantasy VII Remake ไม่ค่อยพอใจ และตั้งคำถามมาตลอด คือการที่ผู้พัฒนาตัดสินใจตัดแบ่งเกมเป็นหลายๆ ตอน แทนที่จะปล่อยออกมาเป็นเกมเต็มๆ เกมเดียว และจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มีคำตอบที่น่าพอใจออกมาจากผู้พัฒนาเสียที ล่าสุด ดูเหมือนว่าเราอาจจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer ของเกมคุณ Yoshinori Kitase ได้เปิดเผยในบทสัมภาษณ์ที่เผยแพร่บนเว็บหลักของ Square Enix เอง โดยเขากล่าวว่า ในช่วงก่อนที่จะเริ่มพัฒนาเกม FF7R นั้น ทีมพัฒนาได้วางแนวทางที่เป็นไปได้สองทาง นั่นก็คือการขยายทุกอย่างให้ใหญ่และละเอียดมากขึ้น ในคุณภาพกราฟิคสมัยใหม่ระดับสูงสุด แต่ต้องแบ่งเกมออกเป็นหลายตอนเพื่อให้รักษาเนื้อหาทั้งหมดของภาคต้นฉบับเอาไว้ หรือจะเล่าเนื้อเรื่องให้จบในเกมเดียว แต่ต้องตัดทิ้งหรือปรับเนื้อหาบางส่วนไป โดยแน่นอนว่าผู้พัฒนาเลือกทางเลือกแรก ทำให้เกมภาคแรกนี้ครอบคลุมเพียงเหตุการณ์ในนคร Midgard เท่านั้น "จนแล้วจนรอด เราก็เลือกที่จะทำให้เกมมีคุณภาพสูงที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ พร้อมกับขยายขอบเขตของเนื้อเรื่องให้กว้างและลึกขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งการแบ่งเกมออกเป็นหลายๆ ภาค ทำให้เราไม่ต้องกังวลว่าเกมจะใหญ่เกินไป เราจึงสามารถรักษาทุกสิ่งทุกอย่างที่แฟนๆ เคยรักเอาไว้ และทำมันให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก แถม Midgar ยังเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่น่าจดจำของทุกคนด้วย เราจึงรู้สึกว่าเมืองเหมาะจะเป็นที่ตั้งเกมภาคแรก" คำตอบของคุณ Yoshinori Kitase น่าจะตอบคำถามคาใจของหลายๆ คนไปได้ไม่มากก็น้อย แต่คำถามที่น่าถามต่อไปคือเกม Final Fantasy VII Remake จะดำเนินไปกี่ภาคกันแน่ หวังว่าภาคต่อๆ ไปจะไม่ต้องรอนานเท่าภาคนี้นะ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้ สำหรับ PS4  Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดี Inside Final Fantasy VII Remake ตอนแรกออกมา ที่พูดถึงความรู้สึกของผู้พัฒนาต่อการสร้างเกมภาคใหม่นี้ (อ่านบทสรุปสารคดีตอนแรกแบบละเอียด ที่นี่) ล่าสุด Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดีตอนที่สองออกมาแล้ว ซึ่งเน้นพูดถึงเนื้อเรื่องของเกม และยังพูดถึงตัวละครหลักอย่าง Cloud, Tifa, และ Aerith อีกด้วย วีดีโอเปิดมาด้วยบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแห่นง Producer คุณ Yoshinori Kitase ผู้ซึ่งกล่าวว่าเขาได้ลืมรายละเอียดของเกมภาคดั้งเดิมไปเกือบหมดแล้วก่อนที่จะเริ่มพัฒนาเกมภาคใหม่ เขาจึงกลับไปเล่นภาคดั้งเดิมเพื่อฟื้นความจำ และพบว่าผู้เล่นใช้เวลาในนคร Midgar จริงๆ น้อยมาก ต่างจากที่เขาจำได้ เขาจึงมีความต้องการที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสกับนคร Midgar ในความทรงจำของเขา ต่อจากนั้น นักเขียนเนื้อเรื่องเกมคุณ Kazushige Nojima ก็เล่าถึงตัวละครของ Cloud โดยเขาเปิดเผยว่าในเกมภาคดั้งเดิมนั้น เขาออกแบบ Cloud ให้เป็นตัวละครพระเอกสุดเท่ในอุดมคติ แต่ในเกม Remake เขาได้ลงลึกไปถึงจิดวิทยาของตัวละคร ในฐานะผู้ที่ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้เขาต้องพยายามวางมาดเข้มตลอดเวลา โดยผู้เล่นจะมีโอกาสเห็นด้านอื่นๆ ของ Cloud มากขึ้น รวมไปถึงด้านที่อ่อนไหวของเขา คุณนักเขียนกล่าวต่อว่า เขาก็มีความกังวลเล็กๆ ว่าผู้เล่นเก่าจะรู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร Cloud แต่เขาก็ย้ำว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น เพราะเกมมีความสมจริงมากขึ้น ทำให้ทุกอย่างต้องใช้ความสมจริงมากขึ้นตาม นอกจากนี้ เขายังพูดถึงความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนวัยเด็กระหว่าง Cloud และ Tifa ที่จะถูกเล่าอย่างลึกซึ้งมากขึ้นในภาคใหม่ โดยเขายกตัวอย่างสถานการณ์ที่ Tifa ช่วย Cloud หาห้องพักในตึกเดียวกับเธอ ซึ่งเขาเล่าว่าเป็นฉากที่น่ารักมากๆ และหวังว่าผู้เล่นจะรู้สึกดีเมื่อได้สัมผัสกับฉากใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าไปนี้ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 แต่เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสในปัจจุบัน ทำให้แผ่นเกมอาจจะขาดตลาดในบางพื้นที่ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม) เพื่อนๆ สามารถอ่านความเห็นของเราจากการเล่นเดโมเกมตัวล่าสุดได้ ที่นี่ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

บัญชีทวิตเตอร์ Square Enix Manga & Books ได้เปิดเผยเร็วๆ นี้ว่า แฟนๆ ของเกม Final Fantasy VII Remake จะสามมารถพบกับหนังสือ Final Fantasy VII Remake: World Preview ฉบับแปลภาษาอังกฤษได้ในวันที่ 8 กันยายน 2020 นี้ New title announcement! FINAL FANTASY VII Remake: World Preview will release in September 2020! A full-color jacketed hardcover featuring art and info on characters, settings, gameplay, and more! Pre-orders to come soon! https://t.co/IpkuBRVOkj pic.twitter.com/zE84MDQfXX — Square Enix Manga & Books (@SquareEnixBooks) March 22, 2020 หนังสือ Final Fantasy VII Remake: World Preview จะรวบรวมข้อมูลมากมายจากจักรวาลของเกม FF7 เอาไว้ ตั้งแต่ประวัติของตัวละครหลักอย่าง Cloud, Tifa, และ Aerith ไปจนถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังการออกแบบสถานที่ต่างๆ ในเกม และจะมีเรื่องสั้นจากเกมที่เขียนโดยคุณ Kazushige Nojima ผู้ซึ่งเคยเขียนเรื่องสั้นจาก FF7 รวมเล่มเป็นหนังสือ On the Way to a Smile: Final Fantasy VII (ปี 2014) และปัจจุบันรับหน้าที่เขียนบทให้กับเกมภาค Remake อีกด้วย หนังสือจะวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบหนังสือปกแข็งและแบบดิจิตอล (E-book) ความยาว 128 หน้า โดยแบบปกแข็งจะวางจำหน่ายในราคา $24.99 (ราว 825 บาท) ส่วนแบบดิจิตอลจะมีราคา $16.99 (ราว 560 บาท) สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ทางเว็บร้านค้าของ Square Enix (ลิงค์) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 แต่ด้วยวิกฤติไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ ทำให้แผ่นเกมอาจจะขาดตลาดในบางพื้นที่ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ไม่แน่นอน ทำให้แม้กระทั่งบริษัทพัฒนาเกมหลายแห่งจำเป็นต้องอนุญาติให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส และบริษัทล่าสุดที่ประกาศให้พนักงานทำงานจากบ้านอย่างเต็มรูปแบบก็คือ Square Enix นั่นเอง CEO ของบริษัท Square Enix สาขาอเมรีกาและยุโรป คุณ Phil Rogers ได้ปล่อยแถลงการณ์ใหม่ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท เกี่ยวกับมาตรการรับมือไวรัสของบริษัท Square Enix ทั่วโลก โดยคุณ Phil ยืนยันว่าเกมจำพวก Live-Service อย่าง Final Fantasy XIV จะได้รับการสนับสนุนต่อไป และเกมที่อยู่ระหว่างพัฒนาทั้งหมดจะยังคงได้รับการพัฒนาต่อไปเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ คุณ Phil Rogers ยังยืนยันว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะยังวางจำหน่ายตามกำหนดการเดิม คือวันที่ 10 เมษายนนี้ แต่ก็ยอมรับว่าแผ่นเกมอาจจะขาดตลาดได้ในบางพื้นที่ จากปัญหาด้านการขนส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดด้านจำนวนแผ่นในแต่ละพื้นที่อีกครั้งในอนาคต สุดท้ายนี้ บริษัทจะทำการโชว์เกมทางออนไลน์ด้วยตัวเอง ทดแทนงานเกมต่างๆ ที่ต้องยกเลิกไปในปีนี้ ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กิจการหลายชนิดจะถูกจำกัดจากมาตรการป้องกันโรคระบาดของหลากหลายประเทศ หวังว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายโดยเร็ว เราจะได้กลับมาสนุกกับเกมที่เรารักได้อย่างเต็มที่! อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ) ที่นี่ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในขณะที่คนทั้งโลกกำลังรอเล่น Final Fantasy 7 Remake อยู่ในตอนนี้ อีกหนึ่งเกมที่ใช้ชื่อคล้ายกัน War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius ซึ่งเป็นเกมบนมือถือ ที่มีกำหนดจะเปิดให้เข้าไปเล่นได้ในวันที่ 25 มืนาคม 2020 นี้ ก็เปิดให้สามารถเข้าไป Pre-Register ได้แล้วเช่นกันครับ ซึ่งก็นานแล้วที่เราไม่ได้เห็นเกมในตระกูล FF ที่เป็นแบบ Turn-Based Tactical ทางผู้พัฒนาก็ได้มีการปล่อย Trailer ของเกมเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษออกมาแล้วด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ จริงๆ War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius นั้นเปิดให้เล่นบน Store ของประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2019 แล้ว ตัวเกม=ใช้กราฟิกแบบ 3D จัดเต็ม ทั้งยังมาพร้อมกับกราฟิกที่สวยงามอลังการ เรียกได้ว่าถึงไม่ใช้แฟน Final Fantasy ก็น่าจะสามารถเล่นเกมนี้ให้สนุกได้ไม่ยาก อีกทั้งดูเหมือนว่ายิ่งมีการ Pre-Register มากเท่าไหร่ ตอนที่เกมเปิดทุกคนก็จะได้ของรางวัลมากขึ้นเท่านั้นด้วย ถ้าใครสนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดได้ผ่านลิงก์นี้เลยครับ Final Fantasy Brave Exvius จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 25 มีนาคม 2020 นี้ ทั้งบน iOS และ Android Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายแล้วในอีก 2 อาทิตย์ต่อจากนี้ ซึ่งเพื่อเป็นการโหนกระแสอย่างต่อเนื่อง ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยรูปภาพ Screenshots ของเกมออกมามากมาย และตอนนี้เองตัวเกมก็อยู่ในสถานะ Gone Gold เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั้นจึงหมายความว่าจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายของเกมออกไปอีกแล้ว แต่ในข่าวดีทั้งหมดนั้นก็ดูเหมือนจะมีข่าวร้ายอยู่เช่นกันครับ ล่าสุดก็มีประกาศออกมาจากผู้พัฒนาว่า "ในวันที่เกมวางจำหน่าย แผ่น Final Fantasy 7 Remake อาจจะขาดตลอดได้" Official Twitter ของ Final Fantasy 7 Remake ได้ทำการปล่อยข้อความใหม่พร้อมรูปภาพที่บอกว่า "เนื่องด้วยปัญหาการระบาดของ COVID-19 ทำให้พวกเราไม่สามารถผลิตแผ่นเกม FF7 Reamke เป็นจำนวนมากได้ในตอนนี้ สำหรับคนที่ซื้อเกมในรูป Digital นั้นไม่ต้องกังวลไป ส่วนสำหรับคนที่สั่งซื้อแบบ Physical Edition เราจะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสเกมนี้อย่างแน่นอน" มาถึงจุดนี้คงต้องยอมรับว่า COVID-19 ทำเอาปั่นป่วนทั้งวงการจริงๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บน PS4 เท่านั้น Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

อีกไม่ถึง 3 อาทิตย์แล้วก่อนที่เกม RPG ระดับตำนานเวอร์ชั่น Remake อย่าง Final Fantasy 7 จะวางจำหน่าย คิดว่าตอนนี้หลาย ๆ คนคงตื่นเต้นขนาดกาปฏิทินรอกันแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าตอนแรกก็ตื่นเต้นมากๆ อยู่แล้ว ยิ่งทางผู้พัฒนาทำการปล่อยทั้งวิดีโอ ทั้งภาพ ทั้งข้อมูล ออกมามากมายขนาดนี้ ก็ยิ่งทำให้เราอยากเล่นเกมนี้มากขึ้นไปอีก และวันนี้การยั่วเหล่านั้นก็ยังไม่จบครับ เพราะล่าสุดก็มีการปล่อยภาพ Screenshots ของเกมออกมาอีกแล้ว แถมยังมาเป็นชุดใหญ่เลยด้วย! รูปภาพทั้งหมดนั้นถูกปล่อยออกมาจากเว็บไซต์ Official ของ Final Fantasy เองเลย ซึ่งภาพชุดใหญ่ที่ปล่อยออกมานี้ มีทั้งภาพของตัวละครเก่า และใหม่ที่มีอยู่ในเกม ภาพของสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Wall Market, Corneo Colosseum, The Honeybee Inn หรือ Beginner’s Hall อีกทั้งยังมีการเปิดเผยระบบใหม่ Jukebox กับ มนต์อสูร Leviathan สามารถดูรูปต่าง ๆ ได้ข้างล่างนี้เลยครับ Tseng Tseng เป็นหัวหน้าของหน่วย The Turks ที่เป็นเหมือนกับหน่วยลับของบริษัท Shinra หน่วยนี้มีหน้าที่ทำทุกอย่างตามที่บริษัทต้องการ ตั้งแต่สอดแนม หาข้อมูล หรือลอบสังหาร Don Corneo ผู้ปกครองเขต Wall Market เป็นตัวละครที่บ้าผู้หญิงมาก ทั้งยังเป็นคนที่ทำธุรกิจผิดกฏหมายมากมายอีกด้วย Andrea Rhodea ผู้เป็นทั้งเจ้าของ และนักเต้นที่ The Honeybee Inn มีนิสัยแบบ Perfectionism ทั้งยังเป็นคนที่จับ Cloud แต่งหญิงอีกด้วย Leslie Kyle ลูกขุนของ Don Corneo ด้วยนิสัยที่ไม่เย็นชา และดวงตาที่สุขุมเยือกเย็นทำให้เขา เป็นลูกน้องคนโปรดของ Don Corneo Madam M เจ้าของกิจการร้านนวดมือใน Wall Market เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลภายในเขต เป็นคนมีความภาคภูมิใจในตัวเองสูง Chocobo Sam ตามชื่อเลยครับ เขาก็คือนักฝึก Chocobo ในเขต Wall Market ทั้งยังเป็นเจ้าของกิจการ Sams Delivery อีกด้วย Barret in Battle ภาพต่อจากนี้ จะเป็นการโชว์ฉากการต่อสู้ รวมไปจนถึงสกิลต่าง ๆ ของ Barret ซึ่งเขามาท่าโจมตีระยะไกลที่รุนแรงมาก ๆ ชื่อว่า “Overcharge” อยู่ แต่ก็ต้องแลกมากับ Cooldown ของสกิลที่นาน ซึ่งผู้เล่นสามารถยนระยะเวลาได้ด้วยการกดปุ่มสามเหลี่ยมครับ เขต Wall Market Corneo Colosseum The Honeybee Inn Tifa และ Aerith ในชุดราตรี Beginner’s Hall Jukebox เป็น Feature ใหม่ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเวอร์ชั่นนี้ บริเวณต่าง ๆ ในเมืองจะมีเพลงพิเศษของแต่ละพื้นที่อยู่ ผู้เล่นสามารถหาซื้อแผ่นเพลงเหล่านั้นได้ตามจุดต่าง ๆ ในเมือง และเอามาเปิดฟังได้ที่ Junkbox มนต์อสูร Leviathan ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งมนอสูรที่มีให้เห็นแทบทุกภาคของ Final Fantasy ต้องรอดูว่าภาคนี้จะต้องทำยังไงถึงจะได้มาครับ Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกไม่กี่อึดใจแล้วจริงๆ กับการมาถึงของเกม Final Fantasy 7 Remake เกมที่ผู้เล่นหลายคนเฝ้ารอคอยที่จะได้สัมผัส ที่มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนที่กำลังจะถึงนี้ หลังจากที่ปล่อยเดโมเกมสั้นๆ ออกมาให้ชาว PS4 ได้ทดลองระบบต่อสู้ของเกมไปเมื่อเร็วๆ นี้ (อ่านความรู้สึกจากการเล่นเดโม ที่นี่) ล่าสุดทางผู้พัฒนา Square Enix ก็ได้ปล่อยวีดีโอสารคดีตัวใหม่ "Inside Final Fantasy 7 Remake"  ที่จะพาผู้ชมไปสู่เบื้องหลังของการสร้างเกม โดยในตอนแรกสุดนี้ (ความยาวราว 20 นาที) จะเน้นไปที่การแนะนำเหล่าผู้พัฒนามากฝีมือของ Square Enix ที่ร่วมกันสร้างเกมนี้ขึ้นมา รวมไปถึงแรงบันดาลใจในการทำงานของพวกเขา และแน่นอนว่ายังมีการแสดงเกมเพลย์ทั้งเก่าและใหม่ได้รับชมกันอีกด้วย Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เพิ่งเปิดให้ดาวน์โหลด DEMO กันไปหมาด ๆ บน PlayStation 4 กับเกมที่หลายท่านรอคอย Final Fantasy VII Remake เกมเก่ายุคคลาสสิคที่กลับมาใหม่ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม ทั้งกราฟิกที่ปรับเปลี่ยนจากยุค Polygon เป็น 3D เต็มตัว สานต่อภาพจำสมัยวัยเยาว์ให้สมจริงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Final Fantasy VII Remake ไม่ใช่แค่เกมเดียวที่ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน และกลับมาใหม่ในยุคปัจจุบัน แต่ทว่าในปีนี้มีอีกหลายไตเติลดัง ที่ได้กลับมาให้หายคิดถึงอีกครั้ง อาทิเช่น Resident Evil 3 Remake, Seiken 3 (Trials of Mana), Pokemon Mystery Dungeon กระแสเกมเก่าถูกกลับมา Remake หรือ Remaster ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ แม้อาจจะดูหนักหน่วงในช่วงหลัง ๆ จนกลายเป็นคำถามคาใจว่าเหตุไฉน เกมยุคเก่าทั้งหลายถึงต้องถูกนำกลับมาใหม่ในยุคปัจจุบัน ความโหยหาอดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้ ความโหยหาอดีตของเหล่าเกมเมอร์ยุคปัจจุบันครับ ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงวัย 20 ต้น ๆ ไปจนถึง 30 ตอนปลาย ที่เติบโตมากับเครื่องเกม NES , Gameboy , GameCube  , หรือ PlayStation ซึ่งในช่วงนั้นหลายคนน่าจะยังอยู่ในอายุหลักหน่วยไปจนถึงหลักสิบต้น ๆ หลายเกมคือภาพทรงจำในอดีตที่เคยเป็นเกมแรกซึ่งเก็บเงินซื้อเอง , แม่ซื้อให้เป็นของขวัญตอนสอบได้ที่ 1 , หรืออาจจะเป็นเกมที่เพื่อนเคยยืมแล้วสูญหายไป แต่บรรยากาศยามที่เราสัมผัสปุ่มยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ แต่ทว่าการจะกลับไปเล่นเกมเก่า ๆ เหล่านั้นไม่สามารถจะทำได้ง่าย ๆ ทั้งแผ่นเกมเก่าที่กลายเป็นสิ่งหายาก หรือเครื่องเกมที่มูลค่าสูง การ Remaster หรือ Remake อาจจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมกว่า การพัฒนาของยุคสมัยใหม่ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ใครหลายคนอยากเห็นการ Remake ของเกมโปรด ในสมัยเกมเก่าที่เราชื่นชอบอาจจะยังเป็นภาพรูปแบบ 8Bits 16Bits หรือภาพโพลิกอนแข็งๆ แต่ด้วยกาลเวลาร่วม 20 - 30 จะเห็นได้ว่าปัจจุบันกราฟิกไปได้ไกลขึ้นอย่างมหาศาล ยิ่งทำให้แฟนเกมเก่าที่เคยมองภาพตัวละครรักหรือบรรยากาศในเกมที่ถูกจำกัดด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้น อยากเห็นภาพที่สวยสมจริงตามยุคสมัย เห็นได้ชัดอย่าง Cloud และเมือง Midgar ในเกม Final Fantasy VII สมัยที่ลงเครื่อง PlayStation และปัจจุบันได้ถูกนำมา Remake โดยมีการปรับปรุงดีไซน์ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีสมัยปัจจุบัน ทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นบวกกับเข้าใจโลกของเกมได้มากขึ้นจากกาเนรมิตเมือง Midgar แบบสมจริง เพื่อสานต่อตำนานและให้ถูกเล่าขานสืบไป การ Remake ไม่ใช่เพียงแค่การตอบสนองให้แฟนรุ่นเก่าได้เบิกบานทางจิตใจ แต่อาจนำไปสู่การสร้างฐานแฟนคลับรุ่นใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสเกมเหล่านั้นมาก่อนด้วย ทั้งยังทำให้เข้าใจความยอดเยี่ยม หรือความคลาสสิคของเกมที่คนรุ่นเก่าเคยกล่าวไว้ การกลับมาอีกครั้งของเกมระดับตำนานทั้งหลายจะช่วยตอกย้ำความสำเร็จไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลาอีกด้วย ความคุ้มค่าต่อการ Remake เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นอาจเป็นเหตุผลด้านความรู้สึกของผู้เล่นเสียมากกว่า แต่สำหรับผู้ผลิตเองก็พอจะมีเหตุผลสำคัญที่ทำให้อยากนำเกมเก่าของตนเองกลับมา Remake พอสมควร หากดูยอดขายของเกม Remake หลายเกมที่ผ่านมา เช่น Resident Evil 2 Remake สามารถทำยอดทะลุมากกว่า 5 ล้านก็อปปี้ ซึ่งมากกว่าต้นฉบับ หรือ The Legend of Zelda: Links Awakening Remake ที่สามารถทำยอดขายมากกว่า 4 ล้านก๊อปปี้ในปี 2019 ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่นี่พอใจสำหรับเกม Remake และมากกว่าเกมไตเติลใหม่หลาย ๆ เกมเสียด้วยซ้ำ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่หลายนักพัฒนาอยากนำเกมเก่าของตนมา Remake ใหม่มากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม  ผู้เล่นหลายๆ ท่านจะได้พบกับเกม Remake อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2020 อย่างแน่นอน และรวมไปถึงในปีถัด ๆ ไป ก็อาจจะเยอะขึ้นกว่าเดิมอีก มารอลุ้นดูว่าในอนาคต เกมรักเกมโปรดของคุณในอดีตอาจกลับมาอีกครั้ง หากผู้อ่านมีเกมโปรดเกมใดที่อยากให้ Remake ลองนำเสนอกันมาได้นะครับ

คุณเคยมีเพื่อนที่สร้างความประทับใจให้ไม่รู้ลืม ไม่ว่าจะผ่านเวลามานานขนาดไหนหรือเปล่า? สำหรับผู้เขียน … ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 1997 ด้วยวัย 12 ขวบ ที่ยอมลาเรียน รบเร้าคุณพ่อให้พาไปต่อคิวหน้าศูนย์โซนีสาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน อันช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิต มันเป็นวินาทีที่พิเศษที่สุด ที่ผลจากความพยายามเก็บเงินข้ามปี จำนวน 2180 บาท กำลังจะออกดอกผล เป็นแพ็คเกจแผ่นเกมเครื่องเล่น Playstation ใหม่ล่าสุด ที่มีชื่อว่า …. Final Fantasy VII จากวันที่ได้รับแผ่น ผู้เขียนเล่นมันอย่างไม่ลืมหูลืมตา แม้ว่าจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอโทรทัศน์แม้แต่ตัวเดียว เฝ้าเสาะแสวงหาบทสรุปของสำนักพิมพ์ต่างๆ มาประกอบการเล่น เล่นจบแล้วก็เล่นซ้ำไปมา เป็นห้วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ที่ได้ใช้ร่วมกันกับ ‘เพื่อน’ ผู้นี้ และเป็นสิ่งที่กำหนดตัวตน และความเป็น ‘คนเล่นเกม’ ของผู้เขียนมานับตั้งแต่นั้น…. เวลาผ่านไป 23 ปีมาจนถึงปัจจุบัน ที่ผู้เขียนเป็นชายวัยเกือบกลางคน ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายพรรษา ผ่านชิ้นงานเกมหลากหลายแนวมานับไม่ถ้วน ได้เห็นวัฏจักรการเกิดดับของแต่ละ Cycle ของแวดวง และได้รับทราบถึง ‘การกลับมา’ ของเพื่อนคนเก่า ที่มาในรูปโฉมใหม่ มันอดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยไม่ได้ มันเป็นความตื่นเต้น อันเกิดจากความอยากรู้อยากเห็น ว่าเวลากว่าสองทศวรรษที่ผ่านไป ‘เพื่อน’ คนนี้ จะยังคงน่าสนใจแค่ไหน และมีเรื่องราวใดที่จะมาบอกกล่าวกันกับผู้เขียน เรานัดเจอกันในเย็นย่ำวันธรรมดาหลังเลิกงาน เฝ้ารอให้เพื่อนเดินทางมาสถิตอยู่ในเครื่อง Playstation 4 Pro ใช้เวลาเพียงไม่นาน ‘เพื่อนเก่า’ ใน ‘โฉมใหม่’ ก็ได้มาอยู่ต่อหน้า พร้อมสำหรับการพูดคุยสนทนาวิสาสะกัน และนี่ คือการสนทนาของผู้เขียน กับ ‘เพื่อน’ คนนี้ … รูปลักษณ์ สุ้มเสียง สำเนียงที่เปลี่ยนไป ในเรื่องราวเก่าแก่ที่บอกกล่าวกันใหม่ตามช่วงเวลา เราเริ่มต้นทักทายกันด้วยความทรงจำและเรื่องราวเก่าเป็นบทเปิดโหมโรงพอเป็นพิธี แต่ก็สัมผัสได้ทันที ว่าเพื่อนผู้นี้ มีกลวิธีที่แตกต่างออกไปจากเดิม มันมีเสน่ห์มากขึ้นตามยุคสมัย แต่สามารถลงลึกถึงรายละเอียดเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนได้อย่างแม่นยำ ฉากที่เป็น Signature หลายช่วงถูกนำเสนอออกมาในรายละเอียดที่มากขึ้น ที่แม้แต่ผู้เขียนก็คาดไม่ถึง ว่าเรื่องราวในครั้งนั้น จะมีสิ่งละอันพันละน้อยปลีกย่อยที่น่าสนใจได้ถึงขนาดนี้ มันช่วยเติมรสชาติที่แปลกใหม่ แต่ก็ยังมีความชวนให้หวนอาลัยต่อความทรงจำที่เคยได้รับมาในสถานการณ์เดียวกัน ดวงตาของผู้เขียนเป็นประกายราวกับเด็กที่ได้ของเล่นใหม่ เหมือนได้ย้อนกลับไปยังวันเวลาเก่าก่อนอีกครั้ง ‘เพื่อน’ ไม่รอช้า เข้าสู่บทโหมโรงของเรื่องราวแห่ง Cloud Strife ทหารรับจ้าง กับภารกิจร่วมกับกลุ่ม Avalanche ในการทำลายเตาปฏิกรณ์ Mako ของบรรษัทยักษ์ใหญ่ Shinra Company แน่นอนว่านี่ เป็นเรื่องเก่า แต่ก็เป็นเรื่องเก่าที่น่าคิดถึง และยิ่งมาในรูปโฉมใหม่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ความน่าสนใจในการสนทนาครั้งนี้ เพิ่มสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ตัวละครประกอบอย่างแก๊งส์ร่วมขบวนการอย่าง Biggs, Wedge และ Jessie ถูกขับเน้นให้มีตัวตน มีบุคลิก และ ‘มีความสำคัญ’ ดังที่เพื่อนได้กล่าวกับผู้เขียนว่า เรื่องราวถัดจากนั้น จะยิ่งเข้มข้นและลงลึกในรายละเอียดมากยิ่งขึ้น (และอาจจะดึงดราม่าเรียกน้ำตากันได้ง่ายๆ...) ผู้เขียนพอจะทราบมาบ้างแล้วว่า เพื่อนผู้นี้มีความพยายามที่จะตามยุคสมัยและเวลาที่เปลี่ยนไปให้ทัน นั่นทำให้สิ่งรกรุงรังอย่างการผลัดกันตีผลัดกันเดิน ถูกทดแทนด้วยบทแอ็คชันประยุกต์ผสมผสานโหมด Active Time Bar (ATB) แบบฉบับดั้งเดิมให้เป็นในส่วนของคอมมานด์ที่สามารถกดใช้ได้แทบจะทันที หรือจะกดใช้แบบกึ่งชะลอจังหวะการเล่นเพื่อดูภาพรวมของสมรภูมิก็สามารถทำได้ ทำให้การออกท่วงท่าต่างๆ เป็นไปอย่างเรียบเนียนไร้รอยสะดุด ช่วยให้การเล่นนั้นรวดเร็ว คมกริบ และง่ายต่อการเรียนรู้ เพียงแค่สองการปะทะ ผู้เขียนก็สามารถใช้มันได้อย่างคล่องแคล่วโดยแทบไม่ต้องมองจอยแพดที่อยู่ในมือ เขาบอกว่าเอาตัวอย่างบางส่วนมาจากภาค 15 เข้ามาปรับปรุง แต่ก็ยังเหลือเผื่อจังหวะให้ช้าลงเพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นการประนีประนอมที่เข้าท่ามากๆ เพราะมันได้ทั้งความเร็ว และมิติทางการวางแผน อันเป็นมรดกสืบทอดจากช่วงเวลาอันแสนน่าคิดถึงเหล่านั้น ความรวดเร็วในการดำเนินเรื่องราวของเพื่อนยังคงไว้ซึ่งจังหวะอย่างต่อเนื่อง คลอไปด้วยดนตรีที่คุ้นเคย ไม่มีอีกแล้วกับการเดินในพื้นที่แล้วสู้กับศัตรูแบบสุ่ม ทุกอย่างถูกวางสคริปต์เอาไว้อย่างเหมาะเจาะ ทุกการปะทะถูกเตรียมพร้อมเอาไว้โดยมีเป้าประสงค์ที่ชัดเจน และเข้าถึงประเด็นได้โดยไม่ต้องเสียเวลาสาธยายความ แต่ไม่ละเลยซึ่งส่วนปลีกย่อยที่เล็กน้อยที่สุดอย่างการแสดงออกทางสีหน้าตัวละคร ท่วงท่าภาษากาย บทสนทนาตอบโต้ระหว่างกัน เป็นการบอกบุคลิกที่แตกต่างระหว่าง Cloud Strife และ Barret Wallace ในภารกิจทำลายเตาปฏิกรณ์ มันชัดเจน และขับเน้นตัวละครได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้ บ่งบอกถึงการคิดมาอย่างดี พ่วงด้วยประสบการณ์ที่สะสมตามเวลามานานปี ที่ผู้เขียนมั่นใจ ว่าจะสามารถจับหัวใจได้ทั้งเพื่อนเก่าแก่ท่านอื่น และผู้ที่รู้จักกับเขาเพียงครั้งแรก ดังเช่นที่ผู้เขียนได้เพลิดเพลินกับการปรับโฉมในรอบนี้ เรื่องราวการผจญภัยมาถึงปลายทาง ผ่านบทต่อสู้กับบอสประจำพื้นที่อย่างหุ่นยนต์ Scorpion Sentry หน้าเก่า ที่กลับมาอย่างเร้าใจ มันมีลูกเล่นที่มากมาย และซุกซ่อนกลเม็ดเด็ดพรายที่ทำให้การต่อสู้นั้นท้าทายและเป็นมากกว่าการเดินเข้าตีอย่างดาดๆ มันต้องใช้ความคิดที่มากขึ้น ใช้ทักษะที่มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือ มันค่อนข้างจะเป็นการต่อสู้ที่ ‘ยาก’ เอาเรื่อง หลายครั้งที่ผู้เขียนเกือบจะพลาดพลั้งเสียที จนต้องเรียนรู้รูปแบบการโจมตีและท่วงท่าของมัน และเลือกใช้ความสามารถของสองตัวละครที่สลับผลัดเปลี่ยนในช่วงที่เหมาะสม จึงสามารถคว้าชัยชนะในการปะทะครั้งนี้ลงไปได้ ทั้งหมดนี้ ผู้เขียนเชื่อว่า คือสิ่งที่เพื่อนอยากจะบอกกล่าวตั้งแต่กาลก่อน แต่ไม่สามารถทำได้ ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยี หรือด้วยวัยที่ยังใหม่ต่อโลกกว้าง ที่วงการยังอยู่ในระยะตั้งไข่ก้าวเดินออกไปได้ไม่นานก็ตาม จุดสะดุดในเรื่องเล่า แต่ก็เช่นเดียวกับเรื่องเล่าในทุกเรื่อง การบอกเล่าของเพื่อนยังไม่ได้สมบูรณ์แบบจนถึงที่สุด ยังมีจุดที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อยที่ยังรอคอยคำตอบ ไม่ว่าจะด้วยมุมกล้องที่ใช้งานได้ไม่สะดวกมากนัก ไปจนถึงระดับความยากของการเล่นที่ค่อนข้างสวิงไม่คงที่ แต่นั่นก็เป็นเพียงความไม่สะดวกเพียงเล็กน้อย ที่ไม่ได้ขัดขวางซึ่งความสนุกที่พึงได้รับแต่ประการใด รูปแบบการบอกเล่า (การเล่น) ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เพื่อนผู้นี้กังวล อาจจะเพราะด้วยความที่เขามีคนที่รักอยู่มากมาย การเปลี่ยนแปลงสไตล์จากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนี้ อาจก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์ได้ทั้งทางบวกและทางลบ แต่ก็เป็นความกังวลที่แฝงไปด้วยความมั่นใจในน้ำเสียงอยู่ไม่น้อย ว่าจะสามารถมัดใจผู้ที่เข้ามาพูดคุยได้อย่างอยู่หมัด มันบ่งบอกชัดผ่านการนำเสนอที่ทั้งนอบน้อมต่อความทรงจำเก่าของเรา และความพยายามที่ก้าวสู่อาณาเขตของความร่วมสมัยที่สามารถสัมผัสได้แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม อีกทั้งเพื่อนผู้นี้ออกตัวกับผู้เขียนเอาไว้แต่เนิ่นๆ ด้วยว่า เขาอาจจะไม่ได้มีความพร้อมที่จะบอกเล่าทุกเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบไปถึงปลายทางดังที่เคยเป็น อาจจะเพราะมีหลายสิ่งที่ได้รับการเพิ่มเติมเข้ามา หลายอย่างที่ช่วงเวลาได้บ่งเพาะให้มีความละเมียดละไม และหลายจุดที่ไม่สามารถละสายตาไปได้ แต่นั่นไม่ใช่สาระเท่าใดในความรู้สึกของผู้เขียน มันออกจะเป็นความน่าลุ้นเสียด้วยซ้ำว่าด้วยพรรษาที่ผ่านไป เขาจะเพิ่มเติมส่วนประกอบอันใดเข้าไว้ในเรื่องราวแต่หนก่อน ให้มีเสน่ห์และรสชาติที่น่าลิ้มลองอีกครั้ง การเฝ้าคอย และนับถอยหลังสู่การพูดคุยครั้งสำคัญ ผู้เขียนและเพื่อนใช้เวลาร่วมกันในการสนทนาครั้งนี้ที่ 45 นาที เป็นเวลาที่ดูเหมือนจะนาน แต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าใจคิด อดที่จะรู้สึกเสียดายไปไม่ได้ ที่การพบปะกันหลังเวลาผ่านไปกว่าสองทศวรรษจะต้องปิดฉากลงไปก่อนเป็นการชั่วคราว เพราะมันเป็นการพบกันที่น่าอภิรมย์ แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ก็ทำให้เห็นว่า เพื่อนผู้นี้ มีดีมากกว่าที่คิด และมีดีมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่มรู้จัก แม้เวลาจะผ่านไปกว่าสองทศวรรษ และยิ่งเปล่งประกายเมื่อได้รับการขัดด้วยกาลเวลา ก่อนจากกัน เราให้สัญญานัดแนะอย่างเป็นมั่นเหมาะ ว่าจะพบกันเพื่อพูดคุยอีกครั้ง ในวันที่ 10 เมษายน ที่จะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจนี้  แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็อดใจแทบไม่ไหว ที่จะได้เปิดวงสนทนากับเพื่อนผู้นี้กันให้อย่างเต็มอิ่มชุ่มปอด สวมกอดด้วยมิตรภาพที่มีให้มาอย่างยาวนานนับแรมปี และมันคงจะเป็นสิ่งที่ทำให้ย้อนระลึกถึงความเป็นเด็กวัย 12 อีกครั้ง ในวันที่ได้พบเจอกัน เพราะช่วงเวลาที่แสนสุข และยอดเยี่ยม มันไม่เคยเกี่ยง ว่าจะกลับมาในรูปโฉมไหน หรือออกมาในรูปแบบใด แล้วคุณล่ะ มีเพื่อนแบบนี้อยู่ในความทรงจำบ้างหรือเปล่า?

สวัสดีมิตรรักแฟน Final Fantasy ทุกท่าน ตอนนี้หลายคนก็น่าจะได้สัมผัสกับ Demo ของเกม Final Fantasy VII Remake ที่รอคอยกันไปแล้ว แต่ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวเกมกันแบบเต็ม ๆ ในวันที่ 10 เมษายนนี้ เชื่อว่าหลายคนก็ยังต้องปรับตัวกับรูปแบบการเล่น ที่เปลี่ยนจากการเล่นแบบ Turn Base มาเป็นแบบ Action ในภาคนี้แทน เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเล่นเพื่อให้ทุกคนสามารถฝึกฝนและสนุกกับเกมได้มากขึ้น โดยเริ่มจากเรียนรู้วิธีการเล่น Cloud Strife พระเอกหัวโจโคโบะสุดหล่อของเรา ที่จะได้บังคับเป็นตัวหลักตลอดทั้งเกมกันครับ ว่าแล้วก็ลองไปดูวิธีการเล่นของพี่คลาวด์กันเลย! < การควบคุมพื้นฐาน > สี่เหลี่ยม - ท่าโจมตีพื้นฐาน สามเหลี่ยม - เปลี่ยนรูปแบบ Mode การโจมตี วงกลม - เปิด Command Menu กากบาท - กลิ้งหลบ R1 - ป้องกัน / เคาเตอร์ R3 - ล็อคเป้าหมาย L1 + ปุ่มอะไรก็ได้ - Command Shortcuts ท่าโจมตีที่ตั้งไว้ Touchpad - ตรวจดูสถานะของศัตรู < เทคนิคและสิ่งที่ควรรู้ในการเล่น Cloud Strife > 1. รู้จัก Style การเล่นทั้ง 2 แบบ ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ควรเรียนรู้นอกจากการรัวปุ่มโจมตีพื้นฐาน คือการรู้จักวิธีการเล่นของคลาวด์ที่มี Style ต่างกันให้เป็นซะก่อน โดยปกติแล้วคลาวด์จะอยู่ในโหมด “Operator Mode” ซึ่งในโหมดนี้ คลาวด์จะเคลื่อนไหวและโจมตีได้อย่างรวดเร็ว แต่มีพลังการโจมตีที่ค่อนข้างต่ำ สามารถป้องกันการโจมตีได้ด้วยการกดปุ่ม R1 และสามารถกระโดดโจมตีศัตรูที่บินอยู่ได้ (แต่ไม่สามารถโจมตีศัตรูประเภทป้อมปืนที่อยู่สูงกว่าได้) จาก Operator Mode เมื่อกดปุ่มสามเหลี่ยมแล้ว คลาวด์จะเปลี่ยนเป็น “Punisher Mode” ในโหมดนี้คลาวด์จะเคลื่อนไหวและโจมตีได้ช้า แต่มีพลังโจมตีที่รุนแรงหนักหน่วงเป็นวงกว้าง และช่วยเพิ่มเกจ ATB ได้เป็นอย่างดี ทว่าในโหมดนี้คลาวด์จะไม่สามารถโจมตีศัตรูที่บินอยู่ได้ หากแต่มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ท่าเคาเตอร์การโจมตี โดยเมื่อเรากดปุ่ม R1 ค้างเอาไว้ หรือเปลี่ยนโหมดในจังหวะที่ศัตรูกำลังจะโจมตีมาถึงตัว คลาวด์ก็จะโจมตีกลับไปเพื่อทำคอมโบต่อได้ในทันที ซึ่งการเคาเตอร์นี้จะใช้ได้กับท่าโจมตีทางกายภาพ ไม่สามารถใช้กับท่าที่เป็นธาตุหรือเวทมนตร์ได้ แต่หากใช้ให้ดีใช้ให้เป็น ก็จะมีประโยชน์ในการพลิกเกมกลับได้มากทีเดียว 2. วิธีการต่อท่าปิดคอมโบ จาก Style การเล่นทั้ง 2 โหมดข้างต้น ในการโจมตีนั้นคลาวด์สามารถใช้ท่า “ปิดคอมโบ” เพื่อ “ต่อคอมโบ” ได้ด้วย โดยในระหว่างที่กำลังใช้ท่าโจมตีพื้นฐาน สามารถกดปุ่มสี่เหลี่ยมค้างเอาไว้ในจังหวะสุดท้ายหรือตอนไหนก็ได้ ซึ่งหากกดใน “Operator Mode” คลาวด์จะหมุนตัวโจมตีเป็นวงกว้าง ส่วนใน  “Punisher Mode” จะเป็นท่าแทงดาบลงพื้นที่มีระยะการโจมตีสั้นแต่รุนแรง และเมื่อกดปุ่มสามเหลี่ยมหลังจากที่ใช้ท่าปิดคอมโบ คลาวด์ก็จะสามารถโจมตีเป็นคอมโบต่อด้วยอีกโหมดหนึ่งได้ทันที การทำคอมโบแบบนี้นี้ให้ได้นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากโดยเฉพาะการต่อสู้กับบอส เพราะหากสามารถทำคอมโบต่อเนื่องได้จนจบครบชุดทั้งสองโหมด ก็จะมีโอกาสทำให้ศัตรูล้มลงและเพิ่มโอกาสโจมตีต่อได้อีกมากเลย 3. โจมตีด้วยสกิลอย่างมีประสิทธิภาพ คลาวด์เป็นตัวละครที่ทำให้ศัตรูล้มลงได้ง่าย ไม่ว่าจะจากการใช้คอมโบต่อเนื่องหรือการใช้สกิลที่มี โดยในเบื้องต้นนั้นคลาวด์จะมี Abilities อยู่ 2 ท่า คือ “Braver” และ “Focused Trust” โดย Braver จะเป็นท่ากระโดดฟันที่หนักหน่วง เหมาะสำหรับการใช้เมื่อศัตรูล้มลง จะสามารถสร้างความเสียหายได้เป็นเท่าตัว ส่วน “Focused Trust” จะเป็นท่าพุ่งแทง เหมาะสำหรับการใช้เมื่อศัตรูขึ้นสถานะ “Pressured” จะทำให้เกจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้ศัตรูติดสถานะ “Staggered” ล้มลงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ “Spells” หรือเวทมนตร์ในการโจมตี ซึ่งสามารถใช้หยุดการโจมตีของศัตรูประเภทเครื่องจักร หรือใช้เป็นท่าโจมตีศัตรูที่อยู่ในระยะไกลได้ด้วย อีกทั้งท่าไม้ตาย Limit Break ก็ยังมีพลังโจมตีหลายเท่าตัวมากขึ้นในตอนที่ศัตรูอยู่ในสถานะ “Staggered” ด้วย โดยในตัวเกมเต็มนั้นคลาวด์จะมีท่าโจมตีอื่นๆ ที่สามารถปลดล็อคได้ในระหว่างการเล่นอีกมากมาย จึงทำให้สามารถผสมผสานกันเล่นได้มากขึ้นด้วย 4. การใช้ Command Shortcuts ให้คล่องแคล่ว ในขณะที่รูปแบบของเกมได้เปลี่ยนมาเป็นแบบ Action แต่ก็ยังมีการผสมผสานความเป็น RPG และใช้ Tactics ในการเล่น ด้วยการเลือกคำสั่งสกิลสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเกม Action อยู่ด้วย แต่สำหรับผู้ที่อยากเล่นแบบระดับเซียนจริงๆ ก็สามารถตั้งค่าปุ่มสกิลโจมตีได้ที่เมนู Battle Setting และฝึกการใช้ปุ่มลัดต่อเนื่องกับท่าคอมโบต่างๆ ก็จะทำให้เล่นแบบต่อเนื่อง และสนุกกับการดจมตีได้โดยไม่มีสะดุดเลย 5. เรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติม ลักษณะการเล่นของคลาวด์นั้นจะใช้ดาบในการโจมตี ซึ่งมีระยะการโจมตีอยู่ที่ระดับกลาง แต่มีความคล่องแคล่วและการเข้าถึงตัวศัตรูได้อย่างรวดเร็วมาก ซึ่งถ้าหากกด Locked On เป้าหมายไว้ด้วยปุ่ม R3 ต่อให้อยู่ในระยะที่ห่างจากศัตรูพอสมควร คลาวด์ก็จะสามารถพุ่งเข้าไปโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะใช้ท่าโจมตีด้วยดาบแล้ว ก็ยังใช้เวทมนตร์เป็นการปิดคอมโบต่อในกรณีที่ศัตรูอยู่ห่างออกไปได้ด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้วถือว่าคลาวด์เป็นตัวละครที่สามารถผสมผสานการโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลายในการทำคอมโบตามแต่ลักษณะการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนต่างกันไป เป็นอย่างไรกันบ้างกับเทคนิคการเล่นของ Cloud Strife พระเอกขวัญใจของ Final Fantasy VII หวังว่าทุกท่านจะได้เรียนรู้เข้าถึงวิธีการเล่นของคลาวด์มากขึ้น และฝึกฝนการเล่นให้คล่องแคล่วเพื่อที่จะได้สมกับฐานะ Soldier 1st Class กันจริงๆ แต่นอกจากคลาวด์แล้วก็ยังมีตัวละครอื่นๆอย่าง Barret, Tifa, Aerith ซึ่งมีความสนุกและรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันไปอีก ไว้โอกาสหน้าเราจะมาแนะนำวิธีการเล่นแบบเจาะลึกกันให้ครบทุกคนไปเลยครับ!

ถ้าให้พูดถึงเกมที่อยู่ในค่าย Square Enix แล้ว เกมแรกที่เรานึกถึงก็คงหนีไม่พ้น Final Fantasy แน่นอน เกมแนว Rpg ที่ทุกคนต่างก็รู้จักเป็นอย่างดี มีภาคหลักออกมาถึง 15 ภาค และภาคยิบย่อยออกมาอีกมากมาย และในปีนี้เกมนี้ก็มีอายุ 30 กว่าปีเข้าไปแล้ว ซึ่งแน่นอว่าการที่เกมหนึ่งจะอยู่คู่กับวงการมานานขนาดนี้นั้น นอกจากเกมสนุกเป็นที่รู้จักแล้ว มันจะต้องขายได้กำไรด้วย ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีเงินจะไปทำภาคต่อๆไป และแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงรายได้แล้ว แต่ละเกมก็สามารถทำเงินได้แตกต่างกันบางภาคก็น้อย บางภาคก็เยอะ ดังนั้นทีมงาน GameFever TH จะพามาดูว่า 5 เกมไหนในตระกูล FF นี้ที่ขายดีที่สุดกัน 5. Final Fantasy VIII (9,600,000 ชุด) เริ่มต้นอันดับด้วย เกม FF ภาค 8 โดยเกมนี้เป็นเกมที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation, PlayStation Network, iOS & Android สำหรับความเจ๋งของภาคนี้ก็คือ ภาคนี้เป็นภาคแรกที่ใช้ธีมเป็นโรงเรียน ระบบกราฟิกในยุคนั้นที่จัดว่าสวยงาม ระหว่างการเดินเรื่องจะได้เห็นฉากคัทซีนที่สวยหรู ชนิดที่ว่าไม่มีเกมไหนในยุคนั้นมีฉาก CG ดีเท่า FF8 แล้ว ส่วนในด้านเกมเพลย์ ตอนนั้นมีสิ่งหนึ่งที่แปลกมากในเกมแนวเดียวกันคือ เกมนี้ไม่มีหีบสมบัติ! ทั้งดันเจี้ยน ทั้งในเมือง แต่ชดเชยด้วยจุดดรอว์คาถาแทน ซึ่ง (Draw) คือการสูบพลังเวทมนตร์มาจากศัตรู หรือตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ภาคนี้ตัวละครจะไม่มีค่า MP เลย นอกจากนั้นก็มีระบบ Junction คือระบบมนต์อสูรในภาค 6 ที่มาปรับปรุงใหม่ให้ดีกว่าเดิมนั่นเอง นอกจากนั้นเมื่อไม่นานมานี้เกมนี้ได้ออกภาค Remastered ที่ลงให้กับ PC, PlayStation 4, Nintendo Switch และ Xbox One 4. Final Fantasy VI (10,177,600 ชุด) สำหรับFF 6 นั้นได้ลงให้กับเครื่อง Super, Famicom, PS1, GBA, iOS & Android สำหรับเกมเพลย์นั้นเกมนี้มีระบบต่อสู้แบบ ATB (Active Time Battle) หมายถึง ตัวละครแต่ละตัวทั้งฝ่ายเราและศัตรูจะมีความเร็วไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความเร็วแต่ละคน มีผลในการใส่คำสั่งเพื่อออกท่าด้วย ดังนั้น หากเราคิดช้า ศัตรูก็จะโจมตีเราก่อน อีกทั้งไม่มีออโต้ ทำให้เราต้องเล่นตลอดเวลา นอกจากนั้น ในฉากดันเจี้ยนมักจะมีการแก้ปริศนาตลอด อีกระบบที่โดดเด่นคือ ระบบมนต์อสูร เป็นการติดตั้งหินที่ตัวละครเพื่อให้ใช้เวทย์มนต์ ถือว่าเป็นความสนุกสุดๆเลยในยุตนั้น ส่วนในด้านกราฟิก ถึงแม้ว่าฉากโดยทั่วไปจะเป็นฉาก 2 มิติแบนๆ แต่ก็มีสีสันที่สดใส รายละเอียดชัดเจนสวยงาม เรียกว่าสวยสุดแล้วในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นฉากในบ้าน ดันเจี้ยน หอคอย ปราสาทฯ อีกสิ่งหนึ่งที่น่าจดจำของเกมนี้คือ เป็นภาคที่มีตัวละครหลักเยอะมากและอาจจะเยอะที่สุดแล้วในซีรีส์นี้ 3. Final Fantasy X (10,571,400 ชุด) สำหรับอันดับที่ 3 เป็นของภาค 10 ที่ลงให้กับเครื่อง PS2 โดยเกมภาคนี้เกมเพลย์จะเป็นตัวเกมใช้ระบบ CTB (Conditional Time-Based) ที่มีความคล้ายระบบ ATB ของภาคเก่าๆ แต่แตกต่างกันตรงที่ CTB นั้นเป็นระบบการเล่นที่ช้ากว่า แต่เอื้อต่อการใช้ความคิดในการทำสิ่งต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้มากกว่า นอกจากนั้นยังมีระบบ Sphere Grid เปรียบเสมือนการ Upgrade Skill Status ให้ตัวละครนั้นๆ โดยที่จะมีแนวทางในการอำเกรดที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละตัว และความต้องการของผู้เล่นเอง และในด้านกราฟิกภาคนี้ยังถือว่าเป็นภาคแรกที่ตัวเกมอยู่ในรูปแบบ 3 มิติเต็มขั้น นอกจากนั้น 2 ปีต่อมาตัวเกม ได้ออกภาคเสริมในชื่อ Final Fantasy X-2 ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกในซีรีส์ชุดนี้ที่ทำภาคเสริมออกมา และทั้ง 2 เกมนี้ได้กลับมา Remaster อีกครั้งในปี 2013 2. Final Fantasy VII (13,108,000 ชุด) อันดับที่ 2 เป็นภาค 7 โดยเกมนี้ลงให้กับเครื่องPS1, PC, ios, PS4 ในส่วนของเนื้อเรื่องของเกมจะกล่าวถึงเนื้อเรื่องของเกมเป็นเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยของกลุ่มๆหนึ่ง ทำการต่อสู้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีชื่อว่า Shinra Electric Power Company โดยบริษัทนี้ได้ทำการดูดพลังชีวิตของโลกเพื่อเอาไปแปรรูปเป็นแหล่งพลังงาน ในส่วนของเกมเพลย์ใช้ระบบ ATB ดังเช่นภาคก่อนๆ ระบบสกิลหรือความสามารถจะถูกกำหนดด้วยลูกแก้วเวทมนตร์ หรือMateria ส่วนในด้านกราฟิกต้องยอมรับว่าในสมัย PS1 นั้นอาจยังไม่สวยงามเท่าที่ควร แต่พอมาเวอร์ชันหลังๆที่ลงให้กับเครื่องอื่นๆก็พัฒนาให้สวยงามมากยิ่งขึ้น และเมื่อเห็นเวอร์ชัน Remake ที่ปล่อยDemo ออกมาให้ลองเล่นนั้นระดับกราฟิกเข้าขั้นไร้ที่ติเลยก็ว่าได้ ถือว่าเป็นหนึ่งเกมที่ตัวเต็มในเวอร์ชันรีเมกออกมาเมื่อไรคงจะได้เห็นกราฟิกสวยๆแบบเต็มที่แน่นอน 1. Final Fantasy XIV (14,000,000 User) สำหรับภาคที่ขายดีที่สุดในซีรีส์นี้ทุกคนคงเดากันได้ เป็นของภาค 14 นั่นเอง เป็น 1 ใน 2 เกมซีรีส์นี้ที่ทำออนไลน์ โดยในตอนแรกเกมนี้มีปัญหาหลายอย่างจนปลายปี 2553ได้มีการเปลี่ยนทีมพัฒนา และในเดือนตุลาคมปี 2554 Square Enix ได้ประกาศว่าตัวเกมนี้คือเวอร์ชัน 1 และทำการประกาศตัวเกมภาคใหม่ที่กำลังพัฒนาในชื่อภาค A Realm Reborn ให้เป็นเวอร์ชัน 2.0และช่วงท้ายของการให้บริการเกมในเวอร์ชัน 1 ได้จัดเหตุการณ์ในเกมให้เสมือนคล้ายวันวิปโยค เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อเรื่องในส่วนของ A Realm Reborn และตัดการเชื่อมต่อผู้เล่นออกจากเกมรวมถึงยุติการให้บริการ ซึ่งหลังจากยุติไป การกลับมาเปิดให้บริการก็ดีขึ้นแก้ปัญหาเดิมๆได้อย่างเกือบหมดจนกระทั่งออกภาคเสริมต่างๆมามากมาย และนี่คือ 5 เกมที่ขายดีที่สุดในตระกูลนี้นี่เอง มีใครเคยเล่นภาคไหนใน 5 ภาคนี้แล้วบ้างลองคอมเมนต์มาได้ ส่วนภาค 7 เวอร์ชั่นremake เต็ม นั้นจะยืนยันแล้วว่าจะออกมาภายในเมษายนนี้ ใครที่รออยู่คงอดใจรออีกไม่นาน และแน่นอนว่าอันดับในตอนนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นได้

ใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ กับวันวางจำหน่ายของเกม Final Fantasy VII Remake โดยอย่างน้อยตอนนี้ตัวเกมก็อยู่ในสถานะ Gone Gold แล้ว หรือก็คือจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีก ซึ่งหลังจากที่มีข่าวว่าตัวเกมได้พัฒนาเสร็จแล้ว Game Reactor ก็ได้ทำการติดต่อไปหาคุณ Yoshinori Kitase ผู้เป็น Producer ของเกมเพื่อขอสัมภาษณ์ทันที และก็มีเรื่องน่าสนใจในการสัมภาษณ์ดังกล่าวด้วยครับ เพราะคุณ Yishiniro ได้พูดออกมาว่า เขาอยากเห็น Final Fantasy V ถูกทำเป็นภาค Remake ในสักวัน! Game Reactor ได้ถามคุณ Yoshinori ว่า "หลังจากนี้อยากจะทำ Final Fantasy Remake ภาคไหนต่อ?" ซึ่งเขาก็ได้ตอบมาว่า "ก่อนอื่นอยากให้สัญญาว่าจะไม่เขียนข่าวว่านี้เป็นการตัดสินใจของ Square Enix แต่ให้เขียนว่านี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเขาเท่านั้น ผมอยากเห็น Final Fantasy ภาคแรกที่ผมได้มีส่วนร่วมในการสร้างขึ้นมา ถูกเอาไปทำเป็นภาค Remake ซึ่งสำหรับผมคิดว่าคงดีไม่น้อยเลยถ้าหากได้ทำภาค Remake ของเกม Final Fantasy V" Final Fantasy V นั้นวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1992 บนเครื่อง Super Famicom ซึ่งในตอนนั้นคุณ Yoshinori Kitase ยังเป็นเพียงแค่ Writer ให้กับเกมเท่านั้น ส่วนว่าเราจะได้เห็นภาค Remake ของเกมนี้รึเปล่า ก็คงต้องรอดูกันต่อไปครับ Credit: NintendoLife ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ หรือก็คืออีก 1 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งจากข่าวก่อนหน้านี้มันทำให้เราได้รู้ว่าเนื้อเรื่องของ FF7 Remake นั้นจะเป็นเนื้อเรื่องแค่ภายใน Midgar เท่านั้น โดยถ้าพูดจริง ๆ เนื้อเรื่องใน Midgar นั้นมันมันใช้เวลาเล่นเพียงแค่ 1-3 ชั่วโมงในตัวเกม Original เท่านั้น ทำให้เกิดคำถามว่า "เกมนี้จะมี Side Quest ให้ทำมากมายเลยรึเปล่า?" วันนี้คำถามนั้นก็ได้รับคำตอบแล้วครับ! เว็บไซต์ IGN ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์กับคุณ Tetsuya Nomura ที่เป็น Director ของเกมโดยเขาได้บอกว่า "Sub-Quests ของเกม FF7 Remake จะมีคุณภาพเทียบเท่า Main Quest ของเกมเลย จริง ๆ แล้วพวกเรามีไอเดียมากมายที่อยากเอามาทำเป็นคอนเทนต์ในเกม แต่มันไม่สามารถเอามาใส่ทั้งหมดได้ เพราะยังไงก็ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของงานด้วย" ทาง IGN จึงถามคุณ Nomura ว่า "แปลว่า Side Quest ของเกมจะมีคุณภาพดีมาก ๆ เลยใช้รึเปล่า" คุณ Nomura ก็ตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า "ใช้" อย่างที่รู้กันว่า FF7 นั้นเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องยาวมาก ๆ และก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมาว่า FF7 Remake นั้นจะมีเนื้อเรื่องที่ไม่มีในตัวเกม Original ด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเนื้อเรื่องนั้นถูกเพิ่มมาเยอะขนาดไหน ถึงทำให้เนื้อเรื่องใน Midgar อย่างเดียวกลายเป็นเกมเต็ม ๆ ได้ถึง 1 เกม คงต้องไปรอดูตอนเกมออกแล้วหละครับ Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกประมาณ 1 เดือนพวกเราทุกคนก็จะได้สัมผัสกับเกม Final Fantasy 7 Remake สุดยอดเกม RPG ระดับตำนานที่กลับมาให้เล่นอีกครั้งบนเครื่อง PS4 พร้อมภาพกราฟิกที่สวยงามกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และตอนนี้ตัวเกมก็พัฒนาเสร็จ แถมปล่อยตัว Demo ของเกมให้ทดลองเล่นได้ฟรีบน PS Store แล้วด้วย แต่ถ้าหากใครที่ยังไม่มีเครื่อง PS4 หรือยังไม่มีโอกาสสัมผัสกับเกมนี้เลย วันนี้ก็มีวิดีโอใหม่ถูกปล่อยออกมาถึง 4 ตัว ที่จะทำให้รู้ว่าเกมเพลย์จริง ๆ ของเกมนี้จะเป็นยังไงครับ ในวิดีโอตัวแรกจะเป็นเกมเพลย์ของ Cloud กับ Barret ซึ่งเท่าที่ดู เหมือนว่า Barret จะไม่มีท่าโจมตีระยะประชิดครับ ต่อมาในวิดีโอที่สองจะเป็นการโชว์ภายในเมือง Midgar ที่เหมือนจะโดนทำลายจากอะไรบางอย่าง ส่วนวิดีโอที่สามจะเป็นเกมเพลย์ฉากที่เหมือนโรงงานผลิตหุ่นยนต์ โดยในวิดีโอตัวนี้จะมีเกมเพลย์ของ Tifa ให้ชมด้วย ปิดท้ายด้วยวิดีโอที่เหมือนจะเป็นการสู้กับบอส ในวิดีโอตัวนี้จะได้เห็นเกมเพลย์ของ Aerith และการเรียกใช้มนต์อสูร Ifrit ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~

Final Fantasy 7 เกม RPG ระดับตำนานกลับมาอีกครั้งบนเครื่อง PS4 ในชื่อ Final Fantasy 7 Remake ซึ่งผู้พัฒนาก็ได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเป็นแบบ Action RPG ด้วย ล่าสุดก็เพิ่งจะมีการปล่อย Demo ของตัวเกมออกมาให้เล่นเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2020 และล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าตัวเกม Final Fantasy 7 Remake นั้นได้อยู่ในสถานะ Gone Gold หรือพัฒนาเสร็จเตรียมพร้อมผลิตแล้วนั้นเอง! ข่าวนี้ได้รับการยืนยันจาก Director คุณ Tetsuya Nomura ที่ได้ออกมายืนยันผ่านทางบทสัมภาษณ์ที่เปิดเผยผ่านทาง 4Gamer ว่า "ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake พัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมออกไปอีก" แปลว่าในอีก 1 เดือน เราจะได้สัมผัสเกมนี้แบบ เต็มอิ่มอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เป็นหนึ่งในเกมที่เกมเมอร์แทบทุกคนอยากจะเข้าไปสัมผัสอย่างแน่นอน และในช่วงที่เกมใกล้จะวางจำหน่ายแล้วแบบนี้ ก็ดูเหมือนว่าจะมีการปล่อย Demo ของตัวเกมให้โหลดมาทดลองเล่นแล้วตอนนี้ครับ แถมตัว Demo ที่ว่านี้ก็ไม่ใช้เวอร์ชั่นที่มีแค่ภาษาญี่ปุ่น แต่เป็นเวอร์ชั่นทีมีภาษาอังกฤษในเกมด้วย งานนี้กลับบ้านไปอย่าลืมไปกดโหลดกันด้วยครับ! เว็บไซต์ Play Station Store ได้ทำการเปิดหน้า Final Fantasy 7 Remake Demo (English/Japanese Ver.) แล้วในวันที่ 2 มีนาคม 2020 ซึ่งในตัว Demo ที่ปล่อยให้เล่นนี้ดูเหมือนจะมีความยาวของเนื้อเรื่องถึง 1 Chapter เลยด้วย และถ้าหากได้ทำการดาวโหลดเกมเวอร์ชั่น Demo ในวันนี้ หลังจากวันที่ 10 เมษายน 2020 จะสามารถดาวโหลด Exclusive Theme สำหรับเครื่อง PS4 ได้ด้วย งานนี้แฟนพันธุ์แท้ห้ามพลาดโดยเด็ดขาดครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า Final Fantasy 7 Remake กลายเป็นหนึ่งในเกมที่เกมเมอร์ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ และรอที่จะได้สัมผัสจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นวิดีโอเกมเพลย์ของภาคนี้ไปแล้วมากมาย แน่นอนว่าหนึ่งในระบบที่แฟน ๆ ชอบมากของเกมในซีรีส์นี้ก็คือระบบ "มนต์อสูร" วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ปล่อยวิดีโอโชว์การเรียกใช้ 3 มนต์อสูรสุดน่ารัก Chocobo Chick, Carbuncle และ Cactuar ออกมาด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! วิดีโอการเรียกใช้มนต์อสูรแต่ละตัวถูกปล่อยออกมาแบบแยกกัน ซึ่ง Chocobo Chick นั้นจะใช้ท่าโจมตีเป็นการร่ายเวทมนต์ธาตุต่าง ๆ , ส่วน Carbuncle จะเป็นมนต์อสูรสายซับ ใช้สกิลบัฟต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถเล่นได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ Cactuar จะโจมตีด้วยการยิงเข็มใส่ศัตรู และมีท่าไม้ต้ายสุดยอดเป็นการสลัดเข็มวงกว้าง มนต์อสูรทั้ง 3 ตัว จะแถมมากับตัวเกมสำหรับคนที่ Pre-Order ทุกคน ถ้าหากใครอยากได้มนต์อสูรสุดน่ารักทั้ง 3 ตัว ก็อย่าลืม Pre-Order กันด้วยนะครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1230069657324879872?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1230069657324879872&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-chocobo-chick-carbuncle-and-cactuar-revealed-in-new-gameplay-clips https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1230069823918497792?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1230069823918497792&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remake-chocobo-chick-carbuncle-and-cactuar-revealed-in-new-gameplay-clips Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ในขณะที่เกมเมอร์ทั่วโลก กำลังตื่นเต้นกับการมาของ Final Fantasy 7 Remake กันเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าหนึ่งในภาค Spin-Off ของเกมอย่าง Dissidia Final Fantasy NT จะไปได้ไม่สวยเท่าที่ควรครับ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาแล้วว่า ตัวเกมจะได้รับการอัปเดตครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 มีนาคม 2020 นี้ ที่สำคัญคือดูเหมือนว่าทาง Square-Enix ก็ยังไม่ได้มีแผนที่จะพัฒนาตัวเกมภาคต่อตอนนี้ด้วยครับ! Producer ของเกมคุณ Ichiro Hazama ได้ประกาศว่า "ตัวเกมจะหยุดได้รับการ Support เร็ว ๆ นี้ โดยทางฝั่ง Arcade จะมีการอัปเดตครั้งสุดท้าย 20 กุมภาพันธ์นี้ ในขณะที่เครื่อง PS4 และ PC จะได้อัปเดตครั้งสุดท้ายในวันที่ 5 มีนาคม ในส่วนของ Online support จะยังให้บริการต่อไปอีกสักพัก แต่ก็จะหยุดให้บริการในสักวันเช่นกัน" นอกจากนี้ Director คุณ Takeo Kujiraoka ยังกล่าวด้วยว่า "ตอนนี้เรายังไม่มีแผนจะพัฒนาภาคต่อของเกมนี้ในตอนนี้" ก็ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับแฟน ๆ ซีรีส์นี้ไปครับ Dissidia Final Fantasy NT วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4 และ PC Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คงเป็นอีกหนึ่งเกมที่หลาย ๆ คนรอคอยกันอยู่ในตอนนี้ ซึ่งก็เหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนแล้ว ก่อนที่ตัวเกมจะวางจำหน่าย ในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้ก็ได้รับการอัพเกรดกราฟิกให้สวยขึ้นเป็นอย่างมาก จนทำเอาหลาย ๆ คนสงสัยว่า "แล้วตัวเกมมันจะใช่พื้นที่เท่าไหร่ในเครื่อง?" วันนี้ก็มีการเปิดเผยแล้วว่าตัวเกมจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 GB บนเครื่อง PS4 ครับ! เว็บไซต์ Pushsquare ได้รายงานว่า บริเวณปกด้านหลังของกล่องเกมเวอร์ชั่นเกาหลี มีข้อความที่เขียนว่าตัวเกมจะใช้พื้นที่ประมาณ 100 GB ซึ่ง Pushsquare ไม่ได้บอกว่า 100 GB ในที่นี้ รวมตัวติดตั้งเข้าไปด้วยรึเปล่า แต่คิดว่าน่าจะไม่ได้รวมครับ เพราะจาก Opening ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้เรารู้ว่าตัวเกมจะมี Cinematic ที่สวยมาก ๆ ผู้เขียนจึงคิดว่าไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรที่ตัวเกมจะมีขนาดถึง 100 GB ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ Credit : Pushsquare ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ถ้าพูดถึงเกม Final Fantasy เกมดังจากค่ายเกมอย่าง Square Enix ที่มีออกมาหลายต่อหลายภาคแล้ว มักมีอะไรหลายอย่างให้น่าจดจำเสมอ ไม่ว่าจะทั้งตัวละคร อาวุธต่างๆ มอนสเตอร์ในเกม และก็บอสในภาคต่างๆ สำหรับบอสในเกมนี้มีเยอะมาก ด้วยความที่ตัวเกมมีภาคออกมา แค่นับเฉพาะภาคหลักก็ปาเข้าไป 15 ภาคแล้ว ไหนยังมีแบบภาคเสริม รีเมก หรือไม่ก็ Tactic อีก เรียกได้ว่ากว่าจะนับภาคครบนี่เสียเวลาพักนึงอะ (ไปไกลและ) กลับมาที่บอส แน่นอนว่าบอสแต่ละตัวในเกมนี้ก็มีความยากง่ายแตกต่างกันไป วันนี้ GameFever TH เลยจะมาจัดอันดับความยากของพวกเขา(หรือมัน) มาดูกันว่าตัวไหนจะโหดสุดในอันดับนี้ Titan  (Final Fantasy 15) ก็ยังอยู่ในภาค 15 กับ Titan ซึ่งเป็นบอสที่เราเจอได้ตอนไปที่ The meteor โดยความยากของมันก็คือ ด้วยความที่ตัวของมันใหญ่มาก ทำให้มีพลังโจมตีค่อนข้างแรง นอกจากจะต้องรับมือกับเจ้าตัวนี้แล้ว ยังจะเจอกับพวกศัตรูที่อยู่ข้างล่างที่คอยตอดเลือดเรา นอกจากนั้นเมื่อเริ่มการต่อสู้กับ Titan เราก็ต้องคอยรับและหลบการโจมตีของมัน ไปเรื่อยๆจนกว่า จะถึงฉากที่ตัดแขนมันได้ เรียกได้ว่าเลือดตาแทบกระเด็นเลยทีเดียว Adamantoise  (Final Fantasy 15) มาที่ 1 ในบอสเก่าแก่ของแฟรนไชส์นี้อย่าง Adamantoise เพราะมันปรากฏตัวครั้งแรกใน ภาค 2 แต่ไม่มีภาคไหนที่ยิ่งใหญ่และน่าจดจำเท่ากับภาค 15 เพราะมันมีร่างกายที่ใหญ่มาก เรียกว่าเหมือนภูเขาเดินได้เลยทีเดียว โดยความยากของมันก็คือนอกจากจะมีตัวที่มหึมาแล้วยังเป็นตัวที่มีเลือดที่เยอะมากๆ(5mกว่า) ดังนั้นมันจึงต้องใช้ความออดทนในการปราบค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าบอสตัวนี้อาจจะไม่ค่อยเด่นมากนักในเรื่องของพลังในการทำลายก็ตาม แต่ถ้าเป็นผู้เล่นที่ไม่ค่อยจะมีของมากนักก็อาจจะเสียเวลาไปถึงครึ่งชั่วโมงเป็นอย่างน้อยเลยก็ได้ และความพิเศษของบอสตัวนี้อีกอย่างก็คือ เมื่อปราบมันลงได้ จะมีอีเวนท์ปาร์ตี้เล็กๆเกิดขึ้นในร้านอาหารอีกด้วย The Dark Bahamut (Final Fantasy 10) สำหรับบอสโหดตัวแรกเราขอยกให้กับ มังกรBahamut จากภาค 10 เพราะเจ้าตัวนี้นอกจากจะมีพลังโจมตีและคริติคอลที่แรงแล้ว ยังมีสกิล Impluse ที่จะสโลว์เราตลอด แล้วยังมีสกิลสุดโกงอย่าง Mega Flare ทำให้ตายหมู่ภายในครั้งเดียว ถึงแม้ว่าวิธีแก้คือใช้สกิลหรือยาประเภทAultolife นอกจากนั้นอาจจะอัญเชิญอสูรมารับสกิลแทนเราก็ได้ แต่ถ้าเป็นคนที่เจอตัวนี้ครั้งแรกแล้วไม่รู้อะไรเลยละก็เรียกว่าอาจจะมีเหนื่อ Kefka  (Final Fantasy 6) ตัวต่อมาเป็นบอสจาก ภาค 6 อย่าง Kefka ตัวตลกที่น่าจดจำที่สุดในยุคแรกๆของซีรีส์ และถ้าพูดถึงความอลังการงานสร้างในยุคเครื่องเกมเก่าแล้วละก็คงไม่มีใครไม่นึกถึงตัวนี้อย่างแน่นอน สำหรับความยากของKefka อย่างแรกคือต้องสู้กับหอคอยเทพซึ่งมี 3 ชั้น แต่ละชั้นก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป และเมื่อเราใช้ความพยายาม(และยา)ชนะทั้ง 3 ชั้นได้แล้วก็จะมาเจอกับ Kefkaร่างเทพ โดยเมื่อเริ่มการต่อสู้มันจะทำให้เลือดของเราลดเหลือ 1 นอกจากนั้นมันยังมีสกิล Havoc Wing และUltima ที่แรงมากๆ เรียกได้ว่าต้องวางแผนอย่างดี(และยาอย่างเยอะ) ถึงจะล้มมันได้ เพราะเราต้องบริหารยาในการต่อสู้กับทั้ง 4 ชุด และต้องไม่ให้พลาดท่าตายเลยไม่งั้นก็อาจจะเกมโอเวอร์ได้ Penance  (Final Fantasy 10) มาถึงบอสสุดโหดในภาค 10 เวอร์ชันอินเตอร์ อย่าง Penance โดยเจ้าตัวนี้จะออกมาเมื่อ เรากำจัด Dark Aeon หมดทุกตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยความโหดของมันก็คือมันมีเลือดแบบเยอะสุดๆ (12 m) นอกจากนั้นยังตีแรง มีความต้านทานเวทที่สูงมาก และมีสกิลสุดโหดอย่าง Judgement Day ที่เรียกว่าโดนทีมีตายหมู่หรือถ้ารอดมานาก็ไม่เหลือ เรียกได้ว่าต้องอัพเกรดทุกอย่างเต็มก็ยังยากอยู่ดี ถึงแม้ว่ามันจะมีทริกในการจะล้มมันแบบนัดเดียวจอดก็เถอะ Emerald Weapon  (Final Fantasy 7) 1 ในบอสสุดโหดของ ภาค 7 โดยเจ้านี่อาศัยอยู่ในตำน้ำ สำหรับความยากของมันคือ พลังโจมตีที่มีความแรงมาก และมีสกิลหลากหลายที่มีความแรงและลูกเล่นแตกต่างกันไป โดยสกิลเด่นๆของมันก็มีแสงเลเซอร์ที่จะโจมตีเราหรือไม่ก็ทำให้เราเสียมานาแทน นอกจากนั้นยังมีท่า Aire Tam Storm เป็นการแยกท่อนบนของมันออกแล้วเอามาโจมตีใส่เรา โดยจะมีพลังโจมตี = จำนวน Materia ที่ตัวละครนั้นติดอยู่ x1111 นอกจากนั้นยังมีท่าสวนกลับแบบเป็นการเอาตัวมาทับอีก เรียกได้ว่ากว่าจะปราบได้ถ้าไม่ศึกษาข้อมูลมาดีๆอาจจะต้องสู้หลายรอบหน่อย นอกจากนั้นด้วยความที่สู้ใต้น้ำ ทำให้มีเวลาสู้แค่ 20นาที หรือไม่ก็ต้องใส่ Underwater Materia ไว้แทนถึงจะไม่จับเวลา   และนี่คือ 7 อันดับที่จัดว่าโหดที่สุด อาจจะไม่ตรงใจใครหลายๆคนก็ต้องขออภัยด้วยครับ ส่วนใครที่คิดว่าบอสตัวไหนโหดกว่าที่จัดไว้ก็ลองคอมเมนต์กันได้ สำหรับเกมนี้ยังไงบอสอีกเยอะมาก และในภาคต่อๆไปก็คงไม่ต่างกัน และแต่ละภาคอาจจะเพิ่มบอสที่น่าสนใจเข้ามาอีกอย่างแน่นอน ยังไงก็คงต้องรอดูกันต่อไป ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับเกมที่หลายคนรอคอยอย่าง Final Fantasy 7 Remake จากค่ายเหลี่ยม Square Enix ที่มีกำหนดจะวางจำหน่ายในเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือนข้างหน้านี้แล้ว ล่าสุด ทางผู้พัฒนาเกมก็ได้ปล่อยวีดีโอเปิด หรือ Opening Movie ของเกมออกมาให้ได้ชมกันแล้ว โดยแม้ว่าจะไม่ได้มีเกมเพลย์หรือรายละเอียดใหม่ๆ เท่าไหร่นัก เพราะฉากหลายฉากในวีดีโอ ได้เคยถูกใช้ไปแล้ว ในตัวอย่างเกมหลายๆ ตัวที่ผ่านมา แต่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นจะได้เห็นฉากเปิดนี้แบบเต็มๆ สำหรับช่วงต้นๆ ของวีดีโอ จะแสดงให้เราเห็นถึงส่วนต่างๆ ของดินแดน Midgar อันเป็นที่ตั้งของเกม รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้นด้วย ในขณะที่ครึ่งหลังของคลิป แทบจะเป็นการนำฉากเปิดเกมฉบับดั้งเดิมมาทำใหม่ทั้งหมด โดยยังคงเน้นไปที่ตัวละคร Aerith เหมือนเดิม และก็จบที่ฉาก Cloud เดินทางมาถึงสถานีรถไฟ ซึ่งคนที่เคยเล่นภาคดั้งเดิมมา (หรือเคยได้เล่นเดโมเกม) น่าจะทราบดีว่าคือฉากแรกสุดของเกมนั่นเอง สำหรับแฟนๆ ที่อดใจรอให้ถึงวันวางจำหน่ายเกมวันที่ 10 เมษายนนี้ไม่ไหว ทางผู้พัฒนา Square Enix ได้เคยออกมายืนยันแล้วว่าเกม Final Fantasy 7 Remake จะมีเดโมให้ชาว PS4 ลองโหลดมาเล่นกันก่อนแน่นอน แต่จะมาเมื่อไหร่นั้น คงต้องรอประกาศอีกทีจ้า ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ถ้าพูดถึงเกม Final Fantasy แล้ว ไม่ว่าคนที่เป็นเกมเมอร์ รุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ก็คงรู้จักกันดีแน่นอน โดยเป็นเกม RPGสุดโด่งดังแห่งค่าย Square Enix ที่ทำมากี่ภาคต่อกี่ภาค หรือไม่ว่าจะพอร์ตลงเครื่องไหนก็ได้รับความนิยมเสมอ โดยจุดเด่นของเกมนี้คือ เป็นเกมที่ให้เราได้สวมบทบาทเป็นตัวละครหลัก แล้วผจญภัยไปตามเนื้อเรื่องของเกม โดยภาคแรกๆอาจจะเป็นกึ่ง Open World แต่ภาคหลังๆนี่คือ Open World เต็มตัวเลยทีเดียว โดยสิ่งที่น่าจดจำในเกมนี้มีมากมายหลายอย่าง ทั้งตัวละคร สกิล ตัวร้าย และอาวุธ ดังนั้นเพื่อเป็นการต้อนรับการรีเมคของภาค 7 (ที่เลื่อนไปแล้ว) เราจะให้เพื่อนๆมาย้อนดูกันว่าอาวุธอันไหนที่เทพ(และโกง)กันบ้าง Zodiac Spear (FF 12) เริ่มต้นด้วยอาวุธของภาค 12 โดยอาวุธนี้ เป็นอาวุธสายหอกที่อาจแรงสุดแล้วก็ได้ ด้วยอาวุธที่มีการบวกสเตตัสและมีพลังโจมตีที่สูง มากที่แค่นี้ก็โกงแล้ว ยังมีการเพิ่มความเร็วโจมตีอีกด้วย และที่สำคัญอาวุธนี้ยังมีสิทธิ์20%จะทำให้ศัตรูติด Disable ซึ่งมีความสามารถคือทำให้ศัตรูหยุดนิ่งทำอะไรไม่ได้อีกด้วย Lightbringer (FF 6) สำหรับอาวุธต่อมาเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ Lightbringer สำหรับอาวุธชิ้นนี้มีหลายภาค แต่ถ้าจะยกภาคที่เทพที่สุดก็คงเป็นภาค 6 โดยดาบเล่มนี้มีความสามารถการสุ่มร่ายเวทแสงที่ชื่อ Holyได้ นอกจากนั้นสิ่งที่พิเศษอีกอย่างที่มีในภาค 6ก็คือ อาวุธสามารถติดคริติคอลแบบตลอดแลกกับการเสียมานา 20 ทุกเทิร์นซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มมากเรียกได้ว่าฟันทีนึงอาจฆ่ามอนสเตอร์ได้สบายๆเลย Ragnarok (FF 4) กลับมาที่ดาบอีก 1 เล่ม กับ Ragnarok ที่ออกมาหลายภาคมาก แต่ถ้าจะให้เลือกสักภาคที่โหดที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น ภาค 4 โดยอาวุธชิ้นนี้ จะพบได้ในเวอร์ชัน Complete Collection และ Advance เท่านั้น โดยมันเป็นดาบที่ดีที่สุดของตัวเอกในภาคนี้อย่าง Cecil เป็นดาบที่ได้มาจากการสู้กับบอสมังกรที่ชื่อว่า Dark Bahamut โดยเจ้าเล่มนี้มีความสามารถ เหมือน Lightbringer ของภาค 4 และตัวดาบเป็นธาตุ Holy มีพลังโจมตี 200 และถึงแม้ว่าจะเป็นดาบเล็กก็ไม่สามารถถือข้างเดียวได้ อีกทั้งนอกจากCecil แล้วไม่มีใครใส่ดาบนี้ได้เลย Ame no Murakumo (FF Series) 1 ดาบคาตานะที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นท็อปคลาสเทียบเท่ากับ Muramasa และดาบ Masamune โดยดาบนี้มีมาตั้งแต่ภาค 3 ของ Ds เรื่อยมาจนถึงภาค 14 อาจมีบางภาคที่ไม่ได้ออกมาบ้าง แต่เมื่อภาคไหนที่มีดาบเล่มนี้ แทบจะการันตีได้เลยว่านี่คืออาวุธสุดโหดที่เวลสูงเท่านั้นถึงจะใส่ได้ โดยมันเป็นดาบที่โดดเด่นทั้งเรื่องของพลังทำลาย บางภาคยังก็เป็นดาบที่เปอร์เซ็นคริติคอลสูง หรือบางภาคก็เป็นดาบต้านเวทย์ แต่ไม่ว่าจะออกมากี่ภาคต่อกี่ภาค ดาบนี้ก็ถือว่าเป็นดาบคาตานะที่ดีที่สุดอยู่ดี Lion Heart (FF 8)         มาถึง 1 ในอาวุธที่เท่ที่สุดของซีรีส์นี้เลยก็ว่าได้อย่าง Lion Heart โดยเป็นอาวุธประเภท Gunblade (ปืนที่มีปลายแหลมเป็นมีด) โดยมันโผล่ครั้งแรก ในภาค 8 และหลังจากภาค 10อาวุธชิ้นนี้ก็ออกมาทุกภาค โดยมันเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในสายนี้ ตัวปืนมีความสามารถให้ตัวเอกหน้าตาสุดหล่อเหลาในภาค 8 อย่าง Squall Leonhart ใช้ท่าพิเศษได้ โดยท่านั้นก็เป็นชื่อเดียวกับ อาวุธนั่นเอง โดยจะเป็นการโจมตีทั้งหมด 7 ครั้ง และทำให้การโจมตีติดคริติคอลดาเมจทุกครั้ง อีกทั้งมีโอกาส 25%ที่ทำให้ศัตรูตายได้เลย ถือว่เป็นท่าที่โหดมากในภาค 8 เลยทีเดียว Clouds Ultima Weapon (FF 7)         สำหรับอาวุธชิ้นนี้คืออาวุธสายดาบใหญ่ที่ทรงพลังที่สุดของตัวเอกในภาค 7 อย่าง Cloud Strife ซึ่งดาบนี้จะได้จากการต่อสู้กับ 1 ในบอสของเกม สำหรับความสามารถของอาวุธชิ้นนี้ นอกจากจะมีพลังโจมตีที่สูงและการเพิ่มสเตตัสที่ดีมากๆแล้ว ยังมีความสามารถคือยิ่งคลาวมีหลอดเลือดมากเท่าไรก็จะยิ่งตีแรงเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นอาวุธที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายๆคนที่โตมากับเกมนี้เลยก็ว่าได้ Excalibur II (FF 9) ดาบ Excalibur II เป็นประเภทดาบอัศวินที่สามารถใส่ได้แค่ Steiner ตัวละครจากภาค 9 เท่านั้น และยังเป็นดาบที่มีพลังโจมตีสูงที่สุดในภาคนี้อีกด้วย สำหรับความสามารถของมันก็คือเมื่อสวมใส่แล้วจะได้รับสกิล 3 อย่าง ก็คือ 1. Minus Strike โจมตีศัตรู 1 ตัวโดยสร้างความเสียหายเท่ากับดาเมจที่ Steinerได้รับในปัจจุบัน, 2. Climhazzard โจมตีศัตรูทั้งหมด และจะสร้างความเสียหายได้ 2 เท่าถ้าศัตรูไร้ธาตุ และ3. Stock Break ที่จะโจมตีศัตรูทุกตัวด้านหน้า ซึ่งทั้ง 3 สกิลก็มีความรุนแรงทั้งนั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดาบเล่มนี้จึงเทพขนาดนี้   Apocalypse (FF 6) สำหรับอาวุธสุดยอดที่สุดของ แฟรนไชส์ FF นี้ก็คือ Apocalypse ซึ่งต้องเป็นภาค 6 แบบออริจินัล ในเวอร์ชันของ GBA เท่านั้น โดยเป็นดาบที่สามารถใส่ได้แค่ Terraคนเดียว ถึงแม้ว่าดาบนี้อาจจะไม่มีพลังโจมตีสูงที่สุดในเกม (ดาบที่มีพลังโจมตีสูงที่สุดในเกมมี พลังโจมตี 255 ดาบ Ultima Weapon) โดยดาบนี้มีความสามารถเหมือนดาบ Lightbringer ในภาค 6 นั่นคือสามารถใช้สกิลทำให้ตัวเองเสีย Mp 20 แลกกับการตีติดคริติคอลได้ นอกจากนั้นเมื่อใส่ดาบนี้แล้วยังมีสกิล Bushido Runic และยังเพิ่มความสามารถอย่าง Two-handed ที่จะเพิ่มพลังโจมตีให้กับผู้ที่ถือดาบเล่มนี้เมื่อถือด้วยมือข้างเดียว ทำให้ถ้าใช้ความสามารถนี้มันจะกลายเป็นดาบที่มีพลังทำลายมากสุดในเกมและเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์นี้ด้วย   และนี่คือทั้งหมดทั้งมวล ของอาวุธที่โหด และโกงที่สุดของซีรีส์สุดโด่งดังอย่าง FF หรือ Final Fantasyนั่นเอง โดยบางภาคคนเขียนต้องยอมรับตามรงว่าไม่ได้เล่น อาจจะทำให้ข้อมูลผิดพลาดบ้างต้องขออภัย สำหรับใครที่คิดว่ามีอาวุธอะไรที่โหดกว่านี้ก็สามารถเสนอความคิดเห็นได้เลยครับ ส่วนใครที่รอภาค 7 เวอร์ชันรีเมคคงต้องรอกันต่อไปยาวๆ (ก็มันเลื่อนวางจำหน่าย) แต่รับรองว่ารีเมครอบนี้น่าจะคุ่มค่ากับการรอคอยแน่นอนครับ

เป็นเรื่องนาเสียดายที่สุดท้ายเกม Final Fantasy 7 Remake ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไป 1 เดือน แต่ถือว่ายังดีที่เลื่อนออกไปเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น เพราะเกมฟอร์มยักษ์อื่น ๆ อย่าง Cyberpunk 2077 หรือ Marvels Avenger ต้องเลื่อนออกไปมากกว่า 3 เดือนเลยทีเดียว แต่เหมือนว่าจะไม่ใช้แค่วันวางจำหน่ายเกมอย่างเดียวที่ถูกเลื่อนออกไปครับ เพราะล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า ช่วงเวลาที่ FF7 Remake จะ Exclusive บนเครื่อง PS4 นั้น ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 4 เมษายน 2021 เช่นกันครับ! แต่เดิมตัวเกมมีกำหนดจะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 และจะ Exclusive บนเครื่อง PS4 ไปจนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2021 หรือ 1 ปี แต่จากข่าวที่วันวางจำหน่ายเกมถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 10 เมษายน 2020 แทน ก็เลยทำให้ ช่วงเวลา Exclusive ถูกเลื่อนออกไปจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2021 ด้วยเช่นกัน งานนี้ใครที่อยากเล่นบนเครื่อง PC ก็คงต้องรอกันไปยาว ๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy Vll Reamke กำลังจะมาถึงมือผู้เล่นในอีกไม่ถึง 3 เดือนต่อจากนี้ การกลับมาของเกม RPG ระดับตำนานนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับทั้งแฟน ๆ และเหล่าเกมเมอร์เป็นอย่างมาก โดยทาง Square-Enix ก็ไม่ได้ปล่อยกระแสนี้สูญเปล่า  ทำการเปิดตัวสินค้าที่เกี่ยวข้องตัวเกมออกมาเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตัง , กระเป๋ากุญแจ , กำไลข้อมือ หรือ สร้อยคอ และล่าสุด ก็ได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือแบบ Chronograph ในราคา $2,499.99 ด้วยครับ! Square-Enix ภาคภูมิใจนำเสนอ นาฬิกาแบบ Chronograph ที่ใช้ระบบ Automatic Movement ของ Seiko โดยตัวนาฬิกานั้นจะมี 2 แบบคือ Cloud Strife Edition ที่มากับบอดี้สีเงิน และ Sephiroth Edition ที่มากับบอดี้สีดำ ในราคา $2499.99 (ประมาณ 78,000 บาท) ซึ่งจะเป็นรุ่น Limited Edition ที่มีเพียง 77 เรือนต่อภูมิภาคเท่านั้น ถ้าใครสนใจนาฬิกาตัวนี้ หรือสินค้าอื่น ๆ ของ Final Fantasy Vll ก็เข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ของ Square-Enix ผ่านลิงก์นี้ได้เลยครับ Credit : Nintendolife ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งในเกมฟอร์มยักษ์ที่กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปีนี้ และมีเกมเมอร์ให้ความสนใจทั่วโลกอย่างแน่นอน ถึงจะน่าเสียดายที่ตัวเกมถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีก 1 เดือน แต่ก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าตัวเกมที่ถูกเอาออกมาวางจำหน่ายนั้น จะมีความสมบูรณ์พร้อมอย่างแน่นอน และวันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ปล่อย Trailer ตัวใหม่ของเกมออกมาแล้ว เรื่องพีคที่สุดคือเราจะได้เห็น Cloud แต่งหญิงด้วยครับ! Trailer ตัวใหม่นั้นมีความยาวเกือบ 4 นาที โดยตัววิดีโอที่ปล่อยออกมานั้น ทำให้เราได้เห็น Footage รวมไปจนถึงฉากต่าง ๆ ในเนื้อเรื่องของเกมมากขึ้น , ได้เห็นตัวละคร Barret Wallace ต่อสู้ในแบบเกมเพลย์จริง ๆ ครั้งแรก , รวมไปจนถึงฉากโจมตีของมนต์อสูรอื่น ๆ อย่าง Leviathan หรือ Mog ขี่ Chocobo เอง ก็มีให้ดูใน Trailer ตัวใหม่นี้ด้วย รับชม Trailer ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้เลยครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้น! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ช่วงนี้เกมฟอร์มยักษ์ที่จะวางจำหน่ายในปีนี้ ประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายกันแบบต่อเนื่องเหมือนกลัวตกเทรนด์ ไม่ว่าจะเป็น Final Fantasy 7 Remake , Dyinglight 2 , Cyberpunk 2077 หรือ Marvels Avengers ก็ล่วนแล้วแต่ เลื่อนวันวางจำหน่ายกันทั้งสิ้น เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะมีความคิดประมาณว่า "เอาหนะ เลื่อนก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็มั่นใจว่าเกมมันจะต้องออกมาดีแน่ ๆ"  แต่เรากล้าพูดเลยว่า การเลื่อนวันวางจำหน่ายนั้น ไม่ได้หมายความว่าเกมมันจะดีขึ้นเสมอไป ดังนั้นวันนี้เราก็เลยเอารายชื่อของ 7 เกม ที่เลื่อนวันวางจำหน่ายแล้ว แต่ตัวเกมมันก็ยังออกมาห่วยแตกเหมือนเดิมครับ! ก่อนจะเริ่ม ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่า รายชื่อนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น ถ้าใครอ่านแล้วไม่พอใจยังไง ทางเราก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ Final Fantasy XV เกมนี้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อนานมาแล้วในชื่อ Final Fantasy XIII Versus ซึ่งปล่อย Trailer ครั้งแรกตั้งแต่ปี 2006 แต่หลังจากเปิดตัวแล้ว เราก็แทบไม่ได้ยินข่าวสารของตัวเกมเลย จนทำให้คิดว่า Square Enix ได้ทิ้งเกมนี้ไปแล้ว แต่เกมนี้ก็กลับมาเปิดตัวใหม่อีกครั้งในปี 2013 และเปลี่ยนชื่อเกมเป็น Final Fantasy XV แทน ตัวเกมมีกำหนดจะวางจำหน่ายครั้งแรก ในวันที่ 30 กันยายน 2016 นั้นเอง แต่การพัฒนาก็ประสบปัญหาทำให้ต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีกครั้ง เป็นวันที่ 29 พฤศจิกายน 2016 ในตอนที่ออกมาตัวเกมก็ได้รับเสียงตอบรับที่ไม่ดีมากนัก ทั้งฉากที่ยังสร้างไม่เสร็จดี ตัวเนื้อเรื่องที่ยังไม่สมบูรณ์ รวมถึงระบบมนต์อสูร ของภาคนี้ที่ทำออกมาได้ไม่ถูกใจแฟน ๆ เอาซะเลย แถมยังเอาเนื้อเรื่องของเกมที่หายไป มาขายในรูปแบบ DLC อีก งานนี้หลาย ๆ คนก็เลยไม่พอใจอย่างมากครับ Anthem เกม Action Sci-Fi จาก ผู้พัฒนา BioWare ที่มีดีกรีระดับสร้างเกม Game of the Year ได้ ซึ่งหลังจากมีการเปิดตัวเกม Anthem ด้วย Trailer สุดอลังการ แถมยังถูกพัฒนาด้วยทีมงาน BioWare เหล่าเกมเมอร์ก็ตื่นเต้นกันเป็นอย่างมาก โดยตอนแรกตัวเกมนั้นก็มีกำหนดจะวางจำหน่ายภายในปี 2018 แต่แล้วก็ถูกเลื่อนออกไปวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2019 แทน ถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวเกมจะเริ่มได้รับคะแนนรีวิวที่ดีขึ้นมากแล้ว แต่ก็นั้นแหละครับ ช่วงที่เกมวางจำหน่ายใหม่ ๆ เรียกได้ว่าโดนด่ายับ ๆ ทั้งฉากของเกมไม่เหมือนที่เคยโฆษณาไว้ , บัคของเกมที่เยอะสุด ๆ , แถมยังมีปัญหาในการโหลดเข้าฉากที่ใช้เวลานานมาก ๆ จนมีคนตั้งชื่อเล่นให้กับเกมนี้ว่า Download Simulator เลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่น่าผิดหวังที่สุดของปี 2019 เลยครับ WatchDog เปิดตัวครั้งแรกในปี 2012 ด้วยกราฟิก กับ ระบบเกมเพลย์ที่ถือว่าสุดยอดมาก ๆ ในยุคนั้น ทำให้เกมเมอร์ทั่วโลกตื่นเต้นกับเกมนี้มาก ๆ โดยตัวเกมมีกำหนดจะวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2013 แต่ก็ถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปเป็นช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2014  ด้วยเหตุผลสุดคลาสสิค "เพื่อพัฒนาเกมให้สมกับคำว่า Next-Gen จริง ๆ" พอเกมออก สิ่งแรกที่ทำให้เกมนี้โดนด่าเลยก็คือ ภาพมันไม่สวยเหมือนกับที่เคยได้เห็นในงานเปิดตัวในปี 2012 คือภาพของเกมมันโดนดรอปลงมาเยอะมาก ๆ จนผู้คนสงสัยว่า "ไหนบอกว่าขอเวลาเพิ่ม เพื่อพัฒนาให้เกมมันสมกับชื่อ Next-Gen?"  แต่ถ้าไม่นับเรื่องนี้แล้ว เกมนี้ก็ถือว่าดีพอตัวครับ No Man’s Sky เกม Sandbox Open World (หรือ Open Space) ที่เรียกได้ว่ามาแรงมาก ๆ ในช่วงปี 2016 ตัวเกมนั้นอนุญาตให้ผู้เล่นเดินทางไปได้ทั่วจักรวาล เอาทรัพยากรจากดานต้าง ๆ มาสร้างที่อยู่อาศัย รวมถึงออกผจญภัยได้อย่างอิสระ ซึ่งตัวเกมนั้นมีกำหนดจะวางจำหน่ายครั้งแรกในวันที่ 21 มิถุนายน 2016 แต่แล้วตัวเกมก็ถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปเป็นวันที่ 9 สิงหาคม 2016 ในเวลาต่อมา ในช่วงที่ตัวเกมวางจำหน่ายใหม่ ๆ เรียกได้ว่าโดนด่าแบบยับ ๆ เช่นกัน เพราะฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ผู้พัฒนาเคยสัญญาว่าจะมีในตัวเกมตอนวางจำหน่าย มันแทบจะไม่มีเลย ส่งผลให้ยอดผู้เล่นของเกมลดลงจาก 212,260 เหลือเพียงแค่ 19,336 คนอย่างรวดเร็ว และกว่าที่จะมีอัปเดตจนมีฟีเจอร์ทุกอย่างที่ผู้พัฒนาเคยสัญญาไว้ ก็เรียกได้ว่าปาเข้าไปปี 2018 ใน Patch ที่มีชื่อว่า No Man’s Sky Next จะเรียกว่าตัวเกมเต็มจริง ๆ ซึ่งมีทุกอย่างที่ผู้พัฒนาสัญญาไว้ถูกเลือนมาถึง 2 ปีเลยก็ว่าได้ครับ Aliens: Colonial Marines เกมจากทาง Gearbox Software ที่ถูกประกาศครั้งแรกในปี 2006 ตัวเกมถูกพัฒนามาอย่างยาวนาน แต่ในปี 2008 ดูเหมือนจะเกิดปัญหาทางการเงินจนทำให้โปรเจค ต้องถูกแช่แข็งไป แต่หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างมากกับเกม Borderlands ทำให้ทางผู้พัฒนาชุบชีวิต Aliens: Colonial Marines ขึ้นมาอีกครั้งในปี 2012 ซึ่งตัวเกมก็ใช้เวลาไม่นาน และวางจำหนายในเดือน 2 ปี 2013 หลังจากวางจำหน่ายตัวเกมก็โดนดายับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกราฟิกที่ห่วยแตก (ชนิดที่ไม่น่าเป็นเกมในปี 2013) กับรูปแบบเกมเพลย์ที่จืดสุด ๆ ทำให้ไม่ว่าจะสื่อไหน ๆ ก็ให้คะแนนเกมนี้น้อยมาก ถ้าจะเรียกว่านี้คือเกมอัปยศที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Gearbox Software เลย ก็คงจะไม่เกินจริงครับ Mighty Number 9 เกมนี้เรียกได้ว่าหลังจากมีการประกาศเปิดตัว เหล่าเกมเมอร์ก็ไฮป์กันสุด ๆ แล้วเกมนี้เป็นเกมที่เกิดจากการระดมทุนและมีคุณ Keiji Inafune หรือที่รู้จักในนามของผู้ให้กำเนิด Megaman เข้าร่วม Project ด้วย ตัวเกมมีกำหนดจะวางจำหน่ายในช่วง เดือนเมษายนปี 2015 แต่วันวางจำหน่ายของเกมก็ถูกเลื่อนออกไปหลายครั้ง จนสุดท้ายก็ได้วางจำหน่ายจริง ๆ ในช่วงกลางปี 2016 แต่หลังจากวางจำหน่ายไปได้ไม่นาน ตัวเกมก็โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ กราฟิกที่ห่วยแตก , มีคอนเทนต์ให้เล่นน้อยมาก , voice acting ไม่ดี , มีเนื้อเรื่องห่วยแตก รวมไปจนถึงปัญหามากมายในเรื่องของ Technical Performance เรียกได้ว่าตายอย่างสงบเลยทีเดียวครับ Diablo 3 เชื่อว่ามีหลาย ๆ คนที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นชื่อเกมนี้อยู้ด้วย แต่จริง ๆ แล้วเกมนี้เอง ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่จริง ๆ คงเรียกได้ว่าใช้เวลาพัฒนาถึง 11 ปี กว่าจะวางจำหน่ายได้ ตอนแรกก็มีกำหนดจะวางจำหน่ายในปี 2011 แต่ก็ถูกเลื่อนออกไปวางจำหน่ายในปี 2012 แทน แต่หลังจากนั้นทีมพัฒนาก็ยังต้องพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เกมมันสมบูรณ์อีก 5 ปี จึงอาจเรียกได้ว่า นี้คือหนึ่งในเกมที่ใช้เวลาพัฒนาถึง 16 ปีครับ หลังจากวางจำหน่ายได้ไม่นาน ตัวเกมก็มีปัญหาในเรื้องเซิฟเวอร์ไม่สามารถรองรับจำนวนผู้เล่นที่มันเยอะมาก ๆ ได้ อีกทั้งในช่วงแรกตัวเกมมีระบบ Auction House ที่ทำให้สามารถซื้อขายไอเทมในเกมด้วยเงินจริง จนส่งผลให้คนเข้ามาเล่นเกมนี้เพียงเพื่อหาเงินเป็นจำนวนมาก ทำให้วัตถุประสงค์ของเกมมันเปลี่ยนไป จนสุดท้ายผู้พัฒนาก็ได้ทำการเอาระบบนี้ออกไปในปี 2013 แต่สุดท้ายเมื่อทีมงานทำการแก้ไขส่วนต่าง ๆ ของเกมไปเรื่อย ๆ จนทำให้สุดท้าย เกมนี้ก็กลายเป็นหนึ่งในเกมที่ดีมาก ๆ ในเวลาต่อมาครับ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy XV นั้นเรียกได้ว่าไม่ค้อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ถ้าพูดถึงแค่เรื่อง Character Design แล้วละก็ คิดว่าเกมนี้ประสบความสำเร็จมากเกินพอเลยครับ ซึ่งเหมือนว่าทางผู้พัฒนาเกมจากแดนเกาหลี เองก็เล็งเห็นจุดนี้ด้วยเช่นกัน จึงได้มีการเริ่มพัฒนาเกมนี้ขึ้นมาอีก 1 เวอร์ชั่นสำหรับเล่นในมือถือ แถมแนวเกมที่กำลังพัฒนาอยู่นี้ยังเป็น MMORPG อีกด้วย! เว็บไซต์ Siliconera รายงานว่า ตอนนี้มีเกม Final Fantasy XV แนว MMORPG และลงให้กับมือถือ กำลังถูกพัฒนาอยู่โดย JSC Games จากประเทศเกาหลี และมี Gaea Mobile จากประเทศจีนเข้ามาช่วยในการพัฒนาครั้งนี้ นอกจากนี้ตัวเกมที่ถูกพัฒนาใหม่นี้จะมี Area ใหม่ และ Element ใหม่ ๆ ถูกเพิ่มเข้ามาให้เกมน่าสนใจมากขึ้นด้วย  ภายในครึ่งปีนี้คาดว่าจะมีการปล่อย Trailer ครั้งแรกอย่างแน่นอน ส่วนว่าเกมจะเปิดให้เล่นเมื่อไหร่นั้น คงต้องติดตามกันต่อไป Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

แม้ว่าจะมีการเปิดตัวโลโกของเครื่อง PlayStation 5 เมื่อคืนที่ผ่านมาพร้อมทั้งกำหนดการว่าจะวางจำหน่ายในปลายปี 2020 แต่เครื่อง PlayStation 4 ยังคงสามารถเล่นเกมไปได้อีกหลายปี รวมถึงมีเกมต่าง ๆ ทยอยลงให้อย่างต่อเนื่องตลอดปีนี้ โดยเฉพาะเกม Exclsuive ที่ไม่สามารถหาเล่นได้จากแพลตฟอร์มอื่น ๆ วันนี้พวกเรา Gamefever จึงขอนำเสนอ 5 เกม Exclusive PlayStation น่าเล่นประจำปี 2020 1. Last of Us Part II Last of Us ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ประสบความสำเร็จมาก ๆ จากทีมงาน Naughty Dog ที่เน้นการเล่าเรื่องที่ถึงอารมณ์และการเล่าเรื่องที่เข้มข้นถึงใจ พร้อมทั้งกวาดรางวัลไปมากกว่า 200 รายการ ทำให้เกม Last of Us Part II กลายเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนจับตามอง ตัวเกมยังคงนำเสนอในแนวทางของภาคแรกแต่ได้มีการยกระดับทุกอย่างให้ดีขึ้น ทั้งการเล่าเรื่องที่ดิบกว่าเดิม ความโหดร้ายของโลกในเกมและกราฟิกที่ดึงเอาศักยภาพของเครื่อง PlayStation 4 มาอย่างเต็มความสามารถทำให้เกมนี้แฟน ๆ ของ Sony พลาดไม่ได้วันที่ 29 พฤษภาคม 2020 นี้ลางานรอได้เลย 2.Final Fantasy 7 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่สร้างความฮือฮาอย่างมากนับตั้งแต่เปิดตัวในงาน E3 ปี 2015 ปัจจุบันผ่านไป 5 ปีก็ถึงคราวที่เกมนี้จะได้ส่งมาถึงมือของแฟน ๆ เสียที เกม Final Fantasy 7 ฉบับ Remake ได้มีการปรับปรุงระบบเกมการเล่นใหม่ ที่เป็นการผสมระหว่างความเป็น Action และ Turn Base ที่ทำออกมาได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้กราฟิกในเกมยังทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่สำคัญหากอยากเล่นในปีนี้ต้องซื้อบนเครื่อง PlayStation 4 เท่านั้น สำหรับเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 3.Ghost of Tsushima แม้ว่าทีมงาน Sucker Punch Productions ยังไม่ยืนยันวันวางจำหน่ายเกมอย่างเป็นทางการ แต่ว่าปีนี้มาแน่นอนสำหรับเกม Ghost of Tsushima ที่เล่าเรื่องราวฉากหลังของประเทศญี่ปุ่นในช่วงการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล ตัวเกมเป็นเกมแนว Action - Adventurer - Stealth ที่จะให้เราสวมบทเป็น Jin Sakai ซามูไรคนสุดท้ายในเกาะ Tsushima ที่ต้องทำทุกวิถีทางในการต่อต้านกับกองทัพมองโกลด้วยวิธีการแบบ Ghost 4.Predator: Hunting Grounds Predator: Hunting Grounds ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมแนว Co-op PvP ที่น่าสนใจมากสำหรับเครื่อง PlayStation 4 โดยตัวเกมจะแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายมนุษย์ที่จะต้องร่วมมือกันในการทำภารกิจต่าง ๆ ให้สำเร็จและฝ่ายของ Predator ที่ต้องสังหารมนุษย์ไม่ให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว ทำให้อารมณ์ของเกมนี้จะคล้ายกับ Dead by Daylight ฉบับ Predator ซึ่งหากคุณชอบเกมแนวดังกล่าวเกมนี้ถือว่าตอบโจทย์ ตัวเกมจะวางจำหน่ายในปีนี้อย่างแน่นอน 5.Nioh 2 ปิดท้ายกันด้วยเกมยากระดับปาจอยทิ้งที่สาวก PlayStation 4 ควรหามาเล่นกับเกม Nioh 2 ที่ได้นำเอาตำนานและเรื่องราวลึกลับของประเทศญี่ปุ่นมาทำใหม่ในรูปแบบของ Dark Fantasy ที่ทำออกมาได้สนุกและน่าสนใจมาก ๆ นอกจากนี้สำหรับภาคใหม่ตัวเกมได้มีการเพิ่ม Feature ต่าง ๆ ที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่ตัวละครไปจนถึงแนวทางที่เล่น โดยเกมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 13 มีนาคม จะเห็นได้ว่าในปีนี้เกม Exclusive ของเครื่อง PlayStation 4 ยังคงน่าเล่นเหมือนกับทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นถึงศักยภาพของทีมงานต่าง ๆ ที่สามารถทำเกมยอดเยี่ยมมากมายลงในเครื่อง Console ที่มีอายุมากกว่า 7 ปีได้อย่างลื่นไหล ขอให้เกมเมอร์ทุกท่านมีความสุขในการเล่นเกมครับผม

Final Fantasy Vll Remake กำลังจะเปิดให้เราเข้าไปสัมผัสได้เร็ว ๆ นี้ โดยก่อนหน้านี้มีคลิป Gameplay Demo ที่หลุดออกมามากมายใน Youtube สร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าแฟน ๆ เป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าไม่ใช้ทุกคนที่จะดีใจกับ Demo ที่หลุดออกมาตัวนี้ครับ เมื่อล่าสุดผู้ที่รับหน้าที่เป็นคนเขี่ยน Scenario ของเกม แสดงความไม่พอใจกับเหตุการ ที่ ตัว Demo หลุด Kazushige Nojima ผู้รับหน้าที่เป็นคนเขี่ยน Scenario ของเกม ได้โพสข้อความบน Twitter ว่า "Demo ที่หลุดครั้งนี้ มันเปิดเผย Footage ต่าง ๆ ในเกมมากเกินไป" ด้วยความที่ตอนนี้เกมยังพัฒนาไม่เสร็จดี Demo ที่ปล่อยออกมานั้นจึงเป็นเหมือนเกมที่ยังไม่เสร็จ แต่ดันถูกเอาออกมาโชว์นั้นเอง ทำให้ตัว Nojima รู้สึกไม่พอใจอย่างมากนั้นเอง Final Fantasy Vll Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคมนี้ บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ https://twitter.com/sgwr1/status/1212730630015836160?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1212730630015836160&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-7-remakes-scenario-writer-is-disappointed-over-recent-leaks Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy VII Remake ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนรอคอยมาก เนื่องจากเป็นการรีเมคเกมคลาสสิคสมัยเครื่อง PlayStation 1 ให้มาอยู่ในรูปแบบเกมการเล่นปัจจุบัน พร้อมกราฟิกที่สวยงามตามสไตล์ Square Enix ล่าสุด Demo ของเกมนี้อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด เว็บไซต์ gamstat.com เว็บไซต์สำหรับการติดตามข้อมูลทุกอย่างของ PlayStation ได้อัปโหลดรูปของเกม Fantasy VII Remake และเกม Patapon 2 remaster ในรูปแบบทดลองเล่น  ทำให้มีแนวโน้มสูงว่าทางผู้พัฒนาเกมอาจจะเปิดให้เราได้ทดลองเล่นเกมเร็ว ๆ นี้ เพราะเว็บไซต์นี้ดึงข้อมูลมาจากผู้เล่นทุกคนและตัวเซิร์ฟเวอร์ https://twitter.com/Renka_schedule/status/1209637400583884800?s=20 เรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะเกมอย่าง Patapon 2 Remaster ที่เคยประกาศว่าจะลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 เมื่อปลายปี 2017 แล้วก็เงียบหายไปเลย การที่ชื่อของเกมนี้โผล่ออกมาก็แสดงให้เห็นถึงว่าตัวเกมมีแนวโน้มจะได้เล่นสูง Final Fantasy VII Remake มีกำหนดการให้เล่นในเดือนมีนาคม 2020 แฟน ๆ ของซีรีส์นี้ไม่ควรพลาด อ้างอิง:gematsu.com

ในขณะที่คนเกือบทั้งโลกกำลังรอการมาของ Final Fantasy VII Remake อยู่ อีกหนึ่งภาค Spin-off ของตัวซีรีส์อย่าง Dissidia Final Fantasy เองก็มีความเคลื่อนไหวเช่นกันครับ โดยล่าสุดก็ดูเหมือนว่าจะมีการเพิ่ม Ardyn Izunia ตัวร้ายประจำภาค Final Fantasy XV ให้สามารถเล่นได้ ในเกมเร็ว ๆ นี้ครับ! Dissidia Final Fantasy คือเกมไฟท์ติ้งที่นำตัวละครหลักจาก Final Fantasy ทุกภาคมาทำการต่อสู้กันในเกม ซึ่งดูเหมือนว่าคิวต่อไปที่จะได้เข้าร่วมสงครามครั้งนี้ ก็คือตัวร้ายหลักของภาค XV หรือ Ardyn Izunia นั้นเอง โดยจากวิดีโอเปิดตัว ที่ปล่อยออกมานั้น เราจะได้เห็นเกมเพลย์ของเขาเล็กน้อยด้วย สามารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ Ardyn Izunia นั้นจะสามรถเล่นได้แล้ววันนี้ใน Dissidia Final Fantasy for arcade ส่วนสำหรับภาค Dissidia Final Fantasy NT สำหรับเครื่อง PlayStation 4 กับ PC นั้น จะสามารถเล่นเขาได้ในวันที่ 9 มกราคม 2020 นี้ครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy Vll Remake นั้นกำลังจะวางจำหน่ายในช่วงเดือน 3 ปี 2020 นี้ ล่าสุดทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยรูปภาพ Screenshot เซ็ตใหม่ออกมายั่วแฟน ๆ ซึ่งในบรรดาภาพเหล่านั้น จะมีอยู่ภาพหนึ่งที่เป็นรูปของ ชายหนุ่มผมทอง ที่ดูเหมือนกำลังจะใช้ดาบโจมตี อะไรบางอย่างอยู่ โดยเขาไม่เคยมีบทบาทในตัวเกมเวอร์ชั่น Original มาก่อนเลย สร้างความสงสัยว่า "เขาคือใคร" ในหมู่แฟน ๆ เป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนวันนี้เราจะได้รู้แล้วครับว่าเป็นใคร! Roche คือชื่อของชายหนุ่มปริศนาคนนี้ โดยเขาเป็น 3-C SOLDIER หรือก็คือทหารชั้น Elite ของบริษัท Shinra แบบเดียวกับ Cloud, Zack, หรือ Sephiroth ที่เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาในเกมเวอร์ชั่น Remake นั้นเอง ทาง Square Enix ได้ทำการปล่อยภาพของชายคนนี้ออกมาอีกภาพหนึ่ง โดยในภาพนั้นจะเป็นตัวของ Roche ที่ยืนพิงรถมอเตอร์ไซค์สีแดงอยู่ ถ้าอ่างอิงจากข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ในเวอร์ชั่น Remake จะมีบอสใหม่ ๆ ในเกมด้วย ทำให้คิดว่า เขาอาจจะเป็นบอสตัวใหม่ที่โผล่มาในฉากที่ Cloud ต้องขี่มอเตอร์ไซค์หนีการไล่ล่าจากทหารของ Shinra ด้วยก็เป็นได้ครับ อย่างที่รู้กันว่าภาค Remake ที่กำลังจะออกในปีหน้านั้น จะยังมีเนื้อเรื่องไม่ครบถ้วน เท่าเวอร์ชั้น Original (เนื้อเรื่องจะมีแค่ช่วงที่อยู่ใน Midgar เท่านั้น) ซึ่งเนื้อเรื่องใน Midgar เอาจริง ๆ แล้วไม่น่าจะยาวมากพอขนาดต้องทำออกมาเป็นแยกภาคแบบนี้ ดังนั้นดูแล้วเนื้อเรื่องของเกมน่าจะเปลี่ยนไปเยอะพอสมควร ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่า Roche นั้นจะเป็นตัวละครที่มีความสำคัญจน อยู่ไปถึงเนื้อเรื่องช่วงสุดท้ายเลยรึเปล่าครับ Final Fantasy Vll Remake จะวางตำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 ครับ Credit: GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake เกมเก่าจากยุคสมัยเครื่อง PlayStation 1 จากทาง Square Enix ที่กำลังจะกลับมาให้สัมผัสอีกครั้งในปี 2020 นี้ ตัวเกมได้มีการปรับปรุงกราฟิกให้สวยทันสมัย ทั้งยังมีการปรับเปลี่ยนระบบเกมเพลย์ ให้ดูมีความ Action มากขึ้น ซึ่งวันนี้ทางผู้พัฒนา ก็ได้มีการปล่อยภาพ ScreenShot เซ็ตใหญ่ออกมายั่วแฟน ๆ ด้วยครับ! ก่อนหน้านี้ทางผู้พัฒนา ก็ได้มีการปล่อย Trailer , เกมเพลย์ , รูปภาพมากมาย ออกมาให้เหล่าแฟน ๆ ได้ดูกัน แต่นั้นดูเหมือนจะยังไม่ใช้ทั้งหมดครับ เพราะวันนี้ก็มีรูปภาพอีกกว่า 20 ภาพถูกปล่อยออกมาด้วย ในเซ็ตรูปภาพดังกล่าวนั้น เป็นภาพของตัวละครต่าง ๆ จากมุมมองที่แตกต่างกันไป สามรถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ เซ็ตภาพดังกล่าวนั้นเปิดตัวด้วย ภาพของ Key Arts จากเนื้อเรื่องของเกม ที่ถูกวาดใหม่ให้สวยงาม โดยภาพเซ็ตแรกเป็นของ Tifa ที่นั่งมองท้องฟ้ายามราตรี กับ ภาพของ Sephiroth ที่ยืนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ และในบริษัท Shinra ครับ ต่อมาเป็นรูปภาพของ มุมมองต่าง ๆ ในบริษัท Shinra ซึ่งตัวละครสำคัญที่อยู่ฝั่งบริษัท Shinra เองก็ดูเหมือนจะได้รับการออกแบบใหม่ด้วยครับ สถานที่ต่อมาที่มีภาพถูกปล่อยออกมาก็คือ Train Graveyard ซึ่งในเวอร์ชั่น Original สถานที่แห่งนี้จะไม่ได้มีเหตุการสำคัญอะไรเกิดขึ้น แต่ดูเหมือนว่าในเวอร์ชั่น Remake นั้น จะมีการเพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามาด้วยในฉากนี้ ต้องรอลุ้นตอนเกมออก ว่าเนื้อเรื่องในช่วงนี้ที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะเป็นยังไงครับ จากนั้นจึงเป็นรูปภาพ ที่โชว์การเล่น ใช้สกิล และต่อสู้ของตัวละคร Aerith ซึ่งเราก็ได้เห็นเกมเพลย์ของเธอเล็กน้อยในคลิปที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ด้วย โดยในตัวเกมเวอร์ชั่นนี้เธอดูจะทำอะไรได้มากกว่าในเวอร์ชั่น Original ครับ ปิดท้ายด้วยภาพของมนตร์อสูร Shiva ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในมนตร์อสูร ที่มีให้เห็นใน Final Fantasy แทบทุกภาค โดยจากเกมเพลย์ของมนตร์อสูร ifrit ที่เคยปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ก็น่าลุ้น อยู่เหมือนกันว่า การโจมตีของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่มีท่าโจมตีน้ำแข็งตกลงมาจากฟ้า แน่ ๆ แล้ว 1 ท่าครับ Credit : GameRant ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy VII กำลังจะกลับมาอีกครั้งในชื่อ Remake ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งหลัง ๆ มานี้ เราก็ได้เห็น Footage ในเกมถูกปล่อยออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นท้างด้านวิดีโอเกมเพลย์ หรือในแบบรูปภาพ แต่นี้อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่ไม่มีเครื่อง PS4 ครับ เมื่อล่าสุด Square Enix ออกมาประกาศแล้วว่า "Final Fantasy VII Remake จะเป็น Exclusive PS4 เป็นเวลา 1 ปี" ครับ! ข่าวนี้ได้มาจากรูปภาพที่ดูเหมือนจะเป็นหน้าปกของกล่องใส่แผ่นเกม โดยสังเกตุได้ที่มุมขว่าล่างของภาพ จะสังเกตุเห็นข้อความที่เขียนไว้ว่า "ตัวเกมนั้นจะ Exclusive สำหรับเครื่อง PS4 จนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2021" ซึ่งนับเป็นเวลา 1 ปี หลังจากตัวเกมวางจำหน่ายพอดี จริง ๆ แล้วไม่ใช้เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะคิดว่าเกมเมอร์หลาย ๆ คน ก็คงคาดการณ์เอาไว้แบบนี้อยู่แล้วครับ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ส่วนเครื่อง ๆ อื่น ก็คงต้องรอกันไปอีก 1 ปี ครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่ปล่อยวิดีโอส่วนอื่น ๆ ของเกมอยู่นาน ในที่สุดพระเอกของเรา Cloud Strife! ก็ได้เปิดตัวกับเขาสักที่ ทั้งที่เป็นตัวละครที่เหมือนกับสัญลักษณ์ของ Final Fantasy 7 Remake แท้ๆ คิดว่าทางผู้พัฒนาอย่าง Square Enix นั้นรู้ดีอยู่แล้วว่าพระเอกของเราเป็นที่รักของผู้เล่นขนาดไหน Trailer ตัวใหม่นี้ จึงมีแค่ Cloud แค่คนเดียวทั้งวิดีโอเลยครับ! มันเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากที่พระเอกของ FF7 ที่เหล่าแฟน ๆ ต่างรักมาก ได้วิวัฒนาการจากตัวเหลี่ยม ๆ ในเวอร์ชั่น Original บนเครื่อง PS1 มาเป็น ตัวละคร 3D โคตรเท่ในเวอร์ชั่น Remake บนเครื่อง PS4 นี้ ตัววิดีโอนี้มีความยาว 26 วินาที รับรองเลยว่าเป็น 26 วินาทีที่ได้เห็นความเท่ของพระเอกเราแบบเต็มอิ่มแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้นครับ https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1200451856373186560 Credit : VG24/7 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy VII Remake ซึ่งเป็นการกลับมาของเกม RPG ระดับตำนานจากทาง Square-Enix และมีกำหนดจะวางขายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 ซึ่งตัวเกมนั้นก็จะลงให้กับเครื่อง PS4 เท่านั้น ไหนๆ ตัวเกมมันก็ Exclusive อยู่แล้ว ก็ทำให้มันพิเศษขึ้นไปอีกนิดแล้วกัน ล่าสุดทาง Official Twitter ของเกม ก็ได้ออกมาบอกว่า ตัวหน้าปกของกล่องใส่แผน จะสามารถกลับด้านได้ นอกจากนี้ถ้าหากว่า Pre-Order ก็จะได้รับ Chocobo Chick Summon Materia DLC ไปเลยฟรีๆ ด้วยครับ! เอาจริงๆ แล้วเราก็ไม่ค้อยได้เห็นเกมที่สามารถกลับด้านของปกได้เท่าไหร่นัก โดยปกด้านปกติของเกมเวอร์ชั่นนี้ จะเป็นรูปของ Cloud ที่ยืนมองบริษัทชินระอยู่ แต่ถ้าชอบปกเรียบๆ แบบสีดำล้วนแล้วมีโลโก้ของเกมสวยเด่นเพียงอย่างเดียวเหมือนกับที่วางขายในประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถกลับด้านของปกออกมาโชว์แค่นั้นได้เหมือนกันครับ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199735127519182848 Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เรียกได้ว่าช่วงนี้ปล่อยของกับแบบไม่มีหยุดจริงๆ กับเกม Final Fantasy 7 Remake เพราะนอกจากจะปล่อยภาพ Artwork ทั้งสถานที่หรือตัวตัวละคม ออกมายั่วแฟนๆ มากมายแล้ว ยังมีการปล่อยเกมเพลย์ของตัวละครต่างๆ พร้อมกับเปิดเผยระบบการเล่นที่เป็นแบบ Realtime Battle System อีกด้วย ล่าสุดก็มีการปล่อยวิดีโอโชว์ใช้สกิล Tempest ของ Aerith เช่นกัน โดยสกิลนี้ ตัว Aerith จะทำการปล่อยคริสตัล ออกไปยังพื้นที่เป้าหมาย จากนั้นจะเกิดการระเบิดขึ้นรอบๆ คริสตัลที่ปล่อยออกไป สร้างความเสียหายเป็นวงกว่าง นั้นจึงหมายความว่าสกิลนี้คือสกิลโจมตีหมู่จากระยะไกลนั้นเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีรึเปล่า เพราะดูเหมือนว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Remake นี้ Aerith ดูจะมีความสามารถใรการต่อสู้ มากกว่าตัวเกมเวอร์ชั่น Original ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199659383518420992?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1199659383518420992&ref_url=https%3A%2F%2Fgamingbolt.com%2Ffinal-fantasy-vii-remakes-newest-video-shows-off-aeriths-tempest-attack Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งนเกมที่เหล้าผู้เล่นต่างรอค้อยกันมาอย่างยาวนาน และใน่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็น Footage รวมถึงฉากต่างๆ ในเกมอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเกมเพลย์ หรือว่าภาพ Artwork ที่เอาของฉากเก่าๆ มาวาดใหม่ได้อย่างสวยงาม และล่าสุดก็มีการปล่อยภาพของสถานที่ต่างๆ ออกมาอีกด้วย! ครั้งนี้มีภาพของสถานที่ต่างๆ ภายในเกม ก็ถูกปล่อยออกมาด้วยกัน 3 ภาพ โดยทั้งหมดเป็นภาพจาก Sector 5 ประกอบไปด้วย โบสถ์ของ Aerith , บ้านของเธอทั้งมุมมองจากภายนอก และภายใน ซึ่งบอกเลยว่า ภาพสถานที่ต่างๆ นั้นถ้าไม่บอกว่าอยู่ใน Sector 5 ก็คงไม่รู้ว่า สถานที่เหล่านี้มันอยู่ในเขตที่เป็นสลัม! เพราะมันดูสวยงามเกินกว่าจะไปอยู่ในสลัมได้จริงๆ ครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199327194608283648 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Square Enix ได้ทำการปล่อย Footage ต่างๆ ของเกม Final Fantasy 7 Remake ออกมามากมาย ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Limited Break ของ Tifa หรือการเรียกใช้ Summon Ifrit ให้ออกมาช่วยต่อสู้ วันนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้ทำการปล่อยภาพใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย โดยภาพเหล่านี้ก็คือฉากในวันวานของเกม Final Fantasy 7 Original นั้นเอง! ภาพที่ปล่อยออกมานั้นเป็นภาพในฉากของ Aerith กับ Barrett โดยฉากของของ Aerith นั้นเป็นภาพที่เธอมองขึ้นไปบนท้องฟ้าบนสถานที่ซึ่งน่าจะเป็นลานจอดเครื่องบิน สวนทาง Barrett นั้นเป็นฉากที่ยืนมองหย่อมดอกไม้ ที่ขึ้นอยู่ในโบส Midgar กับ Marlene โดยสามารถดูภาพ Original และเวอร์ชั่น Remake ได้ข้างล่างนี้เลยครับ  Aerith : Original  Aerith : Remake Barrett & Marlene : Original Barrett & Marlene : Remake นอกจากนี้ Official Twitter ก็ยังมีการโพสต์รูปของ Reno กับ Rude ในเวอร์ชั่น Remake พร้อมกับ อธิบายถึงความสามารถของทั้งสองคนด้วย โดยได้เขียนเอาไว้แบบนี้ "Reno เป็นคนในหน่วย Investigation ของ Shinra มีจุดเด่นคือเรื่องความเร็ว กับความชำนาญในการใช้อาวุธ" และ "Rude ไม่ใช้อาวุธ และเป็นคนไม่ค้อยพูด" นอกจากนี้ก็ยังมีภาพของ Moggle & Chocobo ที่เป็น Summon ตัวใหม่อีกด้วย https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199041389314682880 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199010105301196801 Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ระบบการเล่นเกมแบบสมัครสมาชิกเพื่อเล่นเกมหรือ Subscription Model ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ค่ายเกมต่าง ๆ พยายามที่จะทำระบบนี้ออกมา โดยจุดเด่นของระบบนี้คือการที่คุณสามารถจะเล่นเกมต่างๆ ได้แบบไม่อั้นภายใต้ราคาที่ถูก ซึ่งทาง Microsoft ก็พยายามที่จะดันระบบนี้ให้เกิดเช่นกัน ในงาน X019 ทาง Microsoft ได้ประกาศจับมือกับ Square Enix ในการนำเอาเกม Final Fantasy ตั้งแต่ภาคที่ 7 จนถึงภาคที่ 15 มาลงให้กับ Xbox Game Pass PC โดยเป็นจำนวนเกม Final Fantasy มากถึง 10 ภาคเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าคุ้มมากๆ เนื่องจากในตอนนี้ Xbox Game Pass PC นั้นมีราคาเพียงเดือนละ 160 กว่าบาทแต่มีเกมมากมายมหาศาลให้เราเลือกเล่น ยังไม่รวมกับเกมระดับ AAA อื่นๆ อย่าง Gear 5 , Forza 4 , Metro Exodus และเกมอื่นๆ ที่มีให้เล่นนอกจอก Final Fantasy อีกด้วย สำหรับเกมเมอร์ท่านไหนที่อยากจะสมัคร Xbox Game Pass PC ก็สามารถสมัครได้ที่นี่ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy 7 Remake กำลังจะออกวันที่ 3 เดือน 3 ปี 2020 ที่จะถึงนี้ แน่นอนว่าเหล่าผู้เล่นต่างก็ตื่นเต้นอย่างมาก กับการกลับมาของ หนึ่งใน Final Fantasy ภาคที่ดีที่สุด และด้วยตัวเลขยอดขายทั้งหมดของเกม Final Fantasy 7 เวอร์ชั่นแรกที่ทาง Square Enix ปล่อยออกมาล่าสุด ก็ยิ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าแฟนๆ รักเกมภาคนี้มากแค่ไหน ตลอด 20 ปีที่ผ่านมานี้ ตั่งแต่ Final Fantasy 7 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1997 ตัวเกมสามารถขายได้มากกว่า 12.3 ล้านชุดทั่วโลก! ทำให้เรานึกภาพไม่ออกเลยว่าตัวเกม Final Fantasy 7 Remake ที่กำลังจะออก จะสามารถทำยอดขายได้มากหรือน้อยขนาดไหน? เพื่อเป็นการตามกระแสช่วงเทศกาล Halloween ที่ผ่านมา Square Enix ก็ได้ปล่อยภาพของ Ghost ในเกมเวอร์ชั่นใหม่ออกมาให้ดูด้วย ส่วนตัวเกม Final Fantasy 7 Remake จะวางขายวันที่ 3 มีนาคม ปี 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/FFVIIR_CLOUD/status/1189844865590284289 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เกม RPG ระดับตำนานอย่าง Final Fantasy 7 Remake กำลังจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2020 ที่จะถึงนี้ ซึ่งตัวเกมก็ได้เปิดให้สามารถทดลองเล่นได้ในงาน Tokyo Game Show และ Thailand Game Show ที่ผ่านมา ทำให้เราได้เห็น Gameplay Footage กันไปมากมายแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยได้สัมผัสเกมด้วยตัวเอง ทาง Official ก็ได้ปล่อยวีดีโอต่างๆ ออกมาเพื่อเอาใจแทน ก่อนหน้านี้ก็มีวิดีโอที่แสดงการใช้ระบบ Tactical ในการต่อสู้ไปแล้ว ล่าสุดเองก็มีการปล่อยออกมาอีกหนึ่งวิดีโอ โดยเป็นการโชว์ใช้สกิล Limit Break ภายในเกมให้ดู ซึ่งครั้งนี้ใช้ตัวละคร Tifa ในการโชว์! Limit Break เป็นระบบที่มักจะเห็นใน Final Fantasy หลายภาค โดยเป็นเหมือนสกิลท่าไม้ตายนั้นเอง การที่จะสามารถใช้สกิลนี้ได้ผู้เล่นจำเป็นต้องเก็บ Limit Gauge ของตัวละครนั้นให้เต็มก่อน ส่วนตัว Limit Gauge เองนั้นจะได้รับเวลาโดนดาเมจจาก Abilities ของศัตรู ถ้าสงสัยว่า "ท่าโจมตี Limit Break ของ Tifa เป็นยังไง?"แล้วละก็ รับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1190207100078571520 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เป็นอีกหนึ่งเกมที่เหล่าเพลเยอร์รอคอยการกลับมาของสุดยอดตำนาน RPG อย่าง Final Fantasy 7 Remake ซึ่งในงาน Thailand Game Show 2019 ที่ผ่านมา ก็มีการเปิดให้เข้าไปทดลองเล่นเกมนี้ได้ฟรีด้วย(แถวยาวมากเวอร์) หลังจากที่เราได้เห็นเกมเพลย์และกราฟิกของเกมกันไปแล้ว ล่าสุดทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมากล่าวด้วยอีกว่าในภาคนี้จะมี Squats Minigame เหมือนกับเวอร์ชั่นคลาสสิคให้เล่นด้วย! official Twitter ได้โพสวิดีโอที่สัมภาษณ์คุณ Yoshinori Kitase ตำแหน่ง Producer ของเกม FF7 Remake ว่า "ทำไมถึงได้ใส่ Squats Minigame เข้ามาด้วย?" โดยเขาก็ได้ตอบว่า "เรารู้ว่าแฟนๆ รักทุกอย่างที่เป็น Final Fantasy 7 เราจึงอยากจะทำทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เกมนี้เหมือนกับเวอร์ชั่นคลาสสิคที่สุด ถึงแม้ว่ามันจะเป็นมินิเกมที่เล็กแค่ไหนก็ตาม" นับเป็นเรื่องที่ดีเพราะแม้ว่าจะเป็นตัวเกมเวอร์ชั่น Remake แต่เราคงจะได้เห็นฉากในวันวานที่แสนคิดถึงในเกมภาคนี้ด้วยอย่างแน่นอนครับ Final Fantasy 7 Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1188470658046414848 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อีกหนึ่งเกมฟอร์มยักษ์ที่จะออกในช่วงต้นปีหน้าอย่าง Final Fantasy 7 Remake ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่ เหล่าเกมเมอร์ติดตามข่าวสารและรอคอยกันอย่างใกล้ชิด แน่นอนว่าทาง Square Enix ก็ได้มีกการปล่อยตัวอย่างกับรูปออกมายั่วเรื่อยๆ ล่าสุด Official Twitter ก็ได้ปล่อยวีดีโอเกมเพลย์โชว์การใช้ระบบ Tactical ในการต่อสู้จริง! ในระหว่างการต่อสู้ภายในเกม ผู้เล่นจะสามารถกดปุ่ม "X" เพื่อเอาสู่ Tactical Mode ได้ ซึ่งจะส่งผลให้ภาพโดยรอบถูกทำให้สโลว์ลงอย่างมาก เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกการกระทำต่อไปได้ ซึ่งจะช่วยหลบการโจมที่รุนแรง หรือใช้ต่อคอมโบก็ได้เช่นกัน เหมือนในตัวอย่างที่มีการใช้ Tactical เพื่อสโลว์เปิดโอกาสให้ Cloud เลือกใช้สกิล Braver ในการฟันปิดฉากได้นั้นเอง ตัวเกม Final Fantasy 7 Remake จะวางขายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1182235632334200834 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อย่างที่ทราบว่า Final Fantasy 7 Remake ได้ปรับเปลี่ยนระบบการต่อสู้ให้เป็นเกมแนวแอ็คชั่นแทนที่จะเป็นแนวเทิร์นเบส แต่สำหรับแฟนยุคเก่าๆ ของเกมนี้ที่ต้องยอมรับเลยว่า อายุอานามเองก็ไม่ใช่น้อยๆ เล่นเกมแอ็คชั่นมากๆ ก็จะต้องมีเวียนหัวกันบ้าง แต่ว่าตัวเกมนี้ก็จะมี Classic Mode เอาใจผู้เล่นหน้าเก่าเช่นกัน ที่จะเป็นการผสมผสานระหว่างการโจมตีแบบแอ็คชั่นและการเล่นแบบสไตล์ RPG เก่าๆ ได้อย่างดีเยี่ยม โดยโปรดิวเซอร์ของเกมนี้อย่างคุณ Yoshinori Kitase ได้ Live Stream สดภายในงาน Tokyo Game Show 2019 และอธิบายถึงระบบ Classic Mode นี้ว่าเวลาต่อสู้ตัวเกมจะทำการโจมตีและหลบหลีกให้อัตโนมัติ แต่ถ้าเวลาเราโจมตีไปเรื่อยๆ และจนทำให้เกจ ATB ด้านล่างของเลือดตัวละครเต็ม เราจะสามารถกดหลังเพื่อเข้าสู่ Wait Mode จะทำการสโลว์โมชั่นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้ไอเท็ม, สกิลต่างๆ ได้นั่นเอง (ดูคลิปวิดีโอได้ทางด้านล่าง) https://www.youtube.com/watch?v=0x1AGz8DwtY Final Fantasy 7 Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ปล่อยของกันออกมาเพียบสำหรับ Final Fantasy 7 Remake ภายในงาน Tokyo Game Show 2019 ที่ผ่านมา ร่วมถึงล่าสุดผู้พัฒนาก็ได้เผยคลิป Demo การต่อสู้ระหว่าง Cloud, Tifa และ Aerith ที่กำลังต่อสู้กับบอสสุดโหดอย่าง Aps ภายในท่อระบายน้ำ Midgar ซึ่งจากภายในคลิปวิดีโอเราจะได้เห็นการสลับตัวเล่นแต่ละตัวละครอย่างลื่นไหล รวมถึงยังได้เห็นการโจมตีต่างๆ ของแต่ละตัวละครพร้อมทั้งการ Summon อสูรอย่าง Ifrit มาช่วยโจมตีอีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=1tjwcrIv3Co&t=235s โดยระบบการต่อสู้ของเกม Final Fantasy 7 Remake จะผสมผสานการโจมตีแบบแอ็คชั่นสมัยใหม่ และระบบ RPG สมัยเก่าที่เวลาจะเลือกใช้สกิลหรือไอเท็มตัวเกมจะหยุดทั้งหมดนั่นเอง โดยเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ให้สาธยายกันสามวันสี่คืนก็ไม่จบจริงๆ กับอิทธิพลอันใหญ่หลวงที่เกม Final Fantasy VII มี ทั้งต่อเหล่าเกมเมอร์ที่เติบโตขึ้นในยุคค.ศ. 90 ตอนปลาย ไปจนถึงแนวเกม RPG และวงการเกมในภาพกว้าง ตั้งแต่การใช้กราฟฟิคแบบโพลิกอน 3D ทั้งเกมเป็นเกมแรกๆ ของยุค แนวทางการออกแบบศิล์ปที่ผสมผสานเทคโนโลยีไฮเทคเข้ากับความเป็นแฟนตาซีที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ Final Fantasy จวบจนทุกวันนี้ แถมยังเป็นเกมที่ยกระดับให้ค่ายเกมญี่ปุ่น Square Soft กลายเป็นค่ายเกมแนวหน้าที่รู้จักกันไปทั่วโลกแม้กระทั่งในตลาดตะวันตก แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 20 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่เกมวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1997 แต่เกม Final Fantasy VII ก็ยังคงเป็นเกม JRPG โปรดของผู้เล่นเกมหลายๆ คน ที่ยังคงยกให้เกมเป็นหนึ่งใน JRPG ที่ดีที่สุดที่เคยสร้างมาเลยทีเดียว ด้วยประการต่างๆ ที่ว่าไปข้างต้น ทำให้การมาถึงของเกม Final Fantasy VII Remake สร้างความตื่นเต้นและกังวลให้กับเหล่าแฟนเกมทั่วโลกไปพร้อมๆ กัน ในแง่หนึ่งก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่เหล่าแฟนเกมรุ่นใหญ่จะได้หวนคืนสู่โลก Gaia และเหล่าตัวละครอันเป็นที่รักที่ถูกสร้างใหม่ด้วยกราฟฟิคอันสวยงามของเกมยุคปัจจุบัน แถมยังเป็นโอกาสอันดีที่เหล่าเกมเมอร์รุ่นเด็กๆ จะได้สัมผัสกับเกม RPG ระดับตำนานนี้เป็นครั้งแรกในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายกว่าการหาเกมยุค PS1 กลับมาเล่นอีกด้วย แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเกม Final Fantasy VII Remake ที่ผู้พัฒนาประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นอันเป็นหัวใจหลักไปอย่างสิ้นเชิง อาจจะทำให้แฟนๆ เกมที่ยังคงรักเกมภาคเก่าหัวปักหัวปำรู้สึกไม่ถูกใจกับการเปลี่ยนแปลงของเกมในดวงใจ และอาจจะแอบผิดหวังเล็กๆ กับระบบการเล่นใหม่ที่จะเข้ามาทดแทนการเล่นแบบคลาสสิคที่โหยหาจะได้สัมผัสอีกครั้ง ผู้เขียนได้มีโอกาสลองเล่นเกม Final Fantasy VII Remake ในงาน Tokyo Game Show 2019 ที่ผ่านมา (ขอขอบคุณ Square Enix และ PlayStation ที่จัดช่องเวลาเอาไว้ให้) โดยเดโมที่ได้ลองเล่นคือฉากการวางระเบิดเตาปฏิกรณ์ Mako ซึ่งมีคนบอกมาว่าคือฉากเปิดเกมภาคดั้งเดิม โดยเราจะสามารถควบคุมตัวละครได้สองตัวคือตัวเอก Cloud Strife และ Barret Wallace สลับไปมาระหว่างตัวละครทั้งสองได้ตลอดเวลา สิ่งแรกที่ผู้เล่นทุกคนน่าจะสังเกตคือภาพกราฟฟิคของเกม ที่ทำออกมาได้สมจริงคมชัดยิ่งกว่าเกมของ Square Enix หลายๆ เกมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ตั้งแต่กราฟฟิคส่วนพื้นผิวของสิ่งของ ไปจนถึง Particle Effect แสงสีระยิบระยับตามฉาก ที่ทำออกมาได้อย่างปราณีต เปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่ยิ่งสังเกต ลงไปก็ยิ่งเห็นมากขึ้น เช่นเดียวกับอนิเมชั่นและสีหน้าของตัวละครต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยี Motion-Capture ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายและใบหน้าของตัวละครมีความลื่นไหลสมจริงมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบที่สามารถเสริมอรรถรสในส่วนของเนื้อเรื่องเกมได้เป็นอย่างดี การเปลี่ยนมาใช้มุมมองแบบบุคคลที่สามก็ช่วยในการสร้างบรรยากาศของเกมได้อีกเช่นกัน เพราะผู้เล่นสามารถบังคับตัวละครให้สำรวจตามฉากเพื่อหาไอเทมได้อย่างอิสระ โดยมุมมองที่เปลี่ยนไปยังทำให้สถานที่ในฉากที่เคยเป็นเพียงภาพแบนๆ มีมิติขึ้นมา ช่วยสื่อถึงขนาดและ/หรือความตื้นลึกหนาบางของแต่ละสถานที่ได้ดีกว่าเดิม ทำให้ฉากที่หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนมีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน [caption id="attachment_28612" align="aligncenter" width="1024"] ภาพเก่าเอามาเล่าใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม[/caption] ในส่วนของเกมเพลย์นั้น ระบบการเล่นของเกม Final Fantasy VII Remake จะผสมผสานการควบคุมแบบแอคชั่นเต็มรูปแบบเข้ากับระบบ ATB ที่พบเห็นได้ในเกม Final Fantasy หลายๆ ภาคที่ผ่านมา โดยการต่อสู้จะเน้นใช้การโจมตีธรรมดาเป็นคอมโบเพื่อเก็บเกจ ATB ของตัวละคร ซึ่งจะกลายมาเป็นทรัพยากรสำหรับใช้ท่า Ability ต่างๆ ของตัวละครอีกที ตัวแทนจาก Square Enix ได้อธิบายว่าเกมถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นใช้การโจมตีธรรมดา (ปุ่มสี่เหลี่ยม) เพื่อเพิ่มเกจ ATB เป็นหลักมากกว่าเพื่อสร้างความเสียหาย และใช้ความสามารถพิเศษต่างๆ เพื่อปลิดชีพศัตรูอีกที ถ้าจะให้เปรียบความแอคชั่นของเกมกับเกมอื่นๆ ของผู้พัฒนา Square Enix อย่าง Final Fantasy XV หรือ Kingdom Hearts ผู้เขียนรู้สึกว่า FFVIIR (Final Fantasy VII Remake) น่าจะใกล้เคียงกับ Final Fantasy XV มากกว่า เพราะผู้เล่นก็ยังมีความสามารถในการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีของศัตรูไม่ต่างกัน แต่ในขณะเดียวกัน FFVIIR ก็ยังมีความลื่นไหลมากกว่า Final Fantasy XV อยู่หน่อยจากอนิเมชั่นการโจมตีที่รวบรัดกว่า [caption id="attachment_28613" align="aligncenter" width="1024"] การต่อสู้แบบแอคชั่นที่ดุเดือดรวดเร็ว[/caption] นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถสลับไปมาระหว่างตัวละครเพื่อใช้ความสามารถเฉพาะตัวของตัวละครนั้นๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนเป็น Barret เพื่อใช้แขนปืนกลของเขากำจัดศัตรูที่อยู่ที่สูงที่ Cloud ใช้ดาบฟันไม่ถึงนั่นเอง น่าสนใจว่าตัวละครร่วมทีมอื่นๆ จะมีความสามารถเฉพาะตัวแตกต่างกันแค่ไหน แต่อาจจะด้วยความที่เดโมถูกปรับให้ง่าย หรืออาจจะเพราะเป็นส่วนเริ่มต้นของเกมก็ดี ผู้เขียนกลับรู้สึกว่าแทบไม่ได้จำเป็นต้องใช้ท่าพิเศษหรือใช้การวางแผนใดๆ ก็สามารถกำจัดศัตรูธรรมดาๆ อย่างทหารชินระหรือหุ่นโดรนตัวเล็กๆ ตามฉาก ได้แบบไม่มีปัญหาด้วยการกดปุ่มโจมตีซ้ำๆ เฉยๆ ทำให้ยังไม่ค่อยเห็นภาพนักว่าถ้าเกมเริ่มเพิ่มลูกเล่นต่างๆ มากขึ้น (เช่นมนต์ซัมม่อน หรือแค่เพียงเพิ่มตัวละครในปาร์ตี้อีกซักตัวสองตัว) จะทำให้เกมเพลย์ท้าทายมากกว่านี้แค่ไหน แต่โดยเบื้องต้นนั้นถือว่าเกมเพลย์ของ FFVIIR สอบผ่านในแง่ของความรู้สึกอันลื่นไหลเป็นธรรมชาติ แม้ว่าจะยังไม่ได้ต้องใช้ความคิดหรือฝีมือนักในเดโม นอกจากนี้ เกมยังมีระบบการ Stagger คล้ายๆ กับในเกม Final Fantasy XV ที่เมื่อโจมตีศัตรูจนล้ม (สังเกตได้จากหลอดสีส้มๆ ใต้หลอดเลือด) จะทำให้ศัตรูติดสถานะ Stagger ส่งผลให้โดนความเสียหายแรงขึ้น ซึ่งการเล่นในส่วนหลังๆ น่าจะมีความสำคัญขึ้นมา แต่ในเดโมที่ผู้เขียนเล่นยังไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่นัก [caption id="attachment_28617" align="aligncenter" width="1024"] ท่า Triple Slash สุดคลาสสิค[/caption] ส่วนเดียวของเดโมที่ทำให้ผู้เขียนต้องใช้การวางแผนซักหน่อยก็คือส่วนของบอสหุ่นยนต์แมลงป่องช่วงท้ายเดโม ที่จะคอยยิงจรวดติดตามใส่เราตลอดเวลาทำให้ต้องคอยหยุดโจมตีและหันมาป้องกันหรือกลิ้งหลบบ้าง และยังสามารถเปิดเกราะบาเรียที่ต้องใช้เวทย์สายฟ้า Thunder ของ Barret ใส่เพื่อลบออกก่อนจะโจมตีได้ แถมพอเลือดเหลือน้อยยังสามารถยิงปืนใหญ่เลเซอร์ใส่เราได้อีก ทำให้ผู้เล่นต้องวิ่งไปหลบหลังสิ่งกีดขวางตามฉากเพื่อไม่ให้โดนเลเซอร์ ซึ่งในจุดนี้ก็ทำให้เห็นภาพมากขึ้นว่าระบบต่อสู้ของเกมจะท้าทายผู้เล่นอย่างไรบ้าง [caption id="attachment_28618" align="aligncenter" width="768"] ลุง Barret หล่อกว่าเดิมเยอะเลย[/caption] อีกหนึ่งองค์ประกอบของระบบต่อสู้ที่น่าพูดถึงคือระบบ Tactical Mode ที่จะชะลอการเคลื่อนไหวทั้งหมดในจอเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ไอเทม สกิล หรือกระทั่งท่าสุดยอดอย่าง Limit Break จากเมนูเหมือนเกม RPG ทั่วไปได้ และสามารถใช้สั่งเพื่อนร่วมทีม A.I. ให้ทำนู่นทำนี่ได้ด้วย (ลองนึกภาพเกมเพลย์ของ Dragon Age: Inquisition แต่ไม่ลึกเท่า) ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนยังไม่รู้สึกถึงความจำเป็นในการใช้ระบบนี้เท่าไหร่นักในเดโมเพราะทุกอย่างรวมถึงบอสสามารถรับมือได้ด้วยการโจมตีธรรมดาๆ หรือการใช้ปุ่มลัดโดยการกด L1 ค้างและกดปุ่มสัญลักษณ์เพื่อใช้สกิลเหมือนเกมแอคชั่น แต่ก็พอจินตนาการได้ว่าถ้าเริ่มเจอศัตรูระดับสูงที่มีจุดอ่อนที่ซับซ้อนกว่านี้ ก็อาจจะกลายเป็นระบบที่จำเป็นมากก็ได้เช่นกัน [caption id="attachment_28619" align="aligncenter" width="768"] เมื่อเข้า Tactical Mode จะทำให้ทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง และจะมีเมนูขึ้นมาตรงมุมซ้ายล่าง[/caption] ต้องยอมรับตรงๆ ว่าผู้เขียนไม่ใช่คนที่ตื่นเต้นกับเกม Final Fantasy VII Remake มากเท่ากับคนอื่นๆ ที่เป็นแฟนตัวยงของเกม แต่เสี้ยวเดโมที่ได้เล่นก็สนุกและน่าสนใจมากพอที่จะทำให้ผู้เขียนอยากจะเล่นและสำรวจเกมๆ นี้ต่อไปอีกยาวๆ เลยทีเดียว Final Fantasy VII Remake มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 3 มีนาคม 2020 สำหรับเครื่อง PS4 โดยเฉพาะ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ปล่อยออกมาแล้วสำหรับตัวละครจากองค์กรชินระภายในเกม Final Fantasy VII Remake โดยตัวอย่างนี้เราจะได้เห็นตัวละครอย่าง Rude, Tseng และ Reno รวมถึงตัวละครอื่นๆ ที่เราจะได้เห็นบริบทภายในเกมมากขึ้นอย่าง Cid Highwind, Aerith, Tifa, Barret Wallace และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงยังมีการเปิดเผยเกมเพลย์บางส่วนของตัวละครอื่นๆ อีกด้วย https://www.youtube.com/watch?v=9ZIpdx-3QCc Final Fantasy VII Remake มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 เฉพาะเครื่อง PS4 เท่านั้น

อีกหนึ่งเกมที่ใครๆ หลายคนรอคอยมาอย่างยาวนานอย่าง Final Fantasy 7 Remake และงาน Tokyo Game Show ที่จะถึงนี้เราก็น่าจะได้เห็น ได้สัมผัส ทั้ง Gameplay และ Footage ที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เหล่าแฟนๆ ยิ่งคลั่งกันขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่างานจะจัดภายในอาทิตย์นี้แต่เหมือนค้ายเหลี่ยมจะทนไม่ไหวปล่อยภาพออกมายั่วแฟนๆ ก่อน โดยภาพที่ปล่อยออกมานี้เป็นภาพที่ใช้เป็น Key Art ของ Final Fantasy 7 เวอร์ชั่นออริจินอลหรือก็คือ ภาพของ Cloud ยืนมองดูบริษัทชินระ พร้อมสะพายดาบเล่มยักษ์ไว้บนหลังนั้นเอง ส่วนตัวเกมจะวางจำหน่าย วันที่ 3 เดือน 3 ปีหน้า นั้นเองแฟนๆ FF7 ห้ามพลาด https://twitter.com/FFVIIR_CLOUD/status/1170185081526206464 Credit : Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ชินระคือองค์กรในเกม Final Fantasy VII ที่มีบทบาทสำคัญของเกมเป็นอย่างมาก แต่ภายในเกมภาค Remake นี้เราก็ยังไม่ได้เห็นการเปิดตัวของสมาชิกในองค์กรนี้เลย ล่าสุดทางผู้กำกับของเกมนี้อย่างคุณ Tetsuya Nomura ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อดังญี่ปุ่น Famitsu ว่าจะมีการเปิดเผยเหล่าสมาชิกในองค์กรนี้ภายในงาน Tokyo Game Show แน่นอน รวมถึงภายในงานนั้นจะมีการโชว์โมเดลดาบ Buster Sword ขนาดไซส์จริงอีกด้วย รวมถึงยังมีรายละเอียดเวอร์ชั่น PC เล็กๆ น้อยๆ https://www.youtube.com/watch?v=Z3xSGv3Hfio โดย Final Fantasy 7 Remake เป็นเกมที่ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนี้ตัวเกมใกล้จะวางจำหน่ายให้เราได้เล่นกันแล้วนั่นคือวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PlayStation 4 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/

เป็นหนึ่งในเกมที่มีคนรอให้มีข่าวขวามเคลื่อนไหวอยู่กับ Final Fantasy 8 Remastered โดยล่าสุดทาง Square Enix ก็ได้ประกาศวันวางจำหน่ายของภาคนี้ออกมาแล้วนั้นคือวันที่ 3 กันยายน 2562 บนเครื่อง Xbox , Ps4 , PC และ Nintendo Switch ในราคา 19.99 ดอลล่า https://www.youtube.com/watch?v=V_XUmO3IWJE Final Fantasy 8 คือหนึ่งในภาคที่มีคนชอบมากที่สุดในซีรีส์ของ Final Fantasy และในเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้มีการ Remodel ของตัวละครและมอนสเตอร์ให้มีความคมและละเอียดยิ่งขึ้นพร้อมระบบใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Battle Assist ที่จะทำให้เราได้รับประสบการณ์ในการเล่นที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย Credit : Gemingbolt(  https://gamingbolt.com/final-fantasy-8-remastered-releases-on-september-3rd-new-gameplay-revealed ) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/

อาจจะเป็นสตรีมสั้นๆ ง่ายๆ แค่เพียง 10 นาที แต่การสตรีมเปิดตัวเกมใหม่ของโซนี่อย่าง State of Play ครั้งที่ 2 นี้เรียกว่าอัดแน่นไปด้วยคุณภาพคับคั่ง ด้วยการเปิดตัวอย่างเกมน่าเล่นและและอัพเดทใหม่ๆ เพียบ! เพื่อให้ทุกคนสามารถติดตามทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้แบบง่ายๆ เราจึงรวบรวมข่าวทั้งหมดจากสตรีม State of Play ครั้งล่าสุดนี้มาไว้ให้คุณในที่เดียวกันไปเลย! ทั้งตัวอย่างใหม่จาก Final Fantasy VII Remake (มีเกมเพลย์ด้วยนะ!) เดโมเกมเพลย์เปิดตัวเกม Ghost Recon Breakpoint และตัวอย่างภาคเสริม Monster Hunter World: Iceborne บอกได้เลยว่าช่วงครึ่งปีหลังนี่มีอะไรให้เหล่าเกมเมอร์ได้ตื่นเต้นกันอีกเยอะแน่นอน! Final Fantasy VII Remake เริ่มจากข่าวที่หลายคนน่าจะรอกันอยู่มากที่สุดกับตัวอย่างใหม่ของ Final Fantasy VII Remake! https://www.youtube.com/watch?v=Df0YG3qfZ8E ในขณะนี้ยังไม่ม่รายละเอียดเกี่ยวกับเกมเพลย์ออกมาแน่ชัด แต่เท่าที่เห็นจากในเทรลเลอร์ เชื่อว่าเกมเพลย์น่าจะมีความเป็นแอคชั่นมากกว่าจะเป็นแนว Turn-based แบบภาคดั้งเดิม เป็นไปได้มากว่าเกมเพลย์น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมากจากเกม Crisis Core: Final Fantasy VII ที่เคยวางจำหน่ายในเครื่อง PSP ในปี 2008 นอกจากนี้ ในเทรลเลอร์ยังได้เปิดเผยหน้าตาตัวละครสำคัญอย่าง Aerith เป็นครั้งแรก แถมยังมีการแย้มๆ ตัวละครวายร้ายสุดอมตะอย่าง Sephiroth อีกด้วย ทางผู้พัฒนา Square Enix ยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ (ทันงาน E3 2019 พอดีเลย...) Ghost Recon Breakpoint ถือเป็นเซอร์ไพรส์ที่น่ายินดีที่เดียวกับการเปิดตัวเกม Ghost Recon ภาคใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ Breakpoint ซึ่งดูเหมือนจะเป็นภาคต่อจากเกมยอดนิยมอย่าง Ghost Recon: Wildlands อีกด้วย! https://www.youtube.com/watch?v=BLWt9MQLVgU จากเทรลเลอร์เนื้อเรื่อง จุดเชื่อมที่ชัดเจนที่สุดระหว่างเกมภาคใหม่และภาค Wildlands ก่อนหน้านี้ดูจะเป็นตัวละคร Cole D. Walker (รับบทโดยนักแสดง Jon Bernthal จากซีรี่ย์ The Punisher) ซึ่งเพิ่งจะโผล่มาเป็นแขกรับเชิญในเนื้อเรื่องเสริม Operation Oracle ของเกม Wildlands ที่วางจำหน่ายไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะได้รับเทรลเลอร์เปิดตัวสุดอลังการแล้ว ยังมีเดโมเกมเพลย์ (Alpha) ความยาวกว่า 13 นาที ที่แสดงให้เห็นถึงมุมกล้องและระบบการเล่นที่ซับซ้อนมากขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถใช้เครื่องมือและลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับการซ่อนตัวจากศัตรู เช่นการใช้โคลนมาทาหน้าทาตัวเพื่อหลบซ่อนเป็นต้น ซึ่งน่าจะทำให้เกมต้องใช้การวางแผนและทีมเวิร์คที่มากกว่าเกมภาคก่อนหลายเท่าด้วย https://www.youtube.com/watch?v=XvHGqvV0qRg จากข้อมูลที่เปิดเผยออกมานั้น ดูเหมือนว่าเกม Ghost Recon Breakpoint จะเป็นเกมแนวกึ่งออนไลน์ในลักษณะเดียวกับ The Division หรือ Destiny โดยจะเปิดให้ผู้เล่นถึง 4 คนสามารถร่วมมือกันเพื่อผ่านภารกิจต่างๆ ได้ โดยผู้พัฒนาได้เปิดเผยออกมาว่าเกมจะมีระบบคลาสอาชีพที่ ลึกซึ้ง และจะได้รับการอัพเดทเนื้อเรื่อง ภารกิจ และคลาสอาชีพตัวละครอย่างต่อเนื่อง แถมผู้พัฒนายังเปิดเผยแล้วด้วยว่าเกมจะได้รับอัพเดทภารกิจประเภท Raid (ภารกิจระดับสูงช่วงท้ายเกม) เข้าไปหลังจากที่วางจำหน่ายแล้วด้วย ทั้งนี้ แม้ว่ารายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเกมยังไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างน้อยก็อาจจะไม่ต้องรอนานกว่าที่ผู้พํฒนาจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มอีกในงาน E3 ที่จะถึงนี้ เพราะเกมมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่  4 ตุลาคมปีนี้แล้ว! Monster Hunter World: Iceborne เงียบหายไปซักพักใหญ่ๆ กับเกมล่าแย้ในตำนานของค่าย Capcom อย่าง Monster Hunter World ที่ล่าสุดได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่วำหรับภาคเสริมใหญ่ Iceborne ออกมาให้ชมกันแล้ว! https://www.youtube.com/watch?v=KUuaty581D4 สำหรับสิ่งแรกที่หลายคนน่าจะตื่นเต้นกันคือการเปิดตัวเหล่าแย้หน้าเก่าและใหม่หลายๆ ตัว (มีตัวที่เหมือนทีเร๊กซ์หัวแพะด้วย...) รวมไปถึงมังกร Elder Dragon ตัวใหม่อย่าง Velkhana อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดงระบบการเล่นใหม่ๆ อย่างอุปกรณ์เสริมสำหรับเจ้า Slinger ของเราที่ทำให้เราสามารถกระโดดเกาะตัวแย้ได้เลยทันที รวมไปถึงท่าโจมตีใหม่ๆ สำหรับอาวุธต่างๆ อีกด้วย สำหรับภาคเสริมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 กันยายนในราคา $40 (ราว 1300 บาท) สำหรับคนที่มีเกมตัวต้นอยู่แล้ว ในขณะที่คนที่ยังไม่เคยเล่นจะสามารถซื้อแพ๊คพิเศษ Monster Hunter World: Iceborne Master Edition ซึ่งจะมาพร้อมตัวเกมภาคดั้งเดิมด้วยในราคา $60 (ราว 1700-1900 บาท) ...และอื่นๆ อีกเพียบ! นอกจากสามเกมหลักที่น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้เล่นทุกคนแล้ว ภายในสตรีมยังมีการพูดถึงเกมอื่นๆ อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ทั้งที่เป็นเกมระดับ AAA และเกมอินดี้นั่นเอง MediEvil https://www.youtube.com/watch?v=4-S93BigurA สำหรับแฟนเกมมีอายุสมัย PS1 อาจจะพอจำกันได้กับเกม MediEvil เกมซีรี่ย์ตะลุยด่านอันโด่งดังที่เคยวางจำหน่ายไปตั้งแต่ปี 1998 โดยเกมจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Remastered ใหม่แบบยกเครื่องตั้งแต่กราฟิคไปถึงระบบเกมเพลย์ (ลักษณะเดียวกับเกม Crash Bandicoot N-Sane Trilogy) เอาใจเกมเมอร์รุ่นใหญ่กันไปเลย Predator: Hunting Grounds อีกหนึ่งโปรเจ๊คที่น่าสนใจกับเกม Predator: Hunting Grounds เกม PS4 Exclusive เกมใหม่ที่จะวางจำหน่ายในปีหน้า โดยตัวเกมจะมีลักษณะเป็นแนว Asymmetric Multiplayer (เกมมัลติเพลย์เยอร์แบบสองข้างไม่เสมอกัน) แนวเดียวกับเกมอย่าง Dead by Daylight หรือ Evolve นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=wiSmINxtLC8 แม้ในคลิปตัวอย่างจะไม่มีรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเกม แต่บทความในเว็บ PlayStation Blog ได้เปิดเผยว่าเกมจะเป็นแนว Third-Person Shooter ที่จะให้ผู้เล่นฝั่งหนึ่งรับบทเป็นเหล่าทหารมนุษย์ที่จะต้องทำภารกิจต่างๆ ตามด่าน ไปพร้อมๆ กับการเอาตัวรอดจากนักล่า Predator ที่จะมีผู้เล่นอีกคนเป็นคนควบคุมเช่นกัน Away: The Survival Series เกมแนว Survival สุดแหวกแนว ที่ให้เรารับบทเป็นตัวจิงโจ้บิน (หรือ Sugar Glider) ที่ต้องเอาตัวรอดในธรรมชาติอันโหดร้ายและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากมลพิษ เกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากสารคดีสัตว์โลกต่างๆ ทางทีวี ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจไม่น้อยเลย https://www.youtube.com/watch?v=lIjGxIxQ8ok Riverbond สำหรับเกมสุดท้ายนั้นทีชื่อว่าเกม Riverbond ซึ่งดูแล้วจะเป็นเกมอินดี้แนวตะลุยด่านกราฟิคแนวพิกเซลสามมิติ ที่จะสนับสนุนการเล่นแบบ Local Co-op (เล่นจอเดียว) ถึง 4 คน เหมาะกับเอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว แต่นอกจากนั้นก็ยังไม่เห็นอะไรพิเศษขนาดนั้น https://www.youtube.com/watch?v=CsASJ1r-DLk การกลับมาของโปรโมชั่น Days of Play และเครื่อง PS4 Slim ลายพิเศษ! แฟนๆ ชาว PlayStation อาจจะจำกันได้กับโปรโมชั่นลดราคาครั้งใหญ่ของ PlayStation อย่าง Days of Play ที่นำเกมน้อยใหญ่บนร้านค้า PlayStation Store มาลดราคากันกระหน่ำยาวเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โปรโมชั่น Days of Play ครั้งนี้ก็จะมาพร้อมกับเครื่อง PS4 Slim 1TB รุ่นพิเศษ ซึ่งคราวนี้มาในสีดำเงาแบบคลาสสิค โดยตัวเครื่องจะวางจำหน่ายพร้อมๆ กับโปรโมชั่นช่วงสิ้นปีนี้ https://www.youtube.com/watch?v=yg0X7d0GKUA

Square Enix ปล่อยเกม Final Fantasy Brave Exvius Chocobo Run บน Facebook Messenger Instant Game ​ให้สามารถเล่นกันได้แล้ววันนี้ FFBE Chocobo Run! เป็นเกมที่ให้เราแข่งโจโคโบะ แข่งขันกันทำคะแนนด้วยการบังคับโจโคโบะให้หมุนตีลังกาขณะลอยอยู่กลางอากาศ และเมื่อเราร่อนโจโคโบะลงได้อย่างสวยงาม ก็จะได้รับบูสต์เพิ่มความเร็ว ทำให้ครั้งต่อไปที่โจโคโบะวิ่งขึ้นเนินเราจะลอยอยู่บนอากาศสูงและนานขึ้นอีก เปิดโอกาสให้เล่นท่ากลางอากาศได้นานยิ่งข้ึน  สำหรับวิธีเล่นเกมนี้ทำได้โดยการค้นหาคำว่า FFBE บน Facebook ก็จะพบเกม FFBE Chocobo Run! ให้เลือก ให้กดปุ่ม Play Now ก็จะเล่นได้ทันที

ตามธรรมเนียมที่ทำมาตลอดหลายปี นิตยสารเกม Famitsu ของญี่ปุ่นได้ทำการเผยแพร่บทความพิเศษสำหรับช่วงปีใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นการรวมบทสัมภาษณ์สั้นๆ จากผู้พัฒนาหลายๆ คน โดยในปีนี้หัวข้อของบทความได้ให้ผู้พัฒนาบรรยายปี 2019 ที่จะถึงนี้ในคำเดียว พร้อมกับแบ่งปันความคิดหรือความรู้สึกที่มีต่อวงการเกมในปีหน้า คำตอบของบรรดาผู้พัฒนาที่ได้ร่วมให้สัมภาษณ์นั้นมีคนที่น่าสนใจเป็นพิเศษอยู่สองคนคือคุณ Tetsuya Nomura และคุณ Yoshinori Kitase ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระดับสูงของเกม Final Fantasy VII Remake ทั้งคู่ โดยคุณ Nomura เลือกบรรยายปี 2019 เพียงคำเดียวสั้นๆ ว่า 7 และแบ่งปันข้อความสั้นๆ เพียงว่า จะมีการประกาศข้อมูลใหม่มากมาย ในขณะเดียวกัน คุณ Kitase ได้บรรยายปี 2019 ด้วยคำว่า ความคาดหวังสูง และกล่าวในข้อความว่า การพัฒนา Final Fantasy VII Remake กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี โดยเขาและทีมงานต่างพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้แฟนๆ ผิดหวัง เมื่อเอาข้อมูลจากข้อความของผู้พัฒนาทั้งสองมารวมกัน ก็น่าจะตีความได้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake น่าจะได้รับการแถลงข่าวหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญในปีหน้า ซึ่งน่าจะหนีไม่พ้นเทรลเลอร์ใหม่ เผลอๆ อาจจะได้รู้วันวางจำหน่ายเกมกันซะทีด้วยนะ แต่จะเป็นอะไรกันแน่ คงได้แต่รอจนกว่าผู้พัฒนาจะออกมาเฉลยด้วยตัวเองจ้า! (ขอบคุณข้อมูลจาก Dual Shockers)

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่ายเหลี่ยม Square Enix ได้ทำการปล่อยเทรลเลอร์ใหม่สำหรับการ์ตูนอนิเมะจากเกม Final Fantasy XV ตอนล่าสุด Episode Ardyn Prologue ออกมาให้ชมกัน ซึ่งภายในตอนจะเล่าถึงความหลังของตัวร้ายหลักในเกมอย่าง Ardyn เพื่อสำรวจที่มาของความแค้นที่ทำให้ตัวละครกลายเป็นผู้ร้าย แม้จะสืบสายเลือดกษัตริย์แห่ง Insomnia ไม่ต่างจากพระเอก Noctis https://www.youtube.com/watch?v=Q4G3jhuFRrc ทั้งนี้ ในเทรลเลอร์ยังไม่เปิดเผยว่าอนิเมะตอนล่าสุดจะออกฉายเมื่อไหร่ แต่ผู้ที่สนใจดูสามารถติดตามช่อง Youtube ของเกม Final Fantasy XV ได้ตามลิงค์

แม้ว่าอนาคตของเกม Final Fantasy XV จะดูไม่ค่อยสู้ดีซะแล้ว เมื่อผู้จัดจำหน่าย Square Enix ประกาศปิดค่ายในเครือ Luminous Productions และยกเลิก DLC เกมที่พัฒนาค้างอยู่ทิ้งไปหมด แต่ก็ใช่ว่าค่ายจะทิ้งเกมไปซะทีเดียว เมื่อล่าสุดผู้พัฒนาได้ปล่อยอัพเดทเนื้อหา Final Fantasy XV ครั้งใหม่ ซึ่งเพิ่มเควส crossover กับเกมรุ่นน้องอย่าง Final Fantasy XIV วันนี้! https://www.youtube.com/watch?v=HjZ6O-g48hE สำหรับเควส Final Fantasy XV x Final Fantasy XIV นั้นจะพาองค์ชาย Noctis และผองเพื่อนไปพบกับ Y’jhimei (อ่านว่าไรไม่รู้...) ตัวละครเผ่ามนุษย์แมว (Miqo’te) จากเกม Final Fantasy XIV โดยผู้พัฒนายังให้ข้อมูลว่าเควสพิเศษนี้จะให้เราได้ลองปะทะกับบอส Garuda จากเกม Final Fantasy XIV อีกด้วย การผ่านเควสครั้งนี้จะให้รางวัลผู้เล่นเป็นเซ็ตชุดตกแต่งอิงจากตัวละครเกม Final Fantasy XIV นั่นเอง [caption id="attachment_15019" align="aligncenter" width="1200"] Garuda (Final Fantasy XIV)[/caption]

โลกแห่ง Final Fantasy ต้องถึงกับสั่นสะเทือนวงการกันอีกครั้ง เมื่อศิลปินสาวอย่าง Katy Perry ได้ร่วมงานกับค่าย Square Enix เปลี่ยนตัวเองเป็น 2 มิติ กลายเป็นตัวละครในเกม Final Fantasy Brave Exvius ผู้เล่นจะสามารถใช้ตัวละคร Katy Perry ได้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคมเป็นต้นไป และใช้ได้ในระยะเวลาจำกัดเท่านั้น เพราะฉะนั้นใครไม่อยากพลาดโอกาสนี้ก็ต้องเข้ารีบเข้าไปเล่นกัน ซึ่งพร้อมกับการเปิดตัวในครั้งนี้ก็ยังมีเพลง Immortal Flame โดย Katy Perry เพลงใหม่ที่แต่งมาเพื่อเกมนี้โดยเฉพาะด้วย https://www.youtube.com/watch?time_continue=121&v=WpMCpjB34Ug ใครที่ยังไม่เคยเล่นเกมภาคนี้ก็สามารถคลิกลิงก์ดาวน์โหลดได้ด้านล่างเลย

ค่ายเหลี่ยม Square Enix ได้เปิดตัวเกมใหม่ล่าสุด War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius ออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ โดยค่ายได้บรรยายเกมว่าเป็น Tactical RPG ที่จะวางจำหน่ายในปี 2019 https://www.youtube.com/watch?v=znKIhbl0yTM สำหรับชื่อเกม War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius นั้น มีความคล้ายคลึงกับชื่อเกม Final Fantasy Tactics: War of the Lions ซึ่งก็เป็นเกม Tactical RPG เช่นเดียวกันด้วย จึงอาจจะพอลุ้นได้ว่าเกมน่าจะมีเกมเพลย์ใกล้เคียงกับเกม Final Fantasy Tactics นั่นเอง ทั้งนี้ แม้ว่าในเทรลเลอร์จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเกม War of the Visions: Final Fantasy Brave Exvius จะเปิดให้เล่นในแพลตฟอร์มไหน แต่เกม Final Fantasy Brave Exvius ก็เป็นเกมมือถือ RPG แนวกาชาอยู่แล้ว แถมยังมีชื่อบริษัท Gumi ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมมือถืออยู่ด้วย จึงน่าจะยืนยันได้ว่าเป็นเกมมือถือแน่นอน (ขอบคุณข้อมูลจาก Gematsu)

เนื่องในโอกาสวันครบรอบวางจำหน่ายเกม Final Fantasy XV ทางค่ายเหลี่ยม Square Enix ได้ทำการประกาศข่าวดีสำหรับแฟนเกมมากมาย ทั้งการเผยข้อมูล DLC Episode Ardyn ที่จะให้เรารับบทเป้นตัวร้ายในเรื่อง หรือการมาของภาคเสริม Final Fantasy XV: Comrades ที่ให้เราโลดแล่นในดินแดน Eos พร้อมกับเพื่อนๆ อีกสามคน ที่กำลังจะได้รับการวางจำหน่ายแยกกับเกมภาคหลัก แต่ในขณะเดียวกันก็มีข่าวร้ายเช่นกัน เมื่อคุณ Hajime Tabata ผู้กำกับเกม ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าทีมพัฒนา Luminous Productions แล้ววันนี้ พร้อมกับประกาศยกเลิกภาคเสริม DLC สามชุดคือ Episode Aranea, Lunafreya, และ Noctis อีกด้วย โดยคุณ Tabata ได้ทิ้งข้อความบอกลาและขอบคุณแฟนๆ ด้วย "สวัสดีครับทุกคน ผมทาบาตะนะครับ เป็นเวลาเกือบสองปีแล้วนับตั้งแต่ที่เกม Final Fantasy XV วางจำหน่ายครั้งแรก ผมเชื่อจริงๆ ว่าที่เราสามารถมาได้ไกลขนาดนี้เพราะแรงสนับสนุนของแฟนๆ ทั้งสิ้น และผมอยากขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจเลย วันนี้ผมมีเรื่องการตัดสินใจส่วนตัวต้องแจ้งให้ทุกคนทราบ ว่าผม นายฮาจิเมะ ทาบาตะ จะยุติการทำงานในค่ายพัฒนา Luminous Productions และบริษัทเครือ Square Enix Group นับตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมเป็นต้นไป ผมได้รับประสบการณ์อันล้ำค่าจากการทำงานที่นี่มากมาย เกมทุกเกมที่ผมร่วมสร้างล้วนมีความหมายกับผมทั้งสิ้น แค่เกม Final Fantasy XV ถือเป็นเกมพิเศษที่ผมทุ่มสร้างสุดตัว ผมจึงอยากถือโอกาสในวันนี้เพื่อกล่าวอำลาต่อแฟนๆ ทั่วโลกที่สนับสนุนเกมมานาน สำหรับเรื่องของอนาคต ผมมีแนวทางเกมที่อยากจะสร้างให้ได้อยู่แล้ว เป็นความท้าทายใหม่สำหรับผมต่อจาก Final Fantasy XV ด้วยเหตุผลนี้ ผมจึงเลือกจะยุติการทำงานภายใต้ Square Enix เพื่อเริ่มสร้างบริษัทของผมเอง ในขณะที่ DLC Episode Ardyn และเกมอื่นๆ ของค่ายกำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผมมองว่ามันถึงเวลาแล้วที่ผมจะส่งไม้ต่อให้นักพัฒนารุ่นหลังได้ลองสร้างผลงานที่พวกเขาเชื่อเสียที และผมมั่นใจว่าพวกเขาจะต้องสร้างผลงานที่วิเศษสุดแน่นอน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะคอยเอาใจช่วยทั้ง Square Enix และ Luminous Productions ในฐานะแฟนคนหนึ่งเช่นเดียวกับทุกคน และอยากจะขอบคุณผู้เล่นและทีมงาน Final Fantasy XV อีกครั้ง ขอบคุณครับ" ทั้งนี้ หนึ่งในเหตุผลเบื้องหลังการลาออกของคุณทาบาตะอาจจะเป็นเรื่องของผลกำไรด้วย เพราะ Square Enix ได้เผยในรายงานผลกำไรว่าในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา (สิ้นสุดเดือนกันยายน 2018) บริษัทได้เสียผลกำไรไปถึง 3,733 ล้านเยน (ราว 1,087 ล้านบาท) โดยในรายงานได้ระบุเหตุผลการเสียกำไรครั้งนี้ว่ามาจากการลงทุนสร้างค่ายพัฒนา Luminous Productions (ที่คุณทาบาตะเป็นคนดูแล) ซึ่งมีหน้าที่ในการพัฒนาเกมระดับ AAA ภายใต้แบรนด์ Square Enix ทั้งนี้ ผลขาดทุนนี้อาจจะไม่ได้หมายความว่าเกมของค่ายทำกำไรไม่ได้ แต่อาจจะมาจากการที่ค่ายกำลังพัฒนาเกมใหญ่พร้อมๆ กันหลายเกม ซึ่งจำเป้นต้องใช้ต้นทุนและเวลาสูงมาก โดยนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรคืนได้ในอนาคต เมื่อเกมที่กำลังพัฒนาค้างอยู่เริ่มวางจำหน่าย แต่ก็อาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่คุณทาบาตะต้องลาออกจากบริษัท เพื่อรับผิดชอบต่อการเสียผลกำไรโดยทีมที่ตนเองดูแล คุณทาบาตะเองเป็นคนที่มีชื่อในฐานะผู้กำกับและโปรดิวเซอร์เกมสปินออฟ Final Fantasy หลายเกม ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระบบต่อสู้เน้นแอคชั่น (Final Fantasy XV, Final Fantasy Type-0, Dissidia Final Fantasy NT) คงต้องรอดูกันต่อไปว่าเกมใหม่ของคุณทาบาตะจะยังคงแนวเกมที่ถนัดอยู่หรือไม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรก็ขอให้คุณทาบาตะโชคดีมีชัย สร้างเกมใหม่ๆ สนุกๆ มาให้เราเล่นกันอีกนะจ๊ะ! (ขอบคุณข้อมูลจาก Silicon Era)

วันนี้ทางไลฟ์สตรีมเปิดตัวเกมที่จะนำมาโชว์ในงาน Tokyo Game Show 2018 ของโซนี่ ค่ายพัฒนาหน้าเหลี่ยม Square Enix ได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่เพื่อเปิดตัวการกลับมาของเกมสุดคลาสสิค Final Fantasy: Crystal Chronicles ฉบับ Remastered ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2019 สำหรับ PS4, Nintendo Switch https://www.youtube.com/watch?v=uoa97CdeG_w สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบ Final Fantasy: Crystal Chronicles วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2004 สำหรับเครื่อง GameCube เป็นเกมสปินออฟที่เปลี่ยนเกมเพลย์แบบ RPG Turn-based ธรรมดาของซีรี่ย์ในยุคนั้นให้กลายเป็นเกมแอคชั่น RPG ที่สนับสนุนผู้เล่นถึง 4 คนพร้อมๆ กัน สำหรับเวอร์ชั่นใหม่นี้ นอกจากจะมีกราฟิคที่ปรับปรุงใหม่แล้ว ยังจะสนับสนุนโหมดออนไลน์ให้เราสามารถหาตี้จากทั่วโลกได้ด้วย Final Fantasy: Crystal Chronicles Remastered จะวางจำหน่ายในปี 2019 สำหรับ PS4, Nintendo Switch

เกมเมอร์บางคนอาจจะเคยรู้จักเกม Final Fantasy XV Pocket Edition มาก่อนบ้าง เกมมือถือสไตล์จิบิที่ทำการย่อส่วนเกม Final Fantasy XV ลงมาในรูปแบบกระทัดรัดเสพง่ายสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเล่นเกมยาวๆ ล่าสุด ผู้พัฒนาจาก Square Enix ได้ออกมาเปิดเผยว่าเกมกำลังจะได้วางขายทางคอนโซล (PS4, Xbox One, Switch) ในเร็วๆ นี้ภายใต้ชื่อ Final Fantasy XV Pocket Edition HD https://www.youtube.com/watch?v=6lDoLe6OwIg เกม Final Fantasy XV Pocket Edition HD เหมาะกับผู้ที่อยากจะติดตามเนื้อเรื่องขององค์ชาย Noctis และกลุ่มเพื่อนในแบบย่อๆ โดยเนื้อเรื่องของเกมจะเน้นเล่าเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆ ในเนื้อเรื่องเท่านั้น และจะใช้ระบบต่อสู้ที่ง่ายขึ้น ใช้การกด QTE ง่ายๆ มากกว่าการเล่นแบบแอคชั่นในเวอร์ชั่นดั้งเดิม Final Fantasy XV Pocket Edition HD จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ในราคา $29.99 แทนการปล่อยเป็นตอนๆ เหมือนในมือถือ

ดูเหมือนว่าเกม Final Fantasy VII Remake อาจจะได้รับการเปลี่ยนแนวไปจากเกมดั้งเดิมซะแล้ว เมื่อเว็บ Siliconera รายงานถึงคำประกาศรับสมัครงานของค่าย Square Enix ที่บรรยายเกม Final Fantasy VII Remake ว่าเป็นเกมแอคชั่น! จากข้อมูลที่อยู่ในช่องสีแดงด้านบนบอกว่าผู้ที่รับตำแหน่งจะได้ร่วมออกแบบ CG สำหรับเกม Final Fantasy VII ที่จะ Remake เป็นเกมแอคชั่น (แปลจากคำรับสมัครภาษาญี่ปุ่นด้วย Google Translate) ทำให้คิดว่าเกมอาจจะอิงระบบการต่อสู้ของเกม Final Fantasy VII: Crisis Core หรือเปล่า หรืออาจจะออกมาคล้ายๆ Final Fantasy XV กับ Kingdom Hearts ก็ยังได้ ทั้งนี้ เกม Final Fantasy VII Remake นั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะได้วางจำหน่ายเร็วๆ นี้แน่นอน แต่อย่างน้อยๆ ก็พอจะมั่นใจได้ว่าเกมยังคงได้รับการพัฒนาอยู่ในขณะนี้ แต่จะออกมาหน้าตาเป็นยังไงคงต้องรอดูกันไปยาวๆ จ้า

ผู้พัฒนาเกม Capcom ปล่อยคลิปเกมเพลย์การล่า Behemoth สัตว์ประหลาดใหม่ใน Monster Hunter: World ที่มาจากการร่วมมือกับอีกเกมใหญ่ อย่าง Final Fantasy XIV ในการไลฟ์สด Monster Hunter: World Hunting Kanshasai / Championship Finals 2018 เมื่อวานที่ผ่านมา สำหรับเพื่อนๆ ที่รอออกล่าเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้ จะสามารถเล่นได้ในวันที่ 1 สิงหาคม ผ่านทาง PS4 และ Xbox One ส่วนแฟนเกม PC จะต้องรอจนกว่าตัวเกมจะปล่อยลง Steam ในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ https://www.youtube.com/watch?v=ZXjnySBKgrU ทั้งนี้เพื่อนๆ คงต้องรอติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า กิจกรรมที่ทางทั้งสองเกมร่วมมือกันจัดขึ้นนั้นจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และยังไม่มีข้อสรุปออกมาแน่นอนว่าเจ้า Behemoth จะอยู่ในเกม Monster Hunter: World แบบถาวรหรือไม่ หากมีอะไรเพิ่มเติมเราจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้รู้กันอย่างแน่นอน

ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายเกม Capcom เผยเทรลเลอร์ใหม่ของการจับมือกันระหว่างเกม Monster Hunter: World และ Final Fantasy 14 โดยจะมี Behemoth สัตว์ประหลาดอันโด่งดังจาก FF14 เป็นดาวเด่นและเป็นอีเว้นท์หลัก ให้ผู้เล่นทั้งหลายสามารถล่าได้ จุดเด่นของ Behemoth ที่ผู้เล่นจะสามารถสังเกตอย่างแรกเลยก็คือ ขนาดสุดมหึมาของมัน เมื่อเทียบกับขนาดของเจ้าสัตว์ประหลาดแล้ว ผู้เล่นจะสูงเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเข่าของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้เท่านั้น ส่วนสถานที่ที่จะเจอ Behemoth ได้ก็คือใน Elders Recess ซึ่งเป็นสถานที่ที่ Elder Dragons ส่วนใหญ่อยู่กัน ในด้านการโจมตี นอกจาก Behemoth จะใช้ท่าตะปบศัตรูเหมือนมอนสเตอร์ทั่วไปแล้ว ยังมีท่าที่เป็นจุดเด่นคือการเรียกฝนดาวตกลงมาโจมตีใส่ผู้เล่นอีกด้วย หากดูจากตอนจบของเทรลเลอร์แล้ว Behemoth ยังสามารถเรียกดาวตกยักษ์ที่จะทำลายทุกอย่างให้ราบคาบภายในครั้งเดียว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ ชุดเกราะและอาวุธที่ผู้เล่นสามารถคราฟท์ได้จากของที่ดรอปหลังกำจัดสัตว์ประหลาด ซึ่งของได้เหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเซ็ตใหม่ทั้งหมดที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในเกม ทั้งนี้การอัพเดทยังรวมถึงการเพิ่มเซ็ตเกราะ the Drachen, the Gae Bolg insect glaive และ the Dragoon ด้วย นอกเหนือจากนี้ยังมีเซ็ตชุดเกราะสำหรับคู่หูคู่ใจของเหล่านักล่า Palico และตัวเกมยังเพิ่มตะบองเพชรจิ๋วจาก Final Fantasy ที่จะคอยสะบัดหนาม ทำให้การล่าสัตว์ประหลาดของเหล่าฮันเตอร์ยากขึ้นไปอีกขั้น ทั้งนี้ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดว่ากิจกรรมที่ทั้งสองเกมจับมือกันจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และยังไม่ทราบแม้กระทั่งว่าเจ้า Behemoth นี้จะคงอยู่ใน Monster Hunter: World ต่อไปหลังจากจบกิจกรรมหรือไม่ เพื่อนๆ คงต้องรอฟังข่าวกันอีกทีหลังจากเริ่มกิจกรรมในที่วันที่ 1 สิงหาคม https://www.youtube.com/watch?v=VxywHrLB9iU ปล. กิจกรรมฟรีนี้จะยังมีแค่เวอร์ชั่น PS4 และ Xbox One ก่อนเท่านั้น ในส่วนของเวอร์ชั่น PC น่าจะต้องรอไปก่อนจนกว่า Monster Hunter: World จะถูกปล่อยออกมาในวันที่ 9 สิงหาคมก่อนนะจ๊ะ

วันนี้ผู้เล่นเกมไฟติ้งสุดอลังการของ Square Enix อย่าง Dissidia Final Fantasy NT สามารถพบกับตัวละครใหม่ Rinoa Heartilly หรือนางเอกจาก Final Fantasy VIII นั่นเอง! https://www.youtube.com/watch?v=vi0tyBlMEIA โดย Rinoa จะเป็นตัวละครสายเวทย์มนต์ที่เน้นการโจมตีจากระยะใกล และสามารถใช้เจ้าหมา Angelo ในการต่อสู้ได้ด้วย ส่วนท่า Limit Break ของ Rinoa จะมีชื่อว่า Angel Wing ที่จะติดปีกให้ Rinoa สามารถบินไปมาตามด่านได้อย่างอิสระ เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถชมท่าโจมตีต่างๆ ของ Rinoa ได้ในคลิปด้านล่างเลยจ้า https://www.youtube.com/watch?v=V_0qDf7u-zQ

เมื่อคืนนี้ในงานแถลงข่าว E3 2018 ของ Square Enix ได้มีการประกาศถึงเกมใหม่ๆ ที่ทางค่ายจำปล่อยออกมาให้ผู้เล่นเร็วๆ นี้ สำหรับแฟนๆ เกมออนไลน์ Final Fantasy XIV ทาง Square Enix ก็ได้นำเทรลเลอร์ใหม่ของภาคเสริมที่กำลังจะมาถึงอย่าง Under the Moon Light ที่จะทำการเพิ่มเควสเนื้อเรื่องใหม่ๆ เข้าไปด้วย! โดยอัพเดทนี้จะฟรีสำหรับผู้เล่นที่ซื้อภาคเสริม Stormblood แล้วทุกคนเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ ทางผู้พัฒนายังได้ปล่อยคลิปสั้นๆ เกี่ยวกับการร่วมมือระหว่างค่ายและเกม Monster Hunter World อีกด้วย! โดยนอกจากจะได้เจอเจ้าแมวผู้ช่วย Palico แล้วยังดูเหมือนว่าผู้เล่น Final Fantasy XIV จะได้ล่าแย้สุดคลาสสิคอย่างราธาลอส (Rathalos) กะเค้าบ้างแล้ว!

วันวางจำหน่าย: ภายในปี 2018 (จะประกาศในงาน E3 2018) Platform: PS4, Xbox One เปิดตัววันแรก: งาน E3 เดือนมิถุนายน ปี 2013 แนว: Action RPG เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้วในยุคที่ Final Fantasy ยังเป็นเกม RPG อันดับต้นๆ และเป็นเกมอันดับหนึ่งในดวงใจของใครหลายๆ คน วันดีคืนดีก็มีข่าวคราวออกมาในนิตยสารเกมว่ากำลังจะมีเกมใหม่จากบริษัทที่สร้างไฟนอลแฟนตาซีออกมา โดยเกมนี้เป็นการจับมือกันระหว่าง Disney และ Square ทำให้เราได้เห็นทั้ง Mickey Mouse และตัวละครจาก Final Fantasy อยู่ในเกมเดียวกัน! เพียงแค่นี้ก็ทำให้ผมตื่นเต้นจนเมื่อเกมออกมาจริงๆ และตามหาแผ่นเวอร์ชันภาษาอังกฤษเล่นไม่ได้ ก็ยังไปซื้อบทสรุปเกมมาอ่านเล่นแทนไปก่อน หลายปีต่อมาเกมดังกล่าวออกภาคต่อออกมามากมาย ได้เล่นบ้าง ไม่ได้เล่นบ้าง เพราะเกมออกภาคยิบย่อยลงหลายเครื่องไปหมด ซึ่งในภาคที่ได้เล่นแม้จะออกบนเครื่อง Handheld ไม่ใช่ภาคหลักบนเครื่องคอนโซล แต่ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ถ้านับจากครั้งสุดท้ายที่ได้เล่นภาคหลักบนเครื่อง PS2 ก็เป็นเวลาถึง 12 ปีเต็มๆ ที่ผู้เล่นที่รอภาคต่อหลักของเกมนี้ไม่ได้จับจอยเพื่อบังคับตัวละครเพื่อกวัดแกว่งอาวุธอย่าง Keyblade บนจอทีวีอีกเลย เมื่อ Kingdom Hearts 3 เปิดตัวครั้งแรกด้วยเทรลเลอร์ที่พาเรากลับไปดูตัวละครที่เรารักอีกครั้งในคุณภาพกราฟิกยุคปัจจุบันพร้อมด้วยเพลง Soundtrack ที่เราคุ้นเคย จึงมีผลต่อความรู้สึกของใครหลายๆ คนที่หลงรักเกมนี้อย่างช่วยไม่ได้ สำหรับผมแล้วนี่เป็นเทรลเลอร์เปิดตัวที่ประทับใจที่สุดในรอบหลายปี ชนะทั้งเทรลเลอร์หนังและเกมหลายร้อยเทรลเลอร์ที่ดูมาตลอดหลายปี เทรลเลอร์เปิดตัว เรื่องราว เนื้อเรื่องของภาคนี้ดำเนินต่อจากภาค Dream Drop Distance บน 3DS ทันที โดยที่ King Mickey และ Riku ออกเดินทางตามหาผู้ถือ Keyblade ที่เหลือ ส่วนฝั่ง Sora, Donald และ Goofy ออกตามหาผู้พิทักษ์แห่งแสงทั้งเจ็ด เพื่อหยุดยั้งแผนการของ Master Xenohart ในการก่อสงคราม Keybalde ครั้งใหม่ เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเกมในซีรีส์นี้คือการที่เราได้ผจญภัยในโลกต่างๆ ที่สร้างจากการ์ตูนเรื่องต่างๆ ของ Disney และจากการที่ Disney ได้ซื้อ Marvel และ Pixar เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Disney ด้วย ทำให้ในภาคนี้เราจะได้เห็นโลกและตัวละครจากค่ายเหล่านั้นด้วย สำหรับโลกที่ยืนยันแล้วว่าจะมีในภาคนี้ได้แก่ Tangled, Big Hero 6, Toy Story, Hercules และ Monster, Inc. แต่ที่น่าสนใจก็คือ Disney เองก็ซื้อ Lucasfilm ด้วยเหมือนกัน ทำให้น่าลุ้นว่าบางทีเราอาจได้เห็นโลกหรือตัวละครจาก Star Wars ในเกมก็ได้ ซึ่งถ้ามีจริงๆ ก็ไม่แปลกที่  Square Enix จะเก็บเงียบไว้จนช่วงใกล้ๆ เกมออก หรือไปเซอร์ไพรส์ผู้เล่นในเกมเลย ในด้านตัวละครเราจะได้กลับไปบังคับตัวละครเอกอย่าง Sora กันอีกครั้ง ส่วนตัวละครเก่าๆ ฝั่งเราที่ได้รับการยืนยันแล้วได้แก่ Riku, Kairi, Donald Duck, Goofy, King Mickey, Master Eraqus และ Lea เกมเพลย์ เทรลเลอร์ในงาน Kingdom Hearts Orchestra World Tour  (2017) ทีมงานผู้สร้างกล่าวว่าระบบต่อสู้จะมีความคล้ายคลึงกับภาค 2 และจะนำระบบที่ทำแล้วได้เสียงตอบรับที่ดีในภาคอื่นๆ มาประยุกต์ใช้ในเกม นอกจากนี้ตัวละครที่อยู่ในปาร์ตี้ของผู้เล่นจะเพิ่มจาก 3 ตัวเป็น 5 ตัวในภาคนี้ ในเรื่องของศัตรูนอกจาก AI จะมีความซับซ้อนมากขึ้นแล้วในภาคนี้เราจะได้สู้กับบอสตัวใหญ่ยักษ์ท่วมจออย่าง Titan อีกด้วย ซึ่งทีมงานได้เปิดโอกาสให้สื่อได้เล่นฉากนี้ไปเมื่อไม่นานมานี้ ระบบ Summon ยังคงมีอยู่เช่นเดิม โดยในภาคนี้ใช้ชื่อว่า "Link" โดยเราจะได้เห็น Summon ทั้งเก่าและใหม่ ที่ยืนยันแล้วก็ได้แก่ Ariel จาก Little Mermaid และ Wreck-It Ralph เกมมีระบบใหม่ที่ชื่อว่า "Attraction" ซึ่งเป็นการโจมตีโดยการเรียกเครื่องเล่นที่มีอยู่ในสวนสนุกดิสนีย์จริงๆ ออกมา มีระบบใหม่ที่ชื่อว่า "Athletic Flow" ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากระบบ "Flowmotion" ในภาค Dream Drop Distance ส่วนหนึ่งของมินิเกมในเกมจะเป็นการเล่นเกมกดในสไตล์เครื่องเกมกดยุค 1980 Gummi Ship กลับมาในภาคนี้ในฐานะวิธีเดินทางระหว่างโลก ในด้าน Keyblade จะมีระบบเปลี่ยนฟอร์มได้หากต่อคอมโบสำเร็จ โดยการปลดล็อกฟอร์มต่างๆ ทำได้โดยการทำทุกภารกิจในโลกนั้นๆ ให้สำเร็จ นอกจากนี้ผู้เล่นจะสามารถเปลี่ยน Keyblade ในระหว่างสู้ได้เลย ไม่ต้องคอยเข้าเมนูไปเปลี่ยนแบบภาคก่อนๆ เพลงประกอบ เพลงประกอบของ Kingdom Hearts เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของซีรีส์เสมอมา ทั้งเพลง Background ที่ทำได้ลงตัวมากๆ และเพลงประจำภาคที่ขับร้องโดยนักร้องชื่อดังอย่าง Utada Hikaru ที่หลายๆ คนชอบจนต้องเก็บมาฟังในโทรศัพท์หรือเครื่องเล่น  MP3 ต่อ โดยเป็นธรรมเนียมของเกมที่เพลงจะออกมา 2 เวอร์ชัน ทั้งในเวอร์ชันภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่น สำหรับเกมแต่ละเวอร์ชัน สำหรับภาค 3 ก็ได้เปิดตัวเพลงประกอบออกมาแล้ว ในชื่อว่า "Dont Think Twice" ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ และ "Oath" ในเวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น Dont Thick Twice Oath และนั่นคือข้อมูลที่เรารู้เกี่ยวกับ Kingdom Hearts 3 ก่อนงาน E3 ที่จะถึงในเดือนนี้ ซึ่งคาดว่าในงานเราคงได้เห็นเทรลเลอร์ใหม่อีก อาจจะได้เห็นโลกใหม่หรือตัวละครใหม่ที่ยังไม่เคยประกาศมาก่อน ซึ่ง GameFever จะรีบนำมาแจ้งให้เพื่อนๆ รู้ก่อนใครแน่นอน [gallery link="file" ids="732,733,734,735,736,737,738"] เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Kingdom Hearts เพลง Sanctuary (หรือ Passion ในเวอร์ชันญี่ปุ่น) เพลงเปิดของภาค 2 มีเนื้อเพลงลับซ่อนอยู่ ซึ่งสามารถฟังได้โดยเล่นเพลงแบบกลับหลัง Kingdom Hearts ภาคแรกเป็นเกมที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 10 ของเครื่อง Playstation 2 นิตยสาร Famitsu ได้ทำแบบสำรวจเมื่อปี 2017 ว่าแฟนเกมอยากเห็นตัวละครตัวไหนจากไฟนอลแฟนตาซีมาปรากฏในซีรีส์มากที่สุด ผลปรากฏว่า Noctis จากภาค 15 ชนะไปอย่างขาดลอย คุณ Tetsuya Nomura ผู้กำกับเกมยังมีผลงานอื่นๆ เกี่ยวกับไฟนอลแฟนตาซีอีกมากมาย ทั้งในด้านการออกแบบตัวละครและเป็นผู้กำกับเกม ล่าสุดคือการกำกับเกมที่แฟนๆ เฝ้ารออย่าง Final Fantasy VII Remake อ่านบทความเจาะลึกเกม E3 2018 เกมอื่นๆ ได้ ที่นี่

คิดว่าคงมีเพื่อนๆ หลายคนที่คิดถึงเกม Final Fantasy Tactics เกมวางแผนจากซีรี่ย์ดังที่วางขายครั้งแรกในเครื่อง PS1 (ก่อนจะปล่อยภาค remaster ใน PSVita) แม้ว่าเกมจะได้รับความนิยมพอสมควรในหมู่ผู้เล่นทั้งในเครื่อง PS1 และ PSVita แต่กลับไม่เคยมีข่าวคราวของภาคต่อของเกมออกมาจากผู้ผลิตอย่าง Square-Enix เลย (ไม่นับภาคที่ลงใน Gameboy Advance นะจ๊ะ) ล่าสุด หนึ่งในผู้พัฒนาหลักของเกมอย่างคุณ ยาสุมิ มัตสึโนะ ได้ออกมาโชว์ภาพคอนเซ็ปจากเกม Final Fantasy Tactics 2 ในการสัมภาษณ์ผ่านไลฟ์สตรีม NicoNico ของญี่ปุ่น โดยเปิดเผยว่าผู้พัฒนาเคยวางแผนจะให้ค่ายพัฒนาอื่นๆ นอกบริษัทเป็นคนพัฒนาต่อ แต่ก็ต้องยุบไปในที่สุดเมื่อบริษัทตัดสินใจสนับสนุนเกมอื่นๆ มากกว่า เหลื่อแต่ภาพคอนเซ็ปเล็กน้อยเป็นหลักฐานว่าเกมนี้เคยเกือบจะมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ เพื่อนๆ คนไหนเป็นแฟนเกม Final Fantasy Tactics บ้างเอ่ย อยากเห็น Square-Enix เอาเกมนี้ขึ้นมาปัดฝุ่นไหม คอมเม้นเข้ามาคุยกันนะ!